อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1165 นึกไม่ถึงว่าจะมีวิญญาณอยู่จริงๆ
“แค่สัตว์อสูรกลุ่มหนึ่งก็กล้าอวดดี คอยดูข้าสังหารพวกเจ้าละกัน”
ลูกศิษย์กองกำลังทหารกล้าของตระกูลไป๋หลี่แบ่งแยกกลุ่มกับผู้อาวุโส กลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มโจมตีหลัก อีกกลุ่มเป็นกลุ่มป้องกันหลัก
เจ้าเสือน้อยเปลี่ยนเป็นตัวใหญ่ในพริบตา คำรามด้วยความโกรธเคืองทีหนึ่ง ยกกรงเล็บเสือประทับลงไปทางลูกศิษย์ไม่กี่คนที่วิ่งพุ่งสังหารเข้ามาก่อนอย่างรุนแรง
กรงเล็บเสือประทับลงไป เหล่าลูกศิษย์กองกำลังทหารกล้าเหล่านั้นก็ถูกตบจนเป็นขนมเปี๊ยะเนื้อ แม้แต่ศพก็จำไม่ได้
เสือมีความเร็วมาก แล้วเจ้าเสือน้อยก็เป็นพยัคฆ์ดำโบราณอีก มันโผเข้าใส่บ้าง กัดบ้าง ฉีกบ้าง ตะปบบ้าง ทุกครั้งที่เข้าไป ก็ล้วนสามารถทำให้ลูกศิษย์ไม่กี่คนตายไปตรงนั้นได้ทันที
ผู้อาวุโสของตระกูลไป๋หลี่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก ให้คนตั้งค่ายกลทันที เพื่อจัดการเจ้าเสือน้อยก่อน
เจ้าสิงโตน้อยและสัตว์อสูรอื่นๆก็แทบจะลงมือพร้อมกัน เหล่าสัตว์อสูรต่างแสดงอภินิหารแต่ละอย่างออกมา แล้วพุ่งเข้าไปโดยไม่กลัวตาย
กระทิงไฟเก้าเขาก็นำสัตว์อสูรกลุ่มหนึ่งพุ่งสังหารเข้ามาแล้วเช่นกัน
มันยังมาไม่ถึง ไฟแท้ก็พ่นเข้ามาแล้ว
เปลวเพลิงปะทุแผ่กว้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน พุ่งไปทางเหล่าลูกศิษย์ที่กำลังตั้งค่ายกล
เปลวไฟมาอย่างกะทันหันเกินไป
อีกทั้งเปลวไฟของกระทิงไฟเก้าเขาก็เป็นไฟแท้อีกด้วย ดับยากเป็นที่สุด และต้านทานยากเป็นที่สุด
ลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่ถูกโจมตีจนตั้งตัวไม่ทัน
แต่พวกเขาก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี แม้ว่าร่างกายจะถูกไฟไหม้แต่ก็ตั้งค่ายกลได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ทว่า…
การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือจะปล่อยให้มีความสะเพร่าแม้แต่น้อยได้อย่างไร
เจ้าสิงโตน้อยและคนอื่นๆฉวยโอกาสจากช่องว่างนี้ พุ่งสังหารเข้าไปแล้ว ลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่มากมายตายภายใต้เงื้อมมือปีศาจของพวกมัน
ลูกศิษย์คนอื่นๆคิดจะตั้งค่ายกลสำรอง
แต่กู้ชูหน่วนทางนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอ
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า โจมตีออกไปเป็นชุดๆเช่นกัน
ผู้ใดต้องการจะตั้งค่ายกลสำรอง พวกเขาก็โจมตีผู้นั้นโดยเฉพาะ ทำให้พวกเขาไม่มีทางตั้งค่ายกลได้
สองสามครั้งที่จัดตั้งค่ายกลขึ้น ก็ไม่มีวิถีทางเปลี่ยนค่ายกลให้สำเร็จได้เลย เหล่าผู้อาวุโสตระกูลไป๋หลี่สั่งให้พวกเขาสลายตัวจากกลุ่มก้อนเป็นคนเดี่ยวๆ นำเหล่าลูกศิษย์ไปสังหารพวกเขาก่อน
สถานการณ์เริ่มโกลาหลขึ้น
เจ้าเสือน้อยกัดลงไปทีละคำๆ กัดไปที่คอของพวกเขาโดยเฉพาะ
และกัดพวกผู้อาวุโสโดยเฉพาะอีกด้วย
ทำให้เหล่าผู้อาวุโสโกรธจนกัดฟันกรอด
ไอ้ลูกเสือน้อยตัวนี้ เป็นเพียงแค่ลูกสัตว์ที่เพิ่งเกิดออกมาได้ไม่นานเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าศักยภาพจะถึงระดับสี่แล้ว
น่าโมโหที่สุดก็คือ ความเร็วของมันยังจะเร็วซะยิ่งกว่ายอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับห้าซะอีก
หากให้เวลาพวกเขา พวกเขาก็สามารถที่จะจัดการเจ้าเสือน้อยได้ แต่บังเอิญตอนนี้เวลาไม่มาก
กู้ชูหน่วนเห็นเจ้าเสือน้อยสังหารด้วยความสะใจ ยิ่งฆ่าก็ยิ่งตื่นเต้น
นางตะโกนกล่าวว่า “เจ้าเสือน้อย เรื่องสำคัญต้องลงมือเร่งด่วน”
เจ้าเสือน้อยคำรามเสียงหนึ่ง ฉีกผู้อาวุโสผู้หนึ่งออกเป็นสองท่อนอีกครั้ง ทันทีที่อุ้งเท้าเสือกระโจนก็มาถึงเบื้องหน้าของกู้ชูหน่วนทันที บรรทุกกู้ชูหน่วนขึ้นมา จอมมาร กระทิงไฟเก้าเขาและสัตว์อสูรระดับสูงตัวอื่นๆอีกไม่กี่ตัว ก็พุ่งไปทางส่วนลึกของเขตต้องห้ามด้วยความรวดเร็ว
ผู้อาวุโสที่น่าสงสารเหล่านั้นอยากจะขัดขวางก็ไม่ทันแล้ว
เพราะว่าเจ้าสิงโตน้อยคุ้มกันเส้นทางการเดินของพวกเขาไว้ เส้นทางที่พวกเขาได้เข้าไปจึงถูกสกัดกั้น
“โฮกโฮก…”
เจ้าเสือน้อยวิ่งด้วยความรวดเร็ว ในพริบตาเดียวก็มาถึงส่วนลึกของเขตต้องห้ามแล้ว
หน้าประตูเขตต้องห้ามมีผู้อาวุโสเฝ้าคุ้มกันอยู่ไม่กี่คน กระทิงไฟเก้าเขาและราชางูเห่าควบคุมพวกเขาไว้
กู้ชูหน่วนและเจ้าเสือน้อยเข้าไปในส่วนลึกของเขตต้องห้าม
เหลือบตามองไป ไป๋หลี่ป้ารวมทั้งผู้เฒ่าผมขาวโพลนเจ็ดคนกำลังร่วมกันออกแรง ร่ายเวทมนตร์ดำต่อวิญญาณโปร่งใสดวงหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง
ผู้เฒ่าผมขาวโพลนเจ็ดคนนั่นดูเหมือนคนที่อายุมากกว่าเจ็ดสิบปีแล้ว กระทั่งยังถึงหนึ่งร้อยปีขึ้นไปอีกด้วย
แต่พวกเขาดูมีกำลังวังชาดีมาก
ไม่มีลักษณะของความแก่ชราสักนิด
หากบอกว่ามี นั่นก็เพราะสิ้นเปลืองพลังยุทธนานเกินไป สีหน้าจึงซีดขาวเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนกวาดตามองพวกเขาแวบหนึ่ง แล้วสายตาก็ชำเลืองมองไปยังวิญญาณที่โปร่งใสตรงกลางดวงนั้น
มีความรู้สึกเหมือนเคยรู้จักกับวิญญาณดวงนี้ กลิ่นอายเหมือนกับวิญญาณสามดวงที่สถิตอยู่ตรงหน้าผากของนางเป็นที่สุด
ม่านตาของกู้ชูหน่วนหดลงเล็กน้อย
นางจะรู้ได้อย่างไรว่าจะมีวิญญาณอีกดวงหนึ่งอยู่ที่ตระกูลไป๋หลี่ ก่อนหน้านี้ก็แค่พูดเพ้อเจ้อไปเท่านั้น
คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นวิญญาณของผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ตระกูลไป๋หลี่โดยไม่คาดคิดจริงๆ