บทที่ 1030 ข้าไม่ควรแก้แค้นหรือ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1030 ข้าไม่ควรแก้แค้นหรือ
ภายในถ้ำเงียบกริบ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กับเจ้าเสือน้อยก็ไม่กลับมาสักที ไม่รู้ว่าได้ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีมาหรือเปล่ากันแน่

กลับเป็นบุรุษงามสามคนที่นอนแบ็บอยู่กับพื้นต่างหาก ส่งเสียงครวญครางเจ็บปวดเป็นระยะ

“อาหน่วน อย่าไปจากข้า ข้าจะขาดเจ้าไม่ได้…”

“ทำไม ทำไมต้องฆ่าพ่อข้า ทำไมต้องกวาดล้างเผ่าข้า ทำไม…”

“ยัยขี้เหร่ ยัยขี้เหร่…”

กู้ชูหน่วนมองคนนี้ทีก็มองคนนั้นที สุดท้ายก็แหงนหน้าทอดถอนใจกับจันทร์เสี้ยว

ทุกคนต่างมีเรื่องที่ห่วงหาอาทร มีอดีต

แต่นาง อดีตของนางเองราวกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง

ทั้งที่จิตใจมีทุกข์ มักรู้สึกเหมือนตัวเองลืมอะไร แต่กลับนึกไม่ออก

“อาหน่วน…”

ไม่ทราบว่าเย่จิ่งหานฝันอะไร จู่ๆ ก็สะดุ้งร้องขึ้นมา

และไม่ทราบว่าเพราะเสียงเขาดังเกินไป หรือเพราะว่าเขาร้องเรียก ‘อาหน่วน’ สองคำนี้ จึงทำให้เวินเส้าหยีกับเซียวหยู่เซวียนสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วย

เมื่อลืมตาขึ้น เย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีก็หวิดจะหมดสติไปอีกครั้ง

ทำไมเป็นยัยนี่อีกแล้ว วิญญาณร้ายนางไม่สลายหรือ?

จากนั้น พวกเขาก็มองสภาพการณ์ของตนเอง

เย่จิ่งหานนอนอยู่ข้างซ้าย เวินเส้าหยีอยู่ตรงกลาง เซียวหยู่เซวียนนอนอยู่ข้างขวา ระยะห่างระหว่างกันเพียงสิบกว่าเซนติเมตร

เย่จิ่งหานพลันเดือดดาล

หนำซ้ำเวินเส้าหยีกับเซียวหยู่เซวียนยังเป็นศัตรูที่พบพานกันอีก ดังนั้นดวงตาจึงวาวโรจน์เป็นพิเศษ

แม้จะบาดเจ็บหนัก แต่เวินเส้าหยีกับเซียวหยู่เซวียนก็ยังตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาห้ำหั่นกันตั้งแต่นาทีแรก แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองบาดเจ็บหนักเกินไป ดังนั้นยังไม่ทันแตะโดนตัวอีกฝ่ายก็ล้มแผละ เจ็บจนกุมหน้าอกหอบหายใจไม่หยุด

“เวินเส้าหยี เจ้ามาทวีปปิงหลิงจริงๆ ด้วย ข้าจะฆ่าเจ้า”

เซียวหยู่เซวียนอดกลั้นต่ออาการบาดเจ็บ แยกเขี้ยวยิงฟัน วาดหมัดออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี

เขาคิดว่าหมัดนี้ทรงพลังเหลือแสน แต่นั่นก็เพียงปุยนุ่น อ่อนยวบยาบไม่มีน้ำหนักสักนิด

ส่วนเวินเส้าหยีก็เตะออกไปเต็มเหนี่ยว เขาก็คิดว่าใช้กำลังทั้งหมดที่มีแล้วเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ลูกเตะนี้ราวกับเตะอยู่กับปุยนุ่น ไม่เกิดอันตรายที่เป็นรูปธรรมใดๆ กับเซียวหยู่เซวียนเลย

การโจมตีครั้งแรกไม่สำเร็จ ทั้งสองจึงเข้าตะลุมบอนกันอีก ยื้อยุดฉุดกระชากราวกับอันธพาลข้างถนน ไหนเลยยังเหลือภาพลักษณ์อะไรอยู่อีก

“นี่ พวกเจ้าสองคนทำอะไรน่ะ? หยุดเลย รีบๆ หยุด ถ้ายังไม่หยุดอีกชีวิตน้อยๆ ของพวกเจ้าจะไม่เหลือแล้วนะ”

กู้ชูหน่วนแยกพวกเขาออกจากกัน แต่พวกเขาต่างไม่ยอมรามือ ทั้งยังดุเดือดกว่าเดิม ปล่อยให้เลือดไหลออกจากร่างกายที่บาดเจ็บของตัวเอง

และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เย่จิ่งหานก็เข้าผสมโรงด้วย

เขายืนอยู่ฝั่งเดียวกับเซียวหยู่เซวียน แทบอยากจับเวินเส้าหยีถลกหนังกินทั้งเป็น

“นังเด็กโง่ มันนั่นแหละที่ส่งคนมาตามฆ่าพวกเรา เจ้ามาช่วยข้าฆ่ามันเสีย”

“อะไรนะ? ยอดฝีมือระดับห้าพวกนั้นเมื่อก่อนหน้านี้เป็นเขาส่งมาหรือ?”

“ใช่”

กู้ชูหน่วนใช้กำลังแยกพวกเขาออกจากกัน นี่ถึงเลี่ยงไม่ให้เวินเส้าหยีถูกบีบคอตาย

เซียวหยู่เซวียนใช้กำลังจนสิ้น กุมบาดแผลหอบหายใจ จะพูดอีกสักคำยังลำบากอย่างเห็นชัด

กู้ชูหน่วนถลึงตามองเวินเส้าหยี

“ทำไมเจ้าต้องส่งคนมาไล่ฆ่าเซียวหยู่เซวียนด้วย?”

เวินเส้าหยีโมโหจนกลายเป็นหัวเราะ “เฮอะ เขาเข่นฆ่าคนในเผ่าข้าเป็นพันเป็นหมื่น แม้แต่คนชรา เด็กและผู้หญิงก็ไม่ละเว้น หรือว่าไม่ควรฆ่าหรือ?”

เมื่อคิดถึงเผ่าเทียนเฟิ่นถูกฆ่าล้างแล้ว เวินเส้าหยีก็ตัวสั่น กัดฟันดังกรอด ไม่รู้เพราะโกรธหรือเพราะเสียใจ

ถ้อยคำนี้ทำจนกู้ชูหน่วนตะลึงงัน

ภาพลักษณ์ของเซียวหยู่เซวียนในใจนางไม่ใช่คนกระหายสังหารอย่างนั้น

เขาจะไม่ละเว้นกระทั่งคนชรา เด็ก ผู้หญิงได้อย่างไร

“เสี่ยวเซวียนเซวียน ที่เขาพูดเป็นความจริงหรือ?”

เซียวหยู่เซวียนเบือนหน้า ไม่ตอบกู้ชูหน่วน แต่กล่าวด้วยความอ่อนแรง “เขาฆ่าครอบครัวข้าสามร้อยกว่าชีวิต หรือข้าไม่ควรแก้แค้น?”