หั่วไฉคำนับแล้วพูดว่า “เรื่องอื่นไม่มีปัญหาเลยท่านเก้า แต่ชุดคลุมม่วงต้องรอก่อนหรือเปล่า กฎของตระกูลหั่วคือผู้ดูแลใหม่ต้องเริ่มจากชุดคลุมสีทองเหมือนกันทุกคน ท่านเก้าคิดว่า……”
หั่วตันซูโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ชุดคลุมสีทองก็ได้ ลู่ฝาน อีกสองวันฉันออกไปทำงาน กลับมาจะเลื่อนเป็นชุดคลุมม่วงให้นาย ไม่ต้องใส่ใจหรอก!”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
เมื่อสั่งเสร็จเรียบร้อย หั่วตันซูเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
หั่วไฉเห็นหั่วตันซูออกไปแล้ว เขายืดตัวตรงมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม “สหายท่านนี้ชื่อลู่ฝานใช่ไหม คนใหม่ต้องมาเรียนรู้กฎกับฉัน ต่อไปถ้าฉันล่วงเกินตรงไหนก็อภัยให้ด้วย มาสิ เชิญทางนี้”
หั่วไฉเดินไปด้านในอย่างรวดเร็ว ลู่ฝานกับหลิงเหยาพยักหน้าแล้วเดินตามไป
เปิดประตูด้านหลัง หั่วไฉพาลู่ฝานกับหลิงเหยาเดินออกมาข้างนอก เมื่อมองออกไป ด้านหน้าเป็นพื้นที่ว่างกว้างขวาง
และในพื้นที่ว่างมีเจดีย์สูง แบ่งออกเป็นเจ็ดชั้น
หั่วไฉชี้เจดีย์สูงแล้วพูดว่า “ชั้นหนึ่งคือเสื้อผ้า แม้โดยพื้นฐานเหมือนกันหมด แต่ให้นายเลือกเองดีกว่า ถ้าต่อไปไม่มีก็กลับมาเอาที่นี่ ส่วนคนใช้ของนายก็ไปเลือกชุดสีเทาด้านในสักชุด ชั้นสองคือป้ายคำสั่ง ป้ายคำสั่งเป็นแบบสำเร็จรูป นายต้องเอาหินแมกมามาสลักชื่อเอง ชั้นสามคือธรรมเนียมประเพณี ด้านในมีม่านแสงสิบกว่าอัน จะสอนธรรมเนียมประเพณีของตระกูลหั่วให้นายทั้งหมด ต้องได้รับการยอมรับจากม่านแสงถึงจะออกมาได้
ชั้นสี่คือวิชาที่ต้องเรียน ลูกหลานตระกูลหั่วต้องเข้าใจวิชาอาทิตย์ลุกโชนอย่างถ่องแท้เป็นอันดับแรก อย่างน้อยต้องฝึกถึงระดับหนึ่ง ชั้นห้าคือเครื่องราง เมื่อเรียนวิชาจบ สามารถไปเลือกได้หนึ่งชิ้น ชั้นหกคือวิชายา ถ้านายเรียนเรื่องพวกนี้จบ นายสามารถไปดูได้ วิชายาของตระกูลหั่วสุดยอดมาก ชั้นเจ็ดเป็นสถานที่ตระหนักรู้ เมื่อไรที่นายฝึกวิชาอาทิตย์ลุกโชนถึงระดับแปด สามารถไปนั่งตระหนักรู้ระดับเก้าได้ เข้าใจไหม”
ลู่ฝานพยักหน้า ฟังดูเหมือนง่ายมาก!
หั่วไฉตบไหล่ลู่ฝานแล้วพูดว่า “โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีคนใหม่เข้ามาจะอยู่ที่นี่สามเดือน ถึงออกไปทำงานได้ แต่ท่านเก้าบอกว่าจะมารับนายอีกสิบวัน ฉันจนปัญญาแล้ว นายหาวิธีเอาเอง พยายามทำทุกอย่างให้เสร็จภายในสิบวัน อย่างน้อยเรียนธรรมเนียมประเพณีที่ชั้นสามให้ได้ โอเค ฉันไปนอนต่อละ นายรีบเถอะ หลังออกมา นายเอาห้องไป ส่วนเรื่องของกินนายเตรียมเอง ไม่มีปัญหาใช่ไหม”
ลู่ฝานพูดว่า “น่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
หั่วไฉหัวเราะเบาๆ มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “หวังว่านายจะไม่ทำให้ท่านเก้าผิดหวัง”
พูดจบ หั่วไฉเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ลู่ฝานมองหลิงเหยาด้วยรอยยิ้ม “เธอคิดว่าฉันต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะสำเร็จ”
หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “ฉันว่าสองวันก็เสร็จแล้ว!”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ฉันไม่มีเวลาไร้สาระอยู่ที่นี่หรอก วันเดียว พยายามให้เสร็จภายในวันเดียว”
หลิงเหยาพูดว่า “โอเค เดี๋ยวฉันช่วยนายเลือกเสื้อผ้า นายรีบไปชั้นสองเลย”
“ได้! เธอช่วยฉันเคลียร์ปัญหาใหญ่สุด”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพยักหน้า ทั้งสองเดินไปทางเจดีย์สูง
ประตูเจดีย์เปิดออก ไม่มีคนเฝ้า ลู่ฝานกับหลิงเหยาเดินเข้าไปทันที
ทั้งสองคนเพิ่งเดินเข้ามา ไฟรอบๆ สว่างขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือชุดคลุมสีทองมากมายลอยอยู่กลางอากาศ รวมถึงชุดคลุมสีเทาหลายแบบที่แขวนและวางอยู่ด้านข้าง
ลู่ฝานเดินตรงไปข้างหน้าทันที บันไดวนขึ้นไปถึงด้านบน ลู่ฝานเดินขึ้นไป ตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ของหลิงเหยา
เมื่อมาถึงชั้นสอง สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือป้ายมากมายวางเป็นระเบียบ รวมถึงผู้ฝึกชี่ที่กำลังพยายามสลักชื่อลงบนป้าย
ป้ายมีแสงสว่างไสว ด้านบนเขียนคำว่าหั่วเอาไว้
ชั้นสองที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยป้าย มีเพียงถาดเล็กๆ ลอยอยู่ตรงกลาง ด้านในมีหินแมกมาเดือดปุดๆ
ตัวอักษรสีทองลอยอยู่ด้านบนถาดเล็กๆ ลู่ฝานมองแล้วยิ้ม “มีคำอธิบายการสลักอักษรโดยเฉพาะด้วย”
กวาดตาดูไม่กี่ครั้ง ลู่ฝานมีแผนในใจแล้ว ไม่มีอะไรนอกจากต้องมีพลังควบคุมนิดหน่อย ง่ายมาก!
ลู่ฝานสะบัดมือหยิบป้ายมาอันหนึ่ง จากนั้นเดินเข้าไป ผู้ฝึกชี่มองลู่ฝานด้วยสายตาประหลาด คนคนนี้เพิ่งเข้ามาก็จะสลักเลยเหรอ มั่นใจขนาดนั้นเชียว
ลู่ฝานไม่สนใจความตกใจของพวกเขา สะบัดมือดึงหินแมกมาให้ลอยขึ้นมา จากนั้นเอามาไว้บนป้าย
ผู้ฝึกชี่คนหนึ่งพูดอย่างตกใจว่า “หยุด! นายไร้สาระจริงๆ ถ้าทำให้ป้ายเสียเปล่าระวังโดนไล่ออกจากตระกูลหั่ว!”
เขายังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นหินแมกมาบนป้ายของลู่ฝานเริ่มหดตัวอย่างรวดเร็ว ผ่านไปครู่หนึ่ง ตัวอักษรคำว่าลู่ฝานที่ดูทรงพลังปรากฏอยู่ในสายตา หินแมกมาที่เหลือลอยหายไปจนหมด
กลุ่มคนอ้าปากค้างมองลู่ฝาน ใบหน้าไม่อยากเชื่อ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งพูดเมื่อกี้ อ้าปากจนคางแทบกระแทกพื้นแล้ว
ลู่ฝานมองพวกเขาแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “พวกนายทำกันต่อเถอะ”
พูดจบ ลู่ฝานหันหลังเดินไปทางชั้นสาม!