ตอนที่ 999 ให้ความสำคัญมากพอ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ขณะเดินลงไปตามทางเดิน สีหน้าของฉินอวี้โม่ยังคงเรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใดและไม่มีร่องรอยของความกังวลแม้แต่น้อย

“ฉินอวี้โม่ ข้าไม่เข้าใจเจ้าจริง ๆ ทั้งที่รู้ว่ามีอันตรายรออยู่ข้างหน้า แต่เจ้ากลับดูผ่อนคลายยิ่งนัก เจ้าไม่กังวลสิ่งใดเลยจริง ๆ รึ ?”

ฮวาหรงเดินตามหลังฉินอวี้โม่อย่างใกล้ชิดและขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อตระหนักว่าตนไม่สามารถคาดเดาความคิดของฉินอวี้โม่ผู้นี้ได้เลย

แม้ทราบอย่างชัดเจนว่ามีวิกฤตร้ายรออยู่ข้างหน้า ทว่าฉินอวี้โม่กลับไม่แสดงความหวาดหวั่นหรือความกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น ด้วยการที่ไพ่ตายหลายอย่างของนางถูกเปิดเผยออกไป ฮวาหรงย่อมเตรียมความพร้อมในการรับมือกับนางเป็นอย่างดี ไม่อาจทราบได้เลยว่าฉินอวี้โม่ไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใด !

“เหอะ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลหรอก ฮวาหรง เจ้าก็แค่ติดต่อกับคนจากจอมยุทธ์ปีศาจและเรียกคนพวกนั้นมาเพื่อจัดการกับข้าเท่านั้น บอกตามตรง นอกจากว่าผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจมาที่นี่ด้วยตัวเอง ข้าก็ไม่ได้เห็นคนอื่น ๆ อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย และต่อให้ผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจจะมาที่นี่ด้วยตนเองจริง ๆ ข้าก็มั่นใจว่าจะเอาตัวรอดออกไปได้แน่ เพราะฉะนั้น การที่ข้ายอมมาในวันนี้ก็เพียงเพราะอยากจะรู้เท่านั้นว่าเจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่”

ฉินอวี้โม่ยิ้มบาง ๆ และกล่าวไปตามความจริงด้วยสีหน้าแววตาที่มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

“หึหึ การที่มีความมั่นใจมากเกินไปก็มิใช่เรื่องที่ดีหรอก จอมยุทธ์ปีศาจไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เจ้าคิด ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว วันนี้เจ้าก็อย่าหวังว่าจะรอดชีวิตกลับไปได้ !”

ฮวาหรงหัวเราะในลำคอและความมุ่งร้ายปรากฏชัดเจนในแววตา วาจาของฉินอวี้โม่ทำให้นางคาดเดาว่าอีกฝ่ายอาจจะมีไพ่ตายอื่นซ่อนไว้ อย่างไรก็ตาม ครานี้พวกนางและจอมยุทธ์ปีศาจเตรียมความพร้อมมามากมายซึ่งมิใช่สิ่งที่ฉินอวี้โม่จะรับมือได้อย่างแน่นอน ครานี้ฉินอวี้โม่จะไม่มีทางรอดชีวิตกลับไปได้แน่ !

ในขณะสาดวาจาตอบโต้กันอยู่นั้น ทางเดินคดเคี้ยวก็มาถึงจุดสิ้นสุดและทั้งสองปรากฏตัวในหุบเขาแห่งหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าทางเดินในถ้ำบนยอดเขาของภูเขาจันทราจะทอดยาวมาจนถึงหุบเขาที่อยู่ใกล้เคียงเช่นนี้

“เหอะ กล้ามาจริง ๆ สินะ !”

น้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้นก่อนบุรุษชุดดำที่สวมผ้าคลุมบดบังใบหน้าของจอมยุทธ์ปีศาจจำนวนนับร้อยจะปรากฏกายรอบบริเวณ ผู้ที่เป็นหัวหน้าทุกคนในครานี้แข็งแกร่งอย่างมากและไม่ด้อยไปกว่าสือโหลวมากนัก กล่าวได้ว่าเขามีพลังในระดับที่ใกล้เคียงกับฮวาฟางเฟย

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ จอมยุทธ์ปีศาจเก็บตัวซุ่มฝึกวิชามาตลอดและแน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งอยู่มากมาย ภายในจอมยุทธ์ปีศาจมีผู้อาวุโสอยู่แปดคนด้วยกันซึ่งแต่ละคนล้วนมีความแข็งแกร่งที่ทัดเทียมได้กับผู้นำสูงสุดของสามสำนักและเก้านิกายในดินแดนมหาเทพ และครานี้ผู้ที่เป็นหัวหน้าคือผู้อาวุโสสี่ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในอันดับกลาง ๆ นั่นเอง

“พวกเจ้าจอมยุทธ์ปีศาจไม่เคยกล้าสู้หน้าผู้คนจริง ๆ การที่โผล่มากลางวันแสก ๆ เช่นนี้ทว่ายังสวมอาภรณ์สีดำและผ้าคลุมปิดบังใบหน้าอีก พวกเจ้าคงกลัวว่าคนอื่นจะเห็นใบหน้าที่อัปลักษณ์ของพวกเจ้าสินะ ?”

ฉินอวี้โม่ยกยิ้มบาง ๆ ขณะอสูรมายานับสิบตัวปรากฏข้างกายเพื่อประจันหน้ากับอีกฝ่าย

“หยุดพูดพล่ามเรื่องไร้สาระ ฉินอวี้โม่ วันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย !”

เมื่อถูกกล่าววาจาเยาะเย้ยโดยฉินอวี้โม่ สีหน้าของผู้อาวุโสสี่—เสียซื่อ ก็บิดเบี้ยวเหยเกทันที เขาไม่รอช้าและโบกมือออกไปเล็กน้อยเพื่อปล่อยก้อนพลังมายารุนแรงตรงไปที่ฉินอวี้โม่อย่างรวดเร็ว

สีหน้าของฉินอวี้โม่ก็ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยและยังไม่คิดลงมือทำสิ่งใด ทว่าในเวลานี้เอง ซิวก็ปล่อยก้อนพลังมายาออกไปประจันหน้ากับพลังจากฝ่ามือของเสียซื่อและทำให้มันสลายหายไปในอากาศ

“อะไรกัน ชายแก่เสียอวิ๋นนั่นไม่กล้ามาที่นี่ด้วยตนเองงั้นรึ ?”

ซิวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและไม่เห็นบุรุษตรงหน้าอยู่ในสายตาเลยสักนิด

“เหอะ ก็แค่จัดการกับพวกเจ้า ท่านผู้นำไม่จำเป็นต้องออกโรงด้วยตัวเองหรอก”

เสียซื่อแค่นเสียงในลำคอ เขาทราบดีว่าซิวคือไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉินอวี้โม่ เขาจึงไม่แปลกใจแต่อย่างใด

“ข้าทราบดีว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่พลังของเจ้ายังไม่ฟื้นฟูถึงระดับสูงสุด เจ้าอาจจะร่วมมือกันเพื่อกำราบท่านมังกรกระดูกดำได้สำเร็จจนต้องหลบหนีกลับไป ทว่าสิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับพวกข้า วันนี้พวกข้าจะฆ่าฉินอวี้โม่ให้จงได้และนำจิตวิญญาณของเจ้ากลับไป เมื่อถึงตอนนั้น ท่านมังกรกระดูกดำก็จะฟื้นฟูพลังความแข็งแกร่งกลับคืนสู่สภาวะสูงสุดได้และดินแดนมหาเทพแห่งนี้ก็จะตกเป็นของพวกเราจอมยุทธ์ปีศาจ !”

เขาโบกมือออกไปข้างหน้าและสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจคนอื่น ๆ ก็ตรงเข้าโจมตีฉินอวี้โม่ ซิวและอสูรมายาตัวอื่น ๆ ทันที

“เหอะ อยากรู้ยิ่งนักว่ามดปลวกอย่างพวกเจ้าจะมีพลังสักเพียงใด !”

เสี่ยวเฮยและอสูรอื่น ๆ กล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน แววตาของพวกมันไร้ซึ่งความเกรงกลัวใด ๆ ขณะโจมตีตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มที่

เสียซื่อและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอีกสองคนของจอมยุทธ์ปีศาจก็เข้าจู่โจมซิวด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการกีดกันซิวไว้ชั่วคราว ตราบใดที่ซิวเคลื่อนไหวออกไปไม่ได้ พวกเขาก็จะมีโอกาสสังหารฉินอวี้โม่ได้มากขึ้น เมื่อใดที่นางตายไป ความแข็งแกร่งของซิวก็จะลดน้อยลงมาก และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะควบคุมตัวมันได้อย่างง่ายดาย

“ฉินอวี้โม่ ข้าจะเป็นคนจัดการกับเจ้าเอง !”

ฮวาหรงและสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจอีกนับสิบคนที่เหลือก็มองหน้ากันก่อนตรงเข้าโจมตีฉินอวี้โม่อย่างไม่ยั้งมือ ความแข็งแกร่งของสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจจำนวนนับสิบคนเหล่านี้ก็แทบจะอยู่ในระดับเดียวกับฮวาหรงซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับฉินอวี้โม่มากเพียงใด

อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่น้อย กระบี่เล่มยาวปรากฏในมือของนางเพื่อตอบโต้การโจมตีของฮวาหรงและคนอื่นๆ

ตูมมม !

พลังมายาจากทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรงจนเกิดคลื่นผันผวนในอากาศ จากนั้นฉินอวี้โม่ก็หายวับไปอย่างรวดเร็วและปรากฏตัวด้านหลังหนึ่งในสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจพร้อมกับกระบี่ยาวที่ปกคลุมด้วยเพลิงร้อนระอุซึ่งจ้วงแทงตรงเข้าไปที่อกของบุรุษผู้นั้น

“แย่แล้ว !”

บุรุษผู้นั้นมีปฏิกิริยาตอบโต้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาคิดไม่ถึงเลยว่าฉินอวี้โม่จะเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ความแข็งแกร่งภายนอกของนางด้อยกว่าพวกเขาทุกคนมากนักทว่ากลับมีความเร็วที่เหนือชั้นกว่าพวกเขาถึงหลายเท่าตัว

เขายกอาวุธขึ้นป้องกันตัวและขวางกั้นกระบี่ของฉินอวี้โม่ไว้ได้อย่างหวุดหวิด

เคร๊งงง !

ทว่าน่าเสียดาย อาวุธในมือของบุรุษผู้นั้นก็แตกกลายเป็นเสี่ยง ๆ ในทันทีและกลายเป็นเพียงเศษเล็กเศษน้อยร่วงลงพื้นกระจัดกระจาย ในทางกลับกัน กระบี่ของฉินอวี้โม่ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อยก่อนแทงทะลุเข้าที่หัวใจของคู่ต่อสู้และปลิดชีพเขาในคราวเดียว

ตูมมม !

อึดใจต่อมา การโจมตีของฮวาหรงก็ถูกฉินอวี้โม่ป้องกันไว้ได้อย่างรวดเร็วและทั้งสองฝ่ายก็กระเด็นถอยหลังออกไปหลายก้าวก่อนที่จะทรงตัวได้อย่างมั่นคง สมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจหลายคนก็เข้าล้อมรอบโจมตีฉินอวี้โม่ในทันที

ฉินอวี้โม่เพียงแสยะยิ้มออกมาขณะขยับมือเล็กน้อย ด้วยความช่วยเหลือของคฤหาสน์เฟิงหัว นางก็ปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังกลุ่มศัตรูก่อนปล่อยการโจมตีทรงพลังออกไปอีกครั้งและบั่นคอคนชุดดำสองคนอย่างรวดเร็ว

“ช่างรวดเร็วยิ่งนัก !”

คนชุดดำที่เหลือประมาณสิบคนตัวแข็งทื่อเล็กน้อยและเริ่มลังเลที่จะปล่อยการโจมตี

สีหน้าของฮวาหรงในตอนนี้ก็บิดเบี้ยวเหยเกอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉินอวี้โม่จะบรรลุถึงระดับนี้ ความแข็งแกร่งของคนชุดดำเหล่านี้อยู่ในระดับที่เกือบเท่ากับตัวนางเองและฮวาหรงก็ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะเอาชนะพวกเขาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่กลับกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างรวดเร็วและมีท่าทางที่ดูผ่อนคลายมาก หรือว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนางจะเทียบเท่าได้กับฮวาฟางเฟย…

เสียซื่อกลางอากาศและคนชุดดำที่แข็งแกร่งมากกว่าก็ถูกซิวผลักกระเด็นออกไปเช่นกัน ในเวลานี้สีหน้าของพวกเขาก็ดูไม่สู้ดีนัก

พลังของซิวเหนือกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้มาก เดิมทีพวกเขามั่นใจว่าจะถ่วงเวลาได้อย่างน้อยสองชั่วยาม ทว่าตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าพวกเขายื้อไว้ไม่ได้แม้กระทั่งหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ

พวกเขาก็สังเกตเห็นสถานการณ์ในฝั่งของฉินอวี้โม่เช่นกันและไม่คิดเลยว่านางจะมีความแข็งแกร่งมากเช่นนี้ แม้ฮวาหรงจะร่วมมือกับคนอื่น ๆ มากกว่าสิบคนก็ยังทำอะไรนางไม่ได้ คนเหล่านั้นถูกฉินอวี้โม่สังหารไปทีละคน ๆ และตกกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรวดเร็ว หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป แผนการของจอมยุทธ์ปีศาจในครานี้จะล้มเหลวไปอย่างสมบูรณ์

“ผู้อาวุโสสี่ เริ่มแผนสำรองกันเถอะ !”

หนึ่งในคนชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พวกเรา กลับมา !”

เสียซื่อสั่งการทันทีและสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจทุกคนก็ถอยกลับไปอยู่ข้างกายเขาอย่างรวดเร็ว

“เหอะ ข้ายอมรับว่าเจ้าทรงพลังเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้จริง ๆ ทว่าน่าเสียดายที่เจ้ายังยโสโอหังจนเกินไป เจ้าคิดหรือว่าจอมยุทธ์ปีศาจของเราจะไม่มีไพ่ตายอื่นซ่อนไว้ ?”

เสียซื่อแค่นเสียงเย็นชาและโบกมือออกไปเล็กน้อย จากนั้นพลังความมืดที่ทรงพลังก็เอ่อล้นออกมารอบ ๆ บริเวณและก่อตัวกลายเป็นข่ายอาคมบางอย่างที่ครอบคลุมฉินอวี้โม่และอสูรมายาทั้งหมดไว้