บทที่ 827 ศึกระหว่างสองตระกูล

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

หลินหงเหวินรู้สึกจนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้พอสมควร เนื่องจากเรื่องนี้มันควรจะเป็นผลดีต่อทั้งสองตระกูลที่ได้เกี่ยวดองกัน

แต่แล้วเรื่องราวมันกลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องมาห้ำหั่นกันเอง

โดยเฉพาะตอนนี้ที่กงเจี้ยนฟานกลับแสดงสีหน้าก้าวร้าวมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของหลินหงเหวิน “หุบปาก! ทั้งเจ้าและคนทั่วไปก็รู้ว่าตระกูลกงของข้านั้นยึดธรรมเนียมปฏิบัติมากขนาดไหน แต่แล้วไอ้หลานสารเลวของเจ้ากลับมาทำแบบนี้กับตระกูลของข้า เจ้าคิดว่าข้าจะยอมตกลงกับเจ้าง่าย ๆ งั้นเหรอ!”

“หากเจ้าส่งตัวหลานสารเลวของเจ้ากับหลานสาวไม่รักดีของข้ามา และให้ข้าลงโทษพวกมันตามโทษที่พวกมันควรได้รับ ข้าจะถือว่าเรื่องนี้พวกเราสองตระกูลหายกัน แต่ถ้าหากเจ้าไม่ยอม งั้นวันนี้พวกเราทั้งสองตระกูลก็มาสู้กันจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง!”

หลินหงเหวินยิ้มอย่างขมขื่น “นี่เจ้าจำเป็นต้องดึงดันขนาดนี้ด้วยเหรอ?”

กงเจี้ยนฟานตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชา “ถึงแม้ในสายตาของตระกูลเจ้ามันเป็นสิ่งที่ยอมกันได้ แต่สำหรับตระกูลของข้ามันไม่ใช่แน่นอน! เอาล่ะตอนนี้เจ้าจะว่ายังไง เจ้าจะสู้ตายกับข้าหรือว่าเจ้าจะมอบตัวต้นเหตุให้กับข้า?”

หลิงตู้ฉิงที่มาถึงทีหลังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แผ่ออกจากร่างของกงเจี้ยนฟาน ซึ่งในเวลาเดียวกันมันทำให้เข้าใจแล้วว่าทำไมตระกูลกงถึงไม่มีทางยอมประนีประนอมเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่หากเป็นตระกูลอื่นคงสามารถตกลงกันได้ไปแล้ว

เหตุผลเป็นเพราะตระกูลกงนั้นคือคนของสำนักเที่ยงธรรม!

อีกไม่นานสำนักเที่ยงธรรมจะจัดงานสำคัญ ซึ่งก็คือการคัดเลือกมหาปราชญ์ของพวกเขาและในเมื่อตระกูลกงคือส่วนหนึ่งของสำนักดัง นั้นพวกเขาจึงส่งตัวแทนที่พวกเขาสนับสนุนไปเช่นกัน แต่ถ้าหากตระกูลของเขามีจุดด่างพร้อยอย่างเช่นมีคนในตระกูลทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเสื่อมเสีย ตัวแทนของตระกูลพวกเขาจะถูกโจมตีในเรื่องนี้จากตัวแทนของตระกูลอื่น ๆ จนทำให้ตัวแทนของพวกเขาหมดคุณสมบัติในการเข้ารับการคัดเลือก

กงเจี้ยนฟานนับถือตัวแทนที่ตระกูลของเขาสนับสนุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนผู้นั้นก็คือครูผู้ที่ควรชี้แนะตระกูลของเขาในเรื่องต่าง ๆ มาเป็นเวลานาน และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ตระกูลของเขามีวันนี้ได้

ดังนั้นเมื่อลูกสาวของเขากลายเป็นตัวปัญหาขวางทางความก้าวหน้าของผู้มีพระคุณของตระกูล เขาจึงจำเป็นต้องลงโทษนางเพื่อไม่ให้การกระทำของนางส่งผลต่อการคัดเลือกมหาปราชญ์ที่ใกล้จะเกิดขึ้น

แน่นอนว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอย่างหลินเหรินเจี๋ยก็ต้องตายเช่นกัน

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยความจนใจ เขาแน่ใจว่าวันนี้ทั้งสองฝ่ายต้องต่อสู้กันแน่นอน

หลินหงเหวินรู้สึกคับข้องใจเช่นกัน ตัวเองเขาเองคิดว่าเรื่องนี้มันควรจะเป็นเรื่องที่สามารถหาทางออกโดยการคุยกันได้แท้ ๆ แต่ทำไมต้องดึงดันที่จะฆ่ากันมากขนาดนี้? หรือว่าตระกูลกงคิดว่าตระกูลของเขาไร้น้ำยาหรือนี่เป็นเพียงแค่ข้ออ้างที่ตระกูลกงเอามาใช้เพื่อทำลายตระกูลของเขา?

“สหายกง ต่อให้ท่านจะไม่สนใจในชีวิตของหลานสาวท่านเลย แต่ในเมื่อตอนนี้นางนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลข้าเหมือนกัน แถมนางยังอุ้มท้องเด็กที่มีสายเลือดของตระกูลข้าด้วย ดังนั้นข้าจะไม่ยอมให้ท่านทำอะไรนางได้แม้แต่ปลายผม!” หลินหงเหวินตอบกลับด้วยท่าทีดุดัน “ส่วนเรื่องหลานชายของข้า ในฐานะที่เขาเป็นคนตระกูลหลิน ต่อให้เขาจะทำผิดอย่างไรมันก็มีแต่ตระกูลข้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ลงโทษเขาได้ ท่านไม่มีสิทธิ์ลงโทษเขาแทนพวกข้า”

“และถ้าหากท่านยังดึงดันอยากจะสู้ให้ได้จริง ๆ ไม่ยอมประนีประนอม และมองถึงอนาคตว่าถ้าหากพวกเราร่วมมือกันได้มันจะดีขนาดไหน งั้นพวกเราก็มาสู้กัน แต่ถ้าจะสู้พวกเราก็ควรสู้กันตามธรรมเนียมไม่ใช่สะสางปัญหากันด้วยการคิดฆ่าล้างทั้งตระกูลกันแบบนี้!”

กงเจี้ยนฟานนั้นรู้สึกว่าเรื่องที่กงหลิงท้องนั้นเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจที่สุด ดังนั้นเมื่อหลินหงเหวินยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่ ซึ่งมันทำให้เขาโมโหเป็นอย่างมากจนแทบทนไม่ไหว “ไอ้แก่แซ่หลินสารเลวเจ้าพูดมากเกินไปแล้ว! แต่ก็ได้! หากเจ้าอยากจะช่วยชีวิตพวกมันนักงั้นพวกเรามาสู้กันตามธรรมเนียม! พวกเจ้าส่งคนออกมา 7 คนออกมาสู้กับฝั่งข้า 7 คน หากฝั่งพวกข้าชนะมากกว่า เจ้าจะต้องส่งไอ้ตัวปัญหาสารเลว 2 ตัวนั่นมาให้กับข้าห้ามอิดออดแม้แต่ครึ่งคำ!”

หลินหงเหวินตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากฝั่งของข้าชนะ พวกเจ้าจะต้องไม่หยิบเรื่องนี้มาพูดอีกตลอดกาลเจ้าตกลงไหม!?”

“ได้! การประลองของพวกเราจะไม่มีกฎใด ๆ มากำหนดทั้งนั้น ดังนั้นหากตายขึ้นมาก็ให้โทษตัวเองว่าไร้ความสามารถเกินไป!” กงเจี้ยนฟานเอ่ยขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “ถ้าเจ้ารับกับกฎนี้ได้ก็เข้ามาสาบานต่อสวรรค์กับข้าเพื่อเป็นการยืนยัน!”

หลินหงเหวินรู้สึกตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเขาไม่คิดเลยว่ากงเจี้ยนฟานจะประกาศกฎการประลองเป็นตายแบบนี้

ทำไมไอ้ตาแก่ตระกูลกงถึงได้แค้นพวกเขามากได้ขนาดนี้กัน?

แต่เมื่อทุกอย่างมันลงเอยมาถึงจุดนี้แล้วเขาก็มีแค่ทางเลือกเดียวซึ่งก็คือการยอมรับ “ได้! ข้าจะสบานต่อกฎของสวรรค์กับเจ้า! การประลองครั้งจะไม่มีกฎใด ๆ และไม่ว่าจะเป็นหรือตายจะไม่มีใครเอาเรื่อง!”

เมื่อสาบานกันเสร็จทั้งสองฝ่ายก็แยกกันไปคัดเลือกผู้เข้าร่วมการประลอง

ในระหว่างที่คนอื่น ๆ กำลังปรึกษากันอยู่ หลินหรูซวนถามหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่า “บรรพบุรุษ พวกเขาสาบานกันแบบนี้แล้วพวกเราจะทำยังไงกันต่อดี? หากพวกเราแพ้ ทั้งพี่ชายทั้งพี่สะใภ้จะต้องตายแน่นอนไม่ใช่เหรอไง? ท่านช่วยคิดหาวิธีแก้ไขให้พวกเราหน่อยจะได้ไหม?”..

หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “เจ้าไม่ต้องกังวลอะไรให้มันมากมาย หากพวกเราแพ้จริง ๆ เดี๋ยวหลังจากประลองเสร็จข้าจะไปชิงตัวพวกเขามาจากตระกูลกงให้ อ๋อเจ้าเองก็ต้องลงประลองด้วยเช่นกัน จงใช้ยันต์เคลือบหยกที่ข้ามอบให้นั่นล่ะในการประลองเพื่อที่เจ้าจะได้กำหนดผลชนะของตัวเจ้าเองได้เต็มสิบส่วน”

ในเมื่อไม่มีกฎใด ๆ กำหนดไว้ในการประลองครั้งนี้ ดังนั้นหลินหรูซวนก็สามารถใช้ภาพวาดของเขาในการประลองได้ ซึ่งด้วยอำนาจของภาพวาดที่เขาเป็นคนวาดเองต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตสวรรค์ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม หลิงตู้ฉิงมั่นใจว่าภาพวาดของเขาเอาอยู่

หลินหรูซวนมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าลังเลและถามว่า “ท่านสามารถชิงตัวพวกเขากลับมาได้จริง ๆ เหรอ?”

เมื่อนางคิดไปถึงเรื่องที่แท้จริงแล้วหลิงตู้ฉิงคือเผ่ามังกร นางก็เริ่มเห็นความหวังลาง ๆ ว่าหลิงตู้ฉิงอาจจะมีไพ่ลับบางอย่างติดตัว!

ในเวลาเดียว หลินหงเหวินก็เป็นคนแรกที่เดินออกไป และพูดกับกงเจี้ยนฟางว่า “ในเมื่อเจ้าอยากจะสู้นัก งั้นพวกเรามาสู้กันเป็นคู่แรกเป็นไง?”

“ก็ดี!” กงเจี้ยนฟานบินพุ่งขึ้นไปบนฟ้าทันที

เมื่อผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญต่อสู้กัน พลังวิญญาณทั่วอาณาเขตหนานหัวก็ผันผวนจนผุ้คนสัมผัสได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคนไหนที่คิดว่าตัวเองมีความแข็งแกร่งเพียงพอต่าง็รีบรุดหน้ามาดูการต่อสู้ครั้งนี้

ครึ่งวันต่อมา หลินหงเหวินและกงเจี้ยนฟานทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ร่อนลงจากฟ้าและเมื่อถึงพื้น กงเจี้ยนฟานก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอาฆาต “สำหรับรอบแรกข้าให้เจ้าเป็นฝ่ายชนะ!”

ถึงแม้ว่าการประลองครั้งนี้จะเป็นการประลองแบบเป็นตาย แต่ถ้าหากว่ามีฝั่งไหนขอยอมแพ้ และอีกฝั่งยอมตกลงให้อีกฝั่งรอดมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

อันที่จริงถึงแม้ว่าพวกเขาจะประกาศว่าการประลองครั้งนี้เป็นการประลองเป็นตาย แต่เอาเข้าจริงกงเจี้ยนฟานก็ไม่ได้อยากจะสู้แลกชีวิตกับฝั่งสักเท่าไหร่ต่อให้เขาจะโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ก็ตาม

แต่ถึงแม้เขาจะโกรธ เขาก็ไม่ได้โกรธจนตามืดบอดไม่คิดถึงผลที่ตามมาว่าถ้าหากเขาสู้แลกชีวิตกับหลินหงเหวินถึงขั้นแตกหักจริง ๆ เขาก็คงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็คงตายกันทั้งคู่พร้อมกับหลินหงเหวิน และถ้าเรื่องเป็นเช่นนั้นเป้าหมายที่เขาจะสนับสนุนตัวแทนของตระกูลเขาเข้าชิงตำแหน่งมหาปราชญ์ ใครจะเป็นผู้นำตระกูลของเขาแทน? ในตอนนี้นอกจากเขาแล้วคนอื่น ๆ ก็ไม่มีคุณสมบัติพอทั้งนั้นที่จะสนับสนุนครูของของตระกูลเขา!

และที่สำคัญนี่มันก็แค่การประลองรอบแรก!

ในทันทีที่กงเจี้ยนฟานประกาศผลรอบแรกของตัวเอง คนของตระกูลกงอีกคนหนึ่งก็ก้าวออกมาและพูดว่า “ข้ากงเหลียง ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญขอท้าคนตระกูลหลินให้ออกมาประลองกับข้า!”

เมื่อได้ยินชื่อกงเหลียง บรรดาคนของตระกูลหลินต่างก็พากันเงียบไม่มีใครกล้าเสนอตัวออกไปสู้เพราะกงเหลียงนั้นแข็งแกร่งเกินไป แถมระดับการบ่มเพาะของเขาก็อยู่ในระดับนักบุญขั้นต้น ซึ่งนอกจากหลินหงเหวินแล้วมันก็ไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรกับกงเหลียงได้อีก

หลินหงเหวินกวาดตามองไปที่คนของเขา จากนั้นเขาชี้ไปที่คนของเขาคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลและพูดว่า “เจ้าจงออกไปสู้ซะ แต่ถ้าหากเจ้ารู้ตัวว่าสู้ไม่ได้เจ้าก็จงยอมแพ้รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้”

การประลองคู่ที่ 2 ผ่านไปเพียงแค่อึดใจเดียว คนของฝั่งตระกูลหลินก็ยอมแพ้ในทันทีและรีบบินกลับเข้ามาหาหลินหงเหวิน เนื่องจากกลัวว่าฝั่งตรงข้าจะไล่โจมตีเขาต่อ

หลินหงเหวินกวาดสายตามองไปที่คนของเขาอีกรอบ จากนั้นเขาพูดกับถังเหวินหลี่ “ปรมาจารย์ถัง ข้าขอมอบการประลองระดับเหนือล้ำให้ท่านจัดการ!”

ถังเหวินหลี่พยักหน้า “ไม่มีปัญหา!”

จากนั้นถังเหวินหลี่เดินออกไปประลองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ราวกับว่าเขามีแผนอะไรอยู่ในใจ!