ตอนที่ 1116 ไม่อาจล่วงเกินได้

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ในตอนนี้เอง เสียงของมู่เฉียนซีก็ดังขึ้น

“ข้าไม่ใช่คนที่มีจิตใจเมตตามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สำนักหุ่นปีศาจของพวกเจ้ากล้าลงมือแตะต้องคนของข้า ข้าต้องการให้พวกเจ้าชดใช้ พวกเจ้ามีปัญหาอย่างนั้นเหรอ?”

ทุกคนได้เห็นร่างอันเพรียวบางในชุดม่วงนั้นกระโจนลงมา พร้อมกับเห็นแสงเย็นที่วาบผ่านดวงตาคู่นั้นของนาง

มู่อีและพวกอุทานขึ้น “ท่านผู้นำตระกูล!”

“ท่านผู้นำตระกูลมู่!”

เจียงขุยหัวเราะ ฮ่า ๆ ขึ้น ก่อนจะกล่าวว่า “คน! นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเห็นหุ่นเชิดนั่นเป็นคน มันน่าขำเกินไปแล้วกระมัง ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเครื่องจักรในการเข่นฆ่าสังหารสามารถเรียกว่าคนได้หรือ?”

ตุบ! ร่างในชุดม่วงกระโดดออกมา มู่เฉียนซีถีบเจียงขุยจนกระเด็นลอยออกไป

ร่างของเจียงขุยกระเด็นลอยไปกระแทกกับต้นไม้ต้นหนึ่ง เสียง พรวด! ดังขึ้นหนึ่งครา และเลือดสีแดงสดก็ถูกกระอักออกมา

“เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว สำหรับข้า ชิงอิ่งยังมีความเป็นคนมากกว่าคนอย่างเจ้าเสียอีก”

“จัดการทุกคนให้หมด นอกจากชีวิตของตาเฒ่านี่ ส่วนคนอื่นจัดการอย่าให้เหลือ”

หากมู่เฉียนซีตัดสินใจลงไปแล้ว นางไม่มีวันเปลี่ยนใจไว้ชีวิตคนเหล่านี้แน่นอน

เจียงขุยทำได้เพียงแค่จ้องมองสำนักหุ่นปีศาจของตนเองต้องกลายเป็นประวัติศาสตร์อย่างที่ไม่สามารถขวางได้

เจียงขุยกล่าว “เจ้าไว้ชีวิตข้าด้วยเหตุใด?”

“ตกลงเจ้าราชาหุ่นนั่นทำสิ่งใดกับชิงอิ่ง?” มู่เฉียนซีกล่าวถามอย่างเย็นชา

เจียงขุยหัวเราะขึ้น “ฮ่า ๆ ๆ! ท่านราชาหุ่นคงจะเล่นหุ่นเชิดของเจ้าจนพังแล้วสินะ สมควรโดนแล้ว สมควรโดนแล้ว!”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาหลายเข็มของมู่เฉียนซีพุ่งออกไปแทงเข้าตรงขมับของเขา

ไม่นานนัก หลอดเลือดในร่างกายของเจียงขุยทั้งหมดก็แตก ทำให้ร่างของเขาอ้วนขึ้น

อ๊า! เหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นทั่วทั้งร่างเขา

เส้นเลือดในร่างกายของเขาขาดและก็กลับมาสมานกันอีกครั้ง ในตอนนี้ดูเหมือนเขากำลังจ้องมองดูหลอดเลือดของตัวเองแตกสลายก็มิปาน

“จะ เจ้า นี่เจ้าจะเอายังไง?” เจียงขุยกล่าวอย่างกระหืดกระหอบ

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “จะเอายังไงอย่างนั้นเหรอ ง่ายมาก เพียงแค่เจ้าตอบคำถามข้า!”

“ข้าไม่รู้จริง ๆ หลังจากที่ท่านราชาหุ่นจับเจ้านั่นมาก็ไม่ให้พวกข้าได้เจอเลย ข้าก็ไม่รู้ว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้น”

เจียงขุยพยายามดิ้นรนอย่างทุกข์ทรมาน และมู่เฉียนซีก็สามารถมองออกจากสีหน้าท่าทางการแสดงออกของเขาว่าเขากำลังพูดความจริง

“ตอนนี้ เจ้าจะให้ข้าหลุดพ้นจากความทรมานได้หรือยัง?”

“ในเมื่อเจ้าไม่สามารถตอบคำถามข้าได้ เจ้าก็ควรจะทำเรื่องอื่นทดแทน!”

“เจ้ายังต้องการสิ่งใดอีก?” เจียงขุยกล่าวถาม

“สำนักหุ่นปีศาจของเจ้าคุ้นเคยกับหุ่นเชิดมากไม่ใช่เหรอ ไม่เพียงแต่จะสร้างหุ่นเชิดขึ้นมาได้เท่านั้น แถมยังสามารถควบคุมหุ่นเชิดได้ด้วย รวมไปถึงยังมีของพิเศษที่สามารถควบคุมหุ่นเชิดได้อีกด้วย เอาของเหล่านั้นของสำนักหุ่นปีศาจออกมาให้ข้าเถอะ!”

ราชาหุ่นได้ตายไปแล้ว เจียงขุยก็ไม่รู้เรื่องอันใดสักอย่าง นางจึงทำได้เพียงเอาของเหล่านั้นของสำนักหุ่นปีศาจมาทดลองเพื่อหาคำตอบ

เจียงขุยตกตะลึงขึ้น “นี่เจ้า นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมีจิตใจโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ของล้ำค่าของสำนักหุ่นปีศาจของพวกข้า เป็นรากฐานของสำนักหุ่นปีศาจ ต่อให้ข้าต้องตายก็ไม่มีวันที่จะมอบมันให้กับคนนอกเด็ดขาด”

มู่เฉียนซียิ้มอย่างอ่อนโยนพลางกล่าว “วางใจเถอะ! ข้าไม่ให้เจ้าตายหรอกนะ”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

มู่เฉียนซีลงมือมอบเข็มยาของนางให้แก่เขา และนี่แน่นอนว่ายังไม่พอ นางยังป้อนยาพิษให้เขาอีกไม่น้อย

เจียงขุยในตอนนี้รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น แต่มู่เฉียนซีได้แย่งชิงอำนาจในการฆ่าตัวตายของเขามาแล้ว เขาทำได้เพียงแค่อดทนต่อทุกอย่าง

ในตอนนี้เขารู้สึกอิจฉาราชาหุ่นยิ่งนักที่ถูกฆ่าตายไปเช่นนั้น เพราะนั่นเป็นสภาพที่มีความสุขกว่าเขาในตอนนี้มาก

มู่อีเข้ามารายงานว่า “ท่านผู้นำตระกูลขอรับ พวกเราได้ฆ่าคนของสำนักปีศาจไม่เหลือแม้แต่ผู้เดียวแล้ว หุ่นเชิดที่ถูกทำลายก็ไม่นับว่าหาเจอทั้งหมด ที่สำคัญศีรษะของราชาหุ่นที่ถูกท่านชิงอิ่งโยนลงไปในทะเลสาบดำตอนนี้ยังหาไม่เจอขอรับ”

“ศีรษะของราชาหุ่นยังหาไม่พบอย่างนั้นเหรอ ส่งคนลงไปดำน้ำหา”

ชีวิตของหุ่นเชิดกับมนุษย์นั้นแตกต่างกัน นางไม่อยากจะทิ้งสิ่งใดที่จะทำให้เกิดปัญหาในภายภาคหน้าได้ไว้ ไม่อยากให้ราชาหุ่นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ครั้งก่อนปล่อยให้คนของสำนักหุ่นปีศาจรอดไปได้จึงทำให้ชิงอิ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ครั้งนี้จะต้องถอนรากถอนโคนให้สิ้น

มู่อีพยักหน้าพลางกล่าว “ขอรับ!”

“ข้าบอกแล้ว ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง! แต่เจ้าต้องเอายาแก้พิษให้ข้า ยาแก้พิษ…” เจียงขุยตะโกนกล่าวเสียงแหลม

ส่วนคนอื่น ๆ เมื่อได้เห็นท่าทางอันน่าสังเวชนี้ของเจียงขุยแล้ว ต่างก็หวาดกลัวสั่นสะท้านขึ้น อุบายการใช้พิษของท่านผู้นำตระกูลมู่ผู้นี้สามารถทำให้คนตายทั้งเป็นได้จริง ๆ

สาวน้อยผู้หนึ่ง แต่มีความสามารถอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหมอปีศาจผู้มีความสามารถยากที่จะหยั่งรู้ได้ผู้นั้นเลย

ต่อไป ไม่ว่าจะล่วงเกินใครก็ย่อมได้แต่ไม่มีทางล่วงเกินหอหมอปีศาจแน่นอน พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าจุดจบของเจ้าสำนักหุ่นปีศาจจะเป็นเช่นนี้!

มู่เฉียนซีทำให้เจียงขุยผ่อนคลายลงครู่หนึ่ง และนางก็กล่าวถามว่า “ตกลงแล้วมรดกตกทอดของสำนักหุ่นปีศาจอยู่ที่ใดกันแน่?”

เจียงขุยกล่าว “อยู่ในห้องลับที่สำนักเดิม เจ้าตามข้ามา!”

มู่เฉียนซีกล่าวกับมู่อีและพวกว่า “แบ่งกำลังคนออกไปตามหาหัวของราชาหุ่นเชิด ส่วนที่เหลือไปกับข้า”

ในตอนนี้ ณ ด้านนอกเทือกเขาเมฆามืด

ปรมาจารย์จางได้หลอมยาลูกกลอนออกมานับไม่ถ้วน เนื่องจากได้เสียพลังจิตไปมาก สีหน้าจึงได้ซีดเผือดลงมาก

ไป๋อู๋ห่ายกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ปรมาจารย์จาง ยังไม่มีวิธีรับมือเลยหรือ?”

สงครามในครั้งนี้ หากเขาสามารถนำคนไปกำจัดเฟิงอวิ๋นซิวได้ก็นับว่าไม่เลวเลย

อีกอย่างฝีมือหุ่นเชิดของสำนักหุ่นปีศาจก็ไม่ธรรมดาเลย หากสามารถคว้ามันมาได้ก็เท่ากับเขาเหมือนเสือที่ติดปีกก็มิปาน

เหงื่อร้อนผุดพรายขึ้นทั่วทั้งหน้าผากของปรมาจารย์จาง เขากล่าว “ยังไม่มีขอรับ!”

“ของเล่นที่สาวน้อยผู้นั้นทำออกมา นึกไม่ถึงเลยว่าจะแก้ไขไม่ได้”

ปรมาจารย์จางกล่าว “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าเด็กนั่นทำออกมาเองแน่ ๆ สามารถปรุงยาพิษออกมาหลอมรวมกับอากาศพิษเพื่อทำให้พิษมีพลังมากขึ้นได้เช่นนี้ คาดว่าจะมีเพียงแค่หมอปีศาจเท่านั้นที่สามารถทำได้”

เมื่อนึกถึงเจ้าเด็กที่เย่อหยิ่งไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตาผู้นั้นแล้ว ปรมาจารย์จางก็ยิ่งทวีความโกรธแค้นมากขึ้น

แต่ก็ไร้ซึ่งวิธี ฝีมืออ่อนด้อยกว่าผู้อื่น!

ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ ทำได้แค่รออยู่ข้างนอกแล้วล่ะ ฝีมือหุ่นเชิดของสำนักหุ่นปีศาจนั่นข้าไม่ยอมทิ้งไปแน่นอน หวังว่าเฟิงอวิ๋นซิวจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ!”

มู่เฉียนซีมาถึงที่ตั้งเดิมของสำนักหุ่นปีศาจแล้ว ในตอนนี้ที่แห่งนี้ได้ราบกลายเป็นหน้ากลองแล้ว

มู่เฉียนซีเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น ครั้งก่อนตอนที่พวกเขาล่าถอยไป ที่แห่งนี้ยังไม่น่าสังเวชถึงเพียงนี้เลย!

หรือว่าจะเป็นฝีมือของจื่อโยวกับซิงเฉิน

เจียงขุยได้เดินไปที่ที่หนึ่ง ในตอนนี้ที่นั่นถูกทำลายกลายเป็นเพียงกองหินกองหนึ่ง

“ใต้นี้มีของที่เจ้าต้องการ เจ้าเอาก้อนหินเหล่านี้ออกให้หมดเถอะ! ข้าไม่มีแรง!”

มู่เฉียนซีออกคำสั่งให้พวกเขาจัดการที่ตรงนี้ให้สะอาดเกลี้ยง

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

จากนั้นเจียงขุยก็ได้เปิดกลไกขึ้น และห้องลับห้องหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้ามู่เฉียนซี

เจียงขุยนำทางด้านหน้า ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังจะตามไปนั้นก็ถูกมู่อีขวางเอาไว้

“ท่านผู้นำตระกูล ระวัง!”

เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “ในนั้นเกรงว่าจะมีค่ายกลอยู่”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ารู้ แต่ข้าก็ยังจะไป”

เจียงขุยเดินนำทางอยู่ด้านหน้า และนี่เป็นเส้นทางการเดินที่ยาวมาก

เมื่อทางเดินข้างหน้ากว้างขึ้นเรื่อย ๆ แสงเย็นแสงหนึ่งก็วาบผ่านดวงตาของเจียงขุย “ข้ารู้ดีว่าอย่างไรเสียวันนี้ข้าก็ต้องตาย แต่หากสามารถลากพวกเจ้าไปตายด้วยได้ ข้าก็ยอม ไม่มีทางให้เจ้าทำสำเร็จแน่นอน เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าเจ้าจะได้ของล้ำค่าของสำนักหุ่นปีศาจไปง่ายดายถึงเพียงนั้น”