“สามีในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว!” โจวจื่อซินตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายก่อนที่จะหัวเราะและพูดว่า “ขอบเขตราชัน ไม่เลว!”
“สามีพวกเราจะทำอะไรกันต่องั้นเหรอ? ท่านมีวิธีพาเราออกไปจากที่นี่ใช่ไหม?” โจวจื่อซินเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าคาดหวัง
“ต่อไปจะทำอะไรงั้นเหรอ? แน่นอนว่าอันดับแรกข้าจะทำลายม่านพลังที่ปกคลุมที่นี่ทั้งหมด!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะเสียงดัง
อันที่จริงหากเขาอยู่ที่นี่นานพอ เขาสามารถบ่มเพาะไปจนถึงสำเร็จเต๋าได้เลย แต่มันใช้เวลานานเกินไป ซึ่งเขามีเวลาไม่มากพอที่จะทำแบบนั้น
ต้องไม่ลืมว่ากำหนดเส้นตายของในการจัดการกับแดนกระดูกขาวนั้นเหลือน้อยมากแล้ว ซึ่งถ้าเขาไปแก้ไขไม่ทันเวลาหายนะใหญ่จะบังเกิดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดการบ่มเพาะเมื่อก้าวขึ้นไปถึงขอบเขตราชัน
“ถ้างั้นท่านจะทำยังไงเพื่อทำลายม่านพลังนี้?” โจวจื่อซินถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ตอนนี้ข้าก้าวขึ้นมาอยู่ในขอบเขตราชันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นข้าจึงสามารถใช้เจตจำนงของตัวเองได้อย่างอิสระ และนี่ทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อนอย่างเทียบกันไม่ได้! เอาล่ะเจ้าอยู่เฉย ๆ ให้ข้าเตรียมตัวทำลายม่านพลังนี้ก่อน!”
“อืม!” โจวจื่อซินพยักหน้า
หลิงตู้ฉิงทำการปรับสมดุลระดับการบ่มเพาะใหม่ของเขาอยู่สักพัก จากนั้นเขาหยิบง้าวเทวะพินาศขึ้นมาและตะโกนว่า “เอาล่ะ ข้าจะปลดปล่อยให้พวกเจ้ากลับไปยังที่ที่พวกเจ้าจากมา ทำลายเขตแดน!”
เมื่อพูดจบที่ปลายง้าวเทวะพินาศก็มีแสงส่องประกายออกมาทันที
ดวงแสงที่กำลังส่องประกายอยู่นี้ถูกเกื้อหนุนโดยเจตจำนงของหลิงตู้ฉิง ซึ่งทำให้มันมีอำนาจพอที่จะส่องทะลุทะลวงม่านพลังที่ปกคลุมดินแดนแห่งมลทินนี้เอาไว้
แค่ชั่วพริบตา ม่านพลังที่ปกคลุมดินแดนแห่งมลทินก็เริ่มถูกหลอมละลายจนมีรูโหว่มากมายปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกันนั้นพลังแห่งอารมณ์และความปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ด้านในก็เริ่มพลั่งพรูออกไปตามรูโหว่ และในท้ายที่สุดม่านพลังที่ปกคลุมอยุ่ทั้งหมดก็พังทลายลง ส่งผลให้พลังแห่งอารมณ์และความปรารถนาทั้งหมดกระจายกลับไปยังร่างของเจ้าของเดิม
ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญที่ถูกพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางลบพลังแห่งอารมณ์และความปรารถนาออกไปก่อนหน้า เมื่อได้อารมณ์และความปรารถนาของตัวเองกลับมาเขาก็คืนสติในทันที และหันไปมองยังทิศทางที่หลิงตู้ฉิงอยู่พร้อมกับพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า “นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ทำไมโลกเบื้องล่างถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ดำรงอยู่?”
เมื่อพึมพำเสร็จ เขาก็ไม่กล้าที่รั้งอยู่ที่นี่อีกต่อไปและรีบบินหนีไปในทันที
แต่น่าเสียดายที่ภูมิภาคอี้ซางทั้งหมดนั้นคือเขตแดนของพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซาง ดังนั้นเขาจะหนีรอดไปได้ยังไง ในทันทีที่เขาเริ่มหนีพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางก็ใช้พลังจิตควบคุมร่างของเขาอีกรอบ
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้ายักษ์ของพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้งพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเดือดดาล และตวาดขึ้นว่า “นี่เจ้าต้องการสู้ตายกับข้าให้ได้ใช่ไหม?”
ในตอนนี้ม่านพลังที่ผนึกดินแดนแห่งมลทินได้ถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว และพลังแห่งอารมณ์และความปรารถนาก็กลับไปสู่เจ้าของเดิมจนหมด ซึ่งมันนับได้ว่าการเตรียมการของเขาที่เตรียมเอาไว้มันแทบจะพังทลายลงเกือบหมด
ตอนนี้ฟางเส้นสุดท้ายที่พระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางเหลืออยู่นั้นก็คืออย่างน้อย ๆ ตอนนี้เขาก็ยังควบคุมภูมิภาคอี้ซางได้อยู่ ซึ่งเขายังมีโอกาสดึงพลังแห่งอารมณ์และความปรารถนาออกจากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ได้เหมือนเดิม แค่เขาจำเป็นต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เท่านั้นเอง
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ออกไปจากอี้ซางของข้าเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นต่อให้ข้าจะต้องเสียอะไรไปก็ตามข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!” พระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางตวาดขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาล “อย่าลืมว่าข้ายังมีร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญเอาไว้ใช้งาน หากเจ้าทำลายแผนข้าจนหมดสิ้นจริง ๆ ข้าจะใช้พลังชีวิตของมันเพื่อตามล่าเจ้าไปจนสุดขอบโลก!”
หลิงตู้ฉิงแสดงสีหน้าเหนื่อยใจและตอบกลับว่า “ภารกิจของข้าจะยังไม่เสร็จจนกว่าข้าจะปลดปล่อยภูมิภาคอี้ซางได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ข้าต้องหยุดแผนพิสูจน์เต๋าของเจ้าด้วย เอาล่ะตอนนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเกิดใหม่ไปอยู่ในร่างของไอ้คนสำนักปีศาจสวรรค์ซะ ไม่เช่นนั้นข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสได้ทำอีกแล้ว”
ดวงตาของพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางจ้องเขม็งไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยแววตาเย็นชาอยู่สักพักก่อนที่จะพูดว่า “ก็ได้ งั้นข้าจะสนองความต้องการของเจ้าให้เอง ข้าจะตบแมลงวันอย่างเจ้าให้ตายคามือภายในพริบตา!”
เขารู้ดีว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้ล้อเล่นกับเขา และเขาเหลือเพียงทางเลือกเดียวก็คือการเกิดใหม่ในร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญเพื่อใช้ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าฆ่าหลิงตู้ฉิงให้ตาย
แต่การเกิดใหม่จนมีร่างเนื้อนั้นจริง ๆ แล้วเขาไม่อยากทำมันเลย เพราะมันจะส่งผลให้แผนพิสูจน์เต๋าของเขาพังทลายทันที แต่น่าเสียดายที่ถ้าหากเขาไม่ทำ หลิงตู้ฉิงก็จะทำลายเขตแดนของเขาที่ควบคุมภูมิภาคอี้ซางอยู่ดี ซึ่งท้ายที่สุดแผนของเขาก็พังทลายเหมือนเดิม ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดก็คือการฆ่าหลิงตู้ฉิงเพื่อชำระแค้น
เมื่อคิดได้เช่นนี้ พระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางจึงใช้พลังของเจตจำนงของเขาที่สถิตอยู่ในภูมิภาคอี้ซางทั้งหมดถาโถมเข้าไปในร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญทันทีเพื่อลบจิตสำนึกและเจตจำนงของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญออกไป
แน่นอนว่าเมื่อเผชิญกับเจตจำนงอันแข็งแกร่งของพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซาง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญไม่มีโอกาสที่จะต้านทานได้เลย อันที่จริงแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาก็ไม่อาจทานทนได้เช่นกัน จะมีก็แค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพเท่านั้นที่ยึดมั่นในเต๋าของตัวเองจริง ๆ ถึงจะสามารถต้านทานได้
ในเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น ทั้งเจตจำนง ทั้งจิตสำนึก ทั้งความทรงจำทั้งหลายที่เป็นของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญถูกลบหายไปจนหมด และท้ายที่สุดพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางก็ยึดร่างได้อย่างสมบูรณ์จนเขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญ
พระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางพ่นลมหายใจด้วยความเดือดดาล จากนั้นเขาดึงพลังแห่งพุทธที่อยู่ในภูมิภาคอี้ซางทั้งหมดให้หลั่งไหลเข้ามาในร่างใหม่ของเขาเพื่อเปลี่ยนเต๋าที่มีในร่างที่เขาเพิ่งยึดมา ซึ่งเป็นเต๋ามารให้กลายเป็นเต๋าแห่งพุทธที่เขาบ่มเพาะมาตลอด
จากนั้นเขาพุ่งตัวไปหาหลิงตู้ฉิงด้วยความเร็วสูงสุดด้วยความโมโหสุดขีด
ในเวลาเดียวกัน เมื่อหลิงตู้ฉิงสัมผัสได้ถึงเจตจำนงของพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางที่สถิตอยู่ในภูมิภาคอี้ซางจางหายไป เขาก็หัวเราะชอบใจและพูดกับโจวจื่อซินว่า “ซิน ใช้โอกาสนี้ที่เขาเพิ่งเกิดใหม่ขโมยพลังแห่งพุทธทั้งหมดที่กำลังผันผวนอยู่ตอนนี้มาเก็บไว้ในดอกบัวเพลิงพิพากษาของเจ้าซะ!”
“แบบนั้นมันจะดีเหรอ?” โจวจื่อซินถามกลับด้วยสีหน้าประหม่า “สามี ทำไมพวกเราไม่รีบหนีไปกันล่ะ?”
ตอนนี้นางเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นว่าพระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางกำลังโกรธสุดขีด
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “พวกเราจะหนีแน่นอน แต่ในระหว่างหนีเจ้าต้องดูดซับพลังแห่งพุทธไปพลาง ๆ ด้วย! เอาล่ะเร็วเข้ามันกำลังตรงดิ่งมาแล้ว!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงใช้วิชาพเนจรไร้จำกัดพาตัวโจวจื่อซินหนีทันที ซึ่งแค่เพียง 1 อึดใจพวกเขาหนีไปได้ไกลถึง 8 อาณาเขต
ในเวลาเดียวกัน พระโพธิสัตว์แห่งภูมิภาคอี้ซางเมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงหนีหายไปแล้วเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่เพียงแต่หลิงตู้ฉิงจะทำลายแผนการของเขา แต่ตอนนี้หลิงตู้ฉิงกลับกำลังขโมยพลังของเขาอีก!
อย่างไรก็ตาม พลังแห่งพุทธที่โจวจื่อซินกำลังดูดซับอยู่มันเป็นของเขาเอง ดังนั้นเขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าหลิงตู้ฉิงหนีไปทางไหน จากนั้นเขาจึงไล่ล่าต่ออย่างไม่ลดละ
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้หยุดนิ่งเช่นกัน เขายังคงใช้พเนจรไร้จำกัดหนีไปเรื่อย ๆ พลางให้โจวจื่อซินขโมยพลังแห่งพุทธไปตลอดทางจนท้ายที่สุดเมื่อเขาเห็นว่าดอกบัวเพลิงพิพากษามีแสงเปล่งประกายไปทั่วทั้งดอกแล้วเขาจึงหยุดลง
“ซิน เจ้าจงเก็บดอกบัวเพลิงพิพากษาไปก่อน ต่อจากนี้ข้าจำเป็นต้องบังคับให้เจ้านั่นเข้าสู่กระบวนการขึ้นไปสู่โลกเบื้องบน ไม่เช่นนั้นพวกเราคงต้องหนีเขาตลอดไปไม่มีวันได้พัก!” หลิงตู้ฉิงพูดกับโจวจื่อซินด้วยสีหน้าจริงจัง