บทที่ 996 เจอเพื่อนเก่า

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 996 เจอเพื่อนเก่า

สุดท้ายแล้วเส้นหมี่ก็ไม่ได้ไปทำงาน

ไม่ใช่เพราะเธอถูกเงินทองมอมเมา แต่เป็นเพราะลูกทั้งสามนั้นกลับมาที่นี่แล้ว เทอมหน้าต้องหาโรงเรียนใหม่ให้เข้าเรียน เธอต้องไปจัดการเรื่องนี้

“เส้นหมี่ ผมรู้สึกโรงเรียนประถมในเมืองAก็ไม่เลวนะ ให้เขาทั้งสามคนไปเรียนที่นั่นก็ได้”

“จะไปเรียนที่นั่นได้อย่างไร? ยังไงก็ต้องไปเรียนที่โรงเรียนประถมเอ็มไพร์ ที่นั่นเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในแถวนี้ และยังอยู่เป็นของเครือหิรัญชากรุ๊ปด้วย ลูกของพวกเราต่างก็เรียนที่นั่นเหมือนกัน”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พี่น้องในตระกูลหิรัญชาก็มาจับกลุ่มกันอีกครั้ง เพื่อออกความคิดเห็นให้เส้นหมี่

เมื่อเส้นหมี่ฟังจบ ก็ไม่รู้ว่าจะฟังความคิดเห็นใครดี

ถ้าพูดถึงระบบและสิ่งอำนวยความสะดวก โรงเรียนประถมเอ็มไพร์คือโรงเรียนที่ดีที่สุด แต่คุณภาพการเรียนการสอนไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร?

หลังจากเส้นหมี่ได้เผชิญกับเหตุการณ์คิวเอสวายในเมืองหลวง ตอนนี้เธอรู้สึกอคติกับโรงเรียนเอกชนที่ดีแบบนี้แล้ว ถึงแม้จะเป็นของเครือหิรัญชากรุ๊ป เธอก็ยังไม่ไว้ใจเหมือนกัน

สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะไปดูด้วยตัวเอง

“พี่สุภา ฉันจะไปโรงเรียน เธออยู่บ้านดูแลเด็กทั้งสามคนให้ดีหล่ะ”

“รับทราบค่ะ คุณนายน้อย”

พี่สุภารับปากอย่างเต็มใจ และยืนมองเธอออกไป

ช่วงสองสามวันนี้ แสนดีก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไม่รู้ว่าไปทำอะไร บางครั้งก็กลับมาตอนพลบค่ำ

เส้นหมี่ขับรถออกจากเรือนรอง

“ฮัลโหล? เค ฉันคือหมี่นะ ฉันอยากถามว่าเธอมีเบอร์โทรศัพท์ ของโรงเรียนประถมเอ็มไพร์หรือเปล่า ?”

“ห๊า? คุณนาย?!!”

เคมี คนในสายที่ได้รับสายจากเธอ ตื่นเต้นจนลุกขึ้นจากที่นั่งทันที

“มีครับๆ คุณนาย คุณจะให้คุณหนูทั้งสามไปเรียนที่โรงเรียนนี้ใช่ไหมครับ?”

เขาถามอย่างไม่หยุด แสดงความดีใจและส่งเสียงดังออกมา จนแทบจะลืมไปแล้วว่าเขากำลังอยู่ในเวลางาน

เส้นหมี่ตอบสั้นๆ “อืม”: “ใช่ ตอนนี้กลับมาแล้ว เดือน 9 ก็จะเปิดเทอมแล้ว ฉันอยากจะติดต่อให้เรียบร้อยก่อน เธอมีเบอร์ไหม? ถ้ามีก็บอกฉันมาหน่อย ”

“มีๆๆ ผมจะบอกคุณนายเดี๋ยวนี้ครับ”

เคมีรีบรับปากอย่างเร็ว

หลังจากวางสาย ตอนกำลังจะส่งเบอร์โทรศัพท์ผู้อำนวยการโรงเรียนออกไปให้เธอ

ทันใดนั้น เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาพบว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่พับแขนเสื้อขึ้น ผูกเนกไท ในมือยังถือเอกสารหนาเตอะ ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานเขา

“ท่าน……ท่านประธานคณาธิป?”

“นี่เป็นสัญญาที่เพิ่งตกลงกับ LG คุณเรียบเรียงมันอีกที”

คณาธิปไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรนัก

เขากวาดสายตาผ่านแว่นตาบางนั้นไปที่ผู้ช่วยของเขา พร้อมยื่นเอกสารสัญญาที่เพิ่งตกลงไปให้เขา แล้วเขาก็เดินกลับออฟฟิศไป

คณาธิป: “……”

คณาธิปมองตามหลังเขาไปสักพัก เขาได้แต่ยืนเหงื่อแตกอยู่ตรงนั้น

ในสายตาของเคมี นิสัยของประธานบริษัทคนใหม่นี้ก็ดีทีเดียว ไม่เหมือนประธานแสนรักที่อารมณ์แปรปรวนขึ้นลงอย่างเดาไม่ถูก

หลังจากที่เขามารับช่วงต่อจากหิรัญชากรุ๊ป เขามักจะพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับพนักงานบ่อยๆ

เวลาทำงาน เขาแทบจะไม่เคยใช้อารมณ์เลย

เวลาที่ผ่านมาหนึ่งปีที่เคมีถูกเรียกตัวกลับมาทำงาน เขารู้สึกปรับตัวได้อย่างดี

เพียงแต่วันนี้ที่เขามองเห็นแผ่นหลังประธานตอนเดินเข้าไป เขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี จนสันหลังรู้สึกหนาววาบขึ้นมา

เวลาผ่านไปช่วงระยะหนึ่งแล้ว ทางเรือนรองน่าจะไม่ได้ติดต่อกับทางนี้จริงๆ

——

หลังจากเส้นหมี่ได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้อำนวยการแล้ว เธอยังไม่ได้ไปที่โรงเรียนทันที แต่เธอไปที่ห้างสรรพสินค้าก่อน

เธอไปเพื่อหาซื้อของฝาก โรงเรียนนั้นถึงแม้จะอยู่ในเครืองของหิรัญชา แต่ถ้าอยากให้คนอื่นทุ่มเทในการอบรมสั่งสอน สัมพันธไมตรีเหล่านี้ก็ต้องมีเหมือนกัน

“คุณผู้หญิง กำลังหาอะไรเป็นพิเศษไหมค่ะ? หาของฝากไปมอบให้แขกหรือเปล่าค่ะ”

“ใช่ค่ะ ถั่งเช่ากล่องนี้ราคาเท่าไหร่ค่ะ?”

เส้นหมี่เข้ามาร้านขายของฝากมีระดับร้านหนึ่ง เธอชี้ไปที่กล่องถั่งเช่าที่วางอยู่บนชั้นวางสินค้า

เมื่อพนักงานเห็นเธอ ก็เดินเข้ามาเพื่อแนะนำ

ขณะเดียวกัน ก็มีลูกค้าอีกคนเดินเข้ามาพอดี

“สวยใส? บังเอิญจัง?”

“อ้าว?”

เส้นหมี่ที่กำลังก้มดูถั่งเช่า เมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น ก็รีบหันหน้ามา

สวยใสชื่อนี้ เธอไม่ต้องหันกลับไปก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นใครเรียก เพราะที่นี่มีเพียงแต่เขาที่จะเรียกเธอเช่นนี้

“นั่นนะสิ พี่ธิป บังเอิญจริงค่ะ พี่ก็มาเดินห้างนี้เหมือนกันหรือค่ะ?” เส้นหมี่รู้สึกเก้อเขินที่จู่ๆเจอเขาขึ้นมา

เมื่อนับเวลาดูแล้ว เธอน่าจะหลบหน้าเขาได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้ว

“เปล่า พี่ขับรถผ่านทางนี้ เห็นในนี้คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเธอ พี่เลยเข้ามาดู”

คณาธิปตอบอย่างสีหน้าเรียบเฉย

เขายืนอยู่หน้าประตูร้าน สวมชุดสูทสีดำ เวลาที่ผ่านไปหนึ่งปี เขาได้ฟื้นฟูไปเป็นสภาพแบบเดิมแล้ว หน้าตาสะอาดมดจด ท่าทีสุขุม เขาเดินเข้ามา และหลังจากที่สายตาเขามาจรดที่เธอ

เขามองไปที่กล่องถั่งเช่านั้นอย่างไว

“คุณทำอะไรอยู่?”

“ฉันกำลังหาซื้อของฝากไปที่โรงเรียน พวกเราย้ายกลับมาแล้ว เลยต้องหาโรงเรียนให้ลูกทั้งสาม อยากจะลองเข้าไปดูที่โรงเรียนประถมเอ็มไพร์”