ตอนที่ 1142 ภรรยานายน้อย

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

หัวหน้าเผ่ามังกรไม้ตกตะลึงกับความคิดอันกล้าหาญของมู่เฉียนซี

“แม่นางมู่ เจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้นะ! เผ่ามังกรอัคคีเป็นมังกรที่มีอารมณ์หุนหันพลันแล่น แต่ละคนเป็นคนที่ชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง จะรับมือกับพวกเขาเกรงว่าจะไม่สามารถบังคับพวกเขาได้” เขารีบกล่าว

“ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปหานายน้อยผู้นั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ร่างของมู่เฉียนซีกระพริบไปยังทิศทางของการต่อสู้นั้น

ทางด้านนั้นก็ต่อสู้กันอย่างไร้ท่าทีจะสิ้นสุด

มู่เฉียนซีได้ยินเสียงคำรามอันโกรธเกรี้ยวว่า “ข้ามาหาผู้ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเพื่อประลองฝีมือ พวกตาเฒ่าแก่ ๆ อย่างพวกเจ้าถอยไปซะ ข้าเพิ่งจะโตเป็นผู้ใหญ่ไม่นานนะ!”

“มังกรในเผ่ามังกรไม้ของพวกเจ้าล้วนแต่เป็นไก่อ่อนทั้งนั้นเหรอ?”

“……”

เหล่ามังกรไม้ล้วนแต่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวถามว่า “เผ่ามังกรอัคคีมักจะมาหาเรื่องพวกเจ้าอยู่เสมอเลยเหรอ?”

มังกรไม้ที่ถูกมู่เฉียนซีจับไว้เพื่อสอบถามก็เริ่มคายความขมขื่นนั้นออกมา เขากล่าว “ท่านมู่ ท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว”

“เผ่ามังกรดินมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง และการป้องกันของเผ่ามังกรวารีก็ยับยั้งพวกมันเอาไว้ได้ ดังนั้นพวกเผ่ามังกรอัคคีจึงมักจะมาท้าประลองที่เผ่ามังกรไม้ของพวกเรา อย่างไรก็ตาม เผ่ามังกรพลังธาตุอย่างพวกเราหากรับมือกับมังกรอื่นก็เป็นการรังแกอยู่ดี!”

“เมื่อก่อนยังมีเผ่ามังกรทองแบ่งปันภาระนี้กับพวกเรา แต่นับตั้งแต่เกาะราชามังกรถูกปิดไป เผ่ามังกรอัคคีก็มาหาแต่พวกเรา”

“ในใจของพวกเราเจ็บปวดยิ่งนัก! พวกลูกหลานเผ่ามังกรอัคคีเหล่านี้นับวันก็ยิ่งกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว”

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ ข้าจะไปเจอเจ้าหมอนี่ดู” ร่างสีม่วงกะพริบขึ้น และมู่เฉียนซีก็พุ่งออกไปทันที

นางได้เห็นมังกรขนาดใหญ่ที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวไฟตรงหน้าตัวนี้ และนางก็กล่าวว่า “ข้าก็เพิ่งจะเป็นผู้ใหญ่เมื่อไม่นานมานี้พอดีเลย เจ้าอยากจะประลองฝีมือกับข้าหรือไม่ล่ะ!”

นายน้อยมังกรอัคคีกล่าว “ข้าไม่อยากต่อสู้กับเพศแม่หรอกนะ เจ้าหลีกไปเสียเถอะ”

แสงอันตรายแสงหนึ่งแวบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี “จะต่อสู้หรือไม่นั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า”

ทันใดนั้นเอง มู่เฉียนซีก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศ และโจมตีลงมาด้วยทักษะวิญญาณ!

“ทักษะโยวหลัว!”

นายน้อยมังกรอัคคีตกตะลึงขึ้น และรู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่พัดกระโชกมากระทบร่างของเขา

ปัง! ร่างของเขาที่อยู่กลางอากาศในตอนนี้ได้ตกลงมาอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็กระแทกลงบนพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้น!

จากนั้นเปลวไฟทั่วร่างกายของเขาก็ยิ่งร้อนแผดเผาขึ้นเรื่อย ๆ “มังกรตัวเมีย ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปจริง ๆ”

ภายในดวงตาสีดำขลับคู่นั้นของมู่เฉียนซีได้มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นแล้ว “มังกรตัวเมีย แม่ของเจ้าก็เป็นมังกรตัวเมียด้วยไม่ใช่เหรอ!”

ร่างในชุดม่วงพุ่งเข้าหานายน้อยมังกรอัคคีอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด และมู่เฉียนซีก็ยังคงลงมือต่อ!

“ทักษะเทียนซวน!”

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

ร่างสองร่าง ร่างหนึ่งสีแดงและร่างหนึ่งสีม่วงได้ปะทะกันกลางอากาศ ตัวหนึ่งเป็นมังกรขนาดใหญ่ และอีกผู้หนึ่งก็เป็นมนุษย์ตัวเล็ก ๆ

ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งน่าหวาดกลัว “เจ้า นี่เจ้าไม่ได้กลายร่างเป็นมังกร นึกไม่ถึงเลยว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เจ้า…”

นายน้อยมังกรอัคคีเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ และระดับการฝึกฝนของมนุษย์ก็เป็นเพียงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับต่ำเท่านั้น ถึงแม้ว่ากำลังในการต่อสู้ของเผ่ามังกรจะสูงจนมนุษย์ไม่อาจจะเทียบได้ แต่ความสามารถในการต่อสู้แบบข้ามระดับได้ของมู่เฉียนซีนั้นก็ไม่แพ้ผู้ใดเช่นกัน

มู่เฉียนซีกล่าว “มังกรอัคคีน้อย ข้าไม่อยากจะเล่นกับเจ้าแล้ว”

“ทักษะโยวหลัว!”

ด้วยการโจมตีของทักษะโยวหลัวนั้นจึงทำให้ร่างของนายน้อยมังกรอัคคีร่วงลงมากระแทกพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่อีกครั้ง!

นายน้อยมังกรอัคคีผู้ที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บนี้ ร่างของเขาก็กลายเป็นร่างมนุษย์แล้ว ชายหนุ่มผมสีแดงรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา เขามองไปที่มู่เฉียนซีด้วยแววตาที่ร้อนแรงและกล่าวว่า “เจ้าเก่งกาจยิ่งนัก! เก่งกาจเกินไปแล้ว”

“ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าต้องการให้เจ้ามาเป็นภรรยาของข้า!”

เมื่อนายน้อยมังกรอัคคีกล่าวจบ อากาศทั่วทั้งเกาะว่านเซินฉงก็ลดลงกว่าสิบองศา

มังกรอัคคีน้อยผู้นี้ก็กล้าสนใจในตัวคู่หมั้นขององค์ชายจิ่วเยี่ย จุดจบของเจ้าหมอนี่คงจะมาถึงแล้วน่ะสิ

และเป็นเช่นนั้นจริง ๆ องค์ชายจิ่วเยี่ยลงมือแล้ว

เสียง ปัง! ดังสนั่นขึ้น นายน้อยมังกรอัคคีได้กลายเป็นอุกกาบาตสีแดงที่ลุกเป็นไฟอยู่กลางท้องฟ้าแล้ว

อ๊า! เสียงกรีดร้องดังลั่นขึ้น

มู่เฉียนซีเดินไปข้างจิ่วเยี่ยและกล่าวถามว่า “คงจะยังไม่ตายกระมัง! เจ้าเด็กผู้นี้ยังมีประโยชน์อยู่”

จิ่วเยี่ยตอบ “ยังไม่ตาย!”

เขาก้มศีรษะลงเข้าใกล้ริมฝีปากของมู่เฉียนซี ดวงตาสีฟ้าเข้มคู่นั้นจ้องไปที่มู่เฉียนซี และกล่าวว่า “ซีเป็นของข้า”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ใช่!”

ดวงตาของจิ่วเยี่ยพลันอันตรายขึ้น มู่เฉียนซีจึงกล่าวต่อว่า “ต้องพูดว่าเจ้าเป็นของข้า หวงจิ่วเยี่ยเป็นของข้าถึงจะถูก”

จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีแน่นและกล่าวว่า “อืม! ข้าเป็นของเจ้า”

“อือ…”

และริมฝีปากที่เย้ายวนนั้นก็ถูกประกบแล้ว

จากนั้นก็ยากที่จะหยุด

เนื่องจากนายน้อยมังกรอัคคีผู้กวนประสาทนั้นต้องการจะเอามู่เฉียนซีไปเป็นภรรยา องค์ชายจิ่วเยี่ยจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น และเขาไม่เพียงแต่จัดการนายน้อยมังกรอัคคีผู้นั้นอย่างน่าอนาถเท่านั้น

ผู้ที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างเขาก็ต้องลงมือกับมู่เฉียนซีเช่นกัน และเขาก็ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างของมู่เฉียนซี

พวกเขาต้องเป็นของกันและกันเท่านั้น และหากมีผู้ใดที่มีตาแต่หามีแววไม่ เขาก็จะทำให้คนผู้นั้นไม่ได้อยู่อย่างมีความสุขแน่

และมู่เฉียนซีก็จดจำการกระทำของนายน้อยมังกรอัคคีผู้นั้นเอาไว้แล้ว ต่อไปหากเจ้าหมอนั่นกล้ากล่าววาจาซี้ซั้วอีก นางก็ไม่รังเกียจที่จะให้เขาหุบปากไปหลายวัน

นายน้อยมังกรอัคคีที่มีบาดแผลอย่างน่าอนาถก็ได้คลานกลับมา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างอนาถเช่นนั้น ทว่าเขาไม่ได้กลับมาแก้แค้นแต่อย่างใด แต่กลับตะโกนว่า “ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์! ศิษย์ต้องการคารวะท่านเป็นอาจารย์!”

“ได้โปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วย!”

มู่เฉียนซีที่อายุน้อยเช่นนี้สามารถเอาชนะเขาได้โดยที่นางไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเขามากนัก ดังนั้นเขาจึงมีความปรารถนาที่จะเอาชนะให้ได้

แต่จิ่วเยี่ยนั้นไม่เหมือนกัน เขาเหมือนดั่งขุนเขาที่สูงที่สุด ไม่อาจข้ามได้ คนเช่นนี้ทำได้เพียงเคารพและขอคำแนะนำเท่านั้น

“ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์…”

น้ำเสียงอันเย็นชาดังขึ้น “ไสหัวไปให้พ้น!”

ปัง! พลังงานอันแข็งแกร่งได้กระแทกร่างของมังกรอัคคีน้อยจนกระเด็นลอยออกไป

หัวหน้าเผ่ามังกรไม้ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เขากล่าวกับนายน้อยมังกรอัคคีว่า “มังกรอัคคีน้อย แม่นางมู่กับท่านจิ่วเยี่ยมีเรื่องที่จะให้เจ้าช่วยในภายหลัง เจ้ารีบรักษาตัวเถอะ!”

“โอ้ ๆ ๆ! ข้าจะรีบรักษาตัวเดี๋ยวนี้!” นายน้อยมังกรอัคคีเพิ่งจะตระหนักได้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ

“อีกอย่าง แม่นางมู่กับท่านจิ่วเยี่ยก็เป็นคู่รักกัน เจ้าอย่าพูดอะไรที่ทำให้พวกเขาไม่ชอบใจอีก มิเช่นนั้นแล้ว แม้แต่ท่านพ่อของเจ้าก็ปกป้องเจ้าไม่ได้”

“โอ้ว!” นายน้อยมังกรอัคคีพยักหน้าพลางกล่าว

แม้ว่าเผ่ามังกรอัคคีจะอารมณ์ร้อนและหุนหันพลันแล่น แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่

อาการบาดเจ็บของนายน้อยมังกรอัคคีฟื้นตัวเร็วมาก เมื่อมู่เฉียนซีมาพบเขาอีกครั้ง นางก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าจะไปที่เผ่ามังกรอัคคี เจ้าช่วยนำทางให้ข้าได้หรือไม่?”

นายน้อยมังกรอัคคีกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “อาจารย์หญิงจะไปเผ่ามังกรอัคคีของข้าอย่างนั้นเหรอ! ได้สิ ๆ! เยี่ยมไปเลย ข้าจะต้อนรับพวกท่านเป็นอย่างดีแน่นอน”

เนื่องจากนายน้อยมังกรอัคคีนั้นเลื่อมใสศรัทธาจิ่วเยี่ยมาก ดังนั้นเขาจึงเชื่อฟังพวกเขา!

มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยกล่าวพร้อมกันว่า “หุบปาก!”

นายน้อยมังกรอัคคีมองดูพวกเขาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าไม่มีศิษย์ที่อ่อนแอเช่นนี้!”

นายน้อยมังกรอัคคีกล่าวว่า “ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน จนกว่าเพียงพอที่จะเป็นศิษย์ของท่านได้”

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เข้าไปในเผ่ามังกรอัคคีได้อย่างราบรื่นภายใต้การนำของนายน้อยมังกรอัคคี

ค่ายกลเหล่านั้นของเกาะมังกรอัคคีใช้ไม่ได้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้านายน้อยของพวกเขา แต่การที่เขาพาคนนอกเข้ามานั้น ทำให้หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง “ตอนนี้เป็นช่วงที่สถานการณ์วิกฤต นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะพาคนนอกเข้ามาเช่นนี้ เจ้า เจ้าจะทำให้ข้าโกรธจนตายอย่างนั้นเหรอ?”