บทที่ 2167 ความลับในจดหมาย
“ก็ไม่ได้คิดไว้ว่าเธอจะโดนจับมาหรอก จดหมายฉบับนี้ ไม่ว่าเธอจะเข้ามา หรือว่าฉันได้ออกไป ยังไงก็ต้องส่งให้เธออยู่ดี” ไห่ถังอธิบาย
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ชักช้าแล้ว รีบเปิดจดหมายออกดู
ต้องบอกเลยว่า ลายมือของจี้ซิวหร่านนั้นดีมาก ถ้าเอาลายมือตัวเองมาเทียบ คงกลายเป็นยันต์กันผีแน่ๆ
‘เรื่องของสายหลัก อย่าตามสืบอีก จำเอาไว้…อันที่จริง ฉันก็ไม่ได้มีความฝันที่ยิ่งใหญ่อะไร แค่อยากมีที่นาสักไร่ ใช้ชีวิตเรียบง่ายไปวันๆ ทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข’
ข้อความสั้นๆ ไม่กี่ประโยค ทำให้เยี่ยหวันหวั่นทึ่มทื่ออยู่ที่เดิม
ไม่ให้เธอตามสืบเรื่องของสายหลัก แถมยังมี ที่นาสักไร่…ใช้ชีวิตเรียบง่ายอีก…
เทพสวรรค์องค์ไหนก็ได้ช่วยร่อนลงจากฟ้ามาบอกเธอทีว่า จดหมายฉบับนี้ของจี้ซิวหร่าน หมายความว่ายังไงกันแน่ และอยากจะสื่อถึงอะไร
ทำไมถึงไม่ให้เธอตามสืบเรื่องของสายหลักล่ะ
ยังมีอีก ใช้ชีวิตเรียบง่ายมันหมายความว่ายังไง เธออ่านแล้วไม่เข้าใจเลยสักนิด
พูดกันอย่างยอมถอยให้หนึ่งก้าวแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีเหตุผล งั้นเหตุผลข้อนี้ ท้ายที่สุดก็ควรจะบอกมาสิ
เมื่อเห็นสีหน้าแปลกประหลาดของเยี่ยหวันหวั่น ไห่ถังก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “ทำไมล่ะ…เขียนอะไรไว้เหรอ”
“ไห่ถัง จดหมายฉบับนี้ที่จี้ซิวหร่านให้ฉัน เธอไม่เคยอ่านเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นถาม
พอได้ยินคำถามนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ไห่ถังก็ส่ายหน้า “ไม่เคยอ่าน จดหมายฉบับนี้จี้ซิวหร่านให้เธอ ฉันจะอ่านโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเธอได้ยังไง”
สำหรับนิสัยใจคอของไห่ถัง เยี่ยหวันหวั่นย่อมไม่นึกคลางแคลงใดๆ อยู่แล้ว
ดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นจึงยื่นจดหมายในมือให้ไห่ถัง “ไห่ถัง เธออ่านเอาเองเถอะ”
ไห่ถังเผยสีหน้าสงสัย รับจดหมายที่เขียนโดยจี้ซิวหร่านไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วของไห่ถังก็ขมวดเป็นปมแล้ว
“เธอ…อ่านแล้วเข้าใจไหมว่าจี้ซิวหร่านจะสื่อถึงอะไร” เยี่ยหวันหวั่นถามไห่ถัง
“เรื่องนี้…ฉันเองก็ไม่เข้าใจ” ไห่ถังส่ายหน้า
อยู่ดีๆ ทำไมจี้ซิวหร่านถึงโยงเข้าหาสายหลักแบบปุบปับกันล่ะ
อีกอย่าง ที่นาสักไร่ ทำธุรกิจเล็กๆ ใช้ชีวิตเรียบง่าย…หมายความว่ายังไงอีก บริบทนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการที่ไม่ให้เยี่ยหวันหวั่นไปตามสืบเรื่องของสายหลักต่อเลย
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจอย่างค่อนข้างจนปัญญา จี้ซิวหร่านทิ้งเกมทายปริศนาเอาไว้ให้เธอซะแล้ว…
แต่น่าเสียดาย สติปัญญาของเธอมีจำกัด จึงคิดไม่ออกเลยว่าจี้ซิวหร่านอยากบอกข้อมูลอะไรกับตัวเองกันแน่
พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว บอกมาตามตรงเลยไม่ดีกว่ารึไง
“จี้ซิวหร่านยังฝากคำพูดอะไรไว้ให้ฉันอีกไหม” เยี่ยหวันหวั่นถามต่อ
“ไม่มีแล้ว แต่ว่า…ที่สันนิษฐานกันไว้ตอนแรก เหมือนจี้ซิวหร่านจะบอกว่า ต้องมีคนลึกลับอยู่คนหนึ่ง ที่มีความเชื่อมโยงบางอย่างกับสายตรงอยู่เบื้องหลังแน่นอน และคนลึกลับคนนั้น น่าจะไม่ใช่คนของสายหลัก แต่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง…ถึงขั้นที่กำลังหลอกใช้สายหลักไปทำเรื่องบางอย่างให้สำเร็จด้วย” หลังจากไห่ถังใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง จึงเล่าออกมา
“คนลึกลับเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นใช้ความคิด คือคนลึกลับคนนั้นที่เนี่ยหลิงหลงไปพบตอนกลางดึกแบบที่ผู้อาวุโสสามบอก…และเป็นคนที่ต้องการชิงแหวนไปจากตัวเองมาโดยตลอดสินะ
คนลึกลับคนนั้น ใช่กองกำลังของสายหลักหรือไม่ อีกทั้งกำลังหลอกใช้สายหลักอยู่หรือเปล่า ในจุดนี้ เยี่ยหวันหวั่นไม่กล้าฟันธง และไม่ทราบแน่ชัด แต่ว่า มีอยู่ข้อหนึ่งที่จี้ซิวหร่านเดาได้ไม่ผิดแน่นอน
คนลึกลับติดต่อกับสายหลักจริงๆ และให้คนของสายหลักมาชิงแหวนของตัวเอง
ตามการคำบอกของจิ้ซิวหร่าน เยี่ยหวันหวันก็สันนิษฐานได้อีกเรื่องหนึ่ง
คนลึกลับคนนี้ต้องรู้แน่นอนว่าแหวนที่อยู่ในการครอบครองของเธอ คือตัวแทนอำนาจสูงสุดของเดธโรส ถ้าได้ครอบครองแหวนวงนี้ ก็จะสามารถบัญชาการเดธโรสได้ และกลายเป็นเอริคคนใหม่ของเดธโรส
———————————————————-
บทที่ 2168 กุญแจสำคัญ
แต่ว่า ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นนับว่าได้ทราบข้อมูลอันเป็นประโยชน์มาจากแม่ของเป่ยโต่วแล้ว
แหวนวงนี้ มีแค่คนของเดธโรสเท่านั้นที่รู้ว่ามันเป็นตัวแทนของอะไร และการได้ครอบครองแหวนก็เท่ากับว่าได้รับตำแหน่งผู้นำคนปัจจุบันของเดธโรสแล้ว ก็มีแค่คนที่สนิทกับเดธโรสเท่านั้นที่รู้
ที่จะกล่าวก็คือ คนลึกลับคนนั้น ต้องคุ้นเคยกับเดธโรสแน่นอน
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดอยู่นั้น ไห่ถังก็จ้องมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยเสียงเบาว่า “คิดอะไรออกแล้วใช่ไหม”
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็ส่ายหน้านิดๆ แล้วตอบไปว่า “ไม่เลย”
เพียงแต่ถ้าจะให้ระบุชี้ชัดว่าเป็นใครโดยใช้จดหมายฉบับนี้ ก็ดูเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
อย่าว่าแต่ระบุชี้ชัดเลย ตอนนี้ สรุปแล้วคนลึกลับคนนี้เป็นหญิงหรือชาย แก่หรือหนุ่ม สูงต่ำอ้วนผอม เยี่ยหวันหวั่นก็ยังไม่รู้เลยสักอย่าง
ตอนนี้ สิ่งที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวที่สุดคือ จดหมายที่จี้ซิวหร่านทิ้งไว้ให้เธอฉบับนี้ สรุปแล้วมีเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับคนลึกลับคนนี้ไหม
ถ้าไม่มี งั้นจี้ซิวหร่านอยากสื่ออะไรล่ะ หรือถ้ามี มันหมายความว่ายังไง เจาะจงไปที่อะไรกันแน่
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวไปหมดแล้ว
“ไห่ถัง ยังมีเบาะแสอย่างอื่นอีกไหม”
เยี่ยหวันหวั่นมองไห่ถังพลางเอ่ยถาม
ตอนนี้ ทุกสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่จี้ซิวหร่านทิ้งไว้ ต่างก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นกุญแจสำคัญ เยี่ยหวันหวั่นไม่อยากพลาดข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆ ไปทั้งนั้น
“อืม ก่อนหน้านี้ที่จี้ซิวหรานวิเคราะห์หาข้อสันนิษฐาน อารมณ์ไม่สงบนิ่งอยู่บ้าง ถึงขั้นที่ฉุนเฉียวเลย…เขียนอะไรไว้ตั้งเยอะ แต่ก็ถูกเขาฉีกทิ้งหมด”
ไห่ถังบอกกับเยี่ยหวันหวั่น
“กระดาษพวกนั้นที่ถูกฉีกทิ้ง ยังอยู่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นรีบถาม
ไม่รู้ว่าทำไม เยี่ยหวันหวั่นสังหรณ์ใจอยู่ตลอดว่า ในกระดาษที่ถูกจี้ซิวหร่านฉีกทิ้ง มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะทิ้งเบาะแสอันมีค่าบางอย่างไว้
“ยังไม่ได้เก็บกวาดหรอก ฉันจะพาเธอไปนะ”
….
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นกับไห่ถังก็มาถึงคลังทรัพยากร
“ที่นี่ก็คือคลังทรัพยากรที่ซือเซี่ยหาเจองั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นมองสำรวจด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“เธอรู้จักซือเซี่ยคนนั้นด้วยเหรอ” ไห่ถังเอ่ยถามไปเรื่อย
“อื้ม...” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า
“เขามีโชคไม่เลวเลย บังเอิญมาเจอคลังทรัพยากรตรงนี้เข้า ข้างในมีข้าวของที่เป็นประโยชน์ตั้งเยอะแยะ และที่มีเยอะที่สุดก็คือพวกยา” ไห่ถังเอ่ยยิ้มๆ
ระหว่างที่พูดคุยกัน ไห่ถังก็ไปหยิบเศษกระดาษทั้งหมดที่จี้ซิวหร่านฉีกทิ้งขึ้นมา
เมื่อเห็นเศษกระดาษที่ถูกจี้ซิวหร่านฉีกทิ้ง เยี่ยหวันหวั่นก็พูดไม่ออกอยู่บ้าง…
เป็นการฉีกทิ้งจริงๆ ละเอียดเกินไปแล้ว
“พวกเราเอาเศษกระดาษพวกนี้มาต่อเข้าด้วยกันอีกครั้งเถอะ ลองดูว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรบ้างไหม” ไห่ถังบอก
“ได้”
ขณะที่พูดคุยกัน เยี่ยหวันหวั่นและไห่ถังก็เริ่มลงมือแล้ว
ผ่านไปสักพัก เยี่ยหวันหวั่นกับไห่ถังก็สบตากันอย่างอับจนคำพูด
เรื่องนี้ดูเหมือนจะง่าย แต่ความจริงแล้วเป็นงานช้างงานหนึ่ง คิดจะนำเศษกระดาษขาดวิ่นพวกนี้มาต่อกันอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แต่เรื่องเดียวที่ยังโชคดีอยู่ก็คือ ลายมือของจี้ซิวหร่านนั้นเป็นระเบียบมาก จึงอ่านง่านอย่างยิ่ง
“เฮ้อ โชคดีนะ…นี่ถ้าเป็นฉันเขียนล่ะก็ ต่อให้เป็นพระเยซูมาเอง ก็คงกู้คืนไม่ได้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นส่ายหัว
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ไห่ถังก็หัวเราะเบาๆ
งมอยู่ทั้งคืน ตั้งแต่เที่ยงวันยันเช้าวันต่อมา เยี่ยหวันหวั่นกับไห่ถังอดตาหลับขับตานอนอยู่ตลอดคืน ในที่สุดก็ประกอบชิ้นส่วนเศษกระดาษที่จี้ซิวหร่านฉีกให้อยู่ในเค้าโครงเดิมได้แล้ว
จากนั้น พออ่านสิ่งที่จี้ซิวหร่านเขียนไว้บนกระดาษ เยี่ยหวันหวั่นก็งุนงงยิ่งกว่าเดิม
แม้แต่ไห่ถังก็ยังอ่านไม่เข้าใจ เกรงว่าเรียกใครมาดูก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว
เนื้อหาที่จี้ซิวหร่านเขียนไว้ มีความนัยบางอย่างจริงๆ แต่ความนัยที่แฝงอยู่นี้สื่อถึงอะไร กลับไม่มีใครเข้าใจเลย
‘ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแบบนี้…หรือว่า วิชาสะกดจิตจะไม่ได้ผล…บางที…คงเป็นเพราะสะกดจิตเป็นเวลานานเกินไป…ดังนั้นเลยจำทุกอย่างได้อีกครั้ง แล้วกลับมาในที่สุด…’
เมื่ออ่านเนื้อหาบนกระดาษ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่สามารถสงบใจได้อีก เพราะจับกุญแจสำคัญหลายอย่างได้แล้ว
วิชาสะกดจิต
เวลา
จำได้อีกครั้ง
กลับมา
———————————————————-