ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 767 เลือกที่อยู่สร้างสำนัก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เฉินจื้อเหลียงมองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “สหายน้อยเยี่ยนถ้าหากยังเคลื่อนไหวอยู่ในอาณาเขตแถวนี้ จำเป็นต้องระวังตัวด้วย”

การที่ประมุขอาคเนย์จับกุมหวังฮุ่ย ลูกศิษย์ของประมุขทักษิณก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอมีส่วนช่วยเหลือด้วย

นอกจากนี้เขายังสังหารหลี่จิ้น ซึ่งเป็นลูกศิษย์อีกคนของประมุขทักษิณด้วยตัวเอง

ดังนั้นถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะยังไม่เคยไปเขตเพลิงทักษิณ แต่เขาก็ได้ล่วงเกินประมุขทักษิณแล้ว

เฉินจื้อเหลียงเอ่ยอย่างเชื่องช้า “เขตเพลิงทักษิณส่งคนมาพบท่านอาจารย์ที่เขาโถงทองของพวกเราแล้ว”

“แต่พวกเราพบว่า พวกเขายังได้ส่งคนมายังทะเลหวงเจียด้วย

“จากร่องรอยแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดที่มีพลังฝึกปรือสูงล้ำ ศิษย์พี่หลินกับศิษย์พี่มู่ต่างเดินทางมาที่นี่เพื่อรับมือพวกเขา”

เฉินจื้อเหลียงเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อ “แต่บริเวณดินแดนสุทธทัศน์มีสภาวะแวดล้อมซับซ้อน เพราะพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด ทำให้มีสภาวะแวดล้อมซับซ้อนเกินไป ตอนนี้จึงยังหาตัวอีกฝ่ายไม่ได้”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็พลันพยักหน้า ก่อนจะกล่าวว่า “ขอบคุณท่านเฉินด้วยที่กล่าวเตือน พวกข้าจะระวังตัว”

“ถ้าหากว่าพบร่องรอยของลูกศิษย์ของประมุขทักษิณโดยบังเอิญ จะพยายามบอกพวกท่านทันที”

เฉินจื้อเหลียงมองเขา “ท่านจะไปดินแดนสุทธทัศน์หรือ? ที่นั่นไม่ใช่แดนอันตรายทั่วไปนะ”

ความอันตรายที่อยู่ด้านใน ในตอนนี้ไม่ได้มีแค่ความอันตรายทางธรรมชาติอย่างพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดเท่านั้น

คังผิง กู้จาง เฮ่อตงเฉิง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสามคน ยอดฝีมือที่แกร่งที่สุด ซึ่งเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง ต่างก็เข้าไปด้านในพร้อมกัน

นอกจากนี้แล้ว ตรงหน้ายังมีหลัวเจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่างที่หนีไปด้วย และเป็นศัตรูกับเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกัน

บนดินแดนสุทธทัศน์ในปัจจุบัน สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว การคุมคามด้วยภัยพิบัติของมนุษย์ ยังอันตรายกว่าการภัยพิบัติจากธรรมชาตเสียอีก

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย ประสานมือให้กับเฉินจื้อเหลียงและไป๋จื่อหมิง “ความปรารถนาดีของท่านทั้งสอง ข้าขอขอบคุณ”

เฉินจื้อเหลียงกับไป๋จื่อหมิงเห็นดังนั้น ก็ทราบว่าเขาได้ตัดสินใจไว้แล้ว

‘คนหนุ่มผู้นี้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ไม่รู้ควรบอกว่าบ้าบิ่นหรือใจกล้ากันแน่’

เฉินจื้อเหลียงถอนใจคำหนึ่ง สลัดความคิด ก่อนจะมองเยี่ยนตี๋และบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกลอีกรอบ

ทุกสิ่งที่ได้เห็นเมื่อครู่ เฉินจื้อเหลียงคิดว่าตนต้องติดต่อกับหลินฮั่นหัวและมู่จวินในทันที

หลังจากสนทนากับเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกเสร็จ พวกเฉินจื้อเหลียงก็บอกลา

การมาถึงบริเวณดินแดนจิตคุณธรรมและดินแดนสุทธทัศน์ของพวกเขา หลักๆ ก็เพื่อเรื่องที่ลูกศิษย์ของประมุขทักษิณมาที่นี่

หลังจากเข้าใจถึงการต่อสู้ระหว่างราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง และกองกำลังต่อต้านต้าเสวียนที่ดินแดนสุทธทัศน์อย่างคร่าวๆ แล้ว เฉินจื้อเหลียงกับไป๋จื่อหมิงก็จากไปพร้อมกัน

เยี่ยนจ้าวเกอมองส่งทั้งสองคนจากไป จากนั้นก็หันมาพูดกับเยี่ยนตี๋ว่า “ข้าเตรียมจะไปยังดินแดนสุทธทัศน์”

เขาอธิบายสถานการณ์ใหม่บนทะเลหวงเจีย รวมถึงเรื่องที่ผาตะวันจันทรา สถานที่ตั้งของสำนักแสงสว่างเพิ่งถูกราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องทำลายเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ให้เยี่ยนตี๋ฟัง

“เสวียนมู่อ๋องกับจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจำนวนมากถูกพวกเราฆ่าทิ้งที่นี่หมดแล้ว ของวิเศษที่สืบทอดต่อกันมาของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงหอกราชาลี้ลับก็ตกมาอยู่ในมือของข้าเช่นกัน พวกคังผิงไม่ว่าจะจัดการสำนักแสงสว่างได้หรือไม่ เมื่อได้รับข่าวหลังออกมาจากพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด จะต้องเลือกแก้แค้นแน่นอน”

เยี่ยนจ้าวเกอมองบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ “ที่นี่ป้องกันอันตรายอะไรไม่ได้ พวกเราถูกกระทำมากเกินไป ดังนั้นข้าจึงคิดจะบุกบ้าง แม้จะเสี่ยงอันตรายไม่น้อย แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็น”

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ถ้าหากนำพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดมาไว้ในแผนได้ สำหรับพวกเราในตอนนี้ กลับเป็นการเพิ่มตัวช่วยที่ยอดเยี่ยม ไม่ถึงขั้นหัวเดียวกระเทียมลีบ”

เยี่ยนตี๋ขมวดคิ้ว “ข้าแม้จะไม่รู้จักพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดนี้ แต่ตามคำพูดของเจ้า ต่อให้ยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดเข้าไปก็ต้องระวังตัว เจ้าคิดจะหยิบเกาลัดในไฟ เช่นนั้นมีความมั่นใจเท่าไร?”

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “เรื่องนี้ท่านวางใจเถอะ ถึงแม้พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดจะรุนแรง แต่พวกคังผิงที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนก็เข้าไปแล้ว ด้วยพลังฝึกปรือของพวกเขา ในตอนที่ป้องกันพายุ ความจริงเป็นการสะกดอานุภาพของพายุไปด้วย ข้าไปตอนนี้ กลับปลอดภัยกว่ายามปกติมาก”

“ส่วนการคุกคามจากคนเหล่านั้น เนื่องจากพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด ข้าจึงมีที่ให้หลบเลี่ยงมากพอ”

ชายหนุ่มมองดินแดนสุทธทัศน์แวบหนึ่ง “ถ้าหากต้องการเข้าไป ข้าจะต้องแข่งกับเวลาแล้ว”

เยี่ยนตี๋ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “หลายปีมานี้เวลาเจ้าทำอะไรข้าก็วางใจมาตลอด แม้เจ้าจะเสี่ยงอันตราย แต่ก็ยังคงรู้จักแยกแยะหนักเบา”

“เจ้าเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก การมีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง ข้าสนับสนุนเต็มที่ แต่ว่าครั้งนี้เกรงว่าข้าจะไปกับเจ้าไม่ได้”

เยี่ยนตี๋ขมวดคิ้ว “ตามคำพูดเมื่อครู่ของเจ้า ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องนี้นอกจากเสวียนมู่อ๋องแล้ว ยังมียอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกอยู่อีก นอกจากนี้ยังมีมากกว่าหนึ่งคน พวกเขาหากไล่ล่ามา ข้าจำเป็นต้องเฝ้าอยู่ที่บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์”

“แม้โลกแปดพิภพจะมีท่านอาจารย์คอยดูแล แต่ก็ไม่อาจให้ท่านผู้เฒ่ารับแรงกดดันทั้งหมดได้”

การเสด็จลงไปยังโลกแปดพิภพในครั้งนี้ของเสวียนมู่อ๋อง โลกแปดพิภพได้มอบ ‘ความประหลาดใจ’ ระดับสุดยอดให้กับพวกพระองค์อย่างแท้จริง

นอกจากเยี่ยนตี๋แล้ว หยวนเจิ้งเฟิงก็กลับไปที่แปดพิภพสำเร็จแล้วเช่นกัน

สองศิษย์อาจารย์ ไม่ว่าเป็นใครต่างก็เย้ยยุทธจักร กวาดล้างศัตรู และใช้หนึ่งสู้หมู่ได้ สุดท้ายเพราะการร่วมมือกันระหว่างคนทั้งสอง จึงทำให้ยอดฝีมือในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจำนวนมากที่ลงไปในครั้งนี้ เกือบจะพินาศอยู่โลกเบื้องล่างโดยสิ้นเชิง

แต่ว่าครั้งนี้ เสวียนมู่อ๋องจะมากจะน้อยก็ทรงประมาทอยู่บ้าง ลงมืออย่างฉุกละหุก อีกทั้งคาดเดาศัตรูไม่ออก

เสวียนมู่อ๋องสวรรคต สูญเสียหอกราชาลี้ลับ ครั้่งนี้เรียกได้ว่าราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเสียหายอย่างหนัก

แต่ว่าลาตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องยังคงมีกั๋วกงทั้งสี่ที่เป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดอยู่

การปฏิบัติการที่ผาตะวันจันทราบนดินแดนจิตคุณธรรมในครั้งนี้ กำลังหลักคือพวกคังผิง ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องนอกจากมู่เสวียนอ๋องแล้ว ยอดฝีมือระดับสุดยอดคนอื่นไม่ได้มาด้วย ยังคงเฝ้าทะเลหวงเจียเอาไว้

พวกเขาเมื่อได้รับข่าวการสวรรคตของเสวียนมู่อ๋อง จะต้องก่อให้เกิดคลื่นลมขึ้นอีกแน่

“จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่ที่นี่โดยพื้นฐานแล้วถูกพวกเราสังหารจนหมดสิ้น พวกเฉินจื้อเหลียงก็ไม่น่าจะปากมาก หากจอรอข่าวจากที่นี่ส่งไปถึงหูคนอื่นในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “นอกจากนั้น เสวียนมู่อ๋องยังตายไปแล้ว บัลลังก์ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องว่างเปล่า คนที่คิดขึ้นไปนั่งเกรงว่าจะมีไม่น้อย”

ด้วยเหตุนี้เอง หากเกิดการฉีกหน้ากัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอจะมีเวลามากขึ้น

เยี่ยนตี๋กล่าวว่า “มีความเป็นไปได้นี้อยู่เช่นกัน แต่ไม่อาจฝากความหวังไว้ที่ความขัดแย้งภายในของอีกฝ่าย”

“มิผิด แต่นี่เป็นความต่างของเวลาที่สามารถใช้ประโยชน์ได้” เยี่ยนจ้าวเกอมองบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ จากนั้นก็หันไปมองที่ไกล สายตามข้ามน้ำทะเลกว้างใหญ่ หยุดอยู่บนที่อยู่เดิมของผาตะวันจันทราซึ่งถูกทำลายไปแล้ว

“สำนักตะวันซ้อนในโลกยมทะยานหยั่งรากฐานอย่างมั่นคง สร้างสำนักขึ้นมาใหม่ เขากว่างเฉิงของพวกเราก็ทำได้เช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอพลันหัวเราะขึ้นมา “แต่ถ้าอยากจะสร้างสำนักขึ้นมาใหม่ พวกเราไม่แน่ว่าจะเลือกที่นี่ก่อนชั่วคราว ยึดบ้านเก่าของสำนักแสงสว่างมาเป็นของตัวเอง”

เยี่ยนตี๋ก็หัวเราะขึ้นเช่นกัน “บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์แห่งนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย”

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “หลังจากกำจัดศัตรูที่ส่งผลคุกคามได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีก”

ผู้เป็นบิดาเอ่ย “เพื่อป้องกันเรื่องเหนือความคาดหมาย ต้องรบกวนให้ท่านอาจารย์พำนักอยู่ที่โลกแปดพิภพสักระยะ ท่านอาจารย์ความจริงก็ขาดแค่เจาะกระดาษหน้าต่างชั้นสุดท้ายเท่านั้นก็จะสำเร็จ”

เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ “ก่อนที่ข้าจะขึ้นมาในครั้งนี้ ท่านอาจารย์ได้กำชับเป็นพิเศษ ว่าให้ถ่ายทอดคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตที่ท่านผู้เฒ่าได้มาให้กับเจ้าด้วย”