ตอนที่ 1035: ความรู้สึกของซาร์ ไคยุน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1035: ความรู้สึกของซาร์ ไคยุน

หลังจากที่ซาร์ ไคยุนเก็บความรู้สึกในใจมานาน ในที่สุดมันก็ระเบิดออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง ความนุ่มนวลและความดื้อรั้นที่ไม่เคยเปลี่ยนของนางได้สั่นไหวจิตใจของเฮาหวู่อย่างมาก

“ไคยุน มันเป็นข้าเองที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะเจอกับเจ้า ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะพบเจ้า ข้าเป็นคนที่ไม่สามารถชดเชยให้เจ้าได้ มันคือข้าเอง” เฮาหวู่สะอื้นอย่างเจ็บปวดในขณะที่เขาหลับตา ความโศกเศร้าเต็มไปทั่วใบหน้าของเขา

เลือดสีสดไหลออกมาจากมุมปากของซาร์ ไคยุนอย่างต่อเนื่อง นางยกมือที่ขาวเหมือนหยกของนางขึ้นมา แตะบนใบหน้าที่เปียกชุ่มของเฮาหวู่อย่างช้า ๆ ตาของนางไม่เย็นชาและไร้อารมณ์เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แทนที่กัน มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน นางพูดอย่างนุ่มนวล “เฮาหวู่ ข้าไม่โทษเจ้า ข้าไม่เคยโทษเจ้าและไม่เคยโกรธเจ้า เพราะว่าตอนนั้น ต่อหน้าตระกูลของข้า เจ้าไม่มีพลังพอที่จะต่อต้านได้ แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการหมั้นหมายของครอบครัวข้าได้”

“แต่มันต่างไปแล้วในตอนนี้ พวกเราทั้งคู่แข็งแกร่งมากแล้วในตอนนี้ พวกเราทั้งคู่มีอำนาจที่จะพูดและตัดสินใจต่อหน้าตระกูล เฮาหวู่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ารอเจ้ามาตลอดหลายปีนี้ รอที่จะได้อยู่กับเจ้า รอที่จะได้ใช้วันเวลาอย่างอิสระเหมือนก่อนหน้านี้ เจ้าปรารถนาที่จะอยู่กับข้าหรือไม่ตอนนี้ ? ” ซาร์ ไคยุนจ้องอย่างดื้อรั้นไปที่เฮาหวู่ นางตั้งหน้าตั้งตารอ

ในตอนนี้เอง ท้องฟ้าก็เงียบอย่างผิดปกติ นอกเหนือจากลมแรง ก็มีเพียงเสียงของเฮาหวู่และซาร์ ไคยุนเท่านั้น

เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดจากตระกูลทั้งแปดบินมา พวกเขายืนยู่เงียบ ๆ ไกล ๆ ในขณะที่พวกเขาเฝ้าดูเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ท่าทางของพวกเขาทั้งหมดสับสน ในขณะที่บางคนในกลุ่มจ้องเขม็งไปที่ซาร์ ไคยุน

น้อยคนนักในกลุ่มที่จะรู้เรื่องอดีตของซาร์ ไคยุน พวกเขาทั้งหมดพบว่ามันเหลือเชื่อที่ความรักของหัวหน้าตระกูลที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาที่มีให้เฮาหวู่นั้นลึกซึ้งเพียงใด และมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยหลังจากผ่านไปหลายพันปี

ซาร์ วีมอสยืนอยู่กับเซียนผู้คุมกฎหลายคนของตระกูลซาร์ ในขณะที่พวกเขาจ้องไปที่สองคนด้วยอารมณ์ที่สับสน ความเสียใจปรากฎขึ้นมา

ในตอนนั้น พวกเขาไม่สนใจคำขอร้องอย่างเจ็บปวดของซาร์ ไคยุน และบังคับให้พวกเขาทั้งสองแยกจากกัน นี่เป็นเพราะเฮาหวู่เป็นแค่ทหารรับจ้างที่มีพรสวรรค์เล็กน้อย เขาเดินทางไปทั่วทวีปอย่างไม่มีหลักแหล่ง และเขาไม่มีพื้นฐานที่ดี คนแบบนั้นจะมาเตะตาตระกูลซาร์ที่ควบคุมหนึ่งในเจ็ดเมืองหลวงได้อย่างไร ?

ในขณะเดียวกัน ซาร์ ไคยุนนั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูล นางมีพรสวรรค์ ฉลาด และงดงามมาก หัวหน้าตระกูลคนก่อนเห็นว่านางคือสมบัติของตระกูล พวกเขารักนางมาก แต่พวกเขาจะยอมให้คนของตระกูลที่น่าประทับใจขนาดนี้ไปแต่งงานกับทหารรับจ้างที่ไม่มีแม้แต่บ้านได้อย่างไร ? ดังนั้นเรื่องแบบนี้จึงเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตระกูลซาร์ไม่คิดเลยว่าทหารรับจ้างที่ถูกมองว่ามีพรสวรรค์เพียงเล็กน้อยจะมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เขาได้กลายเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่สุดยอดของทวีปในรอบหลายพันปีและกลายเป็นคนที่ตระกูลซาร์ยังจำเป็นต้องมองว่าสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ตระกูลซาร์ก็ได้ทำหลายอย่างที่ไม่สามารถชดเชยได้ให้กับเฮาหวู่ไป หลังจากความผิดพลาดที่พวกเขาได้ทำไปแล้ว มันก็ยากมากที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ตามมา ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเฮาหวู่ถึงอยู่ที่จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลซาร์นั้นยังคลุมเครือ มันไม่แน่ว่าความสัมพันธ์นั้นคือมิตรหรือไม่

อีกทั้ง ซาร์ วีมอสยังรู้ถึงความเกี่ยวข้องของเฮาหวู่ด้วย เขามีพลังพอที่จะแก้แค้นตระกูลซาร์ได้มาหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยทำมัน ทั้งหมดเป็นเพราะซาร์ ไคยุน

เจี้ยนเฉินเก็บยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่มีพลังแห่งการมีอยู่เหมือนคนปกติ เขาจ้องอย่างเงียบ ๆ ไปที่คนทั้งสองด้วยอารมณ์สับสนที่อยู่ในตาของเขา ตาของเขาเป็นประกายในขณะที่เขากำลังคิดถึงบางอย่าง

รุยจิน หงเหลียน เฮยยู่และผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิตอยู่เงียบ ๆ กับเจี้ยนเฉิน

เฮาหวู่หลับตาอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง ในขณะที่เขาฟังซาร์ ไคยุน เขาไม่ได้ตอบกลับแม้จะผ่านไปนานแล้ว

ซาร์ ไคยุนจ้องไปที่เขานานมาก ก่อนที่นางจะสลดใจ น้ำตาไหลอาบแก้มนางอย่างควบคุมไม่ได้ “เฮาหวู่ ข้ารู้ว่าเจ้ายังรักข้าอยู่ เจ้ารักข้ามาตลอด ใช่หรือไม่ ? “

เฮาหวู่พยักหน้าเบา ๆ โดยไม่ได้พูดอะไร

“เหตุผลหลักที่เจ้าไม่ปรารถนาที่จะอยู่กับข้าเป็นเพราะลูกสาวของเจ้าใช่หรือไม่ ? เจ้ากลัวว่าลูกสาวเจ้าจะไม่ยกโทษให้เจ้างั้นหรือ ? ” ซาร์ ไคยุนถามด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด

“ข้าขอโทษ ไคยุน ! ” เฮาหวู่ถูแก้มของไคยุนอย่างอ่อนโยนในขณะที่ความเจ็บปวดเต็มอยู่ในใจของเขา เขารักซาร์ ไคยุนมากมาตลอด แต่เขาไม่สามารถอยู่กับคนรักของเขาด้วยเพราะเหตุผลบางอย่าง เขาไม่แม้แต่มาพบนางในรอบสามพันปีนี้เลย

ปากของนางบิดไปด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่นางหลับตาอย่างช้า ๆ ด้วยท่าทางพอใจ นางพูดอย่างนุ่มนวล “เฮาหวู่ ข้าอาจจะอยู่กับเจ้าไม่ได้ แต่ข้าก็พอใจมากแล้วที่สามารถสัมผัสถึงอ้อมกอดของเจ้าได้อีกครั้ง” หลังจากนั้น ร่างของนางก็กระตุกทันที ทันใดนั้น เลือดก็พุ่งออกมาจากปากของนาง นางเริ่มซีดและท่าทางของนางก็ดูแย่ นางกำลังจะตาย

ท่าทางของเฮาหวู่เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาลืมตาขึ้นมาทันที ในขณะที่เขาจ้องไปที่ซาร์ ไคยุนอย่างเหลือเชื่อ เขาตะโกนออกไป “ไคยุน ไคยุน เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ ? เจ้ากำลังทำลายเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจของเจ้าอยู่ ทำไมเจ้าถึงได้ทำแบบนี้ ? “

“ในเมื่อการมีชีวิตอยู่หมายถึงความเจ็บปวด ข้าขอตายดีกว่า มันคงดีกว่าที่ต้องมาทรมานทุกวันแบบนี้ เฮาหวู่ ข้าหวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้งในภพหน้า” หน้าของนางซีดเผือด นางต้องการที่จะตายและไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในตอนนี้

หลังจากนั้น บอลสีเพลิงราง ๆ ก็ออกมาจากหัวของซาร์ ไคยุน นางกำลังใช้วิชาลับเพื่อเผาผลาญวิญญาณของนาง

“ไคยุน อย่า อย่างทำแบบนี้…” เฮาหวู่หน้าซีดและเต็มไปด้วยความตกใจ เขานิ่งอึ้งเพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันกะทันหันเกินไป

“ไคยุน หยุด ! ” ซาร์ วีมอสก็หน้าซีด ในขณะที่เขาร้องออกมาอย่างตกตะลึง

“หัวหน้าตระกูล…” เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดตกใจเช่นกัน ในขณะที่พวกเขาร้องออกมาอย่างเศร้าโศก

ท่าทางของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ในขณะที่เขายืนอยู่แต่ไกล เขาหัวไปหารุยจินแล้วพูด “ผู้อาวุโสรุยจิน ได้โปรดหยุดนางด้วย”

รุยจินพยักหน้าและไปถึงตรงหน้าซาร์ ไคยุนอย่างเงียบเงียบ เขาผลักฝ่ามือไปที่หัวของนาง

“อย่าทำร้ายไคยุนนะ ! ” เฮาหวู่คิดว่ารุยจินต้องการที่จะฆ่าซาร์ ไคยุน เขาจึงพยายามที่จะป้องกันการโจมตีทันที ในขณะที่เขาตะโกนออกมา

“ถ้าเจ้าไม่ต้องการที่จะให้วิญญาณของนางหายไปละก็ อย่ายุ่ง” รุยจินคำรามออกมา มือซ้ายของเขาทำรูปผนึก และเขาก็ร่ายทักษะลับของตระกูลมังกรเพื่อที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของเฮาหวู่ ฝ่ามือขวาของเขายังพุ่งไปที่หัวของซาร์ ไคยุนอย่างไม่ปราณี

รุยจินดับบอลเพลิงที่อยู่ที่หัวของนางทันที และหยุดไม่ให้วิญญาณของนางเผาไหม้ รุยจินได้ขัดขวางการพยายามฆ่าตัวตายของนาง แต่วิญญาณของนางก็ได้รับบาดเจ็บอย่างมาก นางไม่ได้สติ

เฮาหวู่หลุดเป็นอิสระอย่างรวดเร็ว เขาถอยไปอย่างไวเพื่อออกห่างจากรุยจินพร้อมกับซาร์ ไคยุนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ในขณะที่เขาเขย่านางอย่างต่อเนื่อง “ไคยุน ไคยุน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? “

ซาร์ วีมอสก็มาถึงตรงหน้าเฮาหวู่ ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ในขณะที่เขาจ้องอย่างเจ็บปวดไปที่ซาร์ ไคยุนที่หมดสติ เขาเต็มไปด้วยความเสียใจกับการตัดสินใจที่เขาได้ทำไปเมื่อหลายปีก่อน

“วิญญาณของนางได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนนี้ และนางยังไม่ได้สติ พร้อมกับเรื่องที่นางต้องการเพียงที่จะตายเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะฟื้นขึ้นมาได้ในเวลาอันสั้น” รุยจินพูดอย่างเฉยเมย ในขณะที่เขามองเขม็งไปที่ซาร์ ไคยุน