บทที่ 2027 รังแกนายแล้วไงล่ะ
“อี้จือฮวา นายเอาเชือกไปสิ”
ไม่นานนัก เฟิงเสวียนอี้ก็เดินออกมาจากกลุ่มคน แล้วโยนเชือกไนลอนลงที่ข้างเท้าของอี้จือฮวา
“หมายความว่ายังไง…” อี้จือฮวาจ้องมองเชือกเส้นใหญ่ตรงข้างเท้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสนมึนงง
จนกระทั่งเมื่ออี้จือฮวาได้เห็นหน้าของเฟิงเสวียนอี้ชัดๆ แล้วจึงมองไปทางจอขนาดใหญ่ของห้องทำงานตามสัญชาตญาณ ชั่วพริบตานั้น เขาราวกับมีสายฟ้าฟาดภายในสมอง
“เวรเอ๊ย…เฟิงเสวียนอี้ นายมันไอ้ติดอ่างสมควรตาย นายสมควรโดนเชือดด้วยพันดาบ ต้องเป็นนายแน่ๆ มีแค่นายที่ทำเรื่องหน้าไม่อายประเภทนี้ได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่านายจะช่วยคนอื่นมารังแกฉัน”
หลังจากอี้จือฮวาได้สติกลับมา ก็ชี้นิ้วใส่เฟิงเสวียนอี้พลางตะโกนด่าทอ
พอได้ยินคำพูดของอี้จือฮวา เฟิงเสวียนอี้ก็ปรายตามองอี้จือฮวาแวบหนึ่งด้วยสีหน้าไม่แยแส แล้วเอ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “รังแกนายแล้วไงล่ะ รังแกนายแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบนี่”
อี้จือฮวาพูดไม่ออก…
“หยุดพูดไร้สาระเถอะ สำเหนียกตัวเองซะบ้าง อย่าให้เหล่าผู้กล้าของพันธมิตรอู๋เว่ยต้องลงมือเลย คาดว่าคงไม่สุภาพอ่อนโยนกันขนาดนั้นหรอกนะ” เฟิงเสวียนอี้จ้องมองอี้จือฮวา พูดพลางถอนหายใจ
“จะให้ฉันมัดตัวเอง…นายเล่นมุกตลกระดับโลกอยู่หรือไง นี่เป็นความอัปยศอย่างหนึ่งของฉันเลยนะ เป็นการดูหมิ่น ไม่ให้ความเคารพ…” อี้จือฮวาตะโกนเสียงเย็น
“ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็เคยเป็นนักฆ่าชั้นยอด สำหรับฉันแล้ว ภารกิจมีแค่สองประเภท อย่างแรกทำสำเร็จ ฉันจากไป อย่างที่สองล้มเหลว ฉันจากไปไม่ได้ คิดจะให้ฉันมัดตัวเองงั้นเหรอ ไม่มีทาง!” อี้จือฮวายังคงตะโกนต่อไป
“โอ้ เจ้าอารมณ์ไม่เบาเลยนี่!” เป่ยโต่วจ้องมองอี้จือฮวา “ถ้านายไม่ลงมือด้วยตัวเอง ถ้างั้นพวกเราจะช่วยนาย!”
เวลานี้ ชาวพันธมิตรอู๋เว่ยต่างเดินล้อมกรอบเข้าหาอี้จือฮวาแล้ว
พอเห็นคนหลายสิบคนดาหน้าเข้ามาพร้อมกัน ใบหน้าของอี้จือฮวาก็เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน รีบหยิบเชือกบนพื้นขึ้นมาโดยแทบจะไม่ลังเลเลยสักนิด แล้วมัดตัวเองไว้อย่างแน่นหนาท่ามกลางสายตาที่จ้องเขม็งของฝูงชน
“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่ะ งานแบบนี้ ทำไมจะต้องให้ทุกท่านลงมือ ไม่ต้องลำบากกันขนาดนั้นหรอก ผมทำเองก็ได้ นั่งลงกันทั้งหมดเถอะ อย่าเหนื่อยเลย ไม่คุ้มกันหรอก…” ใบหน้าของอี้จือฮวาฉาบด้วยรอยยิ้ม
“เอ๋ นายไม่ใช่นักฆ่าชั้นยอดหรอกเหรอ การที่ให้มัดตัวเอง สำหรับนายแล้วเป็นการดูหมิ่นและความอัปยศสิถึงจะถูก” เยี่ยหวันหวั่นจ้องอี้จือฮวา แล้วเอ่ยด้วยความสงสัย
“เถ้าแก่โหย่วหมิง ดูคำพูดนี้ของคุณสิ นั่นเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วใช่ไหมล่ะ…ยอดนักฆ่าน่ะเป็นอดีตไปแล้ว อีกอย่าง จะมัดตัวเองไหมก็ไม่สำคัญ สำคัญคือชอบถูกคนอื่นเหยียดหยาม…ดูหมิ่น อะไรแบบนั้น…” อี้จือฮวาพูด
เป่ยโต่วและชีซิงหมดคำพูดกับคนแบบนี้เลยจริงๆ
คนหน้าไม่อายน่ะเคยเห็นมาแล้ว แต่ที่หน้าไม่อายถึงขั้นนี้ พวกเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย ก่อนหน้านี้ยังป่าวร้องว่าตัวข้าคือหนึ่งในใต้หล้า ยอมตายไม่ยอมอดสูอยู่เลย เพียงพริบตาเดียว ท่วงท่านี้ก็หายวับไปแล้ว
“ถ้างั้น เถ้าแก่โหย่วหมิงดูสิครับว่าผมจะมัดแน่นแค่ไหนถึงจะดี” เวลานี้ อี้จือฮวาจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น พลางเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
เยี่ยหวันหวั่นตอบส่งๆ ว่า “แล้วแต่เถอะ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าอี้จือฮวามัดตัวเองเหมือนดอกไม้ เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ้มไม่ได้หัวเราะไม่ออก สติปัญญาแบบนี้ ยังเป็นยอดนักฆ่าได้อีกเหรอ…
“ไอ้หนุ่ม ฉันขอบอกนายเลยนะว่าอย่าเล่นตุกติก มัดให้ดีๆ หน่อย ไม่งั้นท่านปู่เป่ยโต่วอย่างฉัน จะฟันนายแบบหนึ่งครั้งได้เลือด สองครั้งเห็นกระดูกแน่!”
เป่ยโต่วก้าวไปข้างหน้าอย่างว่องไว แล้วตรวจสอบอี้จือฮวารอบหนึ่ง
“พี่เฟิง เขามัดตัวเองอย่างแน่นหนาแล้วจริงๆ ไม่มีปัญหาครับ” ผ่านไปครู่หนึ่ง เป่ยโต่วก็รายงานต่อเยี่ยหวันหวั่น
“พวกนายออกไปให้หมดเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นมองฝูงชนที่อยู่ในห้องทำงาน แล้วเอ่ยขึ้น
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นออกคำสั่งแล้ว ผู้อาวุโสหลายท่านก็นำคนทั้งหมดหันหลังก้าวออกจากห้องทำงานไป แล้วปิดประตูห้องทำงานให้อย่างนุ่มนวลด้วย
———————————————————–
บทที่ 2028 ไม่ใช่คนประเภทเดียวกันไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้
ในเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นกับเฟิงเสวียนอี้นั่งอยู่บนโซฟา มองอี้จือฮวาที่มัดตัวเองราวกับดอกไม้ด้วยสายตาที่ราวกับมองคนโง่
“รู้สึกยังไงบ้าง” เฟิงเสวียนอี้จ้องมองอี้จือฮวาแล้วเอ่ยยิ้มๆ
อี้จือฮวาตอบว่า “ฮึ นายมันไอ้คนเลว ไม่น่าเชื่อว่าจะช่วยเถ้าแก่โหย่วหมิงจัดการฉัน นายบอกมาเลยนะ นายรับเงินจากเถ้าแก่โหย่วหมิงมาเท่าไร!”
สิ้นเสียงของอี้จือฮวา รอยยิ้มบนหน้าเฟิงเสวียนอี้ก็เลือนหายไปในทันที มองไปที่เยี่ยหวันหวั่นด้วยใบหน้าเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน
“ใช่แล้ว ตอนนี้คุณเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแล้วนี่ ผมก็นับว่าเป็นคนของตระกูลเนี่ย ผมช่วยคุณ ก็เท่ากับรับจ้างทำงานให้พันธมิตรอู๋เว่ย งั้นค่าจ้าง…” เฟิงเสวียนอี้มองเยี่ยหวันหวั่น พลางเอ่ยด้วยเสียงเบาหวิว
เยี่ยหวันหวั่นชะงักไปแวบหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ก็ว่าแล้วเชียว ทำไมเฟิงเสวียนอี้ถึงเข้าร่วมทีมของเนี่ยอู๋หมิงได้นะ ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็พอจะเข้าใจแล้ว ไม่ใช่คนประเภทเดียวกันไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้หรอก
“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องเงิน เอาไว้ทีหลังเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นคิดๆ ดู จากนั้นก็พูดออกมา
“โอเค” เฟิงเสวียนอี้พอใจมาก พยักหน้าหงึกหงัก ขอแค่รับปากว่าจะให้เงิน ทุกอย่างก็ล้วนคุยกันได้
“อี้จือฮวา นายใจกล้านักนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าทำเรื่องเลวทรามชั่วช้าแบบนี้ได้ ทุกการกระทำของนาย ฉันมีวิดีโอเป็นหลักฐานแล้ว ฉันจะเอาไปบอกหัวหน้า ให้หัวหน้ามาสั่งสอนนาย” เฟิงเสวียนอี้เอ่ยขึ้น
พอได้ยินวาจานี้ของเฟิงเสวียนอี้ สีหน้าของอี้จือฮวาก็พลันแปรเปลี่ยน “อย่าๆๆ…”
“นายยังกล้าดีมาล้อเลียนฉันอีกเหรอ?!” เฟิงเสวียนอี้เบิกตามองอี้จือฮวาด้วยความโกรธแวบหนึ่ง
“ใครล้อเลียนนายกัน โอเคๆๆ…”
“ยังจะล้อเลียนอยู่อีก?!” เฟิงเสวียนอี้ตะคอก
“ฉันผิดไปแล้วโอเคไหม มีอะไรก็คุยกันดีๆ เถอะ อย่าเอาไปบอกหัวหน้าเลย ถ้านายเอาเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้า ก็ไม่เหลือทางรอดให้ฉันแล้วนะ!” ใบหน้าของอี้จือฮวาเต็มไปด้วยความร้อนรน จะซ้อมเขาให้ตายตอนนี้เลยก็ยังได้ ขอแค่อย่าบอกเนี่ยอู๋หมิง…
“ฉันบอกแล้วว่านายมันโง่ นายยังไม่ยอมรับอีก วันๆ เอาแต่ไปเยาะเย้ยเสี่ยวเถียนเถียนอยู่ได้ ในบรรดาคนทั้งหมด ใครบ้างที่ไม่ฉลาดกว่านายน่ะ เชื่อฟังเนี่ยหลิงหลงกับยัยตัวปลอมคนนั้น ถ้าพวกเขาอยากให้นายไปตาย นายจะไม่ไปหรือไง” เฟิงเสวียนอี้คับแค้นใจที่ไม่อาจเปลี่ยนเหล็กให้เป็นเหล็กกล้าได้
“ตัวปลอมเหรอ?” สิ้นเสียงของเฟิงเสวียนอี้ อี้จือฮวาก็ตะลึงงันไปทันที สีหน้าประหลาดใจอยู่บ้าง ถึงขั้นที่ไม่อยากจะเชื่อ
“นายจะบอกว่า คุณหนูอู๋โยวคนนั้นที่อยู่ในบ้านเป็นตัวปลอมงั้นเหรอ?” อี้จือฮวาถาม
“ถ้าฉันไม่ได้จำผิดไป ตอนนั้นที่อยู่จีนก็น่าจะเคยพูดกับพวกนายไปแล้วนะ บอกว่าคุณหนูหวันหวั่นสิถึงจะเป็นมีความเป็นไปได้ที่สุดว่าจะเป็นเนี่ยอู๋โยวตัวจริงน่ะ” เฟิงเสวียนอี้พูด
“ไม่ถูกแล้ว…คุณหนูหลิงหลงบอกว่า เธอเป็นคนของสายหลัก…มาเพื่อทำลายตระกูลเนี่ย ต้องการทำให้ตระกูลเนี่ยหายไปอย่างสิ้นเชิง” อี้จือฮวาส่ายหน้ารัวๆ
“เนี่ยหลิงหลงเป็นแม่นายเหรอ หล่อนบอกอะไรนายก็เชื่อไปหมด ตัวนายไม่มีสมอง คิดเองไม่เป็นบ้างรึไง”เฟิงเสวียนอี้เอ่ยเสียงเยียบเย็น
“ไอ้ติดอ่างตายซาก ดูถูกฉันน่ะได้ แต่อย่ามาลามปามแม่ฉันนะ!” อี้จือฮวาเอ่ยด้วยความโกรธ
เยี่ยหวันหวั่นคิดในใจ มีคนที่โง่กว่าเป่ยโต่วอยู่ด้วยจริงๆ สินะ
“ตอนนี้ฉันขอบอกนายเอาไว้ชัดๆ เลยนะ คนที่นายมาลอบสังหารในวันนี้สิถึงจะเป็นคุณหนูอู๋โยวตัวจริง เข้าใจไหม”
“งั้นนายมีหลักฐานอะไรมายืนยันล่ะ” อี้จือฮวาไม่ยอมแพ้
“หลักฐานงั้นเหรอ” ต่อมา เฟิงเสวียนอี้ได้หยิบผลทดสอบความเป็นแม่ลูกสองฉบับขึ้นมาแล้วโยนใส่อี้จือฮวา
“นี่คืออะไร” อี้จือฮวาเอ่ยด้วยความสงสัย
“รายงานผลการทดสอบดีเอ็นเอ เยี่ยหวันหวั่นเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของคุณชายน้อยถังถัง ส่วนอีกฉบับเป็นของยัยตัวปลอมคนนั้น ไม่ได้เป็นผู้ให้กำเนิดคุณชายน้อยถังถัง” เฟิงเสวียนอี้อธิบาย
“ฉันก็อ่านไม่รู้เรื่องอยู่ดี” อี้จือฮวาส่ายหน้า