บทที่ 2229 สิ้นสุดบุญคุณ
“นายหมายความว่ายังไงกันแน่!” เด็กสาวถาม
“หมายความว่ายังไงน่ะเหรอ” ซือเซี่ยยิ้มเยียบเย็นแวบหนึ่ง “เธอรับแหวนวงนั้นมา ก็เท่ากับเธอคือผู้นำคนใหม่ของเดธโรส เรื่องนี้สภาตุลาการก็รู้แล้วเหมือนกัน…ดังนั้น สภาตุลาการเลยให้คุณตา…ลงมือฆ่าเธอด้วยตัวเอง ริบแหวนมา แล้วส่งให้สภาตุลาการ!”
“อะไรนะ…”
เด็กสาวมีสีหน้าประหลาดใจ
“ครั้งแรก คุณตาไม่มีทางเลือก ด้วยฐานะผู้นำของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์แห่งรัฐอิสระ จึงต้องทำตามคำสั่งของสภาตุลาการ ไม่สามารถขัดขืนได้…แต่ครั้งนี้ เพื่อเธอแล้ว สุดท้ายคุณตาถึงได้ตัดสินใจจะเข้าปกครองรัฐอิสระ และต่อต้านสภาตุลาการ…” ซือเซี่ยเอ่ยเสียงเย็น
“เป็นไปได้ยังไง…ทำไมคุณตาไม่บอกฉันเลย?!” เด็กสาวเอ่ยด้วยความแปลกใจ
“บอกเธองั้นเหรอ” ซือเซี่ยส่ายหน้า “คุณตาไม่อยากให้รับรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเธอ ไม่ให้เธอเข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะว่าแผนการนี้ อาจจะสำเร็จ หรืออาจจะล้มเหลวก็ได้ ที่ไม่บอกเธอ ก็เพราะกลัวว่าถ้าล้มเหลว เธอจะรู้สึกผิดและโทษตัวเอง ถึงขั้นที่อาจลำบากมาถึงเธอด้วย แต่…คุณตาคิดมากไปแล้ว คนเลือดเย็นไร้หัวใจแบบนี้ จะรู้สึกผิดและโทษตัวเองได้ยังไง”
….
ไม่นาน ทุกอย่างก็สลายหายไป กลับสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกเพียงว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเขย่าตัวเธออย่างบ้าคลั่งอยู่
“พี่เฟิงพี่เป็นอะไรไป บัดซบ…พี่เฟิงพี่จะไม่ตายใช่ไหม พี่อย่าทำผมตกใจสิ พี่เฟิงพี่เป็นอะไร”
เยี่ยหวันหวั่นค่อยๆ ลืมตาขึ้น และมองเห็นใบหน้าอันตื่นตระหนกของเป่ยโต่ว
“หยุดเขย่าได้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นมองเป่ยโต่ว พลางขมวดคิ้วแน่น
“พี่เฟิงพี่ยังไม่ตาย!” เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นลืมตา เป่ยโต่วก็พลันมีสีหน้ายินดี
เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดอะไร ทำเพียงลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วนั่งลงบนโซฟา
เรื่องทุกอย่าง เธอจำได้หมดแล้ว…
แต่ความทรงจำแบบนี้ เธอไม่ต้องการ และไม่อยากจะรับรู้
ทำไมตัวเองถึงฆ่าคุณตาได้…กริชเล่มนั้น เป็นอาวุธที่ใช้สำหรับฝึกฝนกับคุณตาตามปกติ ไม่คมเลย…
ตอนนี้ ถึงแม้ในใจของเยี่ยหวันหวั่นจะทุกข์ทนและโทษตัวเอง แต่กลับสงบเยือกเย็นมาก
บนเกาะ ซือเซี่ยบอกว่าตัวเองอยากปกครองรัฐอิสระ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่า จงใจจะพูดยั่วโมโหตัวเองเท่านั้น ตอนตอนที่อยู่บนเกาะคำพูดที่ซือเซี่ยบอกว่าเธอคือปีศาจเท่านั้น ที่ออกมาจากใจจริง
….
ตอนแรกที่ได้รับรู้ข้อมูลว่าคุณตาถูกตัวเองสังหาร เธอทุกข์ทรมานจนไม่อาจทนรับไหว จึงไม่ได้ขบคิดให้ลึกซึ้งเลย คิดอยากที่จะตายอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ว่า พอเวลาผ่านไปหลายปีแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็สามารถสงบใจและใคร่ครวญดูให้ดีได้แล้ว
อันที่จริง มีปัญหามากมายเหลือเกินที่ไม่อาจครอบครองแหวนได้
ในภาพวงจรปิด ถึงแม้คุณตาจะถูกเธอใช้กริชแทงอก แต่ก็ไม่ได้สิ้นใจตายในทันที จากเนื้อหาในภาพวงจรปิดมองเห็นว่า หลังจากตัวเองหนีไปแล้ว คุณตาที่อ่อนแออย่างยิ่ง ได้ค้ำขอบประตูเอาไว้คล้ายจะเดินออกไปด้วยเช่นกัน
และเมื่ออ้างอิงจากคำพูดของซือเซี่ย คุณตาตายอยู่นอกประตู…
ตัวเธอในปีนั้น คิดมาโดยตลอดว่าคุณตาถูกกริชแทงทะลุ และสิ้นใจตายเพราะเสียเลือดมาก
แต่ตอนนี้พอดูแล้ว…
“ผิดปกติ!”
จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็ลุกพรวดขึ้นมา
เป่ยโต่วที่อยู่ข้างๆ ก็สะดุ้งโหยง “อะไรผิดปกติ ผิดปกติตรงไหนเหรอ?!”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว เธอยังพอจดจำรายละเอียดบางอย่างได้
ปีนั้น หลังจากที่ตัวเองใช้กริชทำร้ายคุณตาไปแล้ว ได้ยินเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบามากๆ แว่วมาจากด้านนอกอย่างชัดเจน และเป็นเพราะแบบนี้ เธอที่สมองว่างเปล่าขาวโพลน ถึงได้ผลุนผลันหลบหนีไป
ตัวเองในปีนั้น นึกว่าเสียงเท้านี้จะเป็นของคนในสหพันธ์วิทยายุทธ์ที่มาหาคุณตาเพราะมีธุระ
แต่ถ้าเป็นคนของสหพันธ์วิทยายุทธ์จริง จะต้องปฐมพยาบาลคุณตาได้ทันเวลาแน่นอน ดังนั้น การตายเพราะเสียเลือด ไม่มีทางเป็นไปได้!
แต่ว่า ถ้าไม่ใช่คนของสหพันธ์วิทยายุทธ์ งั้นจะเป็นใครกันล่ะ…
สหพันธ์วิทยายุทธ์ คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้ เว้นแต่จะเป็นคนใน หรือไม่ก็เป็นยอดฝีมือระดับสูงที่แทรกซึมเข้ามาได้โดยเทพไม่รู้ผีไม่เห็น…
—————————————————————————————
บทที่ 2230 ฆาตกรเป็นคนอื่น
“ผู้นำครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้คิดเจาะลึก ผู้อาวุโสสามก็ผลักประตูเข้ามา
“มีอะไร” เยี่ยหวันหวั่นมองผู้อาวุโสสาม
“ผู้นำครับ มีตาเฒ่าคนหนึ่งมาระบุชื่อแซ่คุณเพื่อขอเข้าพบครับ” ผู้อาวุโสสามรายงาน
“ระบุชื่อแซ่งั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นผงะไป ชื่อไหน แซ่ไหนล่ะ
“ระบุว่าเนี่ยอู๋โยวหลานสาวท่านผู้นำสหพันธ์ครับ” ผู้อาวุโสสามคาดเดาความคิดในใจเยี่ยหวันหวั่นออก
“ฉันรู้แล้ว ไปพามาสิ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารับ
….
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายชราคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน แล้วจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นอยู่นาน
“พวกนายออกไปก่อนเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นบอกเป่ยโต่วกับผู้อาวุโสสาม
พอทั้งสองได้ยินก็พยักหน้ารับ แล้วเดินออกจากห้องทำงาน พร้อมกับปิดประตูให้สนิท
“เธอ…คือเนี่ยอู๋โยวหลานสาวท่านผู้นำคนก่อนจริงๆ เหรอ” ชายชราเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ของแท้แน่นอน” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
“เด็กผู้หญิงพอโตเป็นสาวจะเปลี่ยนไปจริงๆ สินะ…ดูไม่เหมือนกับเมื่อก่อนเลย” ชายชราถอนหายใจ “ฉันนั่งได้ไหม”
“นั่งได้เลย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
พอชายชราได้ยิน จึงนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง “อู๋โยว เธอยังจำฉันได้ไหม”
“ขอเรียนถามว่าคุณคือ…” เยี่ยหวันหวั่นมุ่นคิ้วนิดๆ ชายชราคนนี้ ตัวเองไม่มีความทรงจำเลยจริงๆ
“ปีนั้น ฉันรับผิดชอบระบบรักษาความปลอดภัยในสหพันธ์วิทยายุทธ์ ฉันชื่อหวังไล่” ชายชราแนะนำตัว
“หวังไล่…” เยี่ยหวันหวั่นใช้ความคิดแล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณคือลุงหวัง?!”
ปีนั้น ในกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ มีสมาชิกคนหนึ่งชื่อหวังไล่อยู่จริงๆ เวลาที่เยี่ยหวันหวั่นว่างไม่มีอะไรทำ จะชอบไปหาแล้วถามข่าวซุบซิบนินทาอยู่บ่อยๆ
“ใช่ อู๋โยว ไม่คิดเลยว่าเธอจะยังจำฉันได้…” หวังไล่พยักหน้า
“ลุงหวัง ลุงมาหาฉันครั้งนี้ มีเรื่องอะไรใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นเข้าประเด็นทันที
หวังไล่ได้ยินก็เงียบไป ผ่านไปพักใหญ่ ถึงค่อยๆ เอ่ยออกมา “เรื่องนี้…เป็นสิ่งที่ฉันเก็บไว้ในใจมานานหลายปี อันที่จริง ฉันตามหาเธอมาโดยตลอด โชคดีที่ไม่นานมานี้ ตระกูลเนี่ยประกาศว่า ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยคือเนี่ยอู๋โยว ฉันถึงได้รู้ว่าเธอกลับมาแล้ว ฉันไปที่พันธมิตรอู๋เว่ยอยู่หลายครั้ง แต่พันธมิตรอู๋เว่ยกลับร้างไปแล้ว ไปดักรออยู่แถวๆ ตระกูลเนี่ยก็ไม่เจอเธอเลย สุดท้ายถึงสืบรู้มาว่าเธออาจจะอยู่ที่นี่…”
“ลุงหวัง พวกเราอย่าอ้อมค้อมกันเลยค่ะ จริงๆ แล้วมีเรื่องอะไรกันแน่” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
“อู๋โยว เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านผู้นำคนก่อน” หวังไล่ถอนหายใจ
“คุณตา…” เยี่ยหวันหวั่นมองหวังไล่ “ลุงพูดมาได้เลย”
“อันที่จริง ที่ปีนั้นผู้นำคนใหม่บอกว่าเธอฆ่าท่านผู้นำคนก่อน…ความจริงแล้ว ไม่ใช่แบบนั้น!” ใบหน้าของหวังไล่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว “ไม่ใช่แบบนั้นเหรอ”
“ใช่!” หวังไล่พยักหน้ายืนยันอย่างหนักแน่น “อู๋โยว เธอทำร้ายท่านผู้นำคนก่อนจริงๆ แต่ว่า…คนที่ฆ่าท่านผู้นำคนก่อน คือคนอื่น!”
“เป็นใคร!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยความร้อนใจ
“ในจุดนี้ ฉันไม่กล้ายืนยัน” ใบหน้าของหวังไล่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “ปีนั้น ฉันแอบอยู่ในมุมอับ มองเห็นเธอวิ่งออกไป จากนั้น ท่านผู้นำที่ชุ่มเลือดไปทั้งตัวก็ตามออกมา ฉันร้อนใจมาก ตอนแรกคิดจะออกไปช่วยตรวจดูบาดแผลให้ท่านผู้นำทันที…แต่ว่า จู่ๆ ก็มีคนลึกลับสวมชุดดำทั้งตัวโผล่ออกมา…เป็นเขา เขานั่นแหละที่ฆ่าท่านผู้นำคนก่อน!”
พอสิ้นเสียงของหวังไล่ สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็พลันแปรเปลี่ยนไป หรือว่า…จะเป็นคนชุดดำจากสายหลักคนนั้น?!
“ต่อมา ผู้นำคนใหม่ก็เข้ารับตำแหน่ง…ฉันเดาว่า อาจเป็นเพราะผู้นำคนใหม่อยากได้ตำแหน่ง ก็เลยสังหารท่านผู้นำคนก่อน…ใจฉันหวาดกลัวมาก เลยถอนตัวออกจากกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์…เฮ้อ ต้องโทษที่ฉันอ่อนแอ ถ้าปีนั้นฉันมีความกล้าพอที่จะออกไปต่อสู้กับคนชุดดำคนนั้นได้ทันเวลา บางที ท่านผู้นำคนก่อนก็คงไม่ต้อง…เป็นความผิดของฉันทั้งหมด!”
—————————————————————————————