ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 734 ลงเรือลำเดียวกัน

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เมื่อก่อนหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในวินาทีนี้

บริเวณขอบยังส่องแสงสว่างไสว พลังแห่งเขตแดนที่ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ บิดเบี้ยวและตัดกัน ในขณะที่เกิดแรงกดดันอันมหาศาล ก็ก่อให้เกิดบริเวณที่ค่อนข้างเสถียรอยู่แถบหนึ่ง

ความเสถียรและความสมดุลของที่นี่อ่อนแอยิ่ง ทำให้สมดุลที่ประกอบกันขึ้นมาชั่วคราวสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนอาณาเขตที่อยู่ใจกลางร่องแยกของมิติมีสิ่งที่ดูเหมือนกับหลุมดำก่อตัวขึ้นมา นำไปสู่กระแสปั่นป่วนของมิติเวลา

เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกฝืนหยุดอยู่กลางขอบเขตการซ้อนทับของมิติทางด้านนั้น ส่วนพวกถานจิ่นกลับถูกม้วนเข้าไปในกระแสปั่นป่วน

จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เห็นภาพนี้ต่างลนลาน รีบร้อนหยุดยั้งท่าร่างของตัวเอง

‘ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเด็กน้อยผู้นี้มีความสามารถแปลกประหลาด อยู่เหนือความคาดหมายของผู้คน ขนาดระวังแล้วระวังอีก สุดท้ายก็ยังติดกับเขาอยู่ดี!’ ในขณะที่พวกถานจิ่นคับข้องใจ ก็รู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา ‘เด็กน้อยที่มาจากโลกเบื้องล่างผู้นี้ ไฉนจึงมีฝีมือน่าทึ่ง และมีความสามารถมากมายถึงเพียงนี้?’

ถึงแม้จะติดอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาเพราะความเผลอไผลชั่วขณะ แต่พวกถานจิ่นก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พยายามหยุดยั้งท่าร่างของตัวเอง

จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่มาถึงที่นี่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างสูงส่ง ในสถานการณ์ที่มีการเตรียมตัว กระแสอากาศที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสร้างขึ้นมา ไม่อาจจำกัดพวกเขาได้ง่ายขนาดนั้น

เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้อย่างเยือกเย็น สมาธิส่วนใหญ่กลับอยู่ที่ด้านนอกบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์

ไกลออกไปมีแสงสว่างวูบไหว ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสเวลาสามสายพุ่งเข้ามาทางด้านนี้

ฮูหยินคนหนึ่งที่นำหน้า ยังคงรักษาความงดงาม และบุคลิกสูงสง่าไว้ได้ เป็นคังฮูหยินนั่นเอง

บุรุษสองคนที่ภายนอกดูเหมือนคนหนุ่มด้านข้างนาง คนหนึ่งลุ่มลึกทรงพลัง อีกคนมุทะลุใจร้อน เยี่ยนจ้าวเกอต่างก็รู้จัก เป็นคังเม่าเซิงและคังจิ่นหยวน

เยี่ยนจ้าวเกอประหลาดใจเล็กน้อย ‘เป็นคนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจริงๆ ด้วย มาที่นี่โดยแบกความเสี่ยงซึ่งอาจจะสะกิดความโกรธขององค์ประมุขอาคเนย์เพิ่มขึ้นหรือ?’

สมองของเขาทำงานอย่างรวดเร็ว เข้าใจขึ้นมาแล้ว ‘คงจะได้ยินข่าวลือ จึงคิดตรวจสอบเบื้องหลังของข้ากระมัง?’

คังฮูหยินสามแม่ลูกมีการเตรียมตัวไว้ก่อน ในตอนที่เข้าใกล้บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ นางก็ลงมือทันที

ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำกระจายไปทั่วทุกที่ แม้แต่บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ยังเหมือนกับถูกแช่แข็ง

แสงสว่างอันพร่าวพราวเปลี่ยนเป็นเชื่องช้าลง มองไปเหมือนกับภาพช้า

หลุมดำอันน่าพรั่นพรึงเหมือนกับจับตัวกัน กลายเป็นภาพวาดสงบนิ่ง

คังฮูหยินก้มมองเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ สีหน้าซับซ้อนอยู่บ้าง

คังจิ่นหยวนที่อยู่ด้านข้างกล่าวอย่างเคียดแค้น “ท่านแม่ให้เขาตายในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาเถอะ ไม่มีใครรู้หรอก แม้จะเป็นองค์ประมุขอาคเนย์ก็ไม่อาจทราบได้”

นางครุ่นคิดครู่หนึ่ง สายตาเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ “พวกเจ้าอย่าขยับ”

ครั้นพูดจบ นางก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้านหน้าปรากฏคันฉ่องที่เหมือนกับหัวใจขึ้นบานหนึ่ง คันฉ่องส่องแสงออกมา ประกอบกันเป็นเกราะแสง คลุมอยู่บนร่างกายของนาง

อาศัยเกราะฟ้าดินซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางคุ้มครอง คังฮูหยินชักกระบี่ยาวในมือขึ้น คนกลายเป็นประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสเวลาสายหนึ่ง

ประกายกระบี่นี้ครอบคลุมบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ไว้ทั้งหมด แสงสว่างที่เหมือนกับสายน้ำซึมผ่านเข้าไปด้านในร่องแยกมิติ

ภายใต้การกัดกร่อนจากแสงของสายน้ำ มิติเวลาด้านในร่องแยกของมิติถึงกับเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง

ประกายแสงระยิบระยับและอาณาเขตเสถียร ที่เกิดจากการบิดเบี้ยวตัดสลับของพลังแห่งเขตแดนซึ่งซ้อนทับกันเป็นชั้นเริ่มสั่นไหว

มิติที่ตอนแรกทับซ้อนกันอยู่เริ่มขยายออก กลับคืนสู่สภาพเดิม

เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์แห่งนี้ก็ไม่อาจคงสภาพได้ต่อไป กำลังจะสมานตัว!

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นเหตุการณ์นี้ก็สูดลมหายใจลึก ‘ยอดเยี่ยมยิ่ง’

เขาสั่งการความคิด ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสวมเกราะเหมันต์ทระนงลงบนร่าง ในมือปรากฏหอกมังกรมัจฉา จากนั้นก็แทงออกด้วยพลังทั้งหมด!

แสงสว่างสีทองเข้มรวมกันเป็นจุดเดียว เกิดเป็นอำนาจเจาะทะลุ เปิดหลุมดำหลุมหนึ่งขึ้นกลางแสงของสายน้ำนั้น

ประกายกระบี่ที่เหมือนกับสายน้ำเวียนวน เติมเต็มรูนั้นอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดกลับคืนสู่สภาพเดิม

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่หยุดลงมือ ขณะเดียวกันสั่นไหวญาณจริงแท้ทั่วร่าง แล้วถ่ายเทลงไปบนคมหอกในมือ โจมตีอย่างต่อเนื่อง

แสงของสายน้ำกระเพื่อม เหมือนกับบนผ้าไหมผืนหนึ่งปรากฏรูโหว่ขึ้น

เนื่องจากรูโหว่นี้ การแช่แข็งบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์จากประกายกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยของคังฮูหยินจึงเกิดช่องโหว่ขึ้น มิติเวลาบิดเบี้ยว บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์คงสภาพต่อไปได้

การประสานระหว่างคังฮูหยินที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลาง กับเกราะฟ้าดินที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง ย่อมมีพลังแข็งแกร่งกว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ถึงขั้นที่หยุดบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ไว้ได้

แต่ว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอ รวมพลังทั้งหมดไว้เป็นจุดเดียว กลับมีผลสำเร็จ

ในสถานการณ์ที่ไม่อาจรวมพลังรับมือ คังฮูหยินได้แต่มองคมหอกของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเจาะรูโหว่บนประกายกระบี่ของตัวเอง

ทว่านางไม่รีบร้อน กล่าวอย่างราบเรียบ “แม้เจ้าจะมีของวิเศษคุ้มกันไม่ให้เจ้าได้รับบาดเจ็บจากพลังแห่งเขตแดนด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ แต่นั่นเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เจ้าจะทนได้นานเท่าไรกัน?”

ทั้งสองฝ่ายติดอยู่ในสภาวะชะงักงันชั่วขณะ

หากผ่านไปนาน คังฮูหยินสามารถทนได้ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสามารถทนได้ เยี่ยนจ้าวเกอกับพวกเฟิงอวิ๋นเซิงกลับทนไม่ได้ การคุ้มกันจากพัดกระดาษไม้เจี้ยนย่อมมีขีดจำกัด

เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมอง เห็นพวกถานจิ่นจากสำนักแสงสว่างในตอนนี้พยายามดิ้นรนออกจากกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาเช่นกัน

ความสามารถของคังฮูหยิน ทำให้พวกเขาเจ็บปวดแสนสาหัสเหมือนกัน

คนในสำนักแสงสว่างขณะที่กำลังป้องกันการจู่โจมจากกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา ก็แก้ไขการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากประกายกระบี่ของคังฮูหยินไปด้วย

คันฉ่องในมือของถานจิ่นส่องแสงวูบวาบ เหมือนกับทะลุมิติอันกว้างใหญ่

เมื่อเห็นคันฉ่องบานนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็เข้าใจ ‘ที่แท้เป็นเช่นนี้ พวกเขาไม่ทราบว่าติดต่อกับพวกหลัวจื้อเทาที่ถูกขังอยู่ในมิติด้วยวิธีอะไร แต่ก็มาลองรับพวกหลัวจื้อเทากลับโลกซ้อนโลกผ่านการนำทาง โดยใช้บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์สินะ?’

คังฮูหยินสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของพวกถานจิ่น จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย

แม้จะถูกเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงาน แต่พวกถานจิ่นในตอนนี้เพื่อเอาตัวรอด กลับต้องลงเรือลำเดียวกับเยี่ยนจ้าวเกอ

ภายใต้การประสานพลังของทั้งสองฝ่าย คังฮูหยินหากคิดจะสะกดบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ต่อ กลับยิ่งมายิ่งยากแล้ว

ด้านนอกร่องแยกมิติ คังเม่าเซิงกับคังจิ่นหยวนเห็นดังนั้น ได้แต่รีบคิดหาวิธี

คังจิ่นหยวนสายตาฉายแววดุร้าย หยิบสว่านสีแดงเลือดอันหนึ่งออกมา

คังเม่าเซิงเห็นดังนั้น ก็พลันตกตะลึง “สว่านคำสาปเลือดป่นมิติ? รีบหยุดมือ ในกระแสปั่นป่วนของมิติ ไม่มีใครรู้ว่าของชิ้นนี้จะทำให้เกิดผลกระทบอะไรบ้าง!”

“ท่านแม่ไม่เป็นไรแน่ หากเกิดอะไรขึ้นก็ให้โจรน้อยแซ่เยี่ยนนั่นรับไว้!” คังจิ่นหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น

พูดจบเขาก็ยกมือขึ้น สว่านกลายเป็นแสงสีแดงสายหนึ่ง พุ่งเข้าไปด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์!

ด้านในร่องแยกมิติ คังฮูหยินเมื่อเห็นแสงสีแดง นางก็ชะงักเล็กน้อย

พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับถานจิ่นต่างงงงัน

‘ของชิ้นนี้…เหตุใดจึงดูเหมือนสว่านคำสาปเลือดป่นมิตินัก?’ หลังจากความงงันในตอนแรก ความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอก็ทำงานดุจสายฟ้าแลบ ยกมือหนึ่งขึ้นมา แสงสีแดงสายหนึ่งลอยออกมาเช่นกัน

กลับเป็นเขาบีบหลอดเลือดปีศาจหลอดหนึ่งของตัวเองทิ้ง

ของวิเศษชิ้นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการทำลายข่ายอาคมชนิดต่างๆ นอกจากนี้แล้วยังมีความสามารถอย่างอื่นอยู่ด้วย

แสงสีแดงสองสายรวมตัวกันอย่างพิสดารกลางกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา จากนั้นก็ระเบิดอย่างรุนแรง เกิดเป็นม่านแสงแถบหนึ่ง คลุมมิติเวลาแต่ละมิติด้วยสีเลือดชั้นหนึ่ง

………………..