บทที่ 2233 ใช้ใบหน้าหากิน
ซือเยี่ยหานจ้องเยี่ยหวันหวั่น “ถ้างั้น พันธมิตรอู๋เว่ยอยู่ฝ่ายไหนล่ะ”
“แน่นอนว่าเป็น…” พูดมาถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ผงะไปทันที
บรรลัยแล้ว!
พันธมิตรอู๋เว่ยอยู่ฝ่าย…สายหลักไงล่ะ!
ตัวเองคือผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย จะเป็นหัวเรือพาเดธโรสไปสู้กับสายหลักไม่ได้เด็ดขาด…
“ใช้วิทยุสื่อสารสั่งการเถอะ” ซือเยี่ยหานเอ่ย
เยี่ยหวันหวั่นไม่ตอบอะไร
ศึกตัดสินอนาคตของรัฐอิสระทั้งที แต่เธอกลับออกหน้าไม่ได้ ทำได้แค่ใช้วิทยุสื่อสารสั่งการงั้นเหรอ?!
….
ผ่านไปสองวัน ก็เกิดศึกใหญ่ปะทุขึ้นตามชายแดน สามแกนนำหลักของคุกคนบาปปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน และเข้าโจมตีกองกำลังย่อยของสายหลัก
หลังจากนั้น กลุ่มอำนาจน้อยใหญ่ก็เข้าร่วมด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ ในบรรดานี้รวมถึงสวะหมา…อี้สุ่ยหานด้วย
พออี้สุ่ยหานปรากฏตัวขึ้น รูปการณ์ก็แปรเปลี่ยนไป สมาชิกตระกูลเก่าแก่สายรองต่างก็บาดเจ็บล้มตาย ถูกสายหลักโจมตีจนพ่ายแพ้ถอยร่นไป
เพียงแต่ สิ่งเดียวที่โชคดีคือ อี้สุ่ยหานไม่ได้โจมตีกองกำลังอื่นๆ เลยนอกจากกลุ่มตระกูลเก่าแก่สายรอง ก็อย่างที่อี้สุ่ยหานเคยบอกเอาไว้นานแล้ว เป้าหมายของเขา มีแค่ตระกูลเก่าแก่สายรองเท่านั้น
ในช่วงเที่ยงวันนั้น มีเรื่องที่สายหลักและคุกคนบาปต่างก็คาดไม่ถึง เยี่ยหวันหวั่นเป็นตัวแทนของพันธมิตรอู๋เว่ย มาที่เขตชายแดน แล้วหันหลังวิ่งเข้าสู่ค่ายของสายหลัก…
….
ที่ค่ายของสายหลัก ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ได้พบกับประมุขของสายหลัก เป็นชายชราอายุเกินครึ่งร้อยแล้ว
เวลานี้ ในค่ายของสายหลัก เจียงอิงมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ผู้นำไป๋มาเยือนที่นี่ หมายความว่ายังไง”
ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นฉาบรอยยิ้มไว้ แล้วหยิบหนังสือลงนามร่วมศึกออกมา “ประมุข ดูคำพูดนี้ของท่านสิ พันธมิตรอู๋เว่ยของเราลงนามในหนังสือร่วมศึกกับสายหลักแล้ว ฉันเลยมาเพื่อทำตามข้อตกลง”
เมื่อได้ฟังแบบนี้ ผู้อาวุโสหลายคนของสายหลักต่างก็พากันมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาแค้นเคือง
ผู้หญิงคนนี้ ทำให้ผู้เฒ่าเซวียสมาชิกระดับสูงของพวกเขาโมโหแทบตาย แต่ตอนนี้กลับโผล่หน้ามา และบอกว่ามาเพื่อสนับสนุนสายหลัก ทำตามข้อตกลงงั้นเหรอ?!
“ไม่ใช่ว่าเธอจะยื่นฟ้องสายหลักต่อสภาตุลาการหรอกเหรอ” เจียงอิงเอ่ย
“นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง พวกท่านไม่ทำตามข้อตกลง แต่ฉันจะทำไง ถูกไหมล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยยิ้มๆ
“เธอจะทำตามข้อตกลงอะไรได้ แค่เธอคนเดียวจะมีประโยชน์งั้นเหรอ” สมาชิกระดับสูงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา
“นั่นก็ช่วยไม่ได้นี่นา ตอนนี้พันธมิตรอู๋เว่ยเหลือฉันแค่คนเดียวแล้ว ฉันก็อยากพากองกำลังมา แต่พวกเขาถูกกวาดต้อนไปที่เดธโรสจอมปลอมนั่นแล้ว นี่ไม่ใช่ผลงานสายหลักของพวกคุณหรอกเหรอ ตอนนี้ยังหยิบเรื่องนี้มาพูดอีก ทำไมคุณหน้าไม่อายแบบนี้ล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นปรายตามองผู้อาวุโสคนที่พูดแวบหนึ่ง
“เธอ…”
ผู้อาวุโสถูกเยี่ยหวันหวั่นยั่วโมโหจนหน้าแดงก่ำแล้ว อยากจะสับเยี่ยหวันหวั่นเป็นหมื่นชิ้นใจแทบขาด
เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากขึ้นนิดๆ ก่อตัวเป็นรอยยิ้มพิสดารแวบหนึ่ง
เธอมาที่นี่ ก็เพราะเป็นห่วงพวกซือเยี่ยหาน ในเมื่อไม่สามารถปรากฏตัวในชื่อของเดธโรสได้ งั้นเธอก็จะปรากฏตัวในฐานะของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยซะเลย
ถึงยังไงตัวเองก็ลงนามในหนังสือร่วมศึกกับสายหลักแล้ว สายหลักก็ไม่กล้าลงมือกับเธอเหมือนกัน
“เอาละ ในเมื่อผู้นำไป๋มีน้ำใจ งั้นก็เชิญตามสบาย เพียงแต่ ฉันต้องขอเตือนผู้นำไป๋สักประโยคหนึ่ง ในศึกระหว่างสายหลักกับสายรอง ผู้นำไป๋อย่าได้คิดตุกติกอะไรเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้ว จะเดือดร้อนตัวเองเข้า” พอเจียงอิงพูดจบก็หันหลังเดินออกไป
….
เช้าวันรุ่งขึ้น เยี่ยหวันหวั่นติดตามทีมของสายหลักไปปรากฏตัวในสนามรบ
“สายหลักชาติสุนัขกลุ่มนี้ คิดจะใช้ฉันเป็นตัวรับกระสุนสินะ…” เยี่ยหวันหวั่นยกยิ้มอย่างเยียบเย็นมาก
ยังไงก็ตาม เธอแค่มาชมละคร คิดจะใช้เธอเป็นตัวรับเคราะห์งั้นเหรอ สายหลักฝันหวานไปแล้ว
—————————————————————————————
บทที่ 2234 คนโง่ขนานแท้
เวลานี้ เขตชายแดนมีกลุ่มอำนาจใหญ่ต่างๆ ของรัฐอิสระมาชุมนุมกัน
สี่ตระกูลใหญ่ สามแกนนำหลักคุกคนบาป เดธโรส ยังมีพวกตระกูลเก่าแก่สายรองด้วย
หลังจากทุกคนมองเห็นเยี่ยหวันหวั่นปะปนอยู่ในกลุ่มสายหลักแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะผงะเล็กน้อย
“อู๋โยว ลูกทำอะไรน่ะ?!” หัวหน้าตระกูลเนี่ยมองเยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วพลางร้องตะโกน
“พ่อคะ พวกเราอยู่กันคนละฝั่ง คนละผู้นำกัน!” เยี่ยหวันหวั่นตะโกนตอบกลับไป
หัวหน้าตระกูลเนี่ยเงียบไปแล้ว…
“เวรเอ้ย เธอก็ช่างทำได้นะ เพื่อให้ได้ชมเรื่องคึกคักในสงคราม แม้แต่หน้าก็ไม่เอาแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะใช้ฐานะผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยไปอยู่กับทางสายหลัก…ฉันยอมเลย” เจียงหลีเฮิ่นที่อยู่ไม่ไกลยกนิ้วโป้งให้
ซือเยี่ยหานจ้องเยี่ยหวันหวั่นอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เยี่ยหวันหวั่นเข้าไปอยู่กับสายหลัก คงไม่เป็นไร ทางฝั่งสายรอง เขาได้กำชับไว้แล้ว ไม่มีใครไปยุ่งกับเยี่ยหวันหวั่นแน่ เธออยากดูเรื่องสนุกงั้นก็ให้เธอดูไปเถอะ
ไม่คุยไร้สาระกันต่อแล้ว ศึกระหว่างสายหลักและสายรองเปิดฉากขึ้นในทันใด
เยี่ยหวันหวั่นอยู่ในสนามรบแต่กลับลอยชายเหลือเกิน คนของสายหลักไม่สนใจตัวเอง คนของสายรองก็ไม่มายุ่งกับเธอเลย
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นเตรียมจะแทะเมล็ดแตงรอชม กลับมองเห็นเป่ยโต่วสู้กับคนของสายหลักอยู่ ไม่นาน เป่ยโต่วก็ล้มลงกับพื้นแล้ว
ทันใดนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็ถลาเข้าไปอย่างรวดเร็ว และขวางอยู่ด้านขว้างของยอดฝีมือสายหลัก
“ผู้นำไป๋ นี่คุณหมายความว่ายังไง” ยอดฝีมือสายหลักมองเยี่ยหวันหวั่น พลางเอ่ยเสียงเย็น
“ดีเลย ไอ้คนทรยศ ในที่สุดฉันก็ได้ตัวแกแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจยอดฝีมือสายหลัก แล้วหันไปพูดกับเป่ยโต่ว
พอเป่ยโต่วได้ยินก็กลอกตาแวบหนึ่ง “ผู้นำครับ ผมจะกลับตัวแล้ว ผมจะเข้าร่วมกับสายหลัก!”
พอสิ้นเสียงของเป่ยโต่ว เยี่ยหวันหวั่นก็สีหน้ามึนงงในทันใด ในใจก่นด่าบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของเป่ยโต่วเสียรอบหนึ่ง
นี่มันคนโง่ขนานแท้!
ในช่วงเวลาแบบนี้ เขาควรจะยอมหักไม่ยอมงอสิ จากนั้นตัวเองก็จะแกล้งเดือดดาล แล้วให้ยอดฝีมือสายหลักยกเป่ยโต่วให้ตัวเองจัดการ…แต่ว่า เป่ยโต่วกลับร้องว่าฉันจะกลับตัว จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดต่อไปยังไงดี
“เฮอะ ผู้นำไป๋ วัชพืชเกาะกำแพงแบบนี้ ผมจะจัดการแทนคุณเอง” ยอดฝีมือสายหลักหัวเราะหยันทีหนึ่ง แล้วทำท่าจะเดินเข้าไปหา
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็อาศัยจังหวะที่เขาเผลอ เตะตัดขาเขาให้ล้มลงบนพื้น
เป่ยโต่วมือเร็วตาไว พลันกระโจนพรวด นั่งทับร่างของยอดฝีมือสายหลักแล้วรัวหมัดใส่
“ไป๋เฟิง...เธอ…นี่เธอทรยศต่อหนังสือลงนามร่วมศึกของสภาตุลาการงั้นเหรอ!” ยอดฝีมือของสายหลักเอ่ย
“พล่ามอะไรน่ะ อุดปากเขาให้ฉันซะ” เยี่ยหวันหวั่นรีบพูด
“ได้!” เป่ยโต่วอุดปากยอดฝีมือสายหลัก จากนั้นก็รัวหมัดต่อไป ทำให้เขาสลบเหมือดไปทันที
“นายมันไอ้โง่…” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง
เป่ยโต่วผงะไป แล้วเอ่ยพร้อมสีหน้าฉงน “โง่ตรงไหน”
“อย่าพูดไร้สาระ…โชคดีว่าที่นี่มีคนน้อย เพื่อช่วยนาย ฉันต้องเสี่ยงมากแค่ไหนรู้ไหม!” เยี่ยหวันหวั่นอดไม่ได้ที่จะฉุนเฉียว
เป่ยโต่วหัวเราะแหะๆ ไม่กล้าพูดอะไรต่อแล้ว
ถ้าถูกคนของสายหลักเห็นเข้า ผลลัพธ์คงไม่อาจจินตนาการได้ การแฝงตัวเป็นสายลับก็เสียเปล่าน่ะสิ…
เยี่ยหวันหวั่นแค่อยากมาดูเรื่องสนุก ดูเรื่องสนุกแล้วก็กลายเป็นสายลับ…น่าตื่นเต้นจริงๆ
“วางใจเถอะพี่เฟิง นี่คือเชลยศึกของผม ผมจะไม่ปล่อยให้เขาพูดออกไปแน่นอน พี่เฟิง พี่ไปก่อนเลย”
พอเป่ยโต่วพูดจบ ก็หิ้วตัวยอดฝีมือสายหลักที่ถูกอัดจนสลบขึ้นมา แล้วหันหลังเดินหายลับไป
….
สงครามยังคงดำเนินต่อไป
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือสายรองที่บุกหน้าล้อมหลัง เห็นได้ชัดว่าอี้สุ่ยหานก็ไปไม่เป็นอยู่บ้าง
แม้จะบอกว่าอี้สุ่ยหานพุ่งเป้าไปที่สายรองเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า กองกำลังอื่นจะไม่ลงมือกับอี้สุ่ยหาน
——————————————————————————