ตอนที่ 1060: หัวหน้าคนแรก

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1060: หัวหน้าคนแรก

เสียงคำรามจากเซียนผู้คุมกฎดังผ่านไปทั่วทั้งเมือง ดังนั้นทุกคนจึงรู้ว่ามีคนทำลายรูปปั้นของหัวหน้า มันทำให้ทุกคนโกรธ และทำให้ทหารรับจ้างมากกว่าเดิมพุ่งไปบนท้องฟ้าและบินมาที่กลางเมืองอย่างรวดเร็ว

สำนักงานใหญ่ของทหารรับจ้างตั้งอยู่ด้านหลังของเมือง มันเป็นพระราชวังที่สร้างเหมือนของจักรพรรดิและแกนหลักของทหารรับจ้างรวมกันอยู่ที่นี่ คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะอยู่ในพระราชวังนี้

ในตอนนี้ ไป่เหลียนที่อยู่ในชุดสีเขียวและสมาชิกระดับสูงหลายคนของทหารรับจ้างก็กำลังหารืออย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับการพัฒนากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

ทันใดนั้นเอง เสียงตะโกนดังผ่านสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ มาและดังสะท้อนเข้ามาในห้องอย่างชัดเจน และขัดจังหวะการประชุมของไป๋เหลียนกับคนอื่นอื่น

ท่าทีของไป๋เหลียนมืดมนลงทันทีเมื่อนางได้ยินว่ามีคนทำลายรูปปั้นของพี่ชายนาง ตาของนางเป็นประกายเย็นชา

“หืม ข้าอยากจะเห็นว่าใครกันที่กล้าทำลายรูปปั้นของพี่ชายของข้า ข้าจะไม่ปล่อยมันที่ทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้ไปง่าย ๆ แน่” ไป๋เหลียนโกรธจัด นางทุบโต๊ะและออกจากการประชุมแม้จะกำลังประชุมอยู่ นางเดินออกไปด้วยใบหน้าที่มืดมน ในขณะที่สมาชิกระดับสูงก็ตามหลังนางไปติด ๆ

เจี้ยนเฉินลอยอยู่หลายร้อยเมตรเหนืออากาศที่กึ่งกลางของเมือง เจี้ยนเฉินกอดอกและมองดูอย่างผ่อนคลายในขณะที่เซียนผู้คุมกฎพุ่งเข้ามาใกล้เขาอย่างรวดเร็ว ข้าง ๆ เขามีรุยจินที่ลอยอยู่อย่างไร้อารมณ์และมองไปที่รูปปั้นที่ถูกทำลายเป็นครั้งคราว ความสงสัยบางอย่างปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา

เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดชักเอาอาวุธเซียนออกมา จากนั้น พวกเขาก็ล้อมเจี้ยนเฉินและรุยจินเอาไว้ พลังงานพุ่งพวยอย่างมหาศาลรอบ ๆ พวกเขา ซึ่งทำให้มิติรอบ ๆ บิดเบี้ยวเล็กน้อย พวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้ตลอดเวลา

“เจ้าเป็นใครกัน? ทำเจ้าถึงต้องทำลายรูปปั้นของหัวหน้าเจี้ยนเฉิน ? ทำไมเจ้าไม่รีบ…” เซียนผู้คุมกฎตะโกนไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่จ้องไปที่เขา แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ตกใจ เขาจ้องอย่างงุนงงไปที่รูปร่างหน้าตาของเจี้ยนเฉินในขณะที่ความเหลือเชื่อปรากฎอยู่บนใบหน้าของเขา

เซียนผู้คุมกฎจ้องอย่างงุนงงไปที่เขาค่อนข้างนาน จากนั้น เขาก็ถามก้วยเสียงที่สั่นไหวที่เต็มไปด้วยความตกใจ “ทะ ทะ ท่านคือหัวหน้าเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ? “

“อะไรนะ! หัวหน้าเจี้ยนเฉิน…”

เซียนผู้คุมกฎอีกสี่คนก็ตกตะลึงเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนี้ พวกเขามองสังเกตเจี้ยนเฉินอย่างพิจารณาทันที พวกเขาไม่เคยเห็นเจี้ยนเฉินมาก่อน แต่พวกเขาก็เคยเห็นภาพและรูปปั้นของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยกับหน้าตาของเจี้ยนเฉินเป็นอย่างดี พวกเขาสังเกตว่า ชายหนุ่มนี้ดูเหมือนหัวหน้าของพวกเขาจริง ๆ

พลังที่มหาศาลอื่นก็ปรากฏขึ้นมา และเข้ามาใกล้ที่ตำแหน่งของเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว มันคือบรรพชนตระกูลไป๋ ไป๋ไฮที่บินมาพร้อมกับไป๋เหลียนด้วยความเร็วสูง

ใบหน้าของทั้งคู่ซีดในขณะที่โทสะลุกโชนอยู่ในตัวของพวกเขา การทำลายรูปปั้นของเจี้ยนเฉินเป็นเหมือนเป็นการไปแตะจุดที่อ่อนไหวของพวกเขา พวกเขากำลังคิดว่าพวกเขาจะลงโทษคนที่ทำลายรูปปั้นอย่างรุนแรงได้อย่างไร

แต่ในตอนที่พวกเขาทั้งสองเห็นเซียนผู้คุมกฎที่กำลังล้อมเจี้ยนเฉินและรุยจินอยู่ พวกเขาก็นิ่งอึ้ง เหมือนมีน้ำเย็นมาสาดดับไปที่ความโกรธที่ลุกโชนของพวกเขาให้หายไปในทันที

“ท่านพี่ เป็นท่านได้อย่างไร ! ? ” ไป๋เหลียนร้องออกมา นางอึ้ง

ไป๋ไฮก็ตัวแข็งทื่อแล้วจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน จากนั้น เขาก็มองไปที่กองฝุ่นที่เคยเป็นรูปปั้นมาก่อน เขาสับสน เขาได้รู้แล้วว่าคนที่ทำลายรูปปั้นนั้นเป็นเหลนของเขาเองในตอนนี้

“พวกเราขอคารวะ หัวหน้าเจี้ยนเฉิน ! “

เซียนผู้คุมกฎมาถึงก่อนและแน่ใจแล้วว่านี่คือเจี้ยนเฉิน พวกเขาคำนับและคารวะเจี้ยนเฉินอย่างไม่ลังเล พวกเขาทั้งหมดตื่นเต้นมาก เจี้ยนเฉินเป็นตำนานของทวีป เป็นคนที่สามารถได้ยินจากเรื่องเล่าเท่านั้น แม้แต่เซียนผู้คุมกฎเองก็ยากที่จะสงบได้

ความโกรธของพวกเขาได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง

เจี้ยนเฉินเห็นใบหน้าของไป๋เหลียน และความโกรธของเขาเกี่ยวกับเรื่องรูปปั้นก็หายไปในตอนนี้ ความรักเต็มอยู่ในหัวใจของเขา และเขาก็บินไปทางไป๋เหลียนทันที จากนั้นเขาก็มองไปที่นางด้วยความรักและความสงสาร ในขณะที่เขาพูดออกมาอย่างนุ่มนวล “เหลียนเอ่อ เจ้าต้องเหนื่อยมากแน่ในการที่ต้องจัดการเรื่องของทหารรับจ้าง”

ไป๋เหลียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มหวานออกมาเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินห่วงใยในความเป็นอยู่ของนาง อย่างไรก็ตาม นางก็มองไปที่รูปปั้นที่หายไปที่กลางเมืองและมึนงง นางถาม “ท่านพี่ ท่านทำลายรูปปั้นหรือเปล่า ? “

“ใช่ มันเป็นข้าเองที่ทำลายมัน” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเฉยเมย ในขณะที่เขาจ้องไปที่ฝุ่นที่ตลบอยู่ในอากาศ

“ท่านพี่ รูปปั้นเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมในความพยายามของช่างฝีมือเป็นร้อยคนที่ข้าหามา ทำไมท่านถึงได้ทำลายมัน ? มันปั้นได้ไม่ดีหรือ ? ” ไป๋เหลียนรู้สึกผิดในขณะที่นางพูดออกมา

“เลี่ยนเอ๋อ อย่าโกรธไปเลย พี่ไม่ได้จะโทษเจ้า มันแค่เจ้ายังไม่เข้าใจต้นกำเนิดของทหารรับจ้าง รูปปั้นที่ตั้งอยู่ที่กลางเมืองไม่ควรจะเป็นข้า แต่ต้องเป็นหัวหน้าคนแรกของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี” เจี้ยนเฉินพูดออกมาอย่างนุ่มนวล เขามองไปที่เส้นขอบฟ้าในขณะที่สายตาของเขาปรากฎความทรงจำในอดีตออกมา

“หัวหน้าคนแรก ? ท่านพี่ไม่ใช่หัวหน้าคนแรกอย่างนั้นหรือ ? ” ไป๋เหลียนตกใจในขณะที่สีหน้าของนางแสดงความเหลือเชื่อออกมา

เจี้ยนเฉินส่ายหน้า “เหลียนเอ๋อ ข้าไม่ใช่หัวหน้าคนแรกของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี หัวหน้าคนแรกมีนามว่าเคนดัล ข้าเป็นแค่คนที่สอง”

เรื่องในอดีตไหลเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉินเหมือนหนังเก่า เจี้ยนเฉินนึกกลับไปถึงวันที่เขาตระเวนไปในเทือกเขาสัตว์อสูรกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

เขายังจำได้ชัดว่าเมื่อหลายปีที่แล้ว กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้ถูกไล่ล่าจากราชาพยัคฆ์ขนทองระดับ 5 และในท้ายที่สุด ทุกคนก็ตายไปรวมถึงหัวหน้าคนแรก เคนดัลด้วย ยกเว้นเขาที่รอดมาได้

ความปรารถนาใหญ่ที่สุดของของเคนดัลสำหรับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีก็คือการที่จะให้มันเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนทวีปเทียนหยวน ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงรับแรงบรรดาลใจที่ยิ่งใหญ่นี้มาเพื่อขยายกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีให้เป็นไปตามความปรารถนาของเคนดัล

ในตอนนั้น เขาก็กลายเป็นหัวหน้าคนที่สองของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี แต่เขาก็ตัวคนเดียว หลังจากนั้น หมิงตงก็เข้ามาร่วม ในตอนนี้หลายปีก็ผ่านไปแล้ว กลุ่มทหารรับจ้างได้ขยายใหญ่ขึ้นมาจากไม่มีชื่อจนถึงขั้นสั่นคลอนทวีปได้

“ท่านพี่ ใครคือหัวหน้าคนแรกของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีหรือ ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินสักเรื่องเกี่ยวกับเขาเลยทั้งทั้งที่ข้าอยู่ที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมานานแล้ว ? ” ไป๋เหลียนถาม

เจี้ยนเฉินถอนหายใจเบาเบา “เขาตายไปหลายปีแล้ว” หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็คว้าไปที่พื้นดินด้วยมือทั้งสองของเขา พื้นที่กึ่งกลางเมืองเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และดินก็พุ่งขึ้นมาบนอากาศอย่างรวดเร็ว มันปีนสูงขึ้นสูงขึ้น และในไม่กี่วินาที เจี้ยนเฉินก็สร้างรูปปั้นขึ้นมาจากพื้นดิน