บทที่ 2025 เชิญท่านลงโอ่ง
[1]ตอนนี้ ความทรงจำส่วนใหญ่เยี่ยหวันหวั่นยังไม่กลับคืนมา สำหรับเรื่องที่เฟิงเสวียนอี้เล่ามา จึงไม่มีภาพความทรงจำอยู่เลยสักนิด
ถ้าสิ่งที่เฟิงเสวียนอี้เล่ามาเป็นเรื่องจริง ก็พูดได้แค่ว่า อี้จือฮวาโง่เกินไปหน่อยจริงๆ ถูกพวกเนี่ยหลิงหลงหลอกใช้มาโดยตลอด
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม อย่างน้อยอี้จือฮวาก็ไม่ได้มีใจทรยศอย่างสมบูรณ์
“คุณหนูอู๋โยว เรื่องบางอย่างจัดการไว้ก่อนจะดีกว่านะครับ สมองของอี้จือฮวาน่ะ เกรงว่าจะใช้การไม่ได้อยู่บ้างจริงๆ ถ้าหากเขาเชื่อฟังคำสั่งของตัวปลอมคนนั้นกับเนี่ยหลิงหลงแล้วมาลอบสังหารคุณหนูอู๋โยวเข้าจริงๆ ด้วยความสามารถของอี้จือฮวาแล้วค่อนข้างอันตราย” หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิงเสวียนอี้ก็มองไปที่เยี่ยหวันหวั่นด้วยความอับจนหนทางอยู่บ้าง พลางถอนหายใจเบาๆ
พอได้ยินคำพูดนี้ของเฟิงเสวียนอี้ เยี่ยหวันหวั่นก็แค่ยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “เจ้าติดอ่าง นายอย่าลืมสิว่าที่นี่คือที่ไหนน่ะ”
“พันธมิตรอู๋เว่ยไง” เฟิงเสวียนอี้โพล่งออกมา
พอสิ้นเสียงของเฟิงเสวียนอี้ เยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้าให้นิดๆ “ถึงฉันจะไม่รู้ว่าถ้าอี้จือฮวาเตรียมจะมาลอบสังหารฉัน เขาจะมาลงมือในพันธมิตรอู๋เว่ยไหม แต่มันก็ไม่ง่ายหรอกนะ ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตอนนี้ฉันเองก็รู้แล้วด้วย”
เฟิงเสวียนอี้ยิ้มน้อยๆ จริงสินะ อยู่ในสถานที่อย่างพันธมิตรอู๋เว่ยแห่งนี้ ดูเหมือนความกังวลของเขาจะมากเกินเหตุไปแล้ว
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็เรียกพวกผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามมา ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ต้องจัดวางกำลังเอาไว้
พันธมิตรอู๋เว่ย หากว่าคิดจะเข้ามาน่ะง่าย แต่ถ้าคิดจะออกไป กลับยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก
เฟิงเสวียนอี้ก็ไม่ได้จากไปเช่นกัน แต่รั้งอยู่ที่พันธมิตรอู๋เว่ย คอยอยู่เป็นเพื่อนเยี่ยหวันหวั่นตลอด
เวลานี้ ภายในสำนักงานของพันธมิตรอู๋เว่ย น่าจะมีคนอยู่หลายสิบคน นอกจากพวกผู้อาวุโสแล้ว เป่ยโต่วและชีซิงก็อยู่ด้วย
“เจ้าติดอ่าง นายว่า…อี้จือฮวาจะมาไหม?”
รอจนกันอยู่จนดึกแล้ว เยี่ยหวันหวั่นจึงค่อนข้างเบื่ออยู่บ้าง สายตามองไปที่ร่างของเฟิงเสวียนอี้
เธอเรียกระดมพลเสียมากมายมาเพื่อคุ้มกันตัวเองอย่างใหญ่โตขนาดนี้ ถ้าเกิดอี้จือฮวาไม่มา แบบนั้นจะไม่ดูเสียหน้าเกินไปหรอกเหรอ?
สำหรับเรื่องนี้ เฟิงเสวียนอี้ส่ายหน้า หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “นี่ก็ว่ากันยากแล้ว ถึงยังไง…ระดับไอคิวของคนอย่างพวกเขา ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับผม อาจจะมาหรืออาจจะไม่มาก็ได้”
“พี่เฟิง ผมว่าเป็นไปไม่ได้หรอก จะมีไอ้โง่คนไหนสมองมีปัญหาขนาดนั้นกัน กล้าวิ่งแจ้นมาลอบสังหารผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยถึงพันธมิตรอู๋เว่ยเลยเนี่ยนะ” เป่ยโต่วมองไปที่เยี่ยหวันหวั่นด้วยความฉงนอยู่บ้าง
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นได้เปิดปากพูด เป่ยโต่วก็เอ่ยต่อแล้วว่า “ถ้าเป็นผมนะ ต่อให้คิดจะลอบสังหาร ผมก็จะรอให้พี่เฟิงออกไปข้างนอกพันธมิตรอู๋เว่ยก่อนแล้วค่อยลงมือ ทำไมผมต้องวิ่งมาลงมือกับพี่เฟิงถึงที่สำนักงานด้วยล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้พูดอะไร
เพราะเยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่งแล้ว แม้ตาคนอย่างเป่ยโต่วยังเข้าใจถึงปัญหาได้ แล้วอี้จือฮวา…จะไม่เข้าใจเชียวหรือ
“เจ้าติดอ่าง นายเปิดจอภาพดูหน่อยสิ” หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยกับเฟิงเสวียนอี้
พอได้ยิน เฟิงเสวียนอี้ก็พยักหน้าตอบรับ แล้วลุกไปเปิดจอมอนิเตอร์
ไม่นาน สถานการณ์ห้าฉากปรากฏขึ้นบนหน้าจออย่างรวดเร็ว ในมุมมองของพวกนักพรตและหนุ่มกรรมกรต่างชาติ มืดสนิทกันทั้งหมด แถมยังได้ยินเสียงกรนดังสนั่นเหมือนฟ้าผ่าแว่วขึ้นเป็นระยะๆ ด้วย ชัดเจนมาก คนอื่นๆ เข้านอนกันแล้ว
แต่มุมมองทางอี้จือฮวากลับต่างกันออกไป ฉากที่ปรากฏขึ้นมาดูคุ้นตาอย่างยิ่ง
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ชั้นสามของสำนักงานพันธมิตรอู๋เว่ยหรอกเหรอ”
ผู้อาวุโสสองจ้องมองสถานการณ์จากมุมมองของอี้จือฮวา ใบหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ
พอผู้อาวุโสสองพูดจบ ทุกคนก็รีบหันไปมองที่จอมอนิเตอร์ทันที เป็นอย่างที่ผู้อาวุโสสองพูด ฉากที่ปรากฏคือชั้นสามของสำนักงานพันธมิตรอู๋เว่ยจริงๆ
————————————————————
บทที่ 2026 ปิดล้อมแน่นหนา
จากนั้น เฟิงเสวียนอี้ก็ปิดหน้าจอสอดส่องทางพวกเจ้าคนตายกับนักพรต เหลือไว้แค่มุมมองทางฝั่งอี้จือฮวา ทำให้ภาพในวิดีโอคมชัดยิ่งขึ้น
จากวิดีโอเห็นได้ว่า ทักษะของอี้จือฮวาเฉียบคมยิ่ง หลบหลีกหูตาของทุกคนในพันธมิตรอู๋เว่ยจากชั้นหนึ่งขึ้นมาถึงชั้นบนได้สำเร็จ
อีกไม่เกินสิบนาที มองจากมุมมองของอี้จือฮวา ก็จะมาถึงชั้นนี้แล้ว
“เวรเอ้ย…ฉันขอเก็บคำพูดก่อนหน้านี้กลับมา มีคนที่สมองไม่ได้เรื่องอยู่จริงๆ วิ่งแจ้นมาลอบสังหารผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยถึงสำนักงานพันธมิตรอู๋เว่ยเลยเนี่ยนะ!” เป่ยโต่วจ้องมองฉากที่ปรากฏ ด้วยสีหน้ามึนงง
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มด้วยความจนปัญญา อี้จือฮวาคนนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะทึ่มกว่าเป่ยโต่วเสียอีก แม้แต่เป่ยโต่วยังเข้าใจถึงหลักเหตุผลเลย แต่อี้จือฮวากลับไม่เข้าใจ
“ผู้นำครับ ให้พวกเราออกไปจัดการเถอะ”
เวลานี้ ผู้อาวุโสสามลุกขึ้นมา แล้วมองไปที่เยี่ยหวันหวั่น เสนอตัวขันอาสา
ทว่า เยี่ยหวันหวั่นกลับส่ายหน้า แล้วเอ่ยไปว่า “ไม่ต้องออกไปหรอก อยู่ที่นี่กันทั้งหมดนั่นแหละ”
“ครับ” ในเมื่อเยี่ยหวันหวั่นออกปากแล้ว ผู้อาวุโสสามย่อมไม่พูดให้มากความอีก ทำได้เพียงรออยู่ที่นี่ต่อไป
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองจอมอนิเตอร์แวบหนึ่ง อี้จือฮวาเคลื่อนไหวอย่างว่องไว จนมาถึงด้านนอกห้องทำงานแล้ว
บนจอมอนิเตอร์ มุมมองของอี้จือฮวาหมุนไปรอบๆ เหมือนกำลังดูว่าบริเวณนี้มีคนอยู่ไหม
หลังจากแน่ใจแล้วว่าปลอดภัย อี้จือฮวาก็ชักกริชออกมา แล้วค่อยๆ สอดกริชเข้าไปทางประตูอย่างแผ่วเบา
…….
ในเวลานี้ ทุกคนที่อยู่ในห้องทำงานต่างก็จ้องมองกริชที่ยื่นผ่านประตูเข้ามา จากนั้นก็มองหน้ากัน
ต้องบอกเลยว่า ทักษะในการสะเดาะกลอนของอี้จือฮวานั้น ยอดเยี่ยมมาก ใช้เวลาแค่ไม่กี่ช่วงลมหายใจ กลอนประตูก็ถูกปลดแล้ว ได้ยินเพียงเสียงดัง ‘แอ๊ด’ เนื่องจากประตูห้องทำงานถูกผลักเข้ามาจากด้านนอกเบาๆ
ในเวลาเดียวกันนี้ สายตาหลายสิบคู่ ต่างก็พากันมองไปทางประตูใหญ่
อี้จือฮวาสวมชุดดำทั้งตัว หลังจากเข้ามาในห้องทำงานแล้ว ก็หันหลังกลับไปแล้วล็อกประตูอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว
จากนั้นพออี้จือฮวาหันมาอีกครั้ง ก็สบเข้ากับดวงตาหลายสิบคู่ สีหน้าพลันแข็งค้างไป ฉากนี้ช่างน่าดูชม ถึงขั้นที่ยากจะบรรยายเล็กน้อย
“มาแล้วเหรอไอ้น้อง”
เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นมา มองไปที่อี้จือฮวา ยิ้มน้อยๆ พลางเอ่ยออกมา
อี้จือฮวาสับสนงุนงงแล้ว
ภายในห้องทำงาน สายตาหลายสิบคู่ที่กวาดมองมายังร่างของอี้จือฮวาคมกริบราวกับใบมีด
“ไอ้น้องชาย ทำไมนายช้าขนาดนี้เลยล่ะ ขึ้นลิฟท์ตรงมาเลยก็ได้นะ นายจะเดินขึ้นบันไดทำไมกัน” ผู้อาวุโสสองขมวดคิ้วจนกดลึกพลางจ้องมองอี้จือฮวา ถ้าขึ้นลิฟท์มาแต่แรก พวกเขาจะต้องรอนานขนาดนี้เสียที่ไหน
“เอ่อ…”
อี้จือฮวามองทุกคน ความคิดคล้ายหยุดนิ่งอยู่บ้าง สถานการณ์ตรงหน้า ทำให้เขาไม่อาจเข้าใจได้อย่างสิ้นเชิง นี่มันอะไรกัน?
ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติไป…
“เอ่อ…”
อี้จือฮวาจ้องมองทุกคน สีหน้ากระอักกระอ่วนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
“ฮ่าๆ ทุกคนประชุมกันอยู่เหรอ ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่แวะมาเยี่ยมน่ะ พวกคุณทำธุระกันก่อนเลย”
พออี้จือฮวาพูดจบ ก็หันหลังทันที คิดจะหนีออกจากที่นี่
คนของเยี่ยหวันหวั่นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ปล่อยให้อี้จือฮวาออกไปได้
เพียงแต่ หลังจากที่อี้จือฮวาเผ่นแนบออกมาจากห้องทำงานแล้ว กลับพบว่า ชั้นนี้ถูกชาวพันธมิตรอู๋เว่ยปิดล้อมไว้อย่างแน่นหนา คนทั้งหมดที่ขวางอยู่ด้านนอกประตู มีอยู่ราวๆ สองถึงสามร้อยคน
ด้วยความอับจนหนทาง อี้จือฮวาจึงทำได้เพียงถอยกลับเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้ง จ้องมองเยี่ยหวันหวั่น พลางยิ้มอย่างอับอายแล้วเอ่ยถามว่า “เถ้าแก่โหย่วหมิง นี่คุณหยอกผมเล่นเหรอเนี่ย?…”
“หยอกนายเล่นงั้นเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “จะกล้าได้ยังไง นี่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ นายก็จะมาทำร้ายฉันซะแล้ว ถ้าฉันคิดจะเล่นงานนาย จะไม่ตายโดยไร้หลุมฝังกลบหรอกเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น อี้จือฮวาก็ส่ายหน้ารัวๆ “เถ้าแก่โหย่วหมิง พูดแบบนี้…”
………………………………………
[1] เชิญท่านลงโอ่ง หมายถึง หลอกล่อศัตรูให้มาติดกับ