แส้หางม้าของอู๋ฉยงปี้กับชุดนักพรตพันรอบดาบที่ลงมาจากสวรรค์ชั้นแล้วชั้นเล่าเป็นการป้องกัน
ธนูอู่ลอยอยู่รอบกายเปี๋ยยั่งหงราวกับห่าฝน
ทวนขุนพลเทพพยัคฆ์ขาวแทงตรงไป
ดังที่คนชุดน้ำเงินคาดเดาไว้ ทวนไม่อาจทะลวงเข้าสู่ร่างกายเฉินฉางเซิงได้
ปราณที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดปรากฏขึ้น ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์นิกายหลวงปรากฏขึ้นด้านหลังเฉินฉางเซิงและป้องกันการโจมตีที่ชั่วร้ายรุนแรงเอาไว้!
ขุนพลเทพพยัคฆ์ขาวคำราม ปราณแท้ระเบิดออก ทวนทะลวงผ่านรังสีศักดิ์สิทธิ์และพุ่งเข้าใส่เฉินฉางเซิงต่อไป
เฉินฉางเซิงชักกระบี่เสียงดังเช้ง ป้องกันการโจมตีของขุนพลเทพพยัคฆ์ขาว ทำให้ใบหน้าซีดขาวยิ่งกว่าเดิม
ในตอนนั้นเองที่ปราณอีกสายปรากฏขึ้นบนที่ราบสูง
ปราณนี้ยากที่จะบรรยายด้วยคำพูด มีกลิ่นอันเป็นลักษณะเฉพาะ เปี่ยมไปด้วยกลิ่นคาวเลือดแต่กลับไม่เหม็น แค่ทำให้เกิดความรู้สึกน่ากลัวหาใดเปรียบเท่านั้น
มันมีกลิ่นของน้ำทะเล แต่ก็มีกลิ่นเลือดที่ไหลออกมาจากปลาที่ถูกตัดครีบและโยนกลับลงสู่ทะเลเช่นกัน
ปราณนี้ทรงพลังจนถึงระดับที่น่าหวาดกลัว แม้แต่ปราณศักดิ์สิทธิ์ของไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์นิกายหลวงก็ยังถูกมันสะกดเอาไว้!
ปราณนี้มาจากคนชุดน้ำเงิน
ในตอนสุดท้ายไม่มีความจำเป็นต้องซ่อนอีกต่อไป เขาระเบิดปราณออกมาให้โลกได้รู้ เผยพลังการบำเพ็ญเพียรที่เหนือจินตนาการออกมา!
ผู้บำเพ็ญเพียรจากสำนักเล็กๆ แดนใต้ใกล้เขาเริ่มกระอักเลือด ล้มลงใต้แรงกดดันจากปราณอันกดขี่นี้
คนชุดน้ำเงินซัดฝ่ามือใส่แผ่นหลังเฉินฉางเซิงจากระยะไกล!
ฝ่ามือสีน้ำเงินขนาดมหึมาปรากฏขึ้นเหนือที่ราบสูง เปี่ยมไปด้วยลมทะเลและน้ำเลือด มันพุ่งลงสู่ศีรษะของเฉินฉางเซิง
ฝ่ามือสีน้ำเงินบรรจุไว้ด้วยพลังมหาศาลราวกับท้องทะเลถล่มลงมาด้วยตัวเอง!
เมื่อเทียบกับคนชุดน้ำเงิน ทะเลบัวของอู๋ฉยงปี้อ่อนด้อยกว่ามาก!
เมื่อสัมผัสได้ถึงปราณและเห็นคนชุดน้ำเงิน ใบหน้าสวีโหย่วหรงก็ซีดขาวยามที่คิดในใจ ยอดฝีมือผู้นี้มาจากไหนกัน!
คนชุดน้ำเงินแข็งแกร่งกว่าอู๋ฉยงปี้มาก ดังนั้นเขาย่อมเป็นยอดฝีมือที่ใช้เวลาอยู่ในเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์มาหลายปีแล้ว
ปัญหาก็คือมียอดฝีมือไม่มากนักบนต้าลู่ แล้วทำไมไม่มีใครรู้จักเขามาก่อน
ปราณของคนผู้นี้ชัดเจนว่าไม่ได้เป็นของยอดฝีมือเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่รู้จัก ดังนั้นเขามาจากไหนกัน
ถังซานสือลิ่ว โก่วหานสือ ฮู่ซานสือเอ้อร์ เหล่านักบวชและศิษย์สถานศึกษาหนานซีล้วนตกตะลึง ไม่อาจแม้แต่จะส่งเสียงด้วยความประหลาดใจ
เฉินฉางเซิงใช้ร่างอันบอบช้ำต้านทานการโจมตีของขุนพลเทพพยัคฆ์ขาว ตอนนี้ถูกซุ่มโจมตีโดยยอดฝีมือเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัว ใครก็บอกได้ว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
ตอนนี้ใครจะช่วยเขาได้
ฝูงสัตว์อสูรในสวนโจวหรือหนานเค่อ หรือว่าแผ่นป้ายอนุสรณ์คัมภีร์สวรรค์บนข้อมือ
ไม่ ไม่มีสิ่งใดทำได้
การบำเพ็ญเพียรของคนชุดน้ำเงินนี้น่ากลัวเกินไป!
ทันใดนั้นพลังดาบบนท้องฟ้าก็ระเบิดออก แสงส่องลงมาจากท้องฟ้าดูเหมือนจะส่องประกายเย็นเยียบ
ดูเหมือนว่าหวังผ้อจะสังเกตเห็นพลังปราณและจิตสังหารของคนชุดน้ำเงินและต้องการจะทำลายทะเลบัวเพื่อช่วยเฉินฉางเซิง
แส้หางม้าล้มลงทีละเส้น และดาบก็เกือบที่จะร่วงลงมาแล้ว
แต่มันก็ยังไม่ตกลงมา
แสงกระจ่างใสสาดส่องไปทั่วที่ราบสูง เจตจำนงดาบอันรุนแรงก็ตกลงมาในเวลาเดียวกัน
คนชุดน้ำเงินยังไม่เคลื่อนไหว
เขาคำนวณไว้อย่างชัดเจนแล้ว
สามลมหายใจก็คือสามลมหายใจ
อู๋ฉยงปี้สามารถรับกันดาบนี้เอาไว้ได้อย่างน้อยสามลมหายใจ
หลังจากเขาฆ่าเฉินฉางเซิง พลังดาบที่ลงมาจากสวรรค์อาจทำให้เขาบาดเจ็บ แต่มันจะนับเป็นอะไรได้
อู๋ฉยงปี้กับเปี๋ยยั่งหงแบกความผิดฆ่าสังฆราช ดังนั้นพวกเขาต้องทำงานรับใช้เขา
เมื่อสามยอดฝีมือเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าดาบนั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด มันจะทำอะไรได้
ไม่ว่าเซียงอ๋องจะละเอียดรอบคอบเพียงไร เขาก็ยังไม่อาจเห็นว่าสถานการณ์จะออกมาแบบใด
ด้วยลักษณะนิสัยของราชสกุลเฉิน เขาย่อมก้าวออกมาและสร้างเรื่องสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
หวังผ้อต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
……
……
หวังผ้อตาย
สังฆราชตาย
เทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ตาย
พระราชวังหลีล่มสลาย
เทพธิดาศักดิ์สิทธิ์แน่นิ่ง
นิกายหลวงเสื่อมโทรม
เมืองจักรพรรดิขาวอยู่ในมือ
บีบเมืองเสวี่ยเหล่าเพื่อควบคุมราชสำนัก
แบ่งโลกนี้เป็นสามส่วน
จากนั้นก็แบ่งโลกเป็นสอง
แล้วในที่สุดก็ปกครองโลกนี้เพียงผู้เดียว!
ภาพอันงดงามจับตานี้ลอยอยู่ในหัวของเขาและคนในตระกูลมาหลายปีแล้ว วาดมันออกมาอย่างลับๆ
ในที่สุดวันนี้มันก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างรุ่งโรจน์ที่สุด
ดวงตาคนชุดน้ำเงินยังคงดำและเยือกเย็น ทว่าในส่วนลึกเปลวเพลิงที่เรียกว่าความทะเยอทะยานก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา
ตราบใดที่ฝ่ามือของเขาฟาดลง ไม่ว่าของวิเศษที่เฉินฉางเซิงซ่อนไว้คืออะไร ต่อให้เป็นของศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกายหลวง ก็ต้องสลายเป็นผุยผง
สำหรับเรื่องนี้เขาเตรียมใจที่จะเสียนิ้วไปบ้าง
แต่กระนั้น
ชั่วขณะต่อมา
รอยสีแดงเข้มที่ปรากฏขึ้นบนภาพของเขาก็จะเปี่ยมไปด้วยความงดงาม!
การออกแบบทั้งหมด อย่างกองทัพที่แข็งแกร่ง การเข้าสู่เขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ การเหลือบมองเหวนรก ต่างก็เปื้อนไปด้วยสีแดง กลายเป็นภาพคลุมเครือและยากที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน!
สีแดงแจ่มชัดยิ่งขึ้นราวกับว่ามันได้เปลี่ยนเป็นเลือด
เปลวเพลิงในส่วนลึกของดวงตาคนชุดน้ำเงินดับลงอย่างฉับพลัน
เพราะฝ่ามือของเขาไม่ได้ฟาดลง
เฉินฉางเซิงไม่ได้ตาย
ฝ่ามือเขาถูกดอกไม้สีแดงกันเอาไว้
และสีแดงนี้ก็มาจากดอกไม้นั้น
……
……
เสียงตุบดังก้องในหูของทุกคนบนที่ราบสูง
เสมือนมีบางอย่างตกกระทบฝ้ายเปียกชื้น หรือโคลนเปียก หรือสีแดงเปียกชื้น
ดอกไม้แดงปรากฏขึ้นด้านหลังเฉินฉางเซิง
จากนั้นมันก็เริ่มเบ่งบาน เต็มไปด้วยกลีบดอกนับไม่ถ้วน ลอยไหวอยู่กลางอากาศ ต้านรับฝ่ามือแสงสีน้ำเงินขนาดใหญ่
เงาสลายไปในทันที จิตสังหารพุ่งขึ้นโดยพลัน นัยน์ตาคนชุดน้ำเงินหดตัวลงทันใด
เขาย่อมจดจำดอกไม้แดงนี้ได้
ผู้บำเพ็ญเพียรทุกคนจำดอกไม้แดงนี้ได้
นี่คือดอกไม้แดงที่มัดอยู่บนนิ้วก้อยของเปี๋ยยั่งหงมาหลายปี
วันนี้เองที่ด้ายซึ่งมัดมันไว้ถูกทำลายไปพร้อมกับวังวนสีดำที่ศิลาดาวตกสร้างขึ้น ปล่อยให้ดอกไม้แดงลอยไปมาได้ตามใจ
แต่ดอกไม้แดงจะไปที่ไหนก็ย่อมเป็นไปตามความต้องการของเจ้านายมัน
มันพลันปรากฏขึ้นด้านหลังเฉินฉางเซิง ป้องกันการโจมตีของคนชุดน้ำเงิน นี่ย่อมเป็นเจตนาของเปี๋ยยั่งหง
ทำไมเปี๋ยยั่งหงถึงพลันเปลี่ยนมาช่วยเฉินฉางเซิง
สุดท้ายแล้วเฉินฉางเซิงก็เป็นศัตรูที่ฆ่าลูกชายของเขา ต่อให้เฉินฉางเซิงยอมตามเขาไปเพื่อกำจัดข้อสงสัย แต่มันมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร
คนชุดน้ำเงินไม่เข้าใจ ไม่อาจคิดต่อไปได้
เพราะจะคิดก็ต้องใช้เวลา
ในฐานะยอดฝีมือเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถคิดคำนวณเหตุผลหลายอย่างใดอย่างฉับพลัน
แต่คนชุดน้ำเงินนั้นไม่มีเวลาให้เสียเปล่า
เวลาสามลมหายใจเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
คนชุดน้ำเงินลอยออกจากหน้าผาไปในทันที ไม่แม้แต่จะเหลียวมองไปที่การต่อสู้อีกเลย
ไม่ว่าขุนพลเทพพยัคฆ์ขาวจะฆ่าเฉินฉางเซิงหรือเซียงอ๋องจะลงมือทำอะไรเขาก็ไม่สนใจอีกต่อไป
เขาจากไปราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง แขนเสื้อที่พลิ้วไหวซัดต้นไม้ล้มระเนระนาดยามที่เขาเคลื่อนไปเป็นระยะทางหลายร้อยจั้ง
แต่ดอกไม้แดงดูเหมือนจะมีความคิดของตัวเอง หลังจากสลายฝ่ามือสีน้ำเงิน มันก็หายไปในทันที แล้วพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศนอกที่ราบสูง สลัดกลีบดอกร่วงลงบนพื้นที่กว้างใหญ่รัศมีหลายลี้ ปิดกั้นทางหนีของคนชุดน้ำเงินไว้
กลีบดอกสีแดงฉูดฉาดบรรจุไว้ด้วยพลังที่น่าหวาดกลัว ทุกชิ้นหนักปานภูเขา