ภาคที่ 7 ศึกสุดท้าย บทที่ 19 แมวกับหนู

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 19 แมวกับหนู

เลือดหยดหนึ่งหยดลงบนหินพลังแล้วหยดลงบนพื้น

มันค่อย ๆ ยืดขยายกลายเป็นแผ่นบาง ๆ และปรากฏดวงตาสองข้างขึ้น เป็นภาพที่แปลกประหลาดยิ่งนัก

ตาคู่นั้นเหลือมองไปรอบ ๆ ตรวจดูรอบข้าง คืบคลานไปยังมุมลับตา จากนั้นก็เริ่มแปรเปลี่ยนรูปร่าง

เลือดขยายใหญ่กลายเป็นเงาร่างหนึ่งยืนขึ้นมา ใช้เวลาไม่เท่าไหร่ก็ขึ้นรูปร่างเป็นซูเฉิน

ร่างแยกโลหิต!

เมื่อเทียบกับแต่ก่อน ร่างแยกโลหิตของเขาพัฒนาขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้ลูกน้องสามารถใช้แทนได้ สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อีกด้วย

ร่างแยกตัวน้อยของซูเฉินนี้จะดูถูกไม่ได้เลย

ในเมื่อร่างแยกนี้ตัวเล็กกว่า มันจึงซ่อนเร้นได้ดีกว่า ใช้พลังให้คงรูปน้อยกว่า ทำให้ซูเฉินมีสมาธิกับการต่อสู้ได้มาก แต่ร่างแยกใหม่นี้กลับไร้ความสามารถในการต่อสู้ เก่งกาจด้านการเอาตัวรอดและซ่อนเร้นเสียมากกว่า

น่าเสียดายที่พอมันลืมตามาก็เห็นเท้ายักษ์กำลังกระทืบลงมาพอดี

ร่างแยกของซูเฉินทั้งหมดได้แต่ร้องลั่นก่อนจะถูกเหยียบ

“เสียงอะไรน่ะ?” เผ่าช่างฝีมือที่อยู่ใกล้ ๆ คนหนึ่งเหลือบมองไปมา แต่ไม่พบสิ่งใดจึงจากไป

หลังจากเผ่าช่างฝีมือไปแล้ว ใต้เท้าก็เผยให้เห็นร่างแบนติดอยู่กับพื้น มันสีแดงแจ๋ รูปร่างคล้ายมนุษย์

ไม่กี่อึดใจต่อจากนั้น ร่างที่ถูกเหยียบแบนก็มีแขนงอกออกมา คว้าไปซ้ายขวา จับได้ศีรษะตนเอง จากนั้นก็ลอกตนเองออกจากพื้นเหมือนมันเป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง

แล้วมันก็สูดลมหายใจเข้าลึกจนร่างพองออก

“โชคไม่ดีเลย” ร่างแยกพึมพำกับตนเองแล้วเกาศีรษะ

ตอนนี้ร่างแยกของซูเฉินได้โอกาสสำรวจโดยรอบอย่างสงบแล้ว มันจึงรีบมองหาจุดศูนย์กลางของค่ายกลในทันที

แต่เพิ่งจะก้าวไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงบางอย่างกระทบกันดังขึ้นเหนือหัว

ปักษากำลังเทหินพลังต้นกำเนิดไปในค่ายกลด้านบนเพิ่มขึ้นอีก

โชคร้ายสำหรับร่างแยก มันดันยืนอยู่ตรงจุดที่ปักษาเทหินลงมาพอดี

“บ้าเอ๊ย!”

ร่างแยกของซูเฉินร้องออกมาได้เท่านั้นก่อนที่จะถูกหินพลังต้นกำเนิดทับจนมิด

แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีช่องว่างระหว่างหินให้ไม่ถูกทับจนแบน

อึดใจต่อมา เส้นสีแดงเลือดก็บิดตนเองออกมาจากกองหินพลัง

ครั้งนี้ร่างแยกเปลี่ยนรูปร่างให้กลายเป็นเส้นยาว

หลังจากหลุดออกมาจากกองหินพลังต้นกำเนิดได้แล้ว ร่างแยกจึงเดินย่องเข้าไปในค่ายกลต่อ ราวกับหนูที่แอบซ่อนเข้ามา

แต่สุดท้ายก็เจอศัตรูเข้าจนได้

สิ่งมีชีวิตคล้ายเสือปรากฏขึ้นตรงหน้า ใช้นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขาเขม็งราวกับเจอของเล่นชิ้นใหม่

แมว!

ทำไมถึงมีแมวมาอยู่ที่นี่ได้? ขนาดยุงสักตัวยังเข้ามาที่นี่ได้ยากเลย

ร่างแยกของซูเฉินขนหัวลุก

เจ้าแมวใช้กรงเล็บปัดซูเฉินเล่น

ร่างแยกจึงทำหน้าตาน่ากลัวแลบลิ้นออกมา

น่าเสียดายที่ไม่อาจไล่เจ้าแมวไปได้ อย่างไรมันก็นับเป็นปีศาจ มีพลังอำนาจอยู่บ้าง

ร่างแยกของซูเฉินตกใจเป็นยิ่งนัก แยกร่างออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนหัว ส่วนกลางตัว และส่วนขาด้านล่าง พวกมันพากันวิ่งไปคนละทิศคนละทาง

เจ้าแมวเห็นดังนั้นจึงเลือกไล่ตามส่วนหัวไป

สองขางอกออกมาจากร่างแยกที่แยกออกเป็นส่วน ๆ ดูน่าประหลาด เจ้าแมวปีศาจไล่ตามไปติด ๆ แต่ส่วนหัวที่มีขางอกออกมากลับกะพริบแล้วก็หายไป

มันพรางตัวนั่นเอง

น่าเสียดายที่การพรางตัวนี้ใช้พลังต้นกำเนิดสูง ร่างแยกของซูเฉินแยกร่างออกเป็น 3 ส่วน ดังนั้นจึงมีพลังที่สามารถคงร่างไว้ได้ลดลงอีก

แมวปีศาจยังติดตามไม่ลดละ แม้ว่า ‘ของเล่น’ จะหายไปแล้ว แต่กลับมองหารอบ ๆ ต่ออย่างนิ่งสงบ

ร่างแยกส่วนหัวของซูเฉินหลบอยู่ในมุมหนึ่ง ทันใดนั้นจมูกเจ้าแมวก็ขยับ ก่อนมันจะกระโจนร่างเข้าหาส่วนหัว อ้าปากกัดมันเข้าไปในคราวเดียว

เวร! เลือดมีกลิ่นแรงเป็นพิเศษ เจ้าแมวไม่มีทางพลาดหรอก! ร่างแยกของซูเฉินสบถด่า

ร่างแยกส่วนหัวจึงถูกกินไปเช่นนั้น

หายไปตลอดกาลแล้ว

หลังจากแมวปีศาจกินส่วนหัวของร่างแยกโลหิตไป มันก็ตัวสั่นเทา และสายตาพลันคมชัด เพราะร่างแยกของเขาเป็นอาหารชั้นดีของเจ้าแมวทีเดียว

เป็นความรู้สึกดีจริง ๆ!

ส่วนที่เหลือกลับมารวมร่างกัน ก่อนจะวิ่งไปเกินครึ่งห้อง มีศีรษะงอกขึ้นมาใหม่ ทว่ามีขนาดเล็กกว่าแต่ก่อน

“เวรเอ๊ย โชคร้ายจริง” ร่างแยกของซูเฉินงึมงำ เจ้าแมวหันกลับมาวิ่งไล่เขาอีกครั้งแล้ว

ร่างแยกของซูเฉินตกใจสุดขีด รีบสับเท้าวิ่งทันใด

เจ้าแมวอาจจำกลิ่นร่างแยกโลหิตได้หลังจากกินส่วนหัวไปแล้ว ดังนั้นจึงไล่ตามอย่างไม่ลดละ

ได้ลิ้มลองคราวหนึ่งแล้ว มันย่อมไม่ปล่อยให้หนีไปได้

สถานการณ์แมวไล่จับหนูยังคงดำเนินต่อจนทั้งสองวิ่งมาถึงแก่นค่ายกล

เมื่อร่างแยกของซูเฉินเห็นเครื่องกลขนาดใหญ่กำลังส่งเสียงก็พลันตื่นเต้น “แกนพลังงานแห่งซาร์ค! ในที่สุดก็ได้เห็นกับตาเสียที!”

แกนพลังงานแห่งซาร์คที่สมบูรณ์มีความซับซ้อนกว่าในภาพพิมพ์เขียวที่เขาชิงมามากนัก

ซับซ้อนมากเสียจนในเครื่องหนึ่งมีค่ายกลต้นกำเนิดขนาดเล็กรวมอยู่มากถึง 1,346 ค่ายทีเดียว

แกนพลังงานแห่งซาร์ค… ดูแล้วก็คือหม้อต้มยาที่คอยป้อนพลังทั้งหมดทั้งหมดให้เมืองล่องนภา หม้อต้มยาด้านหนึ่งเป็นรูปเปิด มีหินพลังต้นกำเนิดถูกเทเข้าไปตลอด หินพลังต้นกำเนิดด้านในกำลังถูกเปลี่ยนเป็นพลังบริสุทธิ์ อีกทั้งยังมีโซ่ขนาดใหญ่ที่เชื่อมศูนย์กลางของหม้อต้มยากับทะเลพลังต้นกำเนิดด้วย

“เป็นเช่นนี้นี่เอง” ร่างแยกของซูเฉินเห็นแล้วจึงเข้าใจทันที

แกนพลังงานแห่งซาร์คดึงพลังจากทะเลพลังต้นกำเนิด แต่การเชื่อมต่อดูบางกว่าที่ปักษาหมายจะเผยให้รู้ ในความเป็นจริงแล้ว พลังส่วนมากได้มาจากหินพลังต้นกำเนิดต่างหาก ขณะที่อีกส่วนมาจากสมอทะเลลึก

อย่างไรการเชื่อมเมืองล่องนภาเข้ากับทะเลพลังต้นกำเนิดก็ต้องใช้เวลามากกว่าที่เห็น ก่อนสมอทะเลลึกจะจมลงส่วนลึกของทะเลพลังต้นกำเนิด เมืองล่องนภาจำต้องใช้หินพลังเพื่อเสริมพลังต้นกำเนิดให้เมืองไปเช่นนี้

หรือก็คือทำไปเพื่อขู่ให้กลัวเท่านั้น!

แต่ขู่ใครกัน?

ขู่ผู้สังเกตการณ์อย่างไรเล่า!

ปักษาพยายามปิดบังเมืองล่องนภาให้ดูมีลับลมคมในมากที่สุด

น่าเสียดายที่สุดท้ายซูเฉินก็ยัง…

ซูเฉินคิดยังไม่ทันจบ ก็พบว่าแมวปีศาจกำลังกระโจนเข้ามาหาร่างแยกอีกแล้ว

ซวยแล้ว!

ซูเฉินร้องอยู่ในใจ ร่างแยกรีบกระโดดหลบ พร้อมกับเร้นกายไปในเวลาเดียวกัน

แก่นพลังเช่นนี้มักมีเจ้าหน้าที่ทางกลไกคอยดูแลมากกว่าจะมีทหารคอยควบคุม อีกทั้งพลังงานที่แวดล้อมเขตนี้ยังวุ่นวายเพราะการทำงานของแกนพลังงานแห่งซาร์ค ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถใช้ค่ายกลเปิดเผยในเขตนี้ได้ ดังนั้นไม่มีใครรู้เรื่องร่างแยกของซูเฉินเลย

หรือก็คือเจ้าแมวเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงตัวเดียวที่สัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของร่างแยกของซูเฉินได้

ร่างแยกของซูเฉินดีดตัวไปด้านหน้าอย่างบ้าคลั่ง แมวปีศาจไล่ตามไปติด ๆ

เผ่าช่างฝีมือเห็นเจ้าแมวกระโดดไปตามพื้นก็ไม่แปลกใจ เพราะเห็นจนชินเสียแล้ว

ความเร็วของแมวปีศาจยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ระยะห่างลดลงอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่มีเผ่าช่างฝีมือคิดหยุดมันสักคน ร่างแยกของซูเฉินกัดฟันเปลี่ยนทิศทาง ตรงไปยังแกนพลังงานแห่งซาร์ค

เจ้าแมวตามไปทันใด

เป็นตอนนั้นทุกคนถึงได้แตกตื่น

ร่างแยกของซูเฉินเคลื่อนตัวผ่านคันโยกไปอย่างคล่องแคล่ว เจ้าแมวพยายามติดตาม แต่ผ่านไปไม่ได้ ร่างกระแทกเข้ากับคันโยกแทน

การชนครั้งนี้โยกคันโยกให้ไปอยู่ระดับสูงขึ้น

แกนพลังงานแห่งซาร์คส่งเสียงครืดคราดทันใด

“เกิดอะไรขึ้น? ใครไปเปิดตัวสูบแก๊สเข้า?” เผ่าช่างฝีมือผู้หนึ่งร้องเสียงตกใจ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เสียหินพลังที่เพิ่งเทลงไปเป็นจำนวนมาก

ที่สำคัญคือการที่พลังต้นกำเนิดขาดช่วงจะส่งผลต่อการต่อสู้ด้านนอกโดยตรงด้วย

ในสนามต่อสู้ เกราะเมืองล่องนภาพลันหายไปชั่วขณะหนึ่ง

แม้จะเป็นแค่ครู่เดียว สัตว์อสูรนับหมื่นตัวก็ฉวยจังหวะนี้บุกเข้าโจมตีเมือง ปะทะเข้ากับหทารปักษาด้านในตรง ๆ

“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ปักษาทั้งหลายร้องขึ้นพร้อมกัน

เผ่าช่างฝีมือผู้หนึ่งรีบตอบ พร้อมกับซ่อมคันโยกไปด้วย “เป็นไอ้แมวนั่น!”

“จับมันไว้!”

เผ่าช่างฝีมือสองคนจึงพุ่งออกไป

แต่แมวปีศาจยังวิ่งไล่ร่างแยกของซูเฉินอยู่

ร่างแยกของซูเฉินกระโดดผ่านหม้อต้มยา ลงมาใกล้กับแผงควบคุมอีกที่หนึ่ง

เขาไม่รู้ว่าพวกมันเอาไว้ใช้ทำอะไร แต่ในเมื่อไม่รู้ ลองดูหน่อยก็แล้วกัน

แมวปีศาจย่อมกระโดดตามมาที่แผงควบคุมเช่นกัน

เผ่าช่างฝีมือร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเจ้าแมวกระโดดไปยังแผงควบคุมนั่น

ตุบ!

ร่างแมวปีศาจกระโดดลงไปยังปุ่มสามปุ่ม

สมอส่งเสียงครวญครางเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว ก่อนจะเริ่มเคลื่อนกลับในทันใด

จังหวะนั้นก็เกิดไอน้ำสีขาวขนาดใหญ่พ่นออกมาจากแกนพลังงานแห่งซาร์ค เหมือนว่ามันกำลังจะหยุดทำงาน

“ไม่นะ เสี่ยวชิง! ดูสิว่าทำอะไรลงไป!” ผู้บัญชาการปักษาผู้หนึ่งได้ยินเสียงเอะอะจึงรุดเข้ามา เห็นสิ่งที่เจ้าแมวทำแล้วก็ร้องเสียงหลงออกมา

เขาเป็นคนพาเจ้าแมวเข้ามาที่นี่เอง

สัตว์เลี้ยงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในแก่นพลังภายในเมืองได้ แต่ในเมื่อเขาเป็นหัวหน้าที่ดูแลแก่นพลัง จึงไม่แปลกที่มีอำนาจพิเศษอยู่

เสี่ยวชิงหรือเจ้าแมวทำตัวดี ไม่เคยวิ่งอาละวาดเช่นนี้มาก่อน

แต่วันนี้เจ้าแมวกลับบ้าคลั่งขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล

หลังจากได้ลิ้มรสเลือดซูเฉินแล้ว แมวปีศาจก็ไร้สติ คิดแต่เพียงหาทางกินร่างแยกของซูเฉินเท่านั้น ลืมกฎที่ต้องทำตามไปเสียสนิท มันยังคงไล่ตามร่างแยกอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าเจ้าของจะร้องเรียกอย่างไรก็ไม่ฟัง

เจ้าแมวตะกุยผ่านคันโยกและปุ่มกดทุกประเภท ก่อให้เกิดความวุ่นวายใหญ่หลวง ก่อนที่จะสามารถเข้าใกล้ร่างแยกของซูเฉินได้

ซูเฉินผิดหวังไม่น้อยที่ร่างแยกไม่สามารถหลบกรงเล็บของเจ้าแมวพ้น

ตุ้บ!

แมวปีศาจกระโดดเป็นครั้งสุดท้าย ใช้อุ้งมือกดร่างแยกของซูเฉินเอาไว้

แต่ในตอนที่กำลังจะกลืนร่างแยกของซูเฉินนั้น…

พรึบ!

ร่างเจ้าแมวลุกก็เป็นไฟขึ้นมา

“เมี้ยว!” เจ้าแมวร้องได้เพียงเท่านั้นก่อนจะกระเด็นไป ตายคาที่ทันที

ผู้ดูแลปักษาเดินเข้ามา คว้าคอมันขึ้น ดุมันไปก็โอดครวญไปด้วย “เจ้าทำอะไรลงไป! ครั้งนี้เจ้าก่อเรื่องเสียหายใหญ่หลวงแล้ว!”

ความเศร้าโศกเสียใจทำให้เขาไม่ทันเห็นว่าในอุ้งมือของเจ้าแมวที่ขดแน่นพลันคลายออกมา

ร่างแยกของซูเฉินแหกกรงเล็บไร้ชีวิตของแมวปีศาจออกมาได้แล้ว

เขาสัมผัสได้ว่าร่างแยกใช้พลังงานไปเกือบหมด วิชาพรางตัวเริ่มจางหายแล้ว

โชคดีที่มีแมวตายอยู่ข้าง ๆ

ร่างแยกเดินเข้าไปหาแผลบนร่างมันแล้วก็เปลี่ยนร่างกลับไปเป็นหยดเลือดดังเดิม

เลือดสดผสมผสานเข้ากับเลือดสด

ไม่อาจมีใครมองออก

แต่เกินคาดที่ผู้ดูแลปักษากลับหิ้วเจ้าแมวขึ้น “ได้เวลาแล้ว”

เขาโยนร่างมันเข้าแกนพลังงานแห่งซาร์ค มันร่วงไปยังจุดที่ไฟกำลังโหมพอดี

เวรแล้ว!

ซูเฉินสบถออกมาอีกครั้ง

เขาเพิ่งรอดพ้นเงื้อมมือแมวปีศาจมาได้ ตอนนี้ต้องมาตายในหม้อต้มยาอีกหรือ?

ร่างแยกของซูเฉินพยายามสลัดตัวให้หลุดจากแมวปีศาจสุดกำลัง

ตูม!

ศพเจ้าแมวถูกโยนเข้าไปในหม้อต้มยา

ไม่มีใครสังเกตเลยว่าในจังหวะนั้น เลือดหยดหนึ่งพลันหยดออกจากร่างเจ้าแมว แหมะลงบนขอบหม้อพอดี และถึงจะเห็นก็คงไม่มีใครสนใจ

เลือดหยดนั้นนอนนิ่งอยู่บนแกนพลังงานแห่งซาร์คเหมือนเป็นจุดด่างน้อย ๆ แสงกะพริบจากไฟของหม้อต้มยาตกกระทบจาง ๆ