หงซิงกั๋วทำตัวเหมือนกอเอี๊ยะหนังหมา หล่อนเดินไปที่ไหน หงซิงกั๋วก็จะตามไปตรงนั้น มู่หรงยานเอ๋อร์เคยหลายครั้งแล้วที่พูดกับหงซิงกั๋วอย่างชัดเจน บอกว่าหล่อนมีคนรักในใจแล้ว แต่หงซิงกั๋วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย ยังคงทำอย่างที่พอใจจะทำ มาถึงขณะนี้ก็ทำเอามู่หรงยานเอ๋อร์ทนรำคาญจะไม่ไหวแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะหาวิธีไหนที่จะหลบไปให้พ้นเขาได้
ตระกูลหงกับตระกูลมู่หรงคบหากันด้วยดีมานับชั่วตระกูลแล้ว ถ้าไม่มีเฉินโม่ เชื่อว่าตระกูลมู่หรงก็ยินดีเป็นอย่างมากที่จะให้มู่หรงยานเอ๋อร์แต่งงานไปกับหงซิงกั๋ว แต่ทว่า ตอนนี้มีเฉินโม่เข้ามาขวางอยู่ข้างหน้า คนตระกูลมู่หรงถ้าไม่ได้โง่มาก ต่างก็คงเข้าใจกันดีว่าจะเลือกยังไง
อิทธิพลของตระกูลหงถึงจะกล้าแข็งมาก แต่นั่นก็แค่อิทธิพลของโลกมนุษย์ทั่วไป เทียบกับเฉินโม่ที่สั่งเป็นสั่งตายได้เลยด้วยคำพูด เทียบเท่ากับเซียนเทพผู้กุมอำนาจสั่งฆ่าได้ ตระกูลมู่หรงย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าจะเลือกยังไง
แต่ ตระกูลมู่หรงก็จะไปปฏิเสธหงซิงกั๋วไม่ได้ ถึงยังไงอิทธิพลของ ตระกูลหงก็ยิ่งใหญ่ไม่เบา ตระกูลมู่หรงก็ไม่กล้าแตกหักกับตระกูลหงชึ่ง ๆ หน้ากันได้
ฉะนั้น เมื่อมู่หรงเค่อนำเอาเส้นทางของมู่หรงยานเอ๋อร์ไปบอกกับหงซิงกั๋ว ต่อจากนั้นหงซิงกั๋วก็หามาถึงที่นี่
ส่วนปัญหาวุ่นวายต่าง ๆ ก็โยนให้มู่หรงยานเอ๋อร์รับภาระไป ถึงยังไงถ้ามู่หรงยานเอ๋อร์ทำอะไรผิดพลาดไป ก็ยังหัวเราะเหอ ๆ พูดคำเดียวได้ว่าเด็กมันยังไม่รู้ประสีประสาก็จบ
แต่ถ้าเป็นความผืดที่มาจากการเลือกของมู่หรงเค่อ นั่นก็ต้องจบโดยไม่มีที่เหลือให้เสียใจภายหลังได้
ฉะนั้น ก็ต้องจำยอมให้มู่หรงยานเอ๋อร์รับทุกขกรรมไปหน่อย
“ฉันก็ไม่อยากพูดอะไรกับคุณแล้ว หงซิงกั๋ว ด้วยความที่พวกเราสองตระกูลมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด พวกเราก็ไว้หน้าต่อกันและกันบ้างแล้วกันนะ!” มู่หรงยานเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าเอือมระอา
ยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้าของหงซิงกั๋วไม่เคยได้เปลี่ยน ได้ยินที่มู่หรงยานเอ๋อร์พูดแล้ว สีหน้าก็ไม่มีอาการอะไรแสดงออก มีเพียงแววตาทอประกายร้ายลึก
“ผมพูดแล้ว ผมจะต้องทำความปรารถนาของคุณปู่ให้สมบูรณ์ ไม่ว่าเธอจะชอบใคร เพียงแต่ถ้าเธอยังไม่ได้เข้าไปในโถงพิธีแต่งงาน ผมก็ยังจะไม่ละวาง!”
คำพูดของหงซิงกั๋วหนักแน่นสุด ๆ ทำเอามู่หรงยานเอ๋อร์พลุ่งพล่านจนคิดอยากตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
“นั่นมันเรื่องของคุณ ฉันตอนนี้ต้องกลับแล้ว คุณจะยังไงก็ตามสบายเถอะ!” มู่หรงยานเอ๋อร์มองดูหงซิงกั๋วแบบพูดอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่สู้เลิกความคิดที่จะคุยทำความเข้าใจกันเสียดีกว่า ทุกอย่างรอให้เฉินโม่กลับมาแล้วค่อยว่ากัน หล่อนเชื่อแน่ว่าเฉินโม่ต้องกลับมา
“ผมไปส่งเธอ!” หงซิงกั๋วก็ทำในสิ่งที่ความเป็นเพื่อนชายควรทำ
“ไม่ต้อง!” มู่หรงยานเอ๋อร์พูดเสียงหนาวเยือก
หงซิงกั๋วยิ้มน้อย ๆ “นั่นเรื่องคุณ”
“คุณ…..” มู่หรงยานเอ๋อร์พูดไม่ออก ฮึดฮัดเดินออกไป
หงซิงกั๋วหัวเราะชืด ๆ ค่อย ๆ เดินตามหลังมู่หรงยานเอ๋อร์ไป
เดินผ่านกลุ่มเพื่อนนักศึกษาของเขา พอพวกเขาเห็นหงซิงกั๋ว สายตาทอประกายเล็กน้อย เห็นชัดได้ว่าพวกเขามีความกลัวหงซิงกั๋วกันอยู่
หงซิงกั๋วเพิ่งย้ายโรงเรียนมาไม่นาน กลับยกศักดิ์ศรีข่มเฉินโม่ลงได้ จะเห็นได้ว่าตัวเขานั้นไม่ใช่ธรรมดา
ส่งมู่หรงยานเอ๋อร์ไปถึงหน้าประตูหอพัก ไม่รอให้มู่หรงยานเอ๋อร์พูดอะไร หงซิงกั๋วหันหลังเดินจากไปเฉย
ในความรู้สึกของมู่หรงยานเอ๋อร์เหมือนกับชกกำปั้นใส่ลงในกองนุ่น ทั้งที่อัดใส่ลงไปเต็มแรง แต่หงซิงกั๋วไม่มีปฏิกิริยาออกอาการใด ๆ
“เจ้าคนบ้าที่น่าเกลียด!ฮึ!”
มูหรงยานเอ๋อร์โมโหหน้าบึ้งเดินขึ้นบันไดไป
มองดูมู่หรงยานเอ๋อร์ขึ้นบันไดไป หงซิงกั๋วที่ยืนห่างอยู่ไม่ไกลนักลบรอยยิ้มบนใบหน้าออก
กวักมือเรียกลูกน้องสองคนที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก สองคนนั้นก็รีบเข้ามาหาหงซิงกั๋ว ถามว่า “คุณชาย มีอะไรจะสั่งครับ?”
“ไปเช็คดูทีว่าเฉินต้าซือจะมาถึงเมื่อไหร่?” หงซิงกั๋วสั่งด้วยสีหน้าหนาวเยือก
ลูกน้องทั้งสองคนนั้นมีอาการตื่นกลัวเล็กน้อย ชายหนุ่มคนหนึ่งที่หน้ามีแผลเป็นพูดอย่างตื่นตระหนกว่า “คุณชาย พลังฝีมือเฉินไต้ซือนั้นไม่ใช่ธรรมดา เป็นถึงผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในรายชื่อเทพ ถ้าเขากลับมาจริง ๆ พวกเราอย่าเข้าไปเป็นปฏิปักษ์กับเขาเด็ดขาดเลยนะ!”
หงซิงกั๋วถลึงตาใส่ พูดด้วยหน้าเคร่งขรึมว่า “เขาเป็นอันดับหนึ่งในรายชื่อเทพ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ข้าเป็นคนในโลกมนุษย์ หรือเขากล้าเข้ามากระทบกระทั่งกับกฎหมายแดนมนุษย์?”