บทที่ 986 ความผิดร้ายแรงต่อเผ่าพันธ

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

อันที่จริงกุยไห่ไป๋ฉวนจับตาดูกลุ่มของหลิงตู้ฉิงอยู่ตลอด เขารู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่คิดว่าตอนนี้มีกลุ่มคนของตำหนักไร้หทัยมาอาศัยอยู่ในบ้านของเขา ดังนั้นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันจึงอยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา

จริง ๆ แล้วในตอนแรกเขาอยากจะเข้าไปห้ามเหมือนกัน แต่เมื่อเขาคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้มันอาจจะทำให้เขาได้รู้ข้อมูลของหลิงตู้ฉิงมากขึ้น เขาจึงปล่อยเลยตามเลยไปก่อน และถ้าหากเขาแน่ใจแล้วว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนของตำหนักไร้หทัยจริง ๆ เขาจะจบเรื่องด้วยการให้น้องชายของเขาขอโทษซะ

อย่างไรก็ตาม น้องชายของเขานั้นไม่รู้ตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้วว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงเป็นใคร ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้ข้ออ้างนี้ในการสะสางปัญหาได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตัวตนอย่างตำหนักไร้หทัยคงไม่ลดตัวมาเอาเรื่องอะไรมากมายกับผู้เยาว์อย่างพวกเขาอยู่แล้วจริงไหม?

แต่แล้วเมื่อเขาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงสามารถมองเห็นจิตสำนึกของน้องชายตัวเองได้ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างมันชักจะไม่เข้าท่า

เขาคิดว่าหลิงตู้ฉิงน่าจะฝึกฝนวิชาดวงตาเทวะมาแน่นอน และนั่นยิ่งเป็นสิ่งยืนยันว่ามีโอกาสสูงที่หลิงตู้ฉิงจะเป็นคนของตำหนักไร้หทัยจริง ๆ แต่แล้วต่อมาหลิงตู้ฉิงกลับเห็นตัวตนของเขาที่ซ่อนอยู่ และยิ่งไปกว่านั้นยังกล้าเอ่ยชื่อพ่อของเขาโดยแสดงสีหน้าราวกับว่าไม่ใส่ใจอะไรเลยสักนิด สิ่งนี้มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกขนพอง

พ่อของเขาคือหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาแถวหน้า

ผู้เชี่ยวชาญปกติที่ไหนจะกล้าเรียกชื่อพ่อของเขาห้วน ๆ แบบนี้?

ต่อให้เป็นผู้คนของตำหนักไร้หทัย มันก็คงมีแค่ศิษย์สามคนของเจ้าตำหนักและไอ้กิเลนตัวนั้นและคนสุดท้ายก็คือ…

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขารีบพุ่งไปขวางน้องชายของตัวเองทันที

“แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายข้าต้องขออภัยพวกท่านด้วยจริง ๆ ที่น้องชายของข้าแสดงท่าทีหยาบคายต่อพวกท่าน ข้าคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดกัน ขอพวกท่านโปรดอภัยให้กับน้องชายของข้าด้วย!” กุยไห่ไป๋ฉวนรีบพูดขึ้นทันที “หนานชาน เจ้ายืนบื้ออยู่ทำบ้าอะไร รีบเอ่ยขออภัยแขกของเราเร็วเข้า!”

หากชายตรงหน้าเป็นคนที่เขาคิดจริง ๆ วันนี้มันจะถือว่าเป็นวันซวยของตระกูลเขามาก ๆ!

อย่างไรก็ตาม เขายังคงรู้สึกไม่แน่ใจเพราะชายตรงหน้าให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปเป็นอย่างมาก

กุยไห่หนานชานถามกลับด้วยสีหน้าตกตะลึงปนงุนงง “ท่านพี่ นี่ท่านไม่สบายรึเปล่า?”

พี่ของเขาจะให้เขาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์ขอโทษกลุ่มคนที่เพิ่งจะสำเร็จเต๋าเนี่ยนะ? นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?

“คนกลุ่มนี้ขโมยของของข้าไป แต่ท่านกลับให้ข้าขอโทษพวกเขาเนี่ยนะ?” กุยไห่หนานชานถามสวน

กุยไห่ไป๋ฉวนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาลทันที “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้เล่ห์กลของเจ้า! ข้าไม่สนใจว่าเจ้ามีแผนอะไร แต่เจ้าต้องหยุดและขออภัยพวกเขาเดี๋ยวนี้!”

กุยไห่หนานชานแสดงสีหน้าโง่งมเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นเขาสื่อสารกับพี่ชายของตนเองผ่านโทรจิต “ท่านพี่ ข้าไม่เข้าใจ ชายคนนี้เป็นลูกนอกสมรสของท่านพ่อรึไง?”

กุยไห่ไป๋ฉวนพ่นลมหายใจ “พวกเขาคือคนของตำหนักไร้หทัย! เร็วเข้ารีบทำตามที่ข้าบอกไปก่อน เอาไว้รอท่านพ่อมาพวกเราค่อยมาคุยกันใหม่อีกที!”

ตอนนี้เขามั่นใจว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนของตำหนักไร้หทัยแน่นอน แต่สิ่งที่เขาไม่มั่นใจและต้องให้พ่อของเขามายืนยันอีกทีก็คือ หลิงตู้ฉิงเป็นคนที่เขาคิดจริงรึเปล่า ซึ่งเขาหวังว่าคำตอบที่เขาจะได้รับมันคงไม่ตรงกับในความคิดของเขา

“ท่านพ่อจะมางั้นเหรอ?” กุยไห่หนานชานแสดงสีหน้าตกตะลึง แต่แล้วเมื่อผ่านไปครู่หนึ่งจู่ ๆ เขาก็หัวเราะออกมา “พี่ใหญ่ ท่านเลิกล้อเล่นกับข้าได้แล้ว มันจะเป็นไปได้ยังไงที่คนกลุ่มนี้มาจากตำหนักไร้หทัย? และอีกอย่างข้าคงปล่อยพวกเขาไปไม่ได้ง่าย ๆ เพราะพวกเขาเกี่ยวพันกับการทะลวงระดับของข้า!”

กุยไห่ไป๋ฉวนขมวดคิ้วและถามกลับ “พวกเขาเกี่ยวกับการบ่มเพาะของเจ้าได้ยังไง?”

“หญิงสาวที่อยู่ในกลุ่มนี้มีร่างกายจันทราศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตี๋ฮ่าวต้องการมัน ตราบใดที่ข้ามอบตัวหญิงสาวคนนี้ให้กับตี๋ฮ่าวได้สำเร็จ ข้าจะได้รับชาฟู่ซางจากเผ่าอีกาทองคำและนั่นมันคือโอกาสที่ข้าจะทะลวงระดับการบ่มเพาะของข้า! และอีกอย่างตอนนี้ตี๋ฮ่าวได้ติดต่อให้ผู้อาวุโสของเขามาที่ตระกูลของเราแล้ว ซึ่งข้าคิดว่าพี่ใหญ่คงจะรับมือไม่ไหวแน่นอน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย พวกเราควรจะมอบตัวหญิงสาวคนนี้ให้กับตี๋ฮ่าวไปซะ” กุยไห่หนานชานตอบกลับ

การสื่อสารทางโทรจิตของพวกเขานั้นไม่เหมือนกับการสื่อสารทางโทรงจิตในโลกเบื้องล่าง การสื่อสารทางโทรจิตของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าหลายเท่ามันไม่มีทางถูกดักฟังได้ แถมมันยังสามารถส่งต่อข้อมูลที่ออกมาจากความคิดจำนวนมหาศาลได้ภายในพริบตา

เมื่อได้รู้เช่นนี้ กุยไห่ไป๋ฉวนเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมน้องชายของเขาถึงได้กล้าทำเรื่องอะไรแบบนี้

สาเหตุที่น้องชายของเขาต้องวางแผนจัดฉากเช่นนี้เป็นเพราะต้องการทะลวงระดับการบ่มเพาะของตนเองพร้อม ๆ กับที่ไม่ต้องการทำให้ตระกูลต้องถูกผู้อื่นครหา ไม่เช่นนั้นกลุ่มของหลิงตู้ฉิงคงโดนจับตัวส่งออกไปแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนี้ กุยไห่ไป๋ฉวนอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่หลิงตู้ฉิง

แต่เมื่อเขาเหลือบมองไป เขากลับเห็นหลิงตู้ฉิงกำลังส่งยิ้มอันน่าขนลุกให้กับเขาอยู่

กุยไห่ไป๋ฉวนรู้ได้จากรอยยิ้มนั้นทันทีว่าเขาไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้มันดำเนินต่อไป เขารีบโทรจิตบอกกับน้องชายของเขาทันที “เจ้าห้ามทำอะไรต่อทั้งนั้น ตอนนี้เจ้าต้องรอท่านพ่อมาถึงที่นี่เพียงอย่างเดียว!”

จากนั้นเขาหันไปยิ้มให้กับหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “แขกผู้มีเกียรติข้าต้องขออภัยด้วยจริง ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ข้า…”

แต่ก่อนที่กุยไห่ไป๋ฉวนจะทันได้พูดจบประโยค หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นแทรก “พวกเจ้าคุยกันเสร็จแล้วใช่ไหม? ให้ข้าเดาเหตุผลที่พวกเจ้าทำแบบนี้ก็เพราะพวกเจ้ากำลังต้องการตัวหนึ่งในผู้หญิงของข้าใช่ไหม?”

ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่รู้ว่าคู่พี่น้องคู่นี้คุยอะไรกัน แต่เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อครู่ที่ร่างกายของกุยไห่หนานชานนั้นมีกลิ่นอายของความโลภและความเบิกบานแผ่ออกมาอย่างชัดเจน

ในเมื่อฝั่งตรงข้ามจงใจวางแผนไล่พวกเขาออกไปจากคฤหาสน์แบบนี้ มันแสดงว่าต้องมีคนนอกที่อยากจะได้ตัวหนี่งในคนของเขาแน่นอน

ก่อนหน้านี้เขาสัมผัสได้ว่าเย่ชิงเฉิงนั้นกำลังจะมีเคราะห์ ดังนั้นเขาจึงพอจะเดาได้ลาง ๆ ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเรื่องทั้งหมดนี้มันน่าจะเกี่ยวข้องกับเย่ชิงเฉิง

เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงรู้ตัวแล้ว กุยไห่หนานชานจึงไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไป เขาเอ่ยขึ้นเสียงดังทันที “พวกเจ้าคนไหนที่มีร่างกายจันทราศักดิ์สิทธิ์? ไหนก้าวออกมาให้ข้าเห็นหน้าหน่อย!”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นึกแล้วไม่มีผิดเจ้าเพ่งเล็งภรรยาของข้านี่เอง ไหนเจ้าบอกข้าสักหน่อยจะได้ไหมว่าใครกันที่อยากได้ตัวภรรยาของข้า?”

“อยากรู้งั้นเหรอ? ได้ข้าจะบอกให้เพื่อที่เจ้าจะได้ยอมตัดใจได้อย่างง่าย ๆ คนที่อยากได้ตัวภรรยาของเจ้าคือองค์ชายของเผ่าอีกาทองคำ ตี๋ฮ่าว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลิงตู้ฉิงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที “เจ้าเป็นมนุษย์ ภรรยาของข้าก็เป็นมนุษย์ หากไม่พูดถึงเรื่องที่ว่านางเป็นภรรยาของข้า สิ่งที่เจ้ากำลังจะทำอยู่ในตอนนี้คือการส่งตัวมนุษย์ด้วยกันไปให้กับเผ่าอื่น เจ้ารู้รึเปล่าว่าสิ่งนี้มันผิดแค่ไหน?”

เมื่อเห็นว่าท่าทีในตอนนี้ของหลิงตู้ฉิงเปลี่ยนไป กุยไห่ไป๋ฉวนรู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูกทันที เขารีบตะโกนใส่น้องชายของเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “หนานชาน เจ้ารีบหุบปากเดี๋ยวนี้!”

ในทางกลับกัน กุยไห่หนานชานกลับไม่สนใจ เขายังคงพูดต่อไปอีกด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน “พวกเจ้ามันก็แค่คนที่เพิ่งจะสำเร็จเต๋า พวกเจ้าควรจะรู้สึกเป็นเกียรติมากกว่าที่ได้มีส่วนร่วมทำให้เผ่ามนุษย์มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมาอีกคน และอีกอย่างตี๋ฮ่าวก็ไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอะไรสักเท่าไหร่ เขาไม่เอาชีวิตภรรยาของเจ้าหรอก อย่างมากที่สุดเขาก็แค่ดูดซับพลังของนางมาและอาจจะเล่นสนุกกับนางนิดหน่อยก็เท่านั้น!”

“หุบปากเดี๋ยวนี้!” จู่ ๆ เสียงตวาดหนึ่งดังขึ้นแทรก

จากนั้นชายชราผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นบนท้องฟ้าและค่อย ๆ ร่อนลงมา

เมื่อเห็นร่างของชายชรา กุยไห่ไป๋ฉวนและกุยไห่หนานชานคุกเข่าคำนับทันที “ท่านพ่อ!”

กุยไห่เหรินหวางโบกมือให้ลูกชายทั้งสองของเขาลุกขึ้น จากนั้นเขาเดินไปตรงหน้าของกุยไห่หนานชานและตบเข้าไปที่หน้าของลูกชายเขาฉาดใหญ่ “นี่เจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นพ่ออยู่อีกงั้นเหรอ? ข้าเคยสั่งสอนให้เจ้าทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้มาก่อนเหรอไง? เจ้ารู้บ้างไหมว่าทำไมเผ่ามนุษย์ของเราถึงเป็นกลุ่มที่มีอำนาจลำดับต้น ๆ ของโลกได้? เหตุผลมันเป็นเพราะพวกเราเผ่ามนุษย์มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน!”

“การที่พวกเราสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างทุกวันนี้เป็นเพราะน้ำพักน้ำแรงของบรรพบุรุษตั้งแต่ยุคบรรพกาลที่ทุ่มเทหล่อหลอมมันขึ้นมา ส่งผลให้ไม่มีเผ่าใดกล้าล่วงเกินพวกเรา แต่แล้วตอนนี้เจ้ากลับทำตัวเนรคุณทำตัวสวนทางกับเจตจำนงของบรรพบุรุษ กล้าขายมนุษย์ด้วยกันเองให้กับเผ่าอื่น! วิธีการที่ชั่วช้าแบบนี้ต่อให้เจ้าทะลวงระดับเป็นผู้เชี่ยวขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ ข้าก็ไม่ยอมรับ!”