รวมกับเทพมารขั้นสูงทั้งสาม มีเทพมารขั้นสูงทั้ง 28 ท่านที่เข้าสู่ห้วงกาลแดน เรียกได้ว่าตายไปครึ้งหนึ่ง

ก่อนหน้าที่เทพมารทุกท่านจะออกตามหาสถานที่เก็บกระดูกของเทพสงครามเอกภพ หลัวซิวได้สำแดงพลังต่อสู้เทียบเท่ากับอนาคินมหาจักรพรรดิยุทธ์ ทำให้ แดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แห่งโลกแสงดาวต่างพากันเป็นกังวลใจอยู่ไม่น้อย

ในระยะเวลาที่หลัวซิวหายตัวไปตลอดห้าปี ต่อให้จะมีการกระทบกระทั่งกันกับศิษย์สำนักไท่เสวียน แต่ก็เป็นการต่อสู้ในวงแคบ มีน้อยมาก ๆ ที่จะมีผู้แข็งแกร่งระดับมหายุทธ์ขึ้นไปออกโรงเอง

แต่ว่าเมื่อข่าวการตายของหลัวซิวถูกเจ้าศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งสี่นำกลับมา แดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็พลันทำตัวไร้ยางอายด้วยความประมาททันที

ข่าวการตายของหลัวซิวที่ห้วงกาลแดนเพิ่งจะถูกแพร่สะพัดออกไปได้ไม่นาน ก็มีศิษย์สำนักไท่เสวียนจำนวนไม่น้อยที่เมื่ออกไปฝึกซ้อมด้านนอก ก็ต้องพบเจอกับการล้อมโจมตีของศิษย์จากตระกูลสำนักใหญ่ต่าง ๆ เกิดการนองเลือดและตายไปไม่น้อย

หลังจากนั้น แดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็เริ่มมีส่วนร่วมในการกระทำต่อต้านสำนักไท่เสวียนอาณาจักรใต้สามแดนศักดิ์สิทธิ์ ห้าแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่อาณาจักรเหนือ รวมถึงสิบแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่จากอาณาจักรตะวันออกและอาณาจักรตะวันตก รวมกันถึง 19 แดนศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็ส่งผู้แข็งแกร่งโลกยุทธ์ออกมา มายังบริเวณใกล้เคียงแดนตำหนักจื่อ

ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆหมอกแน่นหนา ราวกับเป็นสัญญาณของพายุที่กำลังจะเกิดขึ้น

ด้านนอกของแดนตำหนักจื่อ มีมหายุทธ์นับร้อย เจ้ายุทธจักรนับสิบ รวมถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งของเผ่าหงส์รวมตัวกันอยู่

หลัวซิวตายไป กองกำลังต่าง ๆ ก็ไร้ซึ่งความกังวลใด ๆ อีก ต่อให้ในวันนี้สำนักไท่เสวียนจะพัฒนาอย่างรวดเร็วเพียงใด แต่หากเทียบกับมรดกสืบทอดของแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ต่าง ๆ แล้ว ยังคงมีระยะห่างของความแตกต่างอยู่มากทีเดียว ยังขาดการระยะเวลาในการสั่งสมประสบการณ์

“คนของสำนักไท่เสวียนจงฟังให้ดี รีบเปิดทางเข้าแดนปริศนาประเดี๋ยวนี้ ให้เหยียนเยว่เอ๋อร์ออกมาพบข้า ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะถูกฆ่าตายทั้งหมด!”

ที่ด้านนอกอนัตตาของแดนปริศนา เจ้ายุทธจักรหงส์ตะโกนเสียงต่ำ เสียงนั้นพุ่งทะลุเข้ามายังปริภูมิ ถูกส่งต่อเข้าไปยังกลางแดนตำหนักจื่อ

ชั่วขณะหนึ่ง บรรดาศิษย์ไท่เสวียนภายในแดนปริศนาต่างก็ตื่นตระหนกกันขึ้นมา มีเพียงเหล่าผู้คนส่วนน้อยจำนวนไม่กี่คนที่จิตใจยังนับได้ว่าสงบนิ่ง แต่สีหน้านั้นเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม

เห็นได้ชัดว่า เผ่าหงส์ยังคงหมายปองสายเลือดเทพหงส์บนตัวของเหยียนเยว่เอ๋อร์มาโดยตลอด

อีกทั้งการล้อมโจมตีไท่เสวียนครั้งนี้ เผ่าหงส์เป็นคนเริ่มเรื่อง ส่วนแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็ได้เข้าร่วมด้วย ที่มากที่สุดคือการระบายความเกลียดชัง

ในตอนแรกกองกำลังต่าง ๆ ร่วมมือกันไล่ล่า แต่ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จำนวนไม่น้อยกลับถูกหลัวซิวฆ่าตายแทน ในบรรดาผู้แข็งแกร่งเหล่านี้เต็มไปด้วยศิษย์คนโปรด ย่อมต้องเอาความแค้นนั้นย้ายมาลงที่สำนักไท่เสวียนเป็นธรรมดา

“เฮอะ หลัวซิวไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่นตายไปแล้ว สำนักไท่เสวียนแห่งนี้ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แน่นอนว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำรงอยู่อีกต่อไป”

“ศิษย์ทุกคนของสำนักไท่เสวียนจงฟังข้าไว้ให้ดี เพียงแค่พวกเจ้ายินยอมที่จะออกจากไท่เสวียน และเข้าร่วมกองกำลังของสำนักอื่น ๆ ข้าก็จะละเว้นหายนะครั้งนี้ให้ ไม่เช่นนั้นหากยังหลงผิดคิดไม่ได้ ก็อย่ามาโทษข้าเมื่อข้าบุกเจ้าไปโจมตี เปิดสงครามครั้งใหญ่!”

มีคนตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสูงแหลม ส่งเสียงให้เข้าไปยังแดนตำหนักจื่อ ต้องการขจัดการต่อต้านของสำนักไท่เสวียนจากภายใน

“เลิกพูดไร้สาระ หากมีปัญญาพวกเจ้าก็โจมตีเข้ามา!” เหยียนเยว่เอ๋อร์พ่นลมหายใจออกมา สีหน้าไม่แยแส

ในตอนนั้นร่างแยกชุดขาวของหลัวซิว เมื่อวิชาค่ายกลตระหนักรู้ถึงแดนปรมาจารย์ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าแล้ว ก็สลักลายค่ายเอาไว้ทั่วทั้งอนัตตาสี่ทิศรอบแดนตำหนักจื่อ จัดวางค่ายคุ้มกันเพื่อป้องกันแดนปริศนาแห่งนี้อย่างแน่นหนา เพียงแค่วิชาห้ามค่ายกลต่าง ๆ ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น9 ก็มีว่ากว่า 30 ค่ายแล้ว

พลังของค่ายกลระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น9ค่ายหนึ่ง หากปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา ก็เทียบได้กับการออกโรงของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว ซึ่งค่ายกลระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 มากกว่า 30 ค่ายนั้น ก็หมายถึงแดนตำหนักจื่อมีผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์มากกว่าสามสิบท่านปกป้องอยู่

ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ล้อมโจมตีแดนปริศนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัย แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายค่ายคุ้มกันเพื่อบุกเข้าไปในแดนปริศนาได้ กระทั่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกลงไปในวิชาห้ามค่ายกล ร่างกายและวิญญาณที่ถูกบีบรัดกลายเป็นเถ้าธุลี ไม่เหลือสิ่งใดเลย