บทที่ 2135 ต้องเป็นของฉันแน่นอน
“ปู่รอง!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท
ผู้อาวุโสคนนี้หน้าตาคล้ายคลึงกับคุณตาอยู่ราวๆ สามสี่ส่วน เป็นน้องชายแท้ๆ ของคุณตา
ผู้อาวุโสผมขาวหน้าตาเปล่งปลั่งสี่หน้าเคร่งขรึมที่นั่งอยู่เอ่ยเสียงขรึมว่า “ปีนั้นพี่ใหญ่ดึงดันจะพาหลานไป หลายปีมานี้หลานใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกก็ไม่ง่ายเลย ยังไงก็ตาม กลับมาก็ดีแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะแบกรับภาระหน้าที่นี้แล้ว…”
ปีนั้น อดีตหัวหน้าตระกูลเนี่ยคนก่อน หรือก็คือคุณตาของเยี่ยหวันหวั่นเพราะไม่พอใจที่ลูกสาวแต่งงานกับทายาทตระกูลหลิงที่เป็นศัตรูคู่แค้น เรื่องการออกจากตระกูลเนี่ย เป็นข้อห้ามของตระกูลเนี่ย ดังนั้นชายชราจึงทำได้เพียงแสดงสีหน้าหม่นหมอง ไม่ได้พูดอะไรมากนัก แค่กล่าวให้กำลังใจเยี่ยหวันหวั่นไม่กี่ประโยค
“คุณหนูรองกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว เชื่อว่าภายใต้การดูแลของคุณหนูรอง ตระกูลเนี่ยจะต้องรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ แน่” ระดับสูงคนหนึ่งรีบเอ่ยเสริมขึ้นมา
การประชุมภายในของตระกูลจบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อหัวหน้าตระกูลเนี่ยจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อีกสองวันให้หลังก็ออกจากอวิ๋นเฉิงไปพร้อมกับนายหญิงเนี่ย มุ่งหน้าไปยังจิ่นเฉิง
หลังจากหัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิงออกไปแล้ว สบโอกาสในระหว่างที่พ่อแม่ไม่อยู่ เยี่ยหวันหวั่นจึงได้พาถังถังไปส่งให้ทางซือเยี่ยหาน ให้ซือเยี่ยหานพาถังถังไปเที่ยวเล่นกันตามลำพังสักสองสามวัน เป็นวิธีบ่มเพาะสายสัมพันธ์ที่ว่องไวที่สุด
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็เริ่มเรียนรู้การดูแลจัดการตระกูลเนี่ยจากปู่รองและผู้อาวุโสอีกหลายคนอย่างขะมักเขม้น
โชคดีที่ตอนอยู่จีนได้เรียนรู้จากซือเยี่ยหานไว้นานแล้ว จึงมีประสบการณ์ในเรื่องพวกนี้ ยังนับว่าจัดการได้ราบรื่นดี
ทางด้านเนี่ยหลิงหลง เธอเตรียมคิดหาแผนการต่อไปไว้แล้ว จะสืบสาวไปหาอำนาจที่บงการอยู่เบื้องหลังเธอ
….
ตกดึก ณ บังกะโลส่วนตัวหลังหนึ่งในแถบชานเมือง
ชายชราชุดดำคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องลับ มองเนี่ยหลิงหลงที่นั่งเดินหมากอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าอึมครึม “ทางตระกูลเนี่ยจัดการไปถึงไหนแล้ว”
สีหน้าของเนี่ยหลิงหลงมุ่งมั่นหนักแน่น “ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของฉันแล้ว”
ชายชราชุดดำร้องเฮอะทีหนึ่ง “ฉันไม่คิดว่าแบบนั้นนะ เนี่ยอู๋โยวตัวจริงกลับสู่ตระกูลเนี่ยแล้ว อีกทั้งได้รับความไว้วางใจ ถึงขั้นที่ได้รักษาการณ์แทนหัวหน้าตระกูลแล้ว”
เมื่อเนี่ยหลิงหลงได้ยิน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “คุณประเมินเธอไว้สูงเกินไปแล้ว ก็แค่สวะชิ้นหนึ่ง เท่าที่ฉันรู้ ตอนนี้ พลังยุทธ์ของเนี่ยอู๋โยวตกต่ำลงมาก ขนาดที่ว่าไม่ถึงสามหรือสี่ส่วนของในอดีตเลยด้วยซ้ำ”
ชายชราชุดดำฟังแล้วมีสีหน้าตะลึงงัน “จริงเหรอ”
ในรัฐอิสระสั่งห้ามการใช้ยุทโธปกรณ์ เคารพในทักษะพลังยุทธ์ พลังยุทธ์เป็นตัวแทนของทุกสิ่ง
อย่างเช่นตัวตนระดับสวะหมาคนนั้น เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง แต่เทียบได้กับเครื่องจักรสังหารชั้นหนึ่งเลย สามารถทำลายล้างยอดฝีมือของพวกเขาได้กว่าครึ่ง ไม่มีใครหน้าไหนกล้าไปหาเรื่องตัวตนระดับนั้น
ถ้าวรยุทธ์ของเนี่ยอู๋โยวตกต่ำลงจริงๆ เกรงว่าคงไม่มีคุณสมบัติที่จะรับช่วงต่อตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเนี่ยแล้ว
รัฐอิสระให้ความเคารพศาสตร์วรยุทธ์ ตระกูลเนี่ยที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ตระกูลเนี่ยเป็นตระกูลที่มีพลังยุทธ์แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาตระกูลทั้งหมด ปีนั้นหัวหน้าตระกูลเฒ่าของตระกูลเนี่ยเคยเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของรัฐอิสระ สำหรับผู้ที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลแล้วระดับพลังยุทธ์นั้นมีความสำคัญมาก
เนี่ยหลิงหลงวางหมากดำตัวหนึ่งลงไปอย่างแผ่วเบา กินหมากขาวทั้งหมดได้แล้ว จึงค่อยๆ หยักมุมปากขึ้นพลางเอ่ยว่า “คุณวางใจเถอะ ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเนี่ย ต้องเป็นของฉันแน่นอน”
ในเมื่อตัวปลอมคนนั้นตายไปแล้ว งั้นก็ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นแล้ว เธอจะครอบครองตำแหน่งนี้เอง!
“จะดีที่สุดถ้าเป็นไปตามนี้”
….
หลายวันต่อมา เยี่ยหวันหวั่นติดตามผู้อาวุโสและระดับสูงของตระกูลไปตรวจสอบกิจการแห่งหนึ่งของตระกูลเนี่ย
เนี่ยหลิงหลงก็นั่งรถไปด้วย รับหน้าที่เป็นเลขานุการ รายงานเรื่องหน้าที่การงานต่อเยี่ยหวันหวั่น หลายวันมานี้เรียกได้ว่าค่อนข้างสงบเสงี่ยม เลยทำให้เยี่ยหวันหวั่นจับพิรุธอะไรไม่ได้เลยสักนิด
—————————————————————-
บทที่ 2136 ไอดีเลเวลตันที่ถูกรีใหม่
สถานที่อยู่ค่อนข้างไกล รถที่ทั้งคณะโดยสารมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็จอดลงหน้าอาคารของโรงงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
เมื่อถึงที่แล้ว คนขับรถก็วิ่งเหยาะๆ ลงจากรถมาเปิดประตูให้เยี่ยหวันหวั่น
จากนั้น ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นก้าวลงจากรถ คนขับรถคนนั้นก็จู่โจมทันที โจมตีเยี่ยหวันหวั่นอย่างว่องไวปานภูตผี
กระแสฝ่ามืออันรุนแรงนั้นราวกับคมมีด กรีดเข้าที่ต้นคอของเยี่ยหวันหวั่น ชั่วพริบตาเดียวบนต้นคอของเธอก็ปรากฏรอยเลือดเส้นหนึ่งแล้ว
อีกเพียงนิดเดียว คอของเธอก็จะถูกอีกฝ่ายสะบั้นจนขาดไปดื้อๆ
“ใครน่ะ!” เยี่ยหวันหวั่นหลบได้แบบหวุดหวิด แต่ความเร็วของอีกฝ่ายว่องไวเกินไป ตามติดกระชั้นชิดโจมตีใส่เยี่ยหวันหวั่นอย่างรุนแรงทุกท่วงท่าราวกับห่าฝน
ฝีมือของคนๆ นี้แข็งแกร่งมาก ไม่ใช่นักฆ่าธรรมดา!
“เวรเอ้ย!” เยี่ยหวันหวั่นหลบเลี่ยงการโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างหวุดหวิด
“พี่อู๋โยว ระวังค่ะ! ใครกัน แม้แต่คนของตระกูลเนี่ยของเราก็กล้าแตะต้องเหรอ!” เนี่ยหลิงหลงรีบพุ่งเข้ามา ซัดฝ่ามือใส่นักฆ่าคนนั้น
ฝ่ามือนี้ของเนี่ยหลิงหลงไม่ว่าจะเป็นพละกำลังหรือว่าระดับความเร็วล้วนยอดเยี่ยมมาก พอตวัดฝ่ามือใส่ก็บีบให้นักฆ่าคนนั้นล่าถอยไป
“พรูด...” นักฆ่ากระอักเลือดคำหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัสแล้ว จึงรีบทะยานหลบหนีไป
เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่เนี่ยหลิงหลงตามสัญชาตญาณ แค่ฝ่ามือเดียวก็โจมตีนักฆ่าคนนั้นให้ล่าถอยไปได้แล้ว ฝีมือของเนี่ยหลิงหลงคนนี้ เกรงว่าจะสูงกว่าที่เธอคิดเอาไว้
กลุ่มบอดี้การ์ดตระกูลเนี่ยรีบไล่ตามมา ในเวลาเดียวกันนี้ สมาชิกระดับสูงและเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ในรถคันหลังก็กรูกันเข้ามาแล้ว
“ใครกัน ช่างกล้านัก กล้าลอบสังหารได้แม้แต่คุณหนูรองของพวกเรา!”
“ช่างบังอาจซะจริง! จะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน!”
“คุณหนู คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ!”
เหล่าผู้อาวุโสและพวกระดับสูงพากันเอ่ยถาม
เยี่ยหวันหวั่นนวดฝ่ามือที่ถูกสะเทือนจนชาในขณะที่ต่อสู้ “ไม่เป็นไร”
เวลานี้ ท่ามกลางเสียงที่โกรธเกรี้ยวกันอยู่ มีเสียงเบาหวิวของใครคนหนึ่งแว่วดังขึ้นมาว่า “คุณหนูรอง ด้วยพลังของคุณหนู เกรงว่านักฆ่าคนนั้นไม่น่าจะเข้าใกล้คุณหนูได้ แล้วทำไมถึง…”
คำพูดประโยคหลังคนๆ นั้นไม่ได้พูดออกมา แต่ความหมายก็ชัดเจนโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยแล้ว
พอคนๆ นี้พูดออกมา สายตาของทุกคนก็มองไปที่เยี่ยหวันหวั่นอย่างแปลกใจอยู่บ้าง
ใช่แล้ว ปีนั้นวรยุทธ์ของคุณหนูรองสะท้านสะเทือนไปทั่วรัฐอิสระ เป็นตำนานในหมู่ทหารรับจ้าง แต่ทำไมตอนนี้แม้แต่นักฆ่าคนหนึ่งก็สู้ไม่ได้ซะแล้วล่ะ สุดท้ายนักฆ่าคนนั้นยังถูกฝ่ามือของเนี่ยหลิงหลงโจมตีจนล่าถอยไปอีก
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาสงสัยคลางแคลงของเหล่าผู้อาวุโสและสมาชิกระดับสูงพวกนั้น สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็ขรึมลงเล็กน้อย
จนถึงตอนนี้พลังยุทธ์ของเธอก็ยังฟื้นฟูกลับมาไม่สมบูรณ์จริงๆ ต่อให้ช่วงนี้เธอจะมุมานะทุ่มกำลังฝึกฝนอย่างเต็มที่แล้ว แต่อย่างมากก็ฟื้นฟูกลับมาได้แค่สามสี่ส่วนเท่านั้น ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ดื่มจนเมาไม่มีสติ น่าจะกลับมาราวห้าหกส่วน แต่ก็ยังคงห่างชั้นกันไกลมากอยู่ดี
ทักษะจำพวกวรยุทธ์นี้ ยิ่งเข้าใกล้ระดับสูงสุดเท่าไร ต่อให้มีระยะเพียงน้อยนิด ก็เป็นช่องว่างที่ห่างกันคนละฟ้าแล้ว
และคนบางส่วนอาจจะไม่สามารถก้าวข้ามช่องว่างนี้ไปได้ชั่วชีวิต
รูปการณ์ของเยี่ยหวันหวั่นในเวลานี้ก็เหมือนกับไอดีเลเวลตันที่ถูกรีใหม่ เดิมทีทะลวงทุกด่านได้แล้ว แต่ตอนนี้ต้องกลับมาฟาร์มเลเวลใหม่อีกครั้ง ถึงแม้จะดำเนินไปได้เร็วกว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งของจำพวกความแตกฉาน ไม่ใช่สิ่งที่สามารถฝ่าทะลวงไปได้ด้วยการฝึกฝน
ไม่ว่าเธอจะทุ่มเทสักแค่ไหน ก็รู้สึกท้อแท้มากอยู่ตลอด สุดท้ายร่างกายก็ไม่เป็นไปตามที่ใจนึก ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือตัวจริงจะต้องมีอันตรายถึงชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
……………………………………..