ตอนที่ 1022: หลัวโตว
อาณาจักรหลงฉีเป็นหนึ่งในแปดอาณาจักรใหญ่ของทวีปเทียนหยวน มันเทียบเท่าได้กับอาณาจักรฉินหวงและมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายหมื่นปี ไม่มีใครสามารถดูถูกอำนาจของมันได้ มันมีเซียนผู้คุมกฎคอยปกป้องพระราชวังอยู่
อาณาจักรหลงฉีสงบสุขเหมือนทุกทุกวัน โถงที่โอ่อ่าและมีอำนาจเต็มอยู่ในพระราชวัง พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลเต็มไปทั่วรอบ ๆ
กลุ่มทหารที่อยู่ในชุดเกราะเดินตรวจตราพระราชวัง ในขณัที่พวกเขาเดินยืดอกและเดินไปอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาปกป้องพระราชวังอยู่อย่างเงียบ ๆ
ในตอนนี้ ร่างสองร่างที่เป็นภาพพร่ามัวจนเกือบจะมองไม่เห็นได้เข้าไปที่พระราชวังอย่างรวดเร็วมาก พวกเขาพุ่งเข้าไปลึกอย่างเงียบ ๆ จากนั้นพวกเขาก็หายไปในโถงที่ว่างเปล่ามาเป็นเวลานาน
พวกเขาลบตัวตนของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ถึงการมาของพวกเขา แม้แต่เซียนผู้คุมกฎที่ปกป้องพระราชวังอยู่ก็ไม่สังเกตเห็นการมาถึงของแขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสองคนนี้
ชายชราสองคนทู่กระเซอะกระเซิงและใส่เสื้อผ้ารุ่งริ่งแนบไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง ในขณะที่พวกเขาสังเกตการณ์เคลื่อนไหวที่อยู่ข้างนอกอย่างตั้งอกตั้งใจ พวกเขาลบตัวตนของพวกเขาอย่างสมบูรณ์รวมถึงลมหายใจของพวกเขา พวกเขาดูวิตกกังวลมาก
ชายชราสองคนก็โล่งใจในที่สุดหลังจากที่พวกเขาไม่พบอะไรจากการสังเกตการณ์ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ทรุดลงที่พื้นที่เย็นเฉียบ ในขณะที่พวกเขาหอบหายใจแรง
“โชคดีที่พวกเราไม่ได้ไปทำให้เซียนผู้คุมกฎในพระราชวังรู้ตัว ซิตู ทักษะลบตัวตนของเจ้าน่าประทับใจจริง ๆ พวกเราน่าจะซ่อนที่นี้ได้อย่างปลอดภัยอีกสักสองสามวัน” ชายชราพูดผ่านทักษะสื่อสาร เขาอ่อนเพลียมาก
“มันไม่สำคัญว่าทักษะลบตัวตนนี้จะยอดเยี่ยมเพียงใด ผู้พิทักษ์ทั้งสี่จากนิกายดาบโลหิตจะหาพวกเราเจออยู่ดี พวกเราสลัดพวกเขาไม่หลุดไม่ว่าจะยังไงก็ตาม” ชายชราอีกคนตอบกลับมาด้วยทักษะสื่อสารเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่ระมัดระวังตัวมาก และไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดเสียงแม้แต่น้อย เพราะเกรงว่ามันจะไปทำให้เซียนผู้คุมกฎในพระราชวังรู้ตัว
เซียนผู้คุมกฎสองคนที่เหมือนขอทานนี้คือชายชราซิตูและหม่าเทิง พวกเขาโดยไล่ล่าจากผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิตที่ผ่านมาหลายปี และพวกเขาก็เอาชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้
“อาญาจักรหลงฉีเป็นสาขาของจักรวรรดิเฟยลี่ของจักรวรรดิใหญ่ทั้งสาม บางทีแม้แต่ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็อาจจะไม่กล้ามาก่อความวุ่นวายที่นี่ก็ได้ พวกเราน่าจะปลอดภัยมากที่นี่” ชายชราหม่าเทิงสื่อสารออกไป
ชายชราซิตูพยักหน้าเห็นด้วยแล้วตอบกลับ “เจ้าพูดถูก ผู้พิทักษ์ทั้งสี่จะไล่ตามพวกเราทันในไม่ช้า พวกเขารู้ว่าพวกเรากำลังซ่อนอยู่ที่นี่ แต่ทันทีที่พวกเขาเข้าใกล้พระราชวัง เซียนผู้คุมกฎของที่นี่ก็จะหยุดพวกเขาเอาไว้แน่ การต่อสู้ใหญ่อาจจะเกิดขึ้น ในขณะที่พวกเขากำลังสู้กัน พวกเราจะแอบดูและโจมตีออกไปทันที เพื่อจัดการกับผู้พิทักษ์ แบบนั้น พวกเราจะสามารถฆ่าหนึ่งในนั้นได้”
ตาของชายชราหม่าเทิงเบิกกว้าง “นั่นไม่ใช่ความคิดที่เลวเลย พวกนั้นทั้งสี่ไล่ตามพวกเราไปทั่วทั้งทวีป ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วที่พวกนั้นจะต้องชดใช้”
สองวันต่อมา ชายวัยกลางคนใบหน้าเย็นชาที่อยู่ในชุดสีแดงก็มาถึงที่กลางอากาศ พวกเคลื่อนที่ไปในทิศทางของพระราชวัง
ทั้งสี่คนเปล่งรัศมีพลังหยินที่ชั่วร้ายที่มองไม่เห็นออกมา อุณหภูมิดิ่งลงทุกทุกที่ที่ทั้งสี่ผ่าน และมันก็เย็นเหมือนยู่ในถ้ำ
“สองคนนั้นซ่อนอยู่ในเมือง หัวหน้านิกายคนก่อนได้ติดต่อกับเราผ่านทักษะลับ เขาบอกว่าเมื่อพวกเราเจอทั้งสองคนนี้ พวกเราต้องไม่ผลีผลาม พวกเราต้องรอหัวหน้านิกายคนใหม่มาถึงและรอคำสั่งของเขา พวกเราไปหาโรงเตี้ยมและพักผ่อนกันก่อนตอนนี้” ผู้พิทักษ์พูดอย่างไร้อารมณ์ก่อนที่จะเข้าไปในเมืองกับพวกอีกสามคน
“พวกเจ้าคิดว่าหัวหน้านิกายคนใหม่คือใครกัน ? ข้ามั่นใจว่าเขาต้องเกลียดคนที่พวกเรากำลังไล่ล่าอยู่มากแน่ แต่นิกายดาบโลหิตของพวกเราก็ถอนตัวจากทวีปไปเป็นพันปีแล้ว ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีผู้อาวุโสคนไหนในนิกายที่มีความไม่พอใจในพวกนั้นทั้งสอง” ผู้พิทักษ์พูดเสียงทุ้ม เขาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ซู่ซาน หุบปาก เรื่องของหัวหน้านิกายไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาหารือกัน” ใบหน้าของผู้พิทักษ์หมองลงและเขาก็จ้องไปทางคนพูด
ผู้พิทักษ์ที่ถูกเรียกว่าซู่ซานก็หุบปาก
ในขณะที่ผู้พิทักษ์ทั้งสี่เดินผ่านไปที่ถนน ลักษณะรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันของพวกเขาและพลังหยินชั่วร้ายของพวกเขาก็เป็นจุดสนใจทันที ทุกคนที่เดินผ่านและทหารรับจ้างก็เปิดทางให้กับพวกเขา คนรอบ ๆ บอกได้เลยว่ามันไม่ฉลาดนักที่จะไปยั่วยุคนทั้งสี่นี้เพราะว่าพวกเขามีท่าทางที่น่ากลัว
ผู้พิทักษ์ทั้งสี่เดินอยู่ข้างข้างกัน พวกเขาเย็นชาเป็นปกติ ซึ่งทำให้พวกเขาดูเข้าถึงได้ยาก
ในตอนนี้เอง ชายชราที่มีผมชี้สี่คนในชุดขาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ถนน พวกเขายืนอยู่ข้าง ๆ กันและมาขวางทางผู้พิทักษ์ทั้งสี่เอาไว้ พวกเขาดูเหมือนว่ารออยู่ตรงนั้นมานานสักพักแล้ว
ชายชราทั้งสี่ดูปกติมาก ไม่มีใครที่มีพลังแห่งการมีอยู่เลย และพวกเขาก็ดูเหมือนคนธรรมดา พวกเขาไม่ได้เป็นที่สนใจเลยแม้ว่าพวกเขาจะยืนอยู่กลางถนนด้วยท่าทางแบบนั้น
ผู้พิทักษ์ทั้งสี่หยุดทันทีเพราะพวกเขาโดนขวางทาง พวกเขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่ชายชราทั้งสี่ แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ในตอนนี้เอง หนึ่งในชายชราก็ป้องมือไปที่พวกเขาแล้วพูดออกมา “พวกเราคือผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรหลงฉี ข้าขอถามได้ไหมว่าจอมยุทธทั้งสี่จากนิกายดาบโลหิตมาทำอะไรที่อาณาจักรหลงฉีของพวกเรา ? ” ชายชราพูดอย่างเฉยเมย น้ำเสียงของเขามีความเย็นชาและไม่ยอมโอนอ่อน
นิกายดาบโลหิตได้หายไปจากทวีปเทียนหยวนมาเป็นพันปีแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นเป็นหนึ่งในสามองค์กรลอบสังหารที่ยอดเยี่ยม ไม่มีจอมยุทธคนไหนในอาณาจักรที่จะเพิกกเฉยได้เมื่อทั้งสี่คนมาพร้อมในเวลาเดียวกัน ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเซียนผู้คุมกฎทั้งสี่ของอาณาจักรหลงฉีจึงมาเพื่อที่จะหยุดพวกเขาทันที
“พวกเราเป็นผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิต พวกเรามาเพื่อไล่ล่าผู้ทรยศต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์” ผู้พิทักษ์พูดอย่างไร้อารมณ์
“นี่คือเมืองหลวงของอาณาจักรหลงฉี ไม่มีใครที่เรียกว่าผู้ทรยศ ได้โปรดออกไปโดยเร็ว” ผู้พิทักษ์จักรพรรดิพูดอย่างไม่ประนีประนอม เขาไม่กลัวนิกายดาบโลหิตที่มีชื่อเสียงไม่ดี
“สิ่งที่นิกายดาบโลหิตทำไม่เคยถูกตัดสินจากคนอื่น” ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ยืนอยู่อย่างไร้อารมณ์ในขณะที่ดวงตาของพวกเขามีความเย็นชา จิตสังหารได้ปรากฏขึ้นมา พลังหยินชั่วร้ายที่อยู่ในตัวพวกเขาหนาแน่นขึ้น พวกเขาอยู่ในสภาวะที่พร้อมจะต่อสู้
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ไม่ต้องการที่จะยอมแพ้แน่ แต่ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็รู้สึกมากกว่านั้นขึ้นไปอีก
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่คิดที่จะยอมแพ้ทันทีเมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็ไม่ยอมเหมือนกัน พวกเรารู้ว่าถ้าพวกเขาไม่ทำแบบนั้น การต่อสู้กับผู้พิทักษ์ทั้งสี่จะต้องเกิดขึ้นแน่
“นี่คืออาณาจักรหลงฉีของพวกเรา ไม่ใช่ของนิกายดาบโลหิต ถ้าเจ้าต้องการให้มันเป็นแบบนั้น เจ้าก็คอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่จากไปทันทีหลังจากพูดจาข่มขู่ไป พลังหยินชั่วร้ายที่เฉพาะตัวของนิกายดาบโลหิตเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งทวีป ทุกคนกลัวมัน ดังนั้นผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่จึงไม่ต้องการที่จะพลาดพลั้ง
ในขณะที่พวกเขามองผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่จากไป ผู้พิทักษ์ก็พึมพำออกมา “พวกเขาดูเหมือนจะเกลียดพวกเรามาก”
“ในการลอบสังหารตลอดพันปีที่ผ่านมา พระราชาและผู้พิทักษ์จักรพรรดิสองคนตายด้วยน้ำมือของนิกายดาบโลหิต แน่นอนว่าพวกเขาไม่พอใจพวกเรา” ผู้พิทักษ์อธิบายออกมาอย่างไร้อารมณ์
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่รวมกันอยู่ในพระราชวัง ทั้งหมดเคร่งเครียด
“ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนของนิกายดาบโลหิตจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้งในอาณาจักรหลงฉี ช่วงพันปีที่ผ่านมา นิกายดาบโลหิตได้คร่าชีวิตผู้พิทักษ์จักรพรรดิ 2 คนไป พวกเราจะแก้แค้นให้พวกเขา”
“สามร้อยปีที่ผ่านมา ผู้พิทักษ์จักรพรรดิหลัวโตวได้ตัดผ่านเป็นเซียนราชาได้สำเร็จ เขาเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของจักรวรรดิเฟยลี่ในตอนนี้ ขณะที่หนึ่งในผู้พิทักษ์จักรพรรดิที่นิกายดาบโลหิตได้สังหารไปเป็นน้องเล็กสุดของหลัวโตว พวกเราควรจะติดต่อเขาเพื่อให้เขามาช่วยพวกเราทันที”
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ส่งคนผ่านประตูมิติไปที่จักรวรรดิเฟยลี่ทันทีเพื่อส่งข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับหลัวโตว
ในอีกมุมหนึ่ง ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิตก็พักอยู่ในโรงเตี้ยมในอาณาจักรหลงฉี พวกเขาทำสมาธิอยู่ตลอดวันโดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน พวกเขาพยายามที่จะสัมผัสให้ได้ถึงตำแหน่งที่แน่นอนของชายชราทั้งสอง ในขณะที่พวกเขารอให้หัวหน้านิกายมาถึง
ชายวัยกลางคนในชุดขาวนั่งอยู่บนเตียงใหญ่ภายในโถงที่ประดับอย่างสวยงามภายในจักรวรรดิเฟยลี่ พลังแห่งการมีอยู่ของเขาธรรมดาแต่ก็หนาแน่นและให้ความรู้สึกที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีผมที่เหมาะสมตามอายุเลย มันเป็นสีเทาทั้งหมดและมันทำให้ดูค่อนข้างแปลกเมื่อรวมกับใบหน้าของเขา
ชายคนนี้คือหลัวโตว เขาเป็นเซียนราชาและเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของจักรวรรดิเฟยลี่ในตอนนี้
ชายชราผิวเลือดฝาดยืนอยู่อย่างเคารพตรงหน้าเขา เขาเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิที่รีบมาจากอาณาจักรหลงฉี ในตอนนี้ เขารายงานหลัวโตวเกี่ยวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการปรากฏตัวขึ้นมาของผู้พิทักษ์ทั้งสี่จากนิกายดาบโลหิต
“นิกายดาบโลหิต ! ” หลัวโตวลืมตาขึ้นช้า ๆ สายตาของเขาเป็นประกายแหลมคมทันทีพร้อมกับพวยพุ่งไปด้วยความเกลียด
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิหลัวโตว คนของนิกายดาบโลหิตได้มาที่อาณาจักรหลงฉีของพวกเราอีกครั้ง ข้าอยากรู้ว่าพวกเราควรทำอย่างไร ได้โปรดชี้แนะพวกเราด้วย ผู้พิทักษ์จักรพรรดิหลัวโตว” ผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรหลงฉีพูด เขาป้องมือในขณะที่คำนับอย่างเคารพ
“ทำอย่างไรงั้นหรือ? แน่นอน ฆ่าพวกมัน แก้แค้นให้น้องเล็กของข้า” หลัวโตวพูดโดยไม่คิดเลย
“แต่หัวหน้านิกายดาบโลหิต…” ผู้พิทักษ์จักรพรรดิลังเล ความกลัวเต็มอยู่ในดวงตาของเขา
หลัวโตวออกมาจากเตียงแล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับหัวหน้านิกายแล้ว ตามที่ข้ารู้มา ฮุสตันเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงเขาหรอก ไม่มีใครที่ควรค่าให้จักรวรรดิเฟยลี่สนใจหรอกนอกจากฮุสตัน และถ้าฮุสตันเข้ามายุ่งจริง ก็มีบางคนจากจักรวรรดิเฟยลี่ที่สามารถหยุดเขาได้”
“ฮุสตันนำความรุ่งโรจน์มาสู่นิกายดาบโลหิตเมื่อพันปีที่ผ่านมา เมื่อเขาหายไปแล้ว ความรุ่งโรจน์ของนิกายดาบโลหิตก็จะเป็นแค่ประวัติศาสตร์”