หลงจื่อได้แต่ต้องทำหน้าขาวซีดอมเขียวช้ำใจ ในที่สุดความอับอายในใจของเขามันก็ได้เปลี่ยนเป็นความโกรธเคือง
“เป็นเทพสวรรค์แล้วมันทำไม? ต่อหน้าจักรพรรดิผู้นี้เทพสวรรค์มันก็แค่มดปลวก! หากจักรพรรดิผู้นี้คิดอยากจับตัวพวกมันเจ้าจะทำอะไรได้?!”
หลงจื่อร้องลั่นคิดใช้พลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ออกมาอย่างหนักหน่วงพุ่งลงกดร่างของเย่หยวนในทันที
“หยุด!” เจ้ามังกรที่เพิ่งขึ้นมาถึงพื้นดินร้องลั่นสั่งห้ามหลงจื่อ
หลงจื่อหันหน้ากลับไปตวาดใส่นางอย่างโกรธแค้น “ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรท่านเจ้ามังกร? เจ้าเด็กคนนี้มันแตะต้องไม่ได้ แต่คนอื่นๆ ทั้งหลายนี้ก็ไม่อาจแตะต้องได้หรือ? ในฐานะผู้อาวุโสพิทักษ์แห่งปราการมังกรพิรุณแล้ว หรือว่าตำแหน่งของข้าผู้นี้มันจะต่ำต้อยจนถึงปานนั้น?”
เจ้ามังกรหรี่ตาลงมองและตอบสวนกลับมา “หลงจื่อ เจ้าตั้งสติหน่อยเถิด! เจ้าไม่เห็นหรือว่าที่หว่างคิ้วของเย่หยวนนั้นมีอะไรอยู่?”
หลงจื่อผงะไปทันทีที่ได้ยินก่อนจะรีบหันหัวกลับมาจ้องมองหน้าเย่หยวน
เมื่อได้จ้องมองดูแล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างออกมา!
“ตรามังกรสวรรค์!” หลงจื่อร้องบอก
ตัวเขานั้นถูกเย่หยวนกวนประสาททำให้ไม่มีสติพอจะจ้องมองความเปลี่ยนแปลงใดๆ มากมายและไม่ได้เห็นถึงตรามังกรสวรรค์บนหน้าผากเย่หยวน
แต่เวลานี้เมื่อได้เห็นแล้วตัวเขาก็ต้องขนลุกตั้ง
เดิมทีเย่หยวนนั้นคิดจะใช้ตำแหน่งรองมหาปราชญ์ออกมาบังคับให้เจ้ามังกรช่วยลงมือ แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าทางหลงจื่อกลับจะผงะไปในทันทีที่ได้เห็นตราบนหน้าผากเขานี้
“ใช่แล้ว มันคือตรามังกรสวรรค์! ได้เห็นตรามังกรสวรรค์นั้นมันดั่งได้เห็นบรรพบุรุษ! หากเจ้ายังคิดดื้อรั้นต่อไปแล้วแม้แต่ข้าก็คงไม่อาจช่วยเหลือได้!” เจ้ามังกรร้องสั่ง
หลงจื่อหน้าเปลี่ยนสีไปมาราวกับเป็นกิ้งก่าคาเมเลี่ยน
เจ้าหมอนี่เข้าไปยังแดนไร้หวังอย่างถ้ำเนตรมังกร นอกจากจะบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพสวรรค์มาได้แล้ว ยังกลับมีตรามังกรสวรรค์ติดตัวออกมาเสียอีก!
หลงจื่อได้แต่คิดหนัก ตัวเขาทำอะไรลงไปกัน!
มันมิใช่ว่าถ้ำเนตรมังกรนั้นเป็นแดนไร้ความหวังหรือ? ทำไมเจ้าหมอนี่มันถึงราวกับได้ตรัสรู้ เข้าไปแล้วออกมาอย่างยิ่งใหญ่ในเวลาสิบปีเช่นนี้?
หลงจื่อในเวลานี้มีความคิดที่สับสนตีกันในหัวยุ่งเหยิง
จนในที่สุดเขาก็ต้องกัดฟันก้มหัวลงให้แก่เย่หยวน “หลงจื่อขอคารวะท่านทายาทมังกรสวรรค์!”
เย่หยวนนั้นตื่นตะลึงอย่างมาก ตัวเขาเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้าตราปริศนานี้มันจะเป็นประโยชน์ปานนี้
เพราะเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ เองก็ได้ก้มหัวลงให้แก่เขาจนสิ้น
“เราขอคารวะท่านทายาทมังกรสวรรค์!”
เย่หยวนได้แต่ต้องหันหน้าไปถามเจ้ามังกร “เจ้าตรามังกรสวรรค์นี่มันคืออะไรกันหรือ?”
เจ้ามังกรตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตกใจไม่น้อย “เจ้าไม่รู้?”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา
เจ้ามังกรที่ได้ยินก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่นางจะอธิบายออกมา “ตรามังกรสวรรค์นั้นคือสิ่งสูงส่งในเผ่ามังกรที่ยอดคนเบื้องบนมอบให้แก่คนหนุ่มรุ่นหลัง มันจะหมายถึงว่าเด็กคนนั้นมีอนาคตยิ่งใหญ่พอจะขึ้นไปเป็นยอดจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดได้! และมันยังเป็นตัวแทนแสดงถึงสถานะของเผ่ามังกรเรา เราเรียกสถานะนั้นว่าทายาทมังกรสวรรค์! และตำแหน่งทายาทมังกรสวรรค์นี้มันยิ่งใหญ่เทียบเคียงเจ้ามังกรแห่งปราการสวรรค์ ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองเมื่อเห็นก็ต้องทำความเคารพ!”
เย่หยวนที่ได้ยินถึงกับต้องอ้าปากค้าง ตัวเขาเองก็ไม่นึกว่าเจ้าตรามังกรนี้มันจะกลายเป็นสัญลักษณ์แสดงตำแหน่งใหญ่โตไป
แต่ไม่นานนั้นรอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่หยวน “เช่นนั้น…ข้ามีอำนาจพอจะลงโทษมันหรือไม่?”
พูดไปเย่หยวนก็ยกนิ้วขึ้นมาชี้ใส่หลงจื่อ
หลงจื่อที่ได้ยินถึงกับหน้าซีดขาวลงทันที
ทางเจ้ามังกรเองเมื่อได้ยินก็ต้องเบิกตากว้างก่อนจะพยักหน้าออกมา “แน่นอน! หลงจื่อ ทำไมเจ้ายังไม่เข้าไปขอรับโทษจากท่านทายาทมังกรสวรรค์อีกเล่า?”
หัวใจของหลงจื่อแทบร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม!
เวลานี้ในที่สุดตัวเขาเองก็มาสะดุดขาตนเองล้มจนได้
เขานั้นวางว่าตัวเองฉลาด คิดส่งเย่หยวนลงไปตายในถ้ำเนตรมังกร
แต่สุดท้ายเย่หยวนกลับออกมากลายเป็นทายาทมังกรสวรรค์!
ทายาทมังกรสวรรค์นั้นคือตำแหน่งที่สูงส่งเท่าเจ้ามังกรแห่งปราการสวรรค์ มันต้องเป็นตำแหน่งที่สูงส่งปานใด?
การลบหลู่ทายาทมังกรสวรรค์นั้นมันก็เท่ากับการลบหลู่เจ้ามังกรแห่งปราการสวรรค์
ต่อให้ตัวเขาจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ มันก็คงไม่อาจทำได้!
“หลงจื่อ…หลงจื่อไม่ตั้งใจลบหลู่ทายาทมังกรสวรรค์ หลงจื่อหวังว่าท่านทายาทมังกรสวรรค์จะโปรดให้อภัย!” หลงจื่อได้แต่ต้องกัดฟันร้องขอโทษออกมา
ตัวเขานั้นได้เห็นถึงรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของเย่หยวนจนทำให้ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
เจ้าเด็กคนนี้มันคืออยากทำอะไร?
‘หึ! เจ้าจะทำอะไรก็ช่างแต่ข้าหลงจื่อนั้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ คนอย่างเจ้าจะทำอะไรได้?’
‘แค่ให้ข้าก้มหัวขอโทษนี้มันก็มากเกินพอแล้ว!’
“อภัยนั้นคงไม่ได้ เมื่อเจ้าลบหลู่ข้าแล้วเจ้าก็ต้องรับโทษไป!” เย่หยวนบอก
หลงจื่อกัดฟันแน่นเงยหน้าขึ้น “เย่หยวน เจ้าอย่าทำตัวได้คืบจะเอาศอก!”
เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ได้คืบจะเอาศอก? เหอะ เจ้าดีใจไว้เถอะว่าข้านั้นเป็นแค่เทพสวรรค์ ไม่เช่นนั้นหากเวลานี้ข้าออกมาเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว แค่เรื่องที่เจ้าคิดผนึกลู่เอ๋อนั้นมันก็มากพอที่จะเป็นเหตุผลให้ข้าสังหารเจ้าแล้ว! เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีว่าหลงห่าวมันตายเพราะอะไร!”
ไม่พูดถึงยังพอทน แต่พอหลงห่าวถูกกล่าวถึงขึ้นมาความคับแค้นใจของหลงจื่อก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง
เจ้หมอนี่มันฆ่าสังหารหลงห่าวหลานรักของเขา แต่เวลานี้ตัวเขากลับต้องมาก้มหัวให้ มันช่างน่าอับอายนัก!
เจ้ามังกรหลงซีเยว่กล่าวขึ้นแทรก “หลงจื่อ เจ้าเองก็รู้ดีว่าโทษการลบหลู่ทายาทมังกรสวรรค์นั้นหนักหนาปานใด ในปราการมังกรพิรุณมันยังพอทำเนาเรื่องได้ แต่หากเรื่องนี้รู้ไปถึงหูคนใหญ่คนโตท่านทั้งหลายแล้ว มันคงไม่อาจจะแก้ไขได้ง่ายๆ แน่ ที่สำคัญไปกว่านั้น เจ้าเองก็อย่าได้ลืมว่าตัวเขานั้นเป็นรองมหาปราชญ์อีกด้วย! รองมหาปราชญ์ผู้เป็นทายาทมังกรสวรรค์ หึๆ…”
หลงซีเยว่ไม่คิดจะพูดใดๆ ต่อ ปล่อยให้หลงจื่อตีความหมายเอง
รองมหาปราชญ์นั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่มากมายในเผ่ามังกร แต่รองมหาปราชญ์ที่เป็นทายาทมังกรสวรรค์นั้นเป็นอะไรที่แตกต่างไปสิ้นเชิง
วิหารนักบวชนั้นเดิมทีก็เป็นเจ้าอำนาจของโลกภายนอกอยู่แล้ว กำลังของพวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเผ่ามังกรทั้งหลายทั้งสิ้นนี้เลย
แต่เมื่อเอานามทั้งสองนี้มารวมกันในคนผู้เดียว มันย่อมจะทำให้เท่ากับว่าเขามีเขาใหญ่หนุนหลังถึงสองลูก!
ต่อให้หลงจื่อจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เก่งกาจมาจากไหน มันก็ไม่อาจจะหลบพ้นอำนาจทั้งสองพร้อมๆ กันได้
หลงจื่อได้แต่สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกัดฟันแน่น “เย่หยวน เจ้าอย่าได้คิดทำอะไรให้มากเกินพอดี! หากคิดผลักจักรพรรดิเทพสวรรค์ให้จนตรอกแล้วเจ้าจะได้รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น!”
เมื่อมาถึงเวลานี้หลงจื่อจึงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องก้มหัวรับโทษของเย่หยวน แม้ว่าจิตใจของเขานั้นมันจะไม่คิดยอมรับมากสักเท่าใด
แต่หากเรื่องวันนี้มันถูกรายงานขึ้นไปถึงเบื้องบนแล้วผลที่ตามมามันคงมากเกินรับได้
เย่หยวนที่ได้เห็นสภาพนั้นต้องหัวเราะออกมา “วางใจเถอะ ข้านั้นคืนความร้ายด้วยความดีเสมอ ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากจนเกินทนหรอก”
เมื่อได้เห็นใบหน้ายิ้มๆ ของเย่หยวนนั้นทุกผู้คนต่างก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา
ส่วนทางหลงซีเยว่นั้นตั้งตารอฟังมากว่าเย่หยวนคิดจะลงโทษอย่างไร
“เจ้าขึ้นไปบนยอดหอศิลาจรัสนี้และตะโกน ‘หลงจื่อเป็นหมู’ หมื่นครั้ง! อืม ต้องตะโกนให้เสียงดังด้วย พอที่จะให้คนทั้งปราการนี้ได้ยิน” เย่หยวนบอก
เมื่อคำพูดนั้นถูกกล่าวสีหน้าคนทั้งหลายก็เปลี่ยนแปลงไป
การคิดให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทำเรื่องเช่นนี้ มันคงมีแต่เจ้าหมอนี่เท่านั้นที่คิดได้
เจ้ามังกรนั้นถึงขั้นไม่อาจอดกลั้นไว้ได้หลุดขำออกมาจนต้องยกมือขึ้นปิดปากตน
หลงจื่อร้องตะโกนลั่นตอบกลับมา “เด็กน้อย เจ้า…เจ้ารังแกผู้คนจนเกินไปแล้ว!”
เย่หยวนหรี่ตาลงมองอย่างเย็นเยือก “รังแกผู้คนจนเกินไป? เหอะๆ! เรื่องราววันนี้มันล้วนเกิดจากมือหลงห่าวสิ้น สิ่งใดผิดใดถูกข้าว่าเจ้าเองก็มีสมองพอคิดใช่หรือไม่? ตอนที่เจ้าไล่ข้าลงถ้ำเนตรมังกรพร้อมใช้ชีวิตพวกลู่เอ๋อมาขู่ข้านั้นเจ้าไม่พูดเล่าว่ามันเป็นการรังแกผู้คนจนเกินไป? ตอนที่เจ้าคิดลงมือผนึกลู่เอ๋อทั้งๆ ที่สาบานว่าจะไม่ทำร้ายพวกนางเล่า เหตุใดไม่กล่าวว่ามันเป็นการรังแกผู้คนจนเกินไป? ตอนนี้ข้าแค่ให้เจ้าไปตะโกนนิดๆ หน่อยๆ เจ้ามาเห่าบอกว่าเป็นการรังแกผู้คนจนเกินไปหรือ? ไม่ทำหรือ? แน่นอนว่าเทพสวรรค์อย่างข้ามันคงไม่อาจบังคับใดๆ จักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างเจ้าได้ แต่มันย่อมจะมีคนที่เหนือกว่าออกมาจัดการเรื่องราวแน่”
พูดจบเย่หยวนก็หันหน้าเดินกลับไปทันที
“เดี๋ยวก่อน!” หลงจื่อร้องห้ามเย่หยวนด้วยใบหน้าซีดขาว
เย่หยวนหลุดเท้าลงพร้อมตอบกลับมา “หมื่นครั้ง อย่าได้ขาด!”
หลงจื่อแทบจะต้องกระอักเลือดเฒ่าๆ นั้นออกมาจากอก เขายังไม่ทันต่อรองใดๆ เย่หยวนก็ยื่นคำขาดออกมาเสียก่อนแล้ว
……………….