มู่เฉียนซีนำกำลังคนพุ่งตรงไปที่ทะเลสาบดำอย่างรวดเร็วที่สุด

เนื่องจากมีต้นไม้ต้นนี้เติบโตออกมา น้ำจึงเริ่มทะลักเข้าไปในวังใต้ทะเลสาบดำ

อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ครั้นแล้วคนของสำนักหุ่นปีศาจจึงรีบพรวดออกมา

“ท่านราชาหุ่น รีบออกไปเถอะขอรับ!”

ในตอนนี้ ราชาหุ่นไม่อยากจะเลิกราที่จะรับมือกับชิงอิ่ง ทว่า เจียงขุย เจ้าสำนักหุ่นปีศาจกลับมาแล้ว

น้ำของทะเลสาบดำทะลักเข้าไปในวังจนแทบจะเต็มแล้ว

ราชาหุ่นกล่าวเสียงขรึมว่า “ออกไปก่อน!”

ทันทีที่พวกเขานำคนลงมือ กลับพบว่าบริเวณรอบ ๆ ได้ถูกห้อมล้อมเอาไว้แล้ว

พลังความแข็งแกร่งของแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเลย และกำลังคนก็มากกว่าตอนที่นายน้อยอวิ๋นซิวแห่งตำหนักตงจี๋นำกำลังคนมาโจมตีพวกเขาในตอนแรกเป็นสิบเท่า

นี่เป็นกองกำลังใดอีกที่ต้องการลงมือกับสำนักหุ่นปีศาจ?

นึกไม่ถึงเลยว่าจะหาที่นี่เจอได้!

มู่เฉียนซีเดินออกไป และมองไปที่ราชาหุ่นที่สวมชุดคลุมยาวสีดำผู้นั้น

“ชิงอิ่งอยู่ที่ใด?” นางกล่าวอย่างเย็นชา

ราชาหุ่นยิ้มพลางกล่าว “สาวน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้า! กองกำลังคนที่เจ้ารวบรวมมามันช่างแข็งแกร่งเสียจริง แต่พวกมนุษย์มดปลวกเหล่านี้คิดจะแย่งของกับข้า หึ เจ้าฝันไปเถอะ!”

“จะแย่งได้หรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึม

“ลงมือ! สำนักหุ่นปีศาจ อย่าให้เหลือแม้แต่ผู้เดียว”

“ขอรับ!”

เจียงขุยก็ออกคำสั่งเช่นกัน “ฆ่ามัน!”

คนของสำนักหุ่นปีศาจได้เรียกหุ่นเชิดออกมาทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น กองกำลังของฝ่ายตรงข้ามก็มีมากกว่าพวกเขาอยู่ดี

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสาวน้อยผู้นี้มีความสามารถเพียงใดถึงสามารถเรียกยอดฝีมือมากมายเช่นนี้มาเสี่ยงชีวิตเพื่อนางได้

ถึงแม้ว่าราชาหุ่นจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเอง แต่กองกำลังคนของฝ่ายตรงข้ามที่มีมากมายถึงเพียงนี้ เขารู้สึกว่ามันวุ่นวายและเสียเวลามากเกินไป

เขาเล็งเป้าหมายไปที่มู่เฉียนซี ครั้นแล้วเขาก็เคลื่อนไหวพุ่งไปที่มู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว ต้องจัดการสาวน้อยผู้นี้ก่อน

ทันใดนั้นร่างชุดขาวและชุดดำแดงก็กระโจนลงมาที่ด้านหน้าของมู่เฉียนซี ร่างสองร่างนี้ก็คือผู้อาวุโสสูงสุดแห่งตำหนักตงจี๋และเฟิงอวิ๋นซิวนั่นเอง

ราชาหุ่นตกตะลึงขึ้น “เมื่อใดกัน ตำหนักตงจี๋ของพวกเจ้าเป็นทาสรับใช้นางเมื่อใดกันแล้ว?”

เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวเสียงขรึมว่า “คราก่อนไม่ได้กำจัดเจ้าไปให้สิ้นซาก เจ้าคิดว่าตำหนักตงจี๋ของพวกข้าจะยอมรามือไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ ?”

ตูม! เฟิงอวิ๋นซิวกับผู้อาวุโสสูงสุดร่วมมือกันต่อสู้กับราชาหุ่น

เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “พวกเราจะรับมือกับราชาหุ่นนี่เอง เจ้ารีบไปหาชิงอิ่งก่อนเถอะ!”

“อืม!” นางไม่ปฏิเสธ

มู่เฉียนซีพรวดออกไป และแน่นอนว่าได้ประสบกับคนที่ต้องการจะลงมือกับนาง

“อู๋ตี้ เสี่ยวหง ออกมา!”

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! อู๋ตี้กับเสี่ยวหงได้จัดการโจมตีพวกคนที่กล้าดีมาขวางทางเจ้านายของพวกมันไปทั้งหมด

มู่เฉียนซีกระโจนลงไปข้าง ๆ ทะเลสาบดำ ชิงอิ่งอยู่ที่ใดกัน?

นางมองไปที่ต้นไม้บนทะเลสาบดำที่ปรากฏออกมาอย่างแปลกประหลาดต้นหนึ่ง ที่ต้นไม้นั้นมีพลังแห่งชีวิตอันคุ้นเคยอยู่ ชิงอิ่งมีความเกี่ยวข้องกับต้นไม้ต้นนี้หรือไม่?

ชั่วพริบตาเดียว จู่ ๆ ต้นไม้ที่ปรากฏอยู่นั้นก็ได้อันตรธานหายไป

ลำแสงสีเขียวอ่อนแสงหนึ่งได้พุ่งออกมาจากในทะเลสาบดำแห่งนี้ และจู่ ๆ ร่างร่างหนึ่งก็ได้เดินออกมาจากลำแสงนี้

เขาเดินอยู่บนผืนทะเลสาบดำอย่างแผ่วเบาราวกับเดินบนที่ราบก็มิปาน

เส้นผมสีดำขลับพัดพลิ้วตามสายลม ทั่วทั้งร่างถูกประดับไปด้วยแสงสีเขียวอ่อน ในทุก ๆ ย่างก้าวสามารถเป็นภาพที่งดงามอย่างน่าหลงใหลยิ่งนัก

ทุกคนที่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของชิงอิ่งก็ล้วนแต่ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!

บุรุษผู้นี้เป็นใคร? เป็นศัตรูหรือว่าเป็น…

บุรุษผู้หนึ่ง เหตุใดถึงได้งดงามปานนี้ได้ ต่อให้เป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งอย่างนายน้อยอวิ๋นซิว เมื่อเทียบกับบุรุษผู้นี้แล้วก็เหมือนยังด้อยกว่าเล็กน้อย

ร่างของชิงอิ่งเคลื่อนไหวเข้ามาปรากฏด้านหลังราชาหุ่นอย่างรวดเร็วราวกับภูตผีปีศาจก็มิปาน!

พรวด! ทันทีที่มือข้างหนึ่งของเขาขยับ ก็ได้แทงข้างหลังร่างของราชาหุ่นทะลุจนปรากฏรูขนาดใหญ่ขึ้น

ร่างของราชาหุ่นนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากจนไม่สามารถทำลายได้ เฟิงอวิ๋นซิวกับผู้อาวุโสสูงสุดร่วมมือกันโจมตีด้วยกระบวนท่าสังหารหลายครั้งต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้

ทว่า เมื่อชิงอิ่งลงมือ กลับทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสได้

ราชาหุ่นเป็นหุ่นเชิด ต่อให้ถูกแทงทะลุแต่ก็ยังคงไม่รู้สึกเจ็บปวด เขาหันหลังกลับมา และถลึงตาจ้องหน้าชิงอิ่ง “เจ้า…เจ้า…”

ฉึก! ชิงอิ่งลงมืออีกครั้ง และบิดหัวราชาหุ่นลงมาด้วยความโหดเหี้ยม

ตูม! ชิงอิ่งทิ้งหัวราชาหุ่นลงไปในทะเลสาบดำ

ร่างของราชาหุ่นที่สูญเสียศีรษะไปก็ล้มลงไปกับพื้น

คนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้เข้า ต่างก็สูดลมหายใจเย็นเข้าปอดด้วยความตกใจ บุรุษชุดเขียวผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก

ความแข็งแกร่งของชิงอิ่งดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างวิปริต แต่ลางสังหรณ์ในใจของมู่เฉียนซีก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

มู่เฉียนซีกระโจนไปปรากฏตัวตรงหน้าชิงอิ่ง

สายตาของชิงอิ่งมองมู่เฉียนซีราวกับเหม่อลอย มันเป็นดวงตาที่เงียบสงัดมาก

ถึงแม้ว่าปกติแล้วดวงตาของชิงอิ่งจะไม่ได้มีอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์มากนัก แต่ตอนนี้เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว มันยังแตกต่างกันมาก

“ชิงอิ่ง”

ได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ ของมู่เฉียนซีแล้ว ชิงอิ่งก็ยังคงไม่ขานรับ!

“ควรกลับมาได้แล้ว!”

“เจ้าควรกลับมาอยู่ข้างกายข้าได้แล้ว”

“……”

เสียงที่ไร้ซึ่งคลื่นใด ๆ กำลังดังก้องอยู่ในหัวของชิงอิ่ง

คล้ายกับว่ามีความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คล้ายกับว่าเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว คล้ายกับว่าเขาไม่ใช่ชิงอิ่งแล้ว

กลับไป!

เขาต้องกลับไป!

นี่เป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลย แต่เขากลับรู้สึกว่าในร่างกายมีบางอย่างที่กำลังเต้นผิดปกติอยู่

มีบางอย่างที่เรียกว่าความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้!

ชิงอิ่งไม่แม้แต่จะมองดูตัวเอง ร่างของเขาก็พรวดออกไปทันที

รูม่านตาของมู่เฉียนซีหดลง ตกลงราชาหุ่นนั่นทำอะไรชิงอิ่ง ชิงอิ่งถึงได้ทำท่าทางเหมือนไม่รู้จักนางเช่นนี้

“ชิงอิ่ง!” แน่นอนว่ามู่เฉียนซีไม่ยอมให้ชิงอิ่งหนีไปเช่นนี้ นางจึงตามเขาไปอย่างรวดเร็วที่สุด

“เฉียนซี!” เฟิงอวิ๋นซิวก็ร้อนใจขึ้น

หุ่นเชิดนั่นทำเหมือนว่าไม่รู้จักเจ้านายแล้ว เฉียนซีตามไปเช่นนี้จะเป็นอันตรายหรือไม่

“ให้ตายเถอะ! เจ้าท่อนไม้นั่นเป็นบ้าอะไรไปแล้ว” จวินโม่ซีบ่นพึมพำ

คนอื่นก็ตกตะลึงขึ้นเช่นกัน คนชุดเขียวนั่นเป็นคนที่ท่านผู้นำตระกูลมู่จะช่วย

เมื่อเจ้าหมอนี่ลงมือก็สามารถฆ่าทำลายผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักหุ่นปีศาจได้ แข็งแกร่งปานนี้ยังต้องการให้พวกเขาช่วยอีกเหรอ

มู่อีออกคำสั่ง “รีบจบการต่อสู้ นอกจากเจ้าสำนักหุ่นปีศาจแล้ว คนอื่นฆ่าให้หมด”

เดิมทีท่านผู้นำตระกูลต้องการจะไว้ชีวิตราชาหุ่นไว้ แต่ราชาหุ่นถูกชิงอิ่งฆ่าไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องเก็บเอาไว้คนหนึ่งเพื่อสอบถาม

ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับท่านชิงอิ่งแล้ว เมื่อก่อนดูเหมือนว่าท่านผู้นำตระกูลจะเป็นทุกอย่างสำหรับเขา แต่ตอนนี้กลับจากไปดื้อ ๆ แม้แต่หน้าของท่านผู้นำตระกูลก็ไม่มอง

ท่านผู้นำตระกูลได้ทุ่มเททรัพยากรและพลังจิตไปมากเพื่อรวบรวมกองกำลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาช่วยเขา!

มู่เฉียนซีที่มีพลังวิญญาณเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดจะตามชิงอิ่งทันได้อย่างไรกันล่ะ

และก็เป็นจริงดังนั้น นางไล่ตามไม่ทัน!

มู่เฉียนซีจึงจำเป็นต้องขอความสนับสนุน “อาถิง!”

อาถิงทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูกก่อนจะกล่าวว่า “หญิงอัปลักษณ์ นี่เจ้าจะให้ข้าช่วยตามหาผู้ชายอย่างนั้นเหรอ นี่เจ้าเห็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพอย่างข้าเป็นสิ่งใดกันห้ะ!”

“อาถิง เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหลนะ นั่นชิงอิ่งนะ!” มู่เฉียนซีร้อนใจมากจริง ๆ

หากชิงอิ่งอยู่ในสถานการณ์ปกติ เขาจะอยู่หรือจะไปก็ให้เขาเป็นคนเลือกเอง แม้พวกเขาทั้งสองจะมีพันธสัญญาต่อกันแต่นางก็ไม่ได้กักขังอิสระเขา

ทว่า สถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ปกติ นางไม่อาจปล่อยให้เขาจากไปเช่นนี้ได้ อีกอย่างนางก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่ด้วย ราวกับว่าการที่ชิงอิ่งจะจากไปในครั้งนี้นางจะไม่มีวันได้เจอหน้าเขาอีก