บทที่ 2141 แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร
ณ ตรอกของกินเล่นแห่งหนึ่ง
เนี่ยอู๋หมิงพาเยี่ยหวันหวั่นเดินเตร่ไปเตร่มา ซื้อของกินเล่นเป็นระยะๆ มีทั้งคาบไว้ในปาก และถือไว้ในมือ
“ฉันขอถามหน่อยนะพี่ กินพอรึยัง พวกเรายังมีงานสำคัญต้องไปสืบหาเบาะแสของพ่อกับแม่อยู่นะ” เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงแล้วเอ่ยขึ้น
พอเนี่ยอู๋หมิงได้ยิน จึงเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง “เหลวไหลน่า แกไม่รู้สินะ คนคือเหล็กข้าวคือเหล็กกล้า ถ้าไม่กินฉันจะหิวจนงุ่นง่าน เพราะฉะนั้นต้องกินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยไปสืบข่าว”
“งั้นพี่รีบกินสิ…”
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ
“รอก่อน ฉันจะไปต่อคิวที่มุมถนน แป้งยัดไส้เนื้อของร้านนั้นขึ้นชื่อมาก เดี๋ยวฉันจะเอามาให้ด้วยแกชิ้นหนึ่ง” พอเนี่ยอู๋หมิงพูดจบ ก็หันหลังวิ่งหายไปเลย
เยี่ยหวันหวั่นมองแผ่นหลังของเนี่ยอู๋หมิงที่ห่างออกไปแล้ว มุมปากพลางกระตุกนิดๆ พ่อแม่ไม่ยกตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเนี่ยให้เขา นั่นเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดแล้วจริงๆ
….
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นเตรียมจะโทรหาซือเยี่ยหาน บอกเล่าสถานการณ์ในตอนนี้ให้ชัดเจนสักหน่อย รอบข้างพลันมียอดฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีปรากฏตัวขึ้นมากลุ่มใหญ่ เข้าล้อมตัวเยี่ยหวันหวั่นไว้ทันที
คนที่เป็นผู้นำทีมก็คือเนี่ยหลิงหลง
“พี่คะ พี่ไปไหนมา ปล่อยให้น้องสาวอย่างฉันตามหาเสียนานเลย”
เนี่ยหลิงหลงจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น พลางเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“โอ้ น้องสาวมาตามหาพี่มีธุระเร่งด่วนอะไรเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าเรียบเฉย
“ก็ไม่มีธุระเร่งด่วนอะไรหรอก แต่ว่า พี่ก็รู้นี่คะ ฉันเพิ่งขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลตระกูลเนี่ย เลยต้องสร้างผลงานสักหน่อย เมื่อหลายปีก่อนพันธมิตรอู๋เว่ยเคยขโมยทรัพย์สินและข้อมูลลับส่วนใหญ่ของตระกูลเนี่ยเราไปพวกระดับสูงของตระกูลเนี่ยจึงตัดสินใจจะดำเนินการลงโทษผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย...พี่เคยเจอผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยบ้างไหมล่ะ” เนี่ยหลิงหลงมองเยี่ยหวันหวั่น มุมปากหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเยียบเย็นสายหนึ่ง
“บังเอิญจังนะ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องเนี่ยหลิงหลง “พี่สาวอย่างฉันก็คือผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยที่เธอตามหา”
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เนี่ยหลิงหลงก็ผงกหัวนิดๆ “พี่คะ พี่ดูความจำของน้องสาวคนนี้สิ ลืมไปเลยว่าพี่มีฐานะเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย...เพียงแต่ หน้าที่ก็คือเรื่องหนึ่ง สายใยพี่น้องก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องส่วนรวม ก็ยังต้องจัดการไปตามเสียงส่วนใหญ่”
“จัดการกับแม่เธอสิ!”
ทันใดนั้น น้ำเสียงเย็นชาสายหนึ่งก็แว่วดังมาจากด้านหลังของกลุ่มคน ยังไม่เห็นเลยว่าเนี่ยอู๋หมิงทำอะไร ก็มีคนกระเด็นออกไปเจ็ดแปดคนแล้ว
เวลานี้ เนี่ยอู๋หมิงเดินมาข้างๆ เยี่ยหวันหวั่น ปากยังคาบแป้งยัดไส้เนื้อชิ้นหนึ่งเอาไว้
เยี่ยหวันหวั่นนึกในใจ เวลาแบบนี้แล้ว ไว้ค่อยกินทีหลังได้ไหม
“เนี่ยอู๋หมิง ทีแรกเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ แต่พี่ไม่เคารพหัวหน้าตระกูลเนี่ย สมคบกับผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย มีความผิดร่วมกัน ยังไม่เตรียมตัวรับโทษอีกเหรอ”
เนี่ยหลิงหลงมองเนี่ยอู๋หมิง พลางเอ่ยเสียงเย็น
“เนี่ยหลิงหลง…” สายตาเยียบเย็นเข้าไปถึงกระดูกของเนี่ยอู๋หมิง ค่อยๆ มองไปที่ร่างของเนี่ยหลิงหลง “แก…เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า…แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
“ฉันชักจะตื่นเต้นแล้วสิ บอกฉันมาสิว่าพี่คือใคร” เนี่ยหลิงหลงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหยัน
“ฉันก็คือ…เนี่ยอู๋หมิงไง”
ทันทีที่พูดจบ เนี่ยอู๋หมิงก็ซัดหมัดออกไปด้วยท่าทางสบายๆ และทันใดนั้น ยอดฝีมือหลายคนที่อยู่รอบตัวเนี่ยหลิงหลง ก็ลอยหวือออกไปราวกับว่าวสายป่านขาด
เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงที่อยู่ตรงหน้า ด้วยหัวใจที่เต้นแรงนิดๆ เนี่ยอู๋หมิงในตอนนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่า…เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลย…
แบบนี้คือพี่ชายเอาจริงขึ้นมาแล้วใช่ไหม…
ดูแตกต่างไปจากเนี่ยอู๋หมิงในภาพจำของเยี่ยหวันหวั่น
“ฮึ่ม จับตัวมา!”
เนี่ยหลิงหลงออกคำสั่งทันที
วินาทีนั้น ยอดฝีมือมากมายก็เข้าล้อมเนี่ยอู๋หมิงเอาไว้ตรงกลาง
เนี่ยอู๋หมิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองไม่เห็นเลยว่าเขาลงมือยังไง
แต่ชั่วระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจ ก็ล้มคนไปสิบกว่าคนแล้ว
—————————————————————————————
บทที่ 2142 เชื่อฉันเถอะ แกหนีไปก่อน
สีหน้าของเนี่ยหลิงหลงอึมครึมเป็นพิเศษ โชคดีที่เนี่ยอู๋หมิงโง่เง่า ไม่อย่างนั้นแล้ว คงกลายเป็นฝันร้ายฉากหนึ่งจริงๆ ตอนนี้เธออยากจะดูว่าเนี่ยอู๋หมิงจะกระโดดโลดเต้นไปได้อีกนานแค่ไหน!
ในสถานที่อย่างรัฐอิสระ พลังยุทธ์ก็คือทุกสิ่ง
จับกบฏต้องจับหัวหน้าก่อน หลังจากเนี่ยอู๋หมิงจัดการปลาซิวปลาสร้อยไปส่วนหนึ่งแล้ว ก็สาวเท้าก้าวเข้าไปหาเนี่ยหลิงหลง
“ฉันจะเอาชีวิตแก” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยเสียงเย็น
“ฉันว่าก็ไม่แน่หรอก” เนี่ยหลิงหลงเอ่ยอย่างเฉยชา
“ก็ลองดู”
พอได้ยินคำพูดนี้ของเนี่ยอู๋หมิง มุมปากของเนี่ยหลิงหลงก็ยกโค้งขึ้นนิดๆ หยักเป็นรอยยิ้มเยียบเย็นแวบหนึ่ง แล้วมองเข้าไปในดวงตาของเนี่ยอู๋หมิงที่เต็มไปด้วยประกายหนาวยะเยือก “ได้เลย งั้นแกก็มาลองดู”
ใบหน้าของเนี่ยอู๋หมิงไร้อารมณ์ ตัวคนดั่งสายฟ้าฟาด เลือนหายไปจากจุดเดิมในทันใด เพียงไม่กี่ลมหายใจ ก็เข้าประชิดตัวเนี่ยหลิงหลงแล้ว
ซัดฝ่ามือข้างหนึ่งออกไป ด้วยความเร็วที่รวดเร็วสุดขีด ทำให้คนหายใจไม่ออก
จากนั้น ในขณะที่ฝ่ามือของเนี่ยอู๋หมิงจะซัดโดนเนี่ยหลิงหลง สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยน เขาก็เสียหลักเซไปก้าวหนึ่ง พลางกุมท้องตัวเองไว้
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นเห็นก็มีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
“พี่” เยี่ยหวันหวั่นเรียกเสียงเบาหวิว
เนี่ยอู๋หมิงไม่ได้ตอบกลับ
“พี่ เป็นอะไรไป” เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จึงรีบปราดเข้าไปหา ลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นมาในหัวใจ
“หยุดตรงนั้น อย่าเข้ามา” เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ
“พรูด...”
วินาทีต่อมา จู่ๆ เนี่ยอู๋หมิงก็อ้าปากพ่นเลือดสดๆ ออกมา
เลือดกระจายเต็มพื้น และเป็นสีดำสนิท
เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองเลือดกองนั้น จากนั้นสีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยน “พี่ถูกพิษเหรอ?!”
เนี่ยอู๋หมิงเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก ขมวดคิ้วแน่น “ถูกพิษ…ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…”
ใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “แม้แต่ถูกพิษมาตอนไหนพี่ก็ไม่รู้เลยงั้นเหรอ?!”
เนี่ยอู๋หมิงกัดฟันนึกย้อนดู “หรือจะเป็นสาลี่ต้มน้ำตาลแก้วนั้น…ไม่น่าจะใช่…เป็นไปได้ยังไง…”
เยี่ยหวันหวั่นรีบเอ่ยถาม “สาลี่ต้มน้ำตาลอะไร”
เนี่ยอู๋หมิงจึงตอบว่า “ระหว่างทางมีสาวน้อยคนหนึ่งแจกสาลี่ต้มน้ำตาลให้ฟรีๆ ฉันเลยดื่มไปแก้วหนึ่ง…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกแล้ว
พอได้ยินคำพูดนี้ของเนี่ยอู๋หมิง มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นก็กระตุกยิกๆ ขณะจ้องมองเนี่ยอู๋หมิง แต่ก็ไม่พูดอะไรอยู่พักหนึ่ง เธอจะพูดอะไรได้ล่ะ
รู้อยู่แล้วว่าเนี่ยหลิงหลงคิดร้ายทะเยอทะยาน แต่ยังไม่รู้จักระวังตัวอีก สมองของเขาโตมายังไงกันนะ
ยังไงก็ตาม ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่มีแก่ใจมาติเตียนเนี่ยอู๋หมิงแล้ว ในใจเต็มไปด้วยความกังวล ไม่ต้องคิดเยอะ ก็รู้ว่าเป็นฝีมือเนี่ยหลิงหลงแน่นอน มิน่าล่ะเนี่ยหลิงหลงถึงกล้ามาดักล้อมตัวเองกับเนี่ยอู๋หมิง
เมื่อเห็นสีหน้าของเนี่ยอู๋หมิงขาวซีดลงเรื่อยๆ เยี่ยหวันหวั่นก็ร้อนใจดั่งไฟลน “นี่มันพิษอะไรกัน”
ในเวลานี้ เนี่ยหลิงหลงก็เอ่ยขึ้นอย่างเฉยชาว่า “ผีเสื้อโรยรา เมื่อถูกพิษแล้วจะตายภายในครึ่งชั่วโมง”
“ครึ่งชั่วโมง…” สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นซีดเผือดทันที
แทบจะในทันทีที่เนี่ยอู๋หมิงพูดจบ มุมปากของเนี่ยอู๋หมิงก็มีเลือดสีดำซึมออกมาอีกครั้ง ร่างกายส่ายโงนเงน
“พี่!” เยี่ยหวันหวั่นประคองเนี่ยอู๋หมิงไว้
“ไม่เป็นไร สุขภาพของฉันแข็งแรงดี พิษแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก แกไปก่อนเถอะ ฉันจัดการเอง”
เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างลุ่มลึกแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
“โกหก!”
เยี่ยหวันหวั่นประคองแขนของเนี่ยอู๋หมิงไว้ ต่อให้สุขภาพของเขาจะแข็งแรงแค่ไหน แต่ก็ไม่มีทางต้านทานพิษร้ายแรงแบบนี้ได้แน่
“ไม่ต้องสนใจฉัน ฉัน…ไม่เป็นไร”
เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นพลางขมวดคิ้วแน่น “เชื่อฉันเถอะ แกหนีไปก่อน!”
…………………………………………..