อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1041 ฆ่ากลับ
เวินเส้าหยีรอกู้ชูหน่วนอยู่ครู่หนึ่ง รอให้นางขอความเมตตา แต่ครั้งนี้กู้ชูหน่วนที่เป็นคนแปลกประหลาดมาตลอดนั้นไม่เพียงไม่ร้องขอชีวิต และไม่ได้พยายามวางแผนหนีไปจากที่นี่เท่านั้น แต่กลับหลับตาลง ปล่อยให้เขาฆ่าแกงตามใจ

เวินเส้าหยีพูดอย่างเย็นชาว่า “เป็นเจ้าที่รนหาที่เอง”

“ฟิ้ว……..”

ลมหนาวสายหนึ่งพัดผ่าน กู้ชูหน่วนถูกลมหนาวพัดไปถึงถ้ำงูทันที เกิดเสียงร่วงตกลงบนพื้นอย่างหนัก

“ฟ่อฟ่อฟ่อ……”

งูพิษมากมายหลายชนิดมุ่งเป้ามายังกู้ชูหน่วนทันที งูทุกตัวขยับตัวเลื้อย ชูแม่เบี้ยขึ้นสูง ล้อมรอบกู้ชูหน่วนเอาไว้

พริบตาเดียวก็ถูกงูพิษจำนวนมากมายจ้องมองเป็นอาหารเที่ยง ทำให้กู้ชูหน่วนถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างอดไม่ได้

แต่มีงูพิษอยู่ทั่วทุกสารทิศ นางไม่มีทางถอยได้โดยสิ้นเชิง ทำได้เพียงจ้องมองด้วยความระมัดระวัง เตรียมที่จะสู้ตายกับพวกมัน

งูนับหมื่นตัวกัดกิน วิธีการตายเช่นนี้เปรียบได้กับการประหารชีวิตด้วยการเชือดเฉือนร่างกาย

นางไม่อยากตายเช่นนี้

เห็นงูพิษเข้ามาใกล้นางขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนลูบบนลำตัว

พริบตานั้น รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง ผงกำมะถันกำหนึ่งสาดโปรยไปทางฝูงงู

ฝูงงูที่เลื่อยมาหานางทยอยถอยกลับออกไป ไม่กล้าเข้าใกล้กู้ชูหน่วนอีก

เวินเส้าหยีเอาพิณสีขาวราวกับหิมะออกมา ดีดด้วยมือเปล่าเบาๆ เหล่างูพิษที่ไม่กล้าเข้าใกล้กู้ชูหน่วนเหมือนดั่งได้กินยากระตุ้นเช่นนั้น ถาโถมเข้ามาทางกู้ชูหน่วนอย่างบ้าคลั่ง

งูพิษทุกตัวล้วนอ้าปากแยกเขี้ยวออกมา ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะโรยผงกำมะถันอย่างไรก็ไม่ได้ผล

ราวกับว่างูพิษเหล่านี้จะเชื่อฟังคำสั่งจากเสียงพิณ

กู้ชูหน่วนเตรียมพร้อมที่จะเลือดกระเซ็นอยู่ในถ้ำงู

แต่เหตุการณ์ประหลาดฉากหนึ่งก็เกิดขึ้นแล้ว

ขณะที่อยู่ห่างจากนางได้ยี่สิบเซนติเมตรงูพิษเหล่านี้ก็ล้วนหยุดลงแล้ว ทุกตัวล้วนมองไปทางกู้ชูหน่วนด้วยความสงสัย ในตาของงูมีความสับสน และไม่ได้โจมตีอีก เพียงแค่ร้องฟ่อฟ่อฟ่อแล้วดมกลิ่นอะไรบางอย่างเท่านั้น

กู้ชูหน่วนงง

เวินเส้าหยีก็งงเช่นกัน

เขาเพิ่มความเร็วในการบรรเลงพิณหิมะให้เร็วขึ้น ดีดทำนองเพลงให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เหล่างูพิษก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน จากนั้นก็หันหัวงูกลับไปอย่างพร้อมเพรียงกัน พุ่งกัดไปทางเวินเส้าหยีอย่างบ้าคลั่ง

ดวงตาของเวินเส้าหยีเย็นชาทันที ทำนองเพลงกลายเป็นทำนองสังหาร ดังขึ้นชิ้งชิ้งชิ้ง

ด้วยเสียงพิณของเขา งูพิษที่พุ่งกัดเข้าไปเหล่านั้นล้วนถูกพลังของสายพิณตัดขาด ร่วงตกลงพื้น

ทว่าชั่วพริบตาเดียว งูพิษที่มีอยู่อย่างเนืองแน่นทั้งหมดก็ตายภายใต้พิณสังหารของเวินเส้าหยี

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนกู้ชูหน่วนทำอะไรไม่ถูก

นางคาดเดาว่า อาจจะเป็นสาเหตุมาจากเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ด้วยเหตุนี้งูพิษเหล่านี้จึงไม่ได้โจมตีนาง

ทั้งพื้นดินเต็มไปด้วยเลือดและซากงู ทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกสะอิดสะเอียน

ลมประหลาดพัดผ่าน พัดผ่านเส้นผมที่ขมับของเวินเส้าหยี ม่านตาของเขาหดลงเล็กน้อย เค้นประโยคหนึ่งออกมาจากซอกฟัน

“ราชางูเก้าหัวมรกตยอมรับเจ้าเป็นเจ้านายแล้วจริงๆ”

นอกจากเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แล้ว แหวนมิติที่อี้เฉินเฟยมอบให้กู้ชูหน่วนก็ยอมรับนางเป็นเจ้านาย……

ของเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของของผู้หญิงคนนั้น……

ทำไมถึงได้ยอมรับนางเป็นเจ้านาย?

“ใช่” กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเย็นชา ตรงๆและเรียบง่าย “เจ้ายังอยากปล่อยแมลงงูมดพิษอะไร ก็รีบปล่อยมาเถอะ”

“ขวานผานกู่อยู่ที่ไหน?”

“ขวานผานกู่อะไร ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่รู้”

“ฟื้ด…….”

กู้ชูหน่วนรู้สึกได้เพียงกระแสไออุ่นไหลผ่านไปทั้งร่างกาย ในไม่ช้าสิ่งของทุกอย่างในตัวก็ลอยไปอยู่ในมือของเวินเส้าหยีเอง

มีเงินตำลึง มีผงยาพิษ และยังมี……..ไหกักวิญญาณอีกด้วย

แต่ว่าในไหกักวิญญาณว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย

เวินเส้าหยีจ้องมองไหกักวิญญาณอยู่นาน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“เอาไหกักวิญญาณมาจากไหน?”

“เจ้าคิดว่าทำไมเย่จิ่งหานถึงได้ไล่สังหารข้าล่ะ?” กู้ชูหน่วนถามกลับ

เขาเป็นศัตรูกับเย่จิ่งหาน

ตอนนี้สายตาที่มองดูไหกักวิญญาณมีความแตกต่างไปเล็กน้อย

คิดว่าระหว่างพวกเขาจะต้องมีอะไรบางอย่างพัวพันกันอยู่เป็นแน่

เป็นดังคาด

ฉับพลันนั้นเวินเส้าหยีก็เข้าใจอะไรขึ้นมาบางอย่าง

เพราะแต่เขาคิดไม่ตกว่า นางทำลายไหกักวิญญาณแล้ว แล้วทำไมเย่จิ่งหานถึงยังปล่อยนางไว้ได้อีก?

ในไหกักวิญญาณไม่ได้บรรจุวิญญาณของนางไว้หรอกหรือ?