บทที่ 2029 เธอคือคุณหนูอู๋โยวจริงๆ เหรอ
“ไม่ได้หวังให้นายอ่านให้รู้เรื่อง แค่จะบอกนายว่า ฉันมั่นใจแล้ว คุณหนูหวันหวั่นสิถึงจะเป็นเนี่ยอู๋โยวตัวจริง ส่วนคนนั้นในตระกูลที่เนี่ยหลิงหลงพามาเป็นตัวปลอม นายมันโง่ ถูกเนี่ยหลิงหลงหลอกใช้มาโดยตลอด” เฟิงเสวียนอี้จ้องมองอี้จือฮวา พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
พอสิ้นเสียงของเฟิงเสวียนอี้ อี้จือฮวาก็มุ่นคิ้วนิดๆ เมื่อก่อนเขาก็นึกสงสัยอยู่บ้าง เนี่ยหลิงหลงเอาแต่พูดกับเขาเสมอว่า เยี่ยหวันหวั่นเป็นคนของสายหลัก แต่…ไม่ว่าจะดูยังไง เยี่ยหวันหวั่นกับสายหลักก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย
เพียงแต่ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งที่ออกมาจากปากของเนี่ยหลิงหลง ดังนั้นอี้จือฮวาจึงได้แต่เลือกที่จะเชื่อ
“ยังมีอีกนะเจ้าโง่ เพราะปัญหาที่นายก่อไว้ในปีนั้น นอกจากจะทำให้พวกเราซวยกันทั้งทีมแล้ว ยังทำให้คุณหนูอู๋โยวต้องเขียนจดหมายมาขอความเมตตาจากหัวหน้าเพื่อช่วยเหลือนายด้วย นายถึงได้รอดพ้นจากความตายมาได้น่ะ” เฟิงเสวียนอี้พูดต่อ
“เป็นคุณหนูอู๋โยวที่ขอความเมตตาให้ฉันเหรอ” ใบหน้าของอี้จือฮวาเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง
“นายดูเอาเองเถอะ นี่คือจดหมายที่ปีนั้นคุณหนูอู๋โยวเขียนเองกับมือ”
ไม่ทันเห็นเหมือนกันว่าเฟิงเสวียนอี้ทำอะไร ทว่าในมือมีจดหมายฉบับหนึ่งที่ออกสีเหลืองๆ แล้วเพิ่มขึ้นมา
“ฉันถูกมัดอยู่นะ จะอ่านได้ยังไงล่ะ” อี้จือฮวาร่ำร้อง
ด้วยความอับจนหนทาง เฟิงเสวียนอี้จึงคลี่เปิดจดหมาย ใช้สองมือกางออกแล้วยื่นไปตรงหน้าของอี้จือฮวา
หลังจากอ่านจดหมายจบแล้ว ใบหน้าของอี้จือฮวาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เนื้อความบนจดหมาย เป็นการขอความเมตตาให้เขาจริงๆ และผู้เขียนก็เป็นเนี่ยอู๋โยวไม่ผิดแน่
แต่ว่าก่อนหน้านี้…เนี่ยหลิงหลงกลับสร้างความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งให้เขา ทำราวกับว่า คนที่ขอความเมตตาให้เขาในตอนนั้นก็คือเนี่ยหลิงหลง
พูดแบบนี้ก็คือ เนี่ยหลิงหลงหลอกลวงเขามาตลอดสินะ?!
“คุณ…คุณคือคุณหนูอู๋โยวจริงๆ เหรอ” อี้จือฮวามองไปที่เยี่ยหวันหวั่น
“ของแท้แน่นอน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตอบ
“แต่ว่า ถ้าคุณคือคุณหนูอู๋โยวจริงๆ ทำไมเนี่ยหลิงหลงถึงบอกว่าคุณเป็นคนของสายหลักล่ะ” อี้จือฮวาสงสัยอยู่บ้าง จึงถามพลางขมวดคิ้ว
“นายมันโง่ ยังจะมาถามแบบนี้อีกเหรอ” เฟิงเสวียนอี้เหลือบมองอี้จือฮวาแวบหนึ่ง “เนี่ยหลิงหลงหาตัวปลอมมาสวมรอยเป็นคุณหนูอู๋โยว แล้วตอนนี้ก็ช่วยเหลือให้ตัวปลอมได้สิทธิ์ในการควบคุมตระกูลเนี่ยอีก เห็นได้ชัดเลยว่าเนี่ยหลิงหลงอยากควบคุมตระกูลเนี่ย ส่วนเป้าหมายคืออะไรก็ยังไม่ทราบชั่วคราว”
“ไม่ถูกสิ ถ้าเป็นอย่างที่นายบอก งั้นเนี่ยหลิงหลงสืบทอดตระกูลเนี่ยเองก็ใช้ได้แล้วนี่ ทำไมจะต้องหาตัวปลอมมาอีกล่ะ เรื่องทั้งหมดนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย หรือว่าเนี่ยหลิงหลงโง่ไปแล้ว” อี้จือฮวารีบเอ่ยแย้ง
ในเวลานี้ เฟิงเสวียนอี้มองอี้จือฮวาอย่างลุ่มลึกแวบหนึ่ง คล้ายว่าจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จากนั้นก็เอ่ยด้วยความโมโหขุ่นเคือง “มีดฉันอยู่ไหน?! คุณหนูอู๋โยว หามีดให้ผมสักเล่มเถอะ วันนี้ผมจะต้องผ่ากะโหลกเขาให้ได้ อยากจะดูสักหน่อยว่าสรุปแล้วข้างในบรรจุอะไรไว้กันแน่!”
“อย่า ใจเย็นไว้ ใจเย็นๆ ก่อน!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกล่อมเฟิงเสวียนอี้อย่างมีน้ำอดน้ำทนมาก
ต้องพูดเลยว่า ด้วยระดับสติปัญญาของเฟิงเสวียนอี้แล้ว การมาพูดคุยกับอี้จือฮวาช่างเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินจริงๆ!
หลังจากเฟิงเสวียนอี้พยายามทำให้ตัวเองสงบลงได้แล้ว จึงมองไปที่อี้จือฮวาแล้วพูดว่า “นี่นายโง่มากเลยสินะ เนี่ยหลิงหลงคนนั้นเป็นคนที่คุณหนูอู๋โยวเก็บกลับมาที่ตระกูลเนี่ย อีกอย่างเนี่ยหลิงหลงก็ไม่ได้มีสายเลือดตระกูลเนี่ย เธอจะเอาอะไรมาสืบทอดตระกูลเนี่ยได้ล่ะ ถ้าหากหล่อนไม่หาตัวปลอมมาสักคน พอถึงเวลา ผู้สืบทอดตระกูลเนี่ยก็ต้องเป็นหัวหน้าแน่นอน เข้าใจหรือยัง?!”
พอเฟิงเสวียนอี้พูดจบแล้ว อี้จือฮวาจึงรีบพยักหน้า “ใช่ๆๆ…”
“ทำไมนายถึงเอาแต่ล้อเลียนอาการติดอ่างในอดีตของข้าอยู่ได้ ข้าจะเล่นนายให้ตายจริงๆ แล้วนะ” เฟิงเสวียนอี้ตะคอกอย่างดุร้าย
อี้จือฮวาเอ่ยตอบเสียงอ่อน “ใครล้อเลียนนายกัน นายอย่าอ่อนไหวขนาดนี้จะได้ไหม…ความหมายของฉันก็คือ เนี่ยหลิงหลงไม่ใช่สายเลือดตระกูลเนี่ยจริงๆ ไม่สามารถสืบทอดตระกูลเนี่ยได้…”
———————————————–
บทที่ 2030 ทำเกลือให้เป็นหนอน
สายตาของเยี่ยหวันหวั่นตกลงบนร่างของอี้จือฮวา “ตอนนี้เชื่อแล้วใช่ไหม”
“เหมือนฝันไปอยู่บ้าง…ทุกอย่างมันกะทันหันเกินไปแล้ว” อี้จือฮวาจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วพูดว่า “อันที่จริง วันนี้ผมไม่ได้คิดจะมาลอบสังหารคุณเลย ถ้าหากคิดจะลอบสังหารคุณ ผมไม่เลือกลงมือที่พันธมิตรอู๋เว่ยหรอกนะ ผมแค่อยากจะแน่ใจว่า สรุปแล้วคุณใช่คนของสายหลักไหม ต้องการทำลายตระกูลเนี่ยจริงหรือเปล่า ยังไงก็ตาม…โชคดีที่ผมมา ถ้าหากต้องเลือกแล้วล่ะก็ ผมเลือกที่จะเชื่อเฟิงเสวียนอี้ ถึงยังไงพวกเราก็อยู่ด้วยกันมานาน ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันมา เฟิงเสวียนอี้ไม่มีทางหลอกผม”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างปลาบปลื้ม ค่อยยังชั่ว ยังพอช่วยเหลือได้ ไม่ได้โง่เง่าจนเกินเยียวยา
“นายเข้าใจก็ดีแล้ว” เฟิงเสวียนอี้เอ่ย
“ถ้างั้น…คลายเชือกให้ฉันได้ไหม ดีร้ายยังไงฉันก็เป็นยอดนักฆ่านะ แบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเลย…” อี้จือฮวายิ้มพลางเอ่ยอย่างอับอาย
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารับ แล้วให้เฟิงเสวียนอี้แก้มัดให้อี้จือฮวา
หลังจากอี้จือฮวาขยับเนื้อขยับตัวอยู่สักพัก ก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง
“ถ้างั้น ตอนนี้ผมควรทำยังไงดีครับ” อี้จือฮวาจ้องไปที่เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันเปิดปากพูด จู่ๆ อี้จือฮวาก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “คุณคือคุณหนูอู๋โยวจริงๆ เหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นผงะไปแวบหนึ่ง
“ฉันคือเนี่ยอู๋โยวจริงๆ” เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจแล้วเอ่ยตอบ
“ผมเชื่อคุณ” อี้จือฮวาพยักหน้า “ขอบคุณคุณหนูอู๋โยวมากครับที่ปีนั้นช่วยขอความเมตตาให้ผม”
“เรื่องราวในปีนั้น ฉันยังจำไม่ได้จริงๆ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยความจนปัญญา
หลังจากเฟิงเสวียนอี้อธิบายให้ฟังแล้ว อี้จือฮวาจึงได้ทราบต้นสายปลายเหตุที่เยี่ยหวันหวั่นสูญเสียความทรงจำไป
“คุณหนูอู๋โยว คุณหนูวางใจได้เลยครับ! ผมจะเอาชีวิตหมาๆ ของซือเยี่ยหานมาให้ได้! เพื่อล้างแค้นให้คุณหนู!” สองมือของอี้จือฮวากำเข้าหากัน แล้วพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นกระตุกนิดๆ มองไปที่เฟิงเสวียนอี้ “มีดฉันอยู่ไหน?!”
“อย่าวู่วามสิครับ…” เฟิงเสวียนอี้รีบปรามเยี่ยหวันหวั่น
พอเห็นสถานการณ์ อี้จือฮวาก็มีสีหน้าสับสนงุนงง อะไรกันอีกล่ะเนี่ย?!
“จะล้างแค้นหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับนาย” เฟิงเสวียนอี้นวดขมับ
“โอเค พวกนายว่ายังไง ฉันก็ว่าอย่างนั้น” อี้จือฮวาพยักหน้า “จะให้ขึ้นภูเขามีด หรือลงหม้อน้ำมัน ก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น”
“ภูเขามีดทะเลเพลิงน่ะไม่จำเป็นต้องให้นายไปบุกหรอก…” เฟิงเสวียนอี้จ้องมองอี้จือฮวา ยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยต่อไปว่า “วันพรุ่งนี้ ให้นายกลับไปหาคุณหนูอู๋โยวตัวปลอมคนนั้น แล้วบอกหล่อนว่า นายจับตัวคนมาแล้ว”
พอได้ยินคำพูดของเฟิงเสวียนอี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ผงะไปแวบหนึ่ง เดี๋ยวๆ…ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้บอกเธอไว้ ทำไมต้องมาจับตัวเองด้วยล่ะ?!
ไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่นที่งุนงง ใบหน้าของอี้จือฮวาก็เต็มไปด้วยความแปลกใจเช่นกัน
“ยอดคนย่อมมีแผนการในแบบของตัวเอง” เฟิงเสวียนอี้เอ่ยยิ้มๆ
ในคืนนี้ เมื่อเยี่ยหวันหวั่นและอี้จือฮวาได้ฟังแผนการทั้งหมดที่เฟิงเสวียนอี้วางไว้ ทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือร้องชมเชย
…….
เช้าวันรุ่งขึ้น เฟิงเสวียนอี้กับอี้จือฮวางีบหลับอยู่ในห้องทำงาน เยี่ยหวันหวั่นได้ถือโอกาสนี้จัดการสะสางงานเอกสารของพันธมิตรอู๋เว่ย แล้วคิดวางแผนตามหาจี้ซิวหร่านและคนอื่นๆ
ทางด้านโรงเรียนชื่อเยียน เนื่องจากระยะนี้ผู้อำนวยการไม่อยู่ ซึ่งไม่รู้ด้วยว่าไปลอยชายอยู่ที่ไหนแล้ว เธอเตรียมการว่าจะรอให้ผู้อำนวยการกลับมาก่อนแล้วค่อยไปส่งมอบภารกิจ จากนั้นก็เข้ารับการสะกดจิตเป็นครั้งที่สาม
“ผู้นำครับ”
ไม่นาน ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ
“เข้ามาสิ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
ผู้อาวุโสใหญ่เดินเข้ามาในห้องทำงาน เหลือบมองอี้จือฮวาที่หลับคร่อกๆ ก่อนแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่เยี่ยหวันหวั่นด้วยความฉงนอยู่บ้าง
นักฆ่าคนนี้…ทำไมถูกปล่อยตัวแล้วล่ะ แถมยังนอนหลับอยู่ในพันธมิตรอู๋เว่ยอีก
“ทำเกลือให้เป็นหนอนแล้วน่ะ” เยี่ยหวันหวั่นอธิบาย
ผู้อาวุโสใหญ่ได้ยินก็ยกนิ้วโป้งให้เยี่ยหวันหวั่นทันที “ช่างสมกับเป็นผู้นำ ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ!”
“มีเรื่องอะไรล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นวางเอกสารลง มองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่
“ผู้นำ มีคนจากตระกูลหลิงต้องการขอเข้าพบคุณครับ” ผู้อาวุโสใหญ่รายงาน
………………………………………….