เมื่อหลิงตู้ฉิงและมี่ไลเข้ามาสู่พื้นที่ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์ มี่ไลมองสภาพแวดล้อมรอบด้านอยู่สักพัก จากนั้นนางถอนหายใจและพูดว่า “ข้าคิดว่ารอบหน้าที่แม่น้ำมหาดาราเปิดให้เข้า พื้นที่แห่งนี้คงแตกสลายไปก่อนแล้วแน่นอน”
“พื้นที่แห่งนี้คงอยู่ได้อีกไม่เกิน 20,000 ปี” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเห็นด้วย
สภาพแวดล้อมของพื้นที่แห่งนี้ไม่มีแผ่นดินใหญ่ใด ๆ หลงเหลืออีกแล้ว เหลือแต่เพียงเกาะเล็ก ๆ กระจัดกระจายอยู่มากมาย และสิ่งที่น่าตื่นตระหนกเกี่ยวกับเกาะเหล่านี้ก็คือบางเกาะจู่ ๆ ก็มีไฟลุกท่วมและไฟนั้นรุนแรงพอที่จะทำให้เกาะทั้งเกาะหายไปในพริบตา หรือบางเกาะจู่ ๆ ก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหรือไม่บางเกาะจู่ ๆ ก็ระเบิดกระจุยหายไปต่อหน้า หรือที่หนักหน่อยก็คือจู่ ๆ เกาะทั้งเกาะก็หายไปต่อหน้าต่อตาเลยแบบไม่มีสัญญาณใด ๆ บ่งบอกล่วงหน้า…
แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้มันสุดแสนจะอันตราย ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็อาจจะตายได้แบบง่าย ๆ ถ้าไม่ระวังตัว
เมื่อมี่ไลเห็นว่าสถานที่แห่งนี้อันตรายขนาดไหน นางส่ายหัวและพูดว่า “ข้าเข้าไปในโลกของท่านด้วยอีกคนดีกว่า ขืนข้าอยู่ข้างนอกแบบนี้มันรังแต่จะทำให้ท่านต้องมาพะวงกับความปลอดภัยของข้า ซึ่งมันจะมีแต่ผลเสียเปล่า ๆ”
ถึงแม้ว่านางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพที่กลับมาเกิดใหม่ แต่ประสบการณ์หลาย ๆ ด้านของนางก็เทียบหลิงตู้ฉิงไม่ได้ หากนางยังคงอยู่ข้างนอกอยู่แบบนี้ หลิงตู้ฉิงก็ต้องแบ่งความสนใจมาคอยดูแลนาง ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถหาสมบัติได้อย่างเต็มร้อย
เมื่อรู้เช่นนี้นางจึงไม่อยากเป็นตัวภาระของเขา และเพื่อจบปัญหาการเข้าไปในโลกของหลิงตู้ฉิงจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เมื่อได้ยินที่มี่ไลเอ่ยขึ้น หลิงตู้ฉิงดูดร่างมี่ไลเข้าไปในโลกของเขาทันที จากนั้นเขาบินตรงไปที่หินก้อนใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 100 เมตร
เมื่อไปถึงด้านหน้าของก้อนหินยักษ์ เขาดูดหินก้อนนี้เข้าไปในโลกของเขาและทำให้มันแบ่งออกเป็นก้อนเล็ก ๆ และส่งมันกระจายออกไปในโลกของเขา
หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็เริ่มดูดของอย่างอื่นเข้าไปในโลกของเขาไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็ง เปลวไฟ พิษ ก้อนเมฆ ลาวา พายุมิติ…ทุก ๆ อย่างที่โลก ๆ หนึ่งควรจะมี หลิงตู้ฉิงดูดเข้าไปในโลกของเขาเองทั้งหมด และทำให้พวกมันกลายเป็นเต๋าในโลกของเขา
แต่แล้วในขณะที่หลิงตู้ฉิงกำลังจะดูดเพลิงสุริยะบรรพกาลเข้าไปในโลกของเขาเอง จู่ ๆ ก็เหมือนฟ้าดินเป็นใจให้ ตี๋ฮ่าว องค์ชายของเผ่าอีกาทองคำปรากฏตัวขึ้น
ตี๋ฮ่าวรีบตะโกนหยุดหลิงตู้ฉิงในทันที “สหายเต๋าช้าก่อน! โปรดมอบเพลิงสุริยะบรรพกาลนั่นให้ข้าเถอะ! ท่านไม่ใช่ผู้บ่มเพาะเต๋าแห่งไฟ ต่อให้ท่านดูดซับมันไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจริงไหม?”
หลิงตู้ฉิงหันกลับไปมองต้นเสียงทันที และเห็นได้ว่าตี๋ฮ่าวนั้นมีบ่วงกรรมเชื่อมกับเขาอยู่ ซึ่งมันทำให้เขารู้ในทันทีว่าคนผู้นี้เป็นใคร
“เจ้าคือเผ่าอีกาทองคำ ตี๋ฮ่าว สินะ?” หลิงตู้ฉิงเอ่ยถามขึ้น
ทางด้านของตี๋ฮ่าวรู้สึกงุนงงเมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงทักทายเขาแบบนี้ “สหายเต๋าท่านรู้จักข้างั้นเหรอ? ถ้างั้นก็เยี่ยมเลยในเมื่อท่านรู้จักข้า ท่านก็น่าจะรู้ดีว่าเพลิงสุริยะบรรพกาลสำคัญต่อข้าขนาดไหนจริงไหม?”
หลิงตู้ฉิงถอนหายใจ “ข้าไม่ได้อยากจะรู้จักเจ้า แต่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าพยายามชิงตัวภรรยาของข้าไป ดังนั้นข้าเลยรู้จักเจ้า เอาล่ะตอนนี้ในเมื่อเราได้เจอกันงั้นข้าขอใช้โอกาสนี้ใช้เพลิงในร่างกายของเจ้ามาทำให้อาวุธแห่งชะตาชีวิตของภรรยาข้ากลายเป็นอาวุธเต๋าก็แล้วกัน!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงดูดร่างของตี๋ฮ่าวเข้าไปในโลกของเขาทันที
ทางด้านของตี๋ฮ่าวเมื่อเห็นการกระทำเช่นนี้ของหลิงตู้ฉิง สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างมากและตะโกนว่า “เจ้าคิดว่าจะกลืนกินข้าได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ นี่เจ้าเป็นมือใหม่เพิ่งทะลวงระดับมาได้สินะ?”
จุดแข็งที่สุดของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในโลกเบื้องบนก็คืออาณาเขตสวรรค์ที่พวกเขาพัฒนามันจนกลายเป็นโลก แต่ในเวลาเดียวกันมันก็คือจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดด้วยหากใช้มันแบบโง่งม
โลกของพวกเขาจะมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการกักขังผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับต่ำกว่า แต่ถ้าหากเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกันหรือฝั่งตรงข้ามเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับสูงกว่าการเอาศัตรูแบบนั้นเข้าไปอยู่ในโลกของตัวเองนับว่าเป็นหายนะ ไม่เพียงแต่เจ้าของโลกจะไม่สามารถควบคุมฝั่งตรงข้ามได้ แต่ฝั่งตรงข้ามจะสามารถเห็นเต๋าของเจ้าของโลกได้อย่างชัดเจนและเมื่อฝั่งตรงข้ามทำลายเต๋าของเจ้าของโลกเมื่อไหร่ ผู้ที่เป็นเจ้าของโลกก็จะถือว่าจบเห่ในทันที
ตี๋ฮ่าวนั้นอยู่ในระดับการบ่มเพาะเดียวกับหลิงตู้ฉิง ซึ่งการที่หลิงตู้ฉิงทำเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตายแท้ ๆ ดังนั้นตี๋ฮ่าวจึงคิดว่าหลิงตู้ฉิงเป็นมือใหม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ตี๋ฮ่าวขบขันอยู่ในใจ จากนั้นเมื่อเขาเข้าไปในโลกของหลิงตู้ฉิง เขาก็โคจรพลังร่างสุริยะเทพของเขาทันทีจนตัวเขากลายเป็นเสมือนดวงอาทิตย์อีกดวงที่สว่างเจิดจ้าอยู่ในโลกของหลิงตู้ฉิง
หากตี๋ฮ่าวทำแบบนี้ในโลกของคนอื่น โลกของคนผู้นั้นคงถูกเผาละลายไปหมดแล้ว แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่กับโลกของหลิงตู้ฉิงที่มีอำนาจมากกว่าโลกของผู้เชี่ยวชาญปกติไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
โลกของหลิงตู้ฉิงไม่เสียหายอะไรเลยแม้แต่น้อยจากความรุนแรงของเพลิงของตี๋ฮ่าว
จากนั้นหลิงตู้ฉิงใช้อำนาจโลกของเขาตรึงร่างของตี๋ฮ่าวเอาไว้ไม่ให้กระดุกกระดิกไปไหนจนตี้ฮ่าวกลายเปนเหมือนดาวดวงหนึ่งที่ลอยค้างอยู่บนท้องฟ้าในโลกของเขาจริง ๆ และถัดมาหลิงตู้ฉิงพูดกับเย่ชิงเฉิงว่า “ชิงเฉิง ข้าเอาสิ่งที่จะทำให้อาวุธแห่งชะตาชีวิตของเจ้ากลายเป็นอาวุธเต๋ามาให้แล้ว!”
เย่ชิงเฉิงปรากฏกายขึ้นพลางมองไปที่ร่างของตี๋ฮ่าว และถามกลับทันที “ข้าต้องทำยังไงต่อ?”
“เอาคันฉ่องสวรรค์หยินหยางของเจ้าออกมา จากนั้นใช้คันฉ่องดูดซับพลังเพลิงสุริยะเทพของเขาให้หมด ส่วนมี่ไลเจ้าคอยควบคุมร่างของคนผู้นี้ให้ดีอย่าให้เขาขัดขืนชิงเฉิงได้” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ
มี่ไลพยักหน้า “วางใจได้ เขาขัดขืนไม่ได้แน่นอน”
“เอาล่ะ พวกเจ้าจัดการเขาไปก็แล้วกัน ข้าไปดูดกลืนเต๋าของโลกใบนี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ต่อก่อน” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ
ตี๋ฮ่าวเริ่มจะตื่นตระหนกแล้วเพราะตอนนี้เขาไม่สามารถขยับร่างกายของตนเองได้เลย
“สหายเต๋าท่านรู้รึเปล่าข้าเป็นใคร? ข้าคือองค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองคำหาก ท่านทำร้ายข้ามันจะเท่ากับว่าท่านประกาศสงครามกับเผ่าอีกาทองคำทั้งหมด!” ตี๋ฮ่าวตะโกนขึ้น
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ประกาศสงครามงั้นเหรอ? เจ้าไม่ต้องห่วงเลย ในอนาคตอีกไม่นานข้าเนี่ยแหละจะไปเยือนเผ่าของเจ้าด้วยตัวเอง และข้าจะบอกคนของเจ้าทั้งหมดด้วยว่าข้าทำอะไรกับเจ้าไปบ้าง”
ตี๋ฮ่าวทั้งตกตะลึงทั้งเดือดดาลเมื่อได้ยินเช่นนี้ “สหายเต๋า หากท่านทำแบบนี้มันจะส่งผลให้ท่านมีบ่วงกรรมกับเผ่าของข้า ท่านรู้รึเปล่าว่าใครก็ตามที่มีบ่วงกรรมกับเผ่าของข้าล้วนมีจุดจบที่อนาถทุกราย!”
“ถ้าพูดถึงเรื่องบ่วงกรรม ข้าน่าจะมีบ่วงกรรมกับเผ่าของเจ้าก่อนที่ที่เจ้าจะเกิดซะอีก!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับในระหว่างที่เขาก็ดูดเต๋าต่าง ๆ ของโลกแม่น้ำมหาดาราเข้ามาในโลกของเขาเอง
เมื่อคุยกันถึงจุดนี้ ตี๋ฮ่าวทนไม่ไหวอีกแล้วเขาตวาดขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล “ไอ้สารเลวเอ้ย เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาทำกับข้าแบบนี้? ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้แล้วมาสู้กับข้าอย่างยุติธรรมหากเจ้าชนะข้าได้ข้าจะยอมเจ้าทุกอย่าง!”
ง้าวเทวะพินาศปรากฏขึ้นตรงหน้าของตี๋ฮ่าวทันทีและพูดว่า “เจ้าน่ะเหรอจะสู้กับนายข้า? เมื่อในอดีตบรรพบุรุษของเจ้ายังหนีพวกข้าเหมือนหมาจรจัด ซึ่งเป็นโชคดีของบรรพบุรุษเจ้าจริง ๆ ที่พวกข้าตามไม่ทัน ไม่งั้นป่านนี้จำนวนจักรพรรดิเทพที่ตายด้วยน้ำมือของข้ากับนายของข้าคงเพิ่มมาอีกหนึ่ง ว่าแต่นี่มันก็ 30,000 ปีผ่านมาแล้วจริงไหม? ตอนนี้ไอ้อีกากระจอกนั่นฟื้นฟูดีแล้วรึยัง”
เมื่อเห็นง้าวเทวะพินาศปรากฏขึ้นต่อหน้า ตี๋ฮ่าวแสดงสีหน้าสิ้นหวังทันทีเพราะในตอนนี้เขารู้แล้วว่าคนที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่เป็นใคร!
เขาเข้าใจแล้วว่าในตอนนี้โอกาสรอดของเขาเท่ากับศูนย์!