บทที่ 2189 ใครกันแน่ที่เป็นปีศาจตัวจริง
พอสิ้นเสียงของซือเซี่ย สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็ปกคลุมด้วยสีขาวซีดทันที
“อู๋โยว”
ทันใดนั้น ไห่ถังที่อยู่ด้านหลังเยี่ยหวันหวั่นก็พลันก้าวเข้ามา แล้วเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่นว่า “ถ้าเธอไม่มีความทรงจำในส่วนนี้ ก็ไม่ต้องเชื่อเขาหรอก”
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นมีโอกาสพูด ไห่ถังก็เอ่ยต่อไปว่า “อู๋โยว มิตรภาพระหว่างพวกเราถึงขั้นไหนกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างรู้จักกันดี ถ้าเธอทำอย่างที่เขาว่าจริงๆ ฆ่าคุณตาของเธอด้วยตัวเอง เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่มีข่าวลือแพร่ออกไปเลย อย่าไปเชื่อเขา!”
พอได้ยินคำพูดของไห่ถัง สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นถึงได้ดีขึ้นมาเล็กน้อย
ก็จริง ตอนนี้เธอไม่มีความทรงจำในส่วนนี้เลย สรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ยังคงอ้างอิงจากปากซือเซี่ยไปทั้งหมดไม่ได้
ซือเซี่ยบอกว่าตัวเองฆ่าคุณตา แบบนั้นก็ต้องเป็นตัวเองที่ฆ่างั้นเหรอ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!
“นายไม่ได้พูดความจริง ถูกไหม” เยี่ยหวันหวั่นจ้องซือเซี่ยด้วยสายตาเย็นเยียบ
“เฮอะ เนี่ยอู๋โยว เธอมีใจทะเยอทะยานมากเกินไปจริงๆ เธออยากปกครองรัฐอิสระทั้งรัฐ…เธออยากให้ทุกอย่างสยบอยู่ใต้เท้าของตัวเอง แต่ผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คุณตาของเธอ เขาขัดขวาง…แต่เธอกลับสูญเสียมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานไปแล้ว ลงมือฆ่าคุณตาของเธอด้วยตัวเอง ใช่ไหมล่ะ” ซือเซี่ยยิ้มเยาะพลางเอ่ยออกมา
“พูดเหลวไหลที่นี่ให้น้อยๆ หน่อยเถอะ!”
ไห่ถังมองซือเซี่ย แล้วตวาดใส่ด้วยความโกรธ
ไห่ถังรู้จักเนี่ยอู๋โยวดี ถ้าเนี่ยอู๋โยวมีใจทะเยอทะยานจริง ปีนั้น เธอคงจะอยู่ในกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ รอรับช่วงต่อตำแหน่งผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ในอีกไม่ช้า แล้วทำไมต้องออกไปก่อตั้งพันธมิตรอู๋เว่ยด้วย
หรือจะบอกว่า อำนาจของผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ ยิ่งใหญ่สู้ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยไม่ได้กันล่ะ?!
“ซือเซี่ย นายพูดโกหกได้เต็มปากจริงๆ” เยี่ยหวันหวั่นไม่นึกใส่ใจคำพูดของซือเซี่ยเลย
เธอมีใจทะเยอทะยานมากงั้นเหรอ
มากจนฆ่าคุณตาแท้ๆ ของตัวเองได้โดยไม่นึกเสียใจ ต้องการเหยียบย่ำรัฐอิสระเอาไว้ใต้เท้าตัวเองงั้นเหรอ?!
ไปดูสมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยสิ เป่ยโต่ว ผู้อาวุโสสาม ยังมีพวกผู้อาวุโสใหญ่กับหัวหน้าสาขาหลายคนนั้นอีก มีคนไหนบ้างที่ได้เรื่องได้ราวพึ่งพาได้บ้าง ครอบครองรัฐอิสระงั้นเหรอ…จะใช้อะไรล่ะ ใช้แค่พันธมิตรอู๋เว่ยรึไง
อีกอย่าง ในความทรงจำที่กลับคืนมาของเยี่ยหวันหวั่น ก็ไม่ปรากฏรายละเอียดใดๆ ของความทรงจำในส่วนนี้เลยว่าเธอมีความต้องการจะครอบครองรัฐอิสระ
ทั้งหมดที่ซือเซี่ยพูด ไม่มีมูลเลยทั้งเพ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นล้วนๆ!
“โอ้…ที่แท้เธอไม่ได้คิดจะครอบครองรัฐอิสระงั้นเหรอ งั้นฉันก็สงสัยมากจริงๆ ว่าสรุปแล้วเธอฆ่าคุณตาทำไมกัน…หรือว่า เป็นเพราะคุณตาขัดขวางไม่ให้เธออยู่กับซือเยี่ยหาน ในใจเธอก็เลยเกิดความเกลียดแค้น ดังนั้นเลยฆ่าเขาสินะ” ซือเซี่ยยิ้มนิดๆ แล้วพูดออกมา
“อู๋โยว เธอฟังเอาเถอะ เขาก็แค่พูดเหลวไหลอยู่ ตอนนี้เขากำลังก่อกวนความรู้สึกนึกคิดของเธออยู่อย่าหลงกลนะ” ไห่ถังมองไปที่เยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยขึ้น
“พี่ไห่ถัง ฉันรู้ค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าให้ไห่ถังเล็กน้อย
“ซือเซี่ย นายพล่ามเรื่องนี้ให้มันน้อยๆ หน่อย ถ้าวันนี้นายไม่พูดความจริงออกมา ก็อย่าฝันว่าจะออกไปได้!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพร้อมกับชี้หน้าซือเซี่ย
ในมุมมองของเยี่ยหวันหวั่น น่าจะเป็นซือเซี่ยที่ทรยศคุณตาของตัวเอง เข้ายึดอำนาจ กลายเป็นผู้ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของรัฐอิสระ ต่อมาก็คิดจะตัดรากถอนโคน ดังนั้นถึงได้ตามฆ่าตัวเอง
หากว่าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นทุกอย่างก็มีคำอธิบายที่สมบูรณ์แบบแล้ว
“ฮ่าๆ …เนี่ยอู๋โยว เธอละเอียดรอบคอบนักไม่ใช่เหรอความสามารถในการอนุมานก็เก่งมาก ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็คิดดูให้ละเอียดสิ ในช่วงเวลานี้สรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น…เธอไม่มีความทรงจำในส่วนนี้ จริงๆ แล้วเป็นเพราะเธอจำไม่ได้ หรือว่าเธอไม่อยากจำกันแน่…ใครกันแน่ที่เป็นปีศาจตัวจริง เธอเองรึเปล่า”
——————————————————————–
บทที่ 2190 สงบนิ่งเกินไปแล้ว
“ดูเหมือนว่า นายไม่คิดจะพูดความจริงสินะ” เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่ซือเซี่ย
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ซือเซี่ยกลับยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง “เนี่ยอู๋โยว เธอคิดจริงๆ เหรอว่าเธอจะสามารถช่วยคนบนเกาะนี้ออกไปได้…เธอกำลังจะช่วยคน หรือกำลังจะฆ่าคนกันแน่”
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นได้พูดอะไร ซือเซี่ยกลับไหวกายเล็กน้อย พุ่งทะยานเข้าไปในความมืดมิด เพียงพริบตาเดียว ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
“อู๋โยว...มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
หลังจากเห็นว่าซือเซี่ยไปแล้ว ไห่ถังที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยถามเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นกับผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คนนั้น คล้ายจะรู้จักกันอยู่บ้าง ทั้งสองดูไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกัน
สำหรับเรื่องนี้ เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ส่ายหน้า เรื่องนี้ พูดแล้วซับซ้อนเกินไป ไม่สามารถเล่าให้กระจ่างได้ด้วยถ้อยคำสั้นๆ
“ไปตามหาซือเซี่ยเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นบอกไห่ถัง
“ได้” ไห่ถังตอบรับทันที
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นและไห่ถังจึงได้ออกตามหาซือเซี่ยในรอบนอกของเกาะ
เพียงแต่เกาะแห่งนี้กว้างใหญ่เกินไป เยี่ยหวันหวั่นและไห่ถังจึงตามหาซือเซี่ยไม่พบอีกเลย
“ไห่ถัง เรื่องนี้ อย่าเพิ่งพูดออกไปนะ กันไม้ให้ส่งผลกระทบต่อกำลังใจของทุกคน”
ก่อนที่ทั้งสองจะแยกกัน เยี่ยหวันหวั่นก็ได้เอ่ยกำชับไห่ถัง
ถ้าให้คนอื่นรู้ว่าผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ปรากฏตัวขึ้นบนเกาะ แถมยังรู้เรื่องที่ทุกคนจะหนีออกจากเกาะด้วยล่ะก็…
“ฉันเข้าใจ” ไห่ถังพยักหน้ารับ
….
รุ่งเช้าวันต่อมา เยี่ยหวันหวั่นไปหาซือเยี่ยหาน และเล่าเรื่องของซือเซี่ยเมื่อคืนนี้ให้ซือเยี่ยหานฟังทุกอย่าง
หลังจากรู้เรื่องนี้แล้ว ซือเยี่ยหานกลับไม่ได้แปลกใจมากนัก
“คุณเก้า คงไม่ใช่ว่าคุณรู้อยู่แต่แรกแล้วใช่ไหมว่าซือเซี่ยคือผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์” เยี่ยหวันหวั่นมองซือเยี่ยหาน พลางมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย
พอได้ยินคำถามของเยี่ยหวันหวั่น ชายหนุ่มจึงส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ไม่รู้”
เยี่ยหวันหวั่นนึกในใจ ไม่รู้แล้วยังสงบนิ่งได้ขนาดนี้อีก นั่นเป็นหลายชายแท้ๆ ของเขานะ!
“ตอนที่อยู่จีน ฉันเคยบอกเธอไว้แต่แรกแล้วว่าอย่าไว้ใจเขา” ซือเยี่ยหานมองเยี่ยหวันหวั่น
“คุณรู้อะไรมา” ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความอยากรู้
“ฉันเคยตรวจสอบเขาแล้ว” ซือเยี่ยหานเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถึงได้เปิดปากเล่า “เขาเข้าออกรัฐอิสระอยู่เนืองๆ อีกอย่าง อีกอย่างด้วยความสามารถของฉัน กลับยังไม่สามารถตรวจสอบฐานะที่แท้จริงของเขาได้”
สำหรับซือเซี่ย ซือเยี่ยหานนึกสงสัยและระแวงมานานแล้ว ดังนั้น แม้ว่าตอนนี้จะทราบว่าซือเซี่ยคือผู้นำของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ ซือเยี่ยหานก็ไม่ตกใจเลย
อีกอย่าง ปีนั้นซือป๋ออี้พาซือเซี่ยกลับมาที่รัฐอิสระ ก็ได้ใช้ซือเซี่ยเป็นเครื่องต่อรอง ต้องการกลับสู่ตระกูลซือ แต่ซือเซี่ยกลับทดสอบไม่ผ่านเกณฑ์ เรื่องนี้ซือเยี่ยหานก็ทราบชัดเจนดี
ซือเยี่ยหานไม่เคยเห็นซือป๋ออี้อยู่ในสายตาเลย มีเพียงซือเซี่ยหลานชายคนนี้ของเขา ที่เก็บงำอำพรางไว้ได้ล้ำลึกสุดขีด
“งั้นตอนนี้จะทำยังไงดี ซือเซี่ยรู้แผนการของพวกเราแล้ว ถ้าถึงเวลา…” เยี่ยหวันหวั่นเป็นกังวลอยู่บ้าง
สำหรับเรื่องนี้ ซือเยี่ยหานกลับไม่กังวลเลย จึงตอบไปว่า “เกาะแห่งนี้ปิดกั้นสัญญาณทุกอย่าง อุปกรณ์สื่อสารไม่สามารถใช้งานได้ และจากเกาะกลับไปถึงรัฐอิสระ ต้องใช้เวลาถึงสองวัน ต่อให้ซือเซี่ยรู้แผนการของพวกเรา และเขาอยากจะขัดขวางก็ไม่ทันการหรอก”
พอได้ยินซือเยี่ยหานพูดแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นถึงได้วางใจแล้ว
….
พริบตาเดียวก็ผ่านมาสามวันแล้ว
ตามกำหนดการ เยี่ยหวันหวั่นและพวกขาใหญ่ ได้จุดกองไฟขึ้นทั่วทั้งเกาะ ใช้เวลาไม่นาน ทั้งเกาะก็เต็มไปด้วยควันหนาทึบแล้ว
“ไป๋เฟิง เธออย่าหลอกพวกเราเชียวนะ ถ้าถึงเวลาแล้วไม่มีเรือมารับ พวกเราต้องโดนรมควันตายกันหมดแน่”
—————————————————————————————