ตอนที่ 1159 กลับเผ่ามังกรวารี

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ในเกาะราชามังกรแผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ไม่เหมือนกับเกาะราชามังกรอันรุ่งโรจน์เหมือนดังเก่าก่อน

หากเฮยเย้าไม่ได้ยืนยันด้วยตัวเองว่าที่แห่งนี้คือเกาะราชามังกร เขาก็คงจะคิดว่าตนเองนั้นมาย่างกรายในนรกก็มิปาน

คนในเผ่าของเขาไม่เหลือแม้แต่คนเดียวแล้วอย่างนั้นเหรอ?

หัวหน้าเผ่ามังกรทั้งสี่เผ่าก็หายใจออกมาด้วยความทอดถอนใจ ถึงแม้ว่าเผ่ามังกรทองจะเป็นราชา จะเป็นผู้นำ แต่ภาระที่พวกเขาแบกไว้และความอันตรายนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

มู่เฉียนซีกล่าว “ส่งคนออกไปตามหาให้ทั่วเกาะราชามังกรว่ายังมีคนรอดชีวิตอยู่บ้างหรือไม่? หากไม่มี อย่างน้อยก็ต้องหลงเหลือศพอยู่”

เฮยเย้าอาศัยมรดกความทรงจำของตนเองหาที่อยู่ของเกาะราชามังกรเจอแล้ว

ทว่า ในตอนนี้กลับไม่รู้ว่าวังราชามังกรอันยิ่งใหญ่ไปทางไหน ที่แห่งนี้หลงเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพังและความแห้งแล้งเท่านั้น

มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ได้ถูกปิดผนึกเอาไว้ในพื้นดินแห่งนี้เมื่อสิบปีก่อน เนื่องจากเกาะราชามังกรถูกปิดผนึก และมันยังคงไร้ความอิสระ เช่นนี้มันจะไม่โกรธเกรี้ยวได้อย่างไรกันล่ะ

มู่เฉียนซีกับเฮยเย้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าคนที่ทั้งสี่เผ่าส่งไปจะหาตัวเจอแล้ว และยังหามังกรที่มีชีวิตอยู่เจออีกด้วย อีกอย่างไม่ใช่เจอเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น! หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าวว่า “รีบพาพวกข้าไปเร็วเข้า!”

เผ่ามังกรอันสูงศักดิ์ถูกกักขังเอาอยู่ใต้ดินอันมืดมิด

พวกเขาเดินผ่านทางเดินใต้ดินอันมืดมิดไป จนในที่สุดก็ได้พบกับประตูคุกใต้ดิน

ปัง! ประตูคุกใต้ดินไม่ได้เปิดยากเลย ด้วยพลังของหัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีของพวกเขาแล้วนั้น เพียงพอที่จะเปิดประตูนี้ได้

แสงสว่างสาดส่องเข้าไปในความมืดมิดนั้น ทำให้คนที่ใกล้ถึงความตายที่เหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายตื่นขึ้นมา

เพียงแต่ตื่นขึ้นมาแค่คนเดียวเท่านั้น เมื่อเขาได้เห็นคนหลายคนที่อยู่ตรงหน้านี้ สีหน้าที่แห้งเหี่ยวนั้นของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้นทันใด

“พวกเจ้าเป็นคนของสี่เผ่า พวกเจ้า…พวกเจ้ามาถึงที่แห่งนี่แล้ว พวกเจ้าได้ปิดผนึกมังกรปีศาจกลืนสวรรค์นั้นใหม่แล้วใช่หรือไม่?”

ใบหน้าของคนผู้นี้แห้งเหี่ยวเป็นอย่างมาก มองไม่ออกถึงรูปร่างเดิมเลย น้ำเสียงก็แหบแห้ง พวกเขาไม่รู้เลยว่าคนผู้นี้เป็นใคร

ทว่า เฮยเย้ากลับรู้สึกคุ้นเคยกับคนผู้นี้มาก เขายืนมองคนที่กำลังพูดผู้นี้อย่างเหม่อลอย

เขาเงยหน้าขึ้นมองสุ่ยอู๋ซินด้วยความยากลำบาก “หัวหน้าเผ่ามังกรวารี พวกเจ้าสามารถเปิดผนึกได้ นั่นก็หมายความว่า…หมายความว่า…”

“บุตรชายของข้ายังอยู่รอดปลอดภัยดีใช่หรือไม่ แล้วเขา เขาอยู่ไหนล่ะ?”

ในครานั้นก่อนที่เกาะราชามังกรจะถูกปิดผนึกลง เขาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะส่งบุตรชายของตนเองออกไป และเขาก็มีความหวังเพียงเล็กน้อยว่าบุตรของตนนั้นจะมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย

บัดนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นความหวังนั้นแล้ว

สุ่ยอู๋ซินได้ยินเช่นนี้แล้วก็ผงะไปครู่หนึ่ง เขากล่าว “ท่านคือองค์รัชทายาทของราชามังกรทองผู้นั้น จินหลิวกวง”

“ใช่!”

ทันทีที่เขากล่าวจบ เสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นว่า

“ท่านพ่อ!”

เขามองไปที่เจ้าของเสียงผู้นั้น เห็นเด็กหนุ่มชุดดำผู้หนึ่ง รูปร่างหน้าตาช่างคุ้นเคยยิ่งนัก

ชั่วครู่หนึ่ง น้ำตาของเขาก็ไหลพรากออกมาด้วยความตื่นเต้น “เจ้ายังไม่ตาย วิเศษ วิเศษมาก พ่อผิดเอง พ่อต้องขอโทษเจ้าด้วย…”

ตุบ! เนื่องจากเขาตื่นเต้นมากเกินไป อีกทั้งร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมมาก ดังนั้นจึงเป็นลมหมดสติไป

“ท่านพ่อ!” เฮยเย้าร้อนอกร้อนใจดุจดั่งถูกไฟเผา

มู่เฉียนซีเดินเข้าไปและกล่าวว่า “แค่หมดสติไปชั่วครู่เท่านั้น ยังไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต”

มู่เฉียนซีตรวจชีพจรร่างกายให้กับเขา ส่วนเหล่านักปรุงยาของเผ่ามังกรวารีก็ไปตรวจร่างกายให้กับมังกรอื่น ๆ

และสิ่งที่เหนือความคาดหมายมากที่สุดนั่นก็คือ เผ่ามังกรทองไม่ได้ถูกมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ฆ่าทั้งหมด ยังหลงเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง

ทว่า มังกรเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเจ็บปวดทรมานมากกว่าตายเสียอีก

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งของเผ่ามังกรวารีกล่าวขึ้นว่า “เลือดของพวกเขาถูกดูดจนแห้งเหือดแล้ว อีกทั้งพลังชีวิตด้วย! เกรงว่ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์คงจะใช้วิธีการใดสักอย่างเพื่อใช้ประโยชน์จากพวกเขาทำให้พลังของมันฟื้นฟูกลับมา”

“หลังจากถูกทรมานมาถึงสิบปี พวกเขาจะถึงขีดจำกัดแล้ว ยาวิเศษใดก็ล้วนแต่ช่วยพวกเขาไม่ได้ สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ เกรงว่าจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตพวกเขาแล้ว ให้พวกเขาจากไปอย่างสงบสุขที่สุดเถอะ”

“……”

ครั้นแล้วนักปรุงยาของเผ่ามังกรวารีเหล่านี้ก็ล้วนแต่ถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง เผ่ามังกรวารีเป็นนักปรุงยาเพียงเผ่าเดียวในแดนมังกร หากแม้แต่พวกเขาก็กล่าวเช่นนี้ออกมาแล้ว นั่นก็หมายความว่าไร้ซึ่งวิธีแล้ว

กว่าจะได้เจอกับคนในเผ่านั้นมันไม่ง่ายเลย ตกลงจะต้องจากกันไปตลอดชีวิตจริง ๆ เหรอ?

ในใจของเฮยเย้าช่างทุกข์ทรมานใจเป็นที่สุด เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ท่านมู่!”

ท่านมู่ก็เป็นนักปรุงยาท่านหนึ่งเช่นกัน เป็นนักปรุงยาที่ทำให้เฮยเย้านั้นได้เกิดใหม่ บางทีนางอาจจะมีวิธีก็ได้

ในตอนนี้เองหัวหน้าเผ่ามังกรไม้ก็กล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า “ใช่! ท่านมู่ ท่านมู่ต้องมีวิธีแน่นอน”

เผ่ามังกรอื่นทั้งสามเผ่าต่างก็ตกตะลึงขึ้น “นี่ท่านมู่ก็เป็นนักปรุงยาด้วยอย่างนั้นเหรอ?”

หัวหน้าเผ่ามังกรไม้กล่าวว่า “ใช่! แน่นอนว่าท่านมู่ก็เป็นนักปรุงยาท่านหนึ่ง! พวกเจ้าคิดว่าโรคประหลาดของเผ่ามังกรไม้ที่พวกเจ้ารักษาไม่ได้เป็นผู้ใดกันล่ะที่รักษาได้!”

ผู้อาวุโสของเผ่ามังกรวารีตกใจมาก “โรคประหลาดของเผ่าพวกเจ้ารักษาหายดีแล้วอย่างนั้นเหรอ? และยังเป็นท่านมู่ที่เป็นคนรักษาด้วยอย่างนั้นเหรอ?”

“เป็นเช่นนั้นแน่นอน!”

สุดท้ายนักปรุงยาเหล่านั้นของเผ่ามังกรวารีต่างก็มองมู่เฉียนซีด้วยสายตาที่เร่าร้อนแผดเผาเพิ่มอีกหลายเท่า

ในตอนนี้มู่เฉียนซีก็กำลังคิดวิธีการรักษาให้กับพวกเขา เวลาสิบปีที่ผ่านมาร่างกายของพวกเขาได้รับบาดเจ็บมาสาหัสเกินไปแล้ว

เหตุการณ์เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำให้ร่างกายของพวกเขาเหี่ยวตายไปโดยสมบูรณ์ได้ ต่อให้เป็นนางก็ไม่สามารถช่วยได้

มู่เฉียนซีเอายาออกมานับไม่ถ้วนและเริ่มผสมเข้าด้วยกัน เมื่อเห็นเข็มยาที่มู่เฉียนซีเอาออกมาเช่นนี้ หัวหน้าเผ่ามังกรไม้ที่มีปมฝังใจก็อดที่จะถอยหลังหนีไม่ได้

หลังจากที่บรรจุยาลงเข็มยาเรียบร้อยแล้ว มู่เฉียนซีก็ฉีดให้กับมังกรในที่แห่งนี้กว่าสิบตัว

จากนั้นมู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้ข้าทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพเหมือนตายชั่วคราว และพวกเขาจะค่อย ๆ ได้รับพลังชีวิตกลับคืนมาอย่างเห็นได้ชัด พวกเจ้าต้องนำตัวพวกเขาไปอย่างระมัดระวังที่สุด แต่จะพาไปที่ไหนล่ะ?”

“เผ่ามังกรไม้กับเผ่ามังกรวารีเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว”

สุ่ยอู๋ซินกล่าว “ไปที่เผ่ามังกรวารีของพวกข้าดีกว่า! อย่างไรเสียเผ่ามังกรวารีก็มีนักปรุงยาอยู่หลายท่าน สมุนไพรวิญญาณก็ครบครัน สะดวกกว่า”

มุมปากของผู้อาวุโสเผ่ามังกรวารีเหล่านั้นกระตุกขึ้น ท่านหัวหน้าเผ่าเป็นคนที่ไม่ชอบสุงสิงกับผู้ใด และไม่ชอบให้ผู้ใดเข้าใกล้มาโดยตลอดไม่ใช่หรอกหรือ? ครั้งนี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนเอ่ยปากเอาเรื่องวุ่นวายเช่นนี้เข้าเผ่าตนเอง ช่างแปลกยิ่งนัก!

แต่พวกเขาก็เคยชินแล้วเช่นกัน นับตั้งแต่ที่ท่านมู่ได้ย่างกรายมาที่เผ่ามังกรวารีของพวกเขา ท่านหัวหน้าเผ่าของพวกเขาก็ผิดปกติไป

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “เช่นนั้นก็ดี งั้นก็ไปที่เผ่ามังกรวารีก็แล้วกัน”

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือช่วยมังกรทองเหล่านี้กลับมา และแน่นอนว่าคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้นิ่งเฉย

มู่เฉียนซีกล่าว “การปรากฏตัวของเกาะราชามังกรในตอนนี้ทุกฝ่ายล้วนแต่ทราบข่าวกันแล้ว ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเกาะราชามังกรย่อมสร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน หัวหน้าเผ่าทั้งสามเผ่าก็ส่งคนไปปลอบขวัญมังกรอื่น ๆ และจัดการกับพวกที่ไม่เชื่อฟังด้วยเลย”

“บัดนี้ มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ก็ถูกปิดผนึกลงอีกครั้งแล้ว พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเก็บพลังความแข็งแกร่ง ทำอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุดเถอะ!”

เหล่าผู้แข็งแกร่งของทั้งสามเผ่าที่ถูกเลือกต่างก็วุ่นวายขึ้นแล้ว เผ่ามังกรวารีเพียงแค่ช่วยรักษา แต่พวกเขาที่ถูกส่งตัวกลับถูกเลือกให้เป็นจับกังที่ออกกำลัง!

เพียงแต่ว่าตอนนี้เผ่ามังกรตกอยู่ในสถานการณ์ที่วุ่นวาย หากพวกเขาไม่ออกแรงร่วมมือร่วมใจกัน แล้วผู้ใดเล่าจะทำ

หลังจากที่มู่เฉียนซีกลับมาที่เผ่ามังกรวารี นางก็เริ่มปรุงยา เหล่าบรรดานักปรุงยาของเผ่ามังกรวารีต่างก็สังเกตการปรุงยาของนาง และหลังจากที่ได้เห็นวิธีการปรุงยาที่วิเศษและประสิทธิภาพยาของมู่เฉียนซีแล้ว พวกเขาต่างก็ต้องการคารวะนางเป็นอาจารย์