บทที่ 1975 จี้หวงหายตัวไป
“พี่เฟิง ยังจะโทรอะไรกันอีกล่ะ! ผู้นำของเทียนเซียวหายตัวไปแล้ว!” เป่ยโต่วรีบเปิดปากบอก
“ฮะ หายตัวไปแล้วงั้นเหรอ” สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงเลย
“ใช่แล้ว ก็คือหายตัวไปแล้ว เมื่อสองวันมานี้ อีกอย่างคนพวกนั้นของเทียนเซียวคิดว่าเป็นเพราะฝีมือของพวกเราพันธมิตรอู๋เว่ยด้วย เพราะว่าหลายปีมานี้ มีแค่พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราเท่านั้นที่บอสใหญ่ของเทียนเซียวไม่เคยระแวง นอกจากพันธมิตรอู๋เว่ย ต่อให้เป็นกลุ่มอำนาจอย่างอาชูร่า ถ้าคิดจะเก็บบอสของเทียนเซียวอย่างเงียบเชียบ ก็ยังทำไม่ได้เลย!” เป่ยโต่วกล่าวพลางทอดถอนใจ
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งไปแล้ว คนกำลังส่งข้อความอยู่ในสำนักงานใหญ่ แต่จู่ๆ ภัยพิบัติก็หล่นมาจากฟากฟ้า บอสของเทียนเซียวดีกับพันธมิตรอู๋เว่ยมาก แล้วพันธมิตรอู๋เว่ยจะไปจับตัวบอสของเทียนเซียวมาทำไมล่ะ คนของเทียนเซียวพวกนั้น ไม่มีสมองกันเหรอยังไง?!
“การหายตัวไปของบอสกลุ่มเทียนเซียว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเราเลย คนพวกนั้นโง่ชะมัด” เยี่ยหวันหวั่นโมโหแล้ว
ถึงแม้พันธมิตรอู๋เว่ยจะถนัดเรื่องแบบนี้ แต่ก็แยกแยะเป็นนะ แต่ก่อนบอสของเทียนเซียวดีกับตัวเองขนาดนั้น เมื่อก่อตั้งพันธมิตรอู๋เว่ย บอสเทียนเซียวก็ช่วยเหลือเกื้อหนุน ต่อให้ตัวเองเป็นคนชั่วช้า ไม่นับเป็นอะไร ก็ไม่มีทางไปทำเรื่องเลวทรามอกตัญญูแบบนี้หรอกนะ
ไม่นาน หลังจากที่เยี่ยหวันหวั่นได้รับข่าว พวกระดับสูงของเทียนเซียวก็มาที่พันธมิตรอู๋เว่ยแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้อยู่ว่างเลย หลังจากต้องรับหน้ากับพวกระดับสูงของเทียนเซียวไม่กี่คน พอเผชิญหน้ากับการซักถามของพวกระดับสูงจากเทียนเซียวแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ให้คำสัตย์สาบานด้วยว่า พวกเขาพันธมิตรอู๋เว่ยไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้แน่นอน
หลังจากส่งพวกระดับสูงของเทียนเซียวออกไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ให้ผู้อาวุโสรองนำกำลังคนออกไปตรวจสอบเรื่องนี้ทันที ดีที่สุดคือให้พันธมิตรอู๋เว่ยต้องสืบหามาให้ได้ว่าเป็นใครกันที่มีเจตนาให้ร้ายพันธมิตรอู๋เว่ย
อีกอย่างบอสของเทียนเซียวก็มีบุญคุณต่อพันธมิตรอู๋เว่ยด้วย ต้องตามหาให้พบ!
จากนั้น ภายในสองวันต่อมา นอกจากบอสของเทียนเซียวที่หายตัวไป บอสใหญ่ของกลุ่มอำนาจและมีชื่อเสียงเลื่องลือบางส่วนของรัฐอิสระก็หายตัวไปเช่นกัน ราวกับระเหยเหือดหายไปจากโลก ไม่มีข่าวคราวใดๆ อีกเลย ไม่ว่าจะตามหายังไงก็ไม่พบเบาะแสเลยสักนิด
จนกระทั่งเข้าวันที่สาม
ภายในสำนักงานพันธมิตรอู๋เว่ย เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองผู้อาวุโสใหญ่ด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ
“นี่…เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด” เยี่ยหวันหวั่นไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไร
“ผู้นำ นี่เป็นความจริงครับ แถมยังจริงแท้แน่นอนด้วย…จี้หวง เมื่อคืนนี้ หายตัวไปแล้วครับ…” ผู้อาวุโสหลักขมวดคิ้วเอ่ย
หากบอกว่า การที่บอสของเทียนเซียวกับบอสของกลุ่มอำนาจดั้งเดิมในรัฐอิสระหายตัวไป เยี่ยหวันหวั่นยังพอเข้าใจได้บ้าง แต่จี้หวง…
จี้หวงเป็นใครกันล่ะ?!
ผู้สืบทอดตระกูลจี้ หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งรัฐอิสระ ราชาใต้ดินแห่งภูมิภาคเอเชีย ในรัฐอิสระจี้ซิวหร่านเป็นตัวตนที่น่าหวาดหวั่นจนเกือบเข้าขั้นใช้หนึ่งฝ่ามือบดบังท้องฟ้าได้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่า…เขาจะหายตัวไป!
“จี้หวงหายตัวไปแล้วจริงๆ น่ะเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นยังคงยอมรับความจริงอันน่าเหลือเชื่อนี้ไม่ค่อยได้อยู่ดี
“ผู้นำ หายตัวไปแล้วจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่นี้นะครับ มีข่าวลือแพร่ออกไปว่า ก่อนจี้หวงจะหายตัวไป ได้มีการต่อสู้กับใครบางคนอย่างดุเดือดด้วย ในห้องมีเลือดสดๆ มากมาย แถมยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เลือดพวกนี้เป็นของจี้หวง” ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วจนหยักลึกแล้ว
คนแบบจี้หวง อยู่ในรัฐอิสระเรียกลมเรียกฝน ใช้มือเดียวปิดฟ้าได้ แต่กลับหายตัวไปอย่างลึกลับในถิ่นของตัวเอง ถึงขั้นที่มีเลือดของจี้หวงหลงเหลือทิ้งไว้มากมายด้วย เพียงพอที่จะทำให้กลุ่มอำนาจทั้งหมดในรัฐอิสระตื่นตระหนกได้เลย
หลังจากได้รับข่าวว่าจี้หวงหายตัวไป เยี่ยหวันหวั่นก็ให้เป่ยโต่วขับรถพาตัวเองไปที่สำนักงานใหญ่ของจี้หวงและบ้านตระกูลจี้อย่างไร้ซึ่งความลังเล
—————————————————————-
บทที่ 1976 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานใหญ่ของจี้หวง หรือว่าบ้านตระกูลจี้ ตอนนี้ก็โกลาหลกันอยู่นานแล้ว ต่างก็ออกตามหาเบาะแสของจี้หวงกันอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งคนมาเพราะอำนาจของข่าวที่ได้รับก็มากมายนัก ไม่มีใครว่างต้อนรับพวกเขาอยู่แล้ว
เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในกลุ่มอำนาจจี้หวงและตระกูลจี้ ด้วยความจนปัญญา เยี่ยหวันหวั่นจึงได้แต่จากไปก่อน ไม่เข้าไปรบกวน
ถึงแม้ในใจของเยี่ยหวันหวั่นจะไม่มีความรักความชอบต่อจี้หวงเลย ทั้งหัวใจยกให้ซือเยี่ยหานไปตั้งนานแล้ว แต่ในรัฐอิสระจี้ซิวหร่านคือผู้มีพระคุณของเธอ หากว่าไม่มีจี้ซิวหร่าน มีหรือจะยังมีเยี่ยหวันหวั่นในวันนี้ได้
สำหรับการหายตัวไปของจี้ซิวหร่านแล้ว เยี่ยหวันหวั่นกังวลใจเป็นล้นพ้นจริงๆ
หลังจากกลับถึงพันธมิตรอู๋เว่ย เยี่ยหวั่นหวันก็ส่งลูกน้องมากมายออกไป ช่วยตามหาเบาะแสะของจี้ซิวหร่าน แม้จะรู้ดีว่าอาจจะได้ผลน้อยนิดยิ่ง แต่ในเวลานี้ ตัวเองและพันธมิตรอู๋เว่ยก็ต้องทำอะไรสักหน่อย ไม่อย่างนั้นแล้ว จิตใจของเยี่ยหวันหวั่นคงยากจะสงบลงได้
จี้ซิวหร่านเคยมอบความอบอุ่นให้เยี่ยหวันหวั่นมากมายจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่เพิ่งมาถึงรัฐอิสระ ยังไม่คุ้นเคยกับวิถีชีวิต อยู่ที่พันธมิตรอู๋เว่ย มีการขัดแข้งขัดขากับคนอื่น เป็นจี้ซิวหร่านที่คอยอยู่เคียงข้างเธอ ช่วยให้เธอรู้จักรัฐอิสระ และเข้าใจพันธมิตรอู๋เว่ยได้ดียิ่งขึ้น เรื่องนี้ทำให้เยี่ยหวันหวั่นสามารถดำเนินชีวิตต่อไปให้ดียิ่งขึ้นได้ น้ำใจไมตรีนี้ เปรียบดั่งญาติมิตร เป็นความรู้สึกแบบพี่ชายและน้องสาว คนทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจ แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับรู้แจ้งแก่ใจดี
ภายในสำนักงาน ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นมืดมนอึมครึมจนราวกับจะกลั่นน้ำออกมาได้ มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยนัยน์ตามืดครึ้ม เธอสาบานเลยว่า หากมีใครบังอาจทำร้ายจี้ซิวหร่าน เธอจะต้องสับมันเป็นหมื่นๆ ชิ้นให้ได้
“พี่เฟิง อันที่จริง ยังมีอีกเรื่องนะ”
หลังจากผ่านไปนาน ชีซิงที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอด ก็เปล่งเสียงออกมา
“เรื่องอะไร” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วถาม
“พี่เฟิง พี่ใหญ่เวินจื่อหรานออกไปนานแล้ว เอาจริงๆ ควรจะกลับมาตั้งนานแล้วนะ แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ได้ข่าวเลย ช่วงไม่กี่วันมานี้ พันธมิตรอู๋เว่ยพยายามติดต่อไปหาพี่ใหญ่เวินจื่อหรานอยู่ตลอด แต่ว่า…ติดต่อไม่ได้เลยครับ” ชีซิงเริ่มเล่าออกมา
“พี่เฟิง พี่ใหญ่จื่อหราน คงไม่ได้ตายไปแล้วใช่ไหม” ใบหน้าของเป่ยโต่วเต็มไปด้วยความกังวล
เป่ยโต่วกับชีซิง หลังจากเยี่ยหวันหวั่นไปจากรัฐอิสระก็ติดตามเวินจื่อหรานอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนนั้นสนิทสนมกันมาก
หลังจากได้ยินคำพูดของเป่ยโต่ว ชีซิงก็มองไปที่เป่ยโต่ว ปากเผยออ้านิดๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยออกมาเลยสักคำ
ถึงแม้ผลลัพธ์เช่นนี้จะไม่อาจยอมรับได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นได้เลย
สำหรับเวินจื่อหราน ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นจดจำไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็รู้มาบ้างว่า เวินจื่อหรานเป็นพี่ชายร่วมสาบานของตัวเอง
อีกอย่างเวินจื่อหรานถูกขนานนามว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งของพันธมิตรอู๋เว่ย เยี่ยหวันหวั่นคาดเดาว่า ตัวเองในปีนั้น น่ากลัวว่าจะเอาชนะเวินจื่อหรานไม่ได้เหมือนกัน…
นักสู้ประเภทนี้ จะหายตัวไป จะสิ้นชีพไปได้ยังไง
“พี่เฟิง ระยะนี้รัฐอิสระแปลกพิกลอยู่บ้างจริงๆ บอสของเทียนเซียว หัวหน้าของกลุ่มอำนาจดั้งเดิมบางส่วน ถึงขั้นที่แม้แต่จี้หวงด้วย ต่างก็หายตัวไปอย่างน่าประหลาด ยังมีพี่ใหญ่เวินจื่อหรานอีก เรื่องนี้มีอะไรเชื่อมโยงกันไหมนะ” ชีซิงพยายามทำให้ตัวเองสงบลง แล้วเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงนี้
“เหล่าชี นายหมายความว่า การหายตัวไปของบอสใหญ่พวกนี้ เป็นฝีมือของคนกลุ่มเดียวกันงั้นเหรอ” เป่ยโต่วมองชีซิงอย่างเหลือเชื่อ นี่มันเรื่องล้อเล่นระดับชาติอะไรกันเนี่ย!
“ถึงแม้ฉันจะรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อเหมือนกัน แต่ว่า นี่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะ ถ้าเกิดเป็นความจริง พวกจี้หวง ในตอนนี้น่ะสรุปว่ายังมีชีวิตอยู่…หรือลาโลกไปแล้วกันล่ะ” ชีซิงกล่าว
…………………………………….