ตอนที่ 1118: แข็งแกร่งที่สุดบนยอดเขา

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1118: แข็งแกร่งที่สุดบนยอดเขา

“เอาล่ะ ถ้างั้น เจ้าก็นำทางไปได้ พวกเราจะชักช้าไม่ได้ในเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเราจะออกไปกันตอนนี้เลย” ชายวัยกลางคนที่มาจากเมืองดีออคพูด เขาค่อนข้างมีสถานะในกลุ่มและมีอำนาจที่จะพูดแทนคนอื่นได้

กลุ่มมุ่งหน้าไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์โดยมีหลันโม่เป็นผู้นำ

“หืม ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่ฆ่ายามรักษาการของข้า แล้วไงถ้าเจ้าเป็นจอมยุทธ 15 ดาว ? ข้ามีวิธีการที่จะจัดการกับเจ้า ข้าจะให้จอมยุทธของเมืองดีออคจัดการกับเจ้า” หลันโม่ยิ้มอย่างเย็นชาเป็นครั้งคราว ในขณะที่เขานำกลุ่มไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

ในเวลาเดียวกัน ก็มีหอคอยเหล็กสูงหลายร้อยเมตรตั้งตระหง่านเหมือนเสาอยู่

มันเชื่อมฟ้ากับดินอยู่ที่กึ่งกลางของเผ่าที่หรูหราในเมืองใหญ่ที่อยู่ห่างหลายหมื่นกิโลเมตรออกไป มันเห็นเมืองเป็นภาพลางลางจากด้านบนของหอคอย

นี่เป็นเผ่าใหญ่ที่สุดของเมืองบิโบ้ เผ่าฮวงเต่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขานั้นมีอำนาจที่สุดยอดในรัศมีหลายหมื่นกิโลเมตรรอบ ๆ ชายชรายืนอย่างน้อบน้อมอยู่ด้านหน้าประตูเหล็กหนักที่อยู่บนชั้นสูงสุดของหอคอย เขาพูดออกมาอย่างสุภาพ “ท่านหัวหน้าเผ่า เผ่าร้อยบาทาของเมืองดีออคได้ส่งจอมยุทธไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลก”

“หืม ข้าได้เจอกับไอ้แก่ชั่วจากเผ่าร้อยบาทาเมื่อหลายเดือนก่อนและสู้กันอย่างุเดือด ข้าทำให้วิญญาณของมันบาดเจ็บและมันไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปกติ เขาอาจจะต้องการที่จะเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขา หืม เขาคิดว่าน้ำนั้นมันหาได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ ? จอมยุทธ 16 ดาวนับไม่ถ้วนและผู้อาวุโสประจำศาลาต่างก็กลับมามือเปล่าในอดีต” เสียงชราดังออกมาจากประตูเหล็ก มันอ่อนแอมากและทันทีที่เขาพูดจบเขาก็อดไม่ได้ที่จะไออย่างรุนแรงออกมา

“ท่านหัวหน้าเผ่า อาการบาดเจ็บของท่านเป็นยังไงบ้าง ? มีคนพบร่องรอยของน้ำศักดิ์สิทธิ์ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ข้าคิดว่าเผ่าร้อยบาทาต้องรู้เรื่องนั้นแน่” ชายชราด้านนอกถามด้วยความห่วงใย

“เทียบกับอาการบาดเจ็บของวิญญาณของเจ้าแก่ชั่วจากเผ่าร้อยบาทาแล้ว บาดแผลของข้าดีกว่ามาก ในเมื่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ปรากฎขึ้นมาในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเราจะให้คนของเผ่าร้อยบาทาเอามันไปไม่ได้ ส่งผู้อาวุโสสูงสุดและผู้ติดตามไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เพื่อต่อสู้เอามันมาทันที” หัวหน้าเผ่าฮวงเต่าพูด

ไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มคนสิบกว่าคนก็รีบออกจากเผ่าไป แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มยังเป็นเซียนผู้คุมกฎ และพวกเขามีเซียนราชา 2 คนนำกลุ่ม

กลุ่มที่ทรงพลังขนาดนี้สามารถอาละวาดไปทั่วทั้งทวีปเทียนหยวนได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรตามมา แม้แต่องค์กรในระดับสูง ๆ ก็ยังไม่อยากที่จะไปหาเรื่องเซียนราชา 2 คนง่าย ๆ เว้นเสียแต่ว่ามันจะรนหาที่ตายจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่มีความแข็งแกร่งในระดับนี้ในอาณาจักรทะเลถือว่าเป็นเรื่องปกติ นี่เป็นเพราะความแข็งแกร่งโดยรวมของอาณาจักรทะเลนั้นสูงกว่าทวีปเทียนหยวน จำนวนของเซียนจักรพรรดิ เซียนราชา และเซียนผู้คุมกฎทั้งหมดเหนือกว่าของทวีปเทียนหยวน

คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับน้ำศักดิ์สทธิ์ของโลก ในรัศมีหลายแสนกิโลเมตร เผ่าที่ทรงพลังหลายเผ่าก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาทั้งหมดส่งจอมยุทธของพวกเขาไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เพื่อพยายามที่จะเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้ได้

น้ำศักดิ์สิทธิ์จากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นั่นเป็นสมบัติที่มหัศจรรย์ของโลกมาก ไม่เพียงแต่มันจะสามารถเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายของคนได้ มันยังทำให้ผู้คนมีพรสวรรค์ที่สุดยอดที่หาพบได้ยาก มันมีประโยชน์อย่างอธิบายไม่ได้กับวิญญาณ มันสามารถทำให้คนมีคุณภาพขึ้นมาได้ แม้ว่าผลมันจะไม่ชัดเจนกับเซียนราชา แต่มันก็ยังมีประโยชน์อย่างมาก

น้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถปรากฏขึ้นได้ทุกเวลาในส่วนลึกของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉลี่ยแล้ว ปริมาณเล็กน้อยจะเกิดขึ้นมาในทุก ๆ 1,000 ปี การที่จะหามันให้พบนั้นก็ขึ้นอยู่กับโชค ดังนั้นน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นสมบัติที่หายากและมีความต้องการสูง แต่มันก็ไม่มีขาย

ในภูเขามังกรหลับใหล เจี้ยนเฉินนำกลุ่มนักผจญภัยฟ้าครามไปและเข้าใกล้ยอดสูงสุดของภูเขาในเวลาครึ่งวันกว่ากว่าเท่านั้น เมื่อพวกเขาผ่านที่นั่นไป พวกเขาก็ถือว่าเข้าไปในส่วนลึกอย่างเป็นทางการ

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินย้อมไปด้วยเลือด เขาตั้งใจที่จะไม่เช็ดเลือดออก ตลอดทาง เขาใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสังหารทำให้เกิดศพของสัตว์ดุร้ายนับไม่ถ้วน เขายังฆ่าสัตว์ 15 ดาวและแม้แต่สัตว์ 16 ดาวไปหลายตัว แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกมันจะอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 5 – 6 แต่เขาก็ได้หินฟ้าสะเทือน 15 ดาวมา 4 ก้อนและ 16 ดาวมา 1 ก้อนเท่านั้น

คนของนักผจญภัยฟ้าครามมึนงงไปหมดกับความแข็งแกร่งที่สุดยอดของเจี้ยนเฉิน พวกเขาตามหลังเจี้ยนเฉินแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรและคอยเก็บเกี่ยวผลงานเพียงอย่างเดียว แค่นี้ก็พอที่จะทำให้พวกเขาคลั่งไปด้วยความยินดีแล้ว นี่เป็นเพราะว่าเจี้ยนเฉินไม่เก็บหินฟ้าสะเทือน 14 ดาวไว้ซักก้อนและยกให้พวกเขาไปทั้งหมดเลย

สิ่งที่พวกเขาเก็บเกี่ยวได้ในวันนี้วันเดียวนั้นเกินกว่าสิ่งที่พวกเขาทำได้จากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ในรอบที่ผ่านมาสามร้อยปีเสียอีก

ในระหว่างช่วงเวลานี้ คนที่อยู่รอบนอกของอาณจักรศักดิ์สิทธิ์ก็วุ่นวายกันใหญ่ เสียงคำรามจากสัตว์ดุร้าย 15 ดาวในภูเขามังกรหลับไหลดังไปเกือบทั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ทำให้คนอื่น ๆ รู้ว่ามีจอมยุทธที่สุดยอดกำลังอาละวาดอยู่ในภูเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าจอมยุทธคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด มีเพียงกลุ่มนักผจญภัยและชายชราทั้งสี่ที่เห็นเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ เข้าไปในภูเขา

นักผจญภัยฟ้าครามตามเจี้ยนเฉินห่างออกไปร้อยเมตร เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงคลื่นการต่อสู้ที่เกิดจากการต่อสู้กับสัตว์ดุร้าย ทุกคนมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาชื่นชมและคลั่งไคล้

ตอนนี้เอง จู่ ๆ เจี้ยนเฉินก็หยุด เขาจ้องไปในถ้ำที่อยู่อีก 10 กิโลเมตรด้านหน้าสักพักก่อนที่จะหันไปหาพวกเขา “มีสัตว์ที่ทรงพลังในถ้ำนั้น อยู่ที่นี่นะ ข้าจะไปจัดการมันก่อน”

สมาชิกของนักผจญภัยฟ้าครามทั้งหมดตอบรับก่อนที่จะถอยกลับไปอย่างระมัดระวังหลายกิโลเมตร พวกเขาซ่อนอยู่หลังก้อนหินใหญ่

เจี้ยนเฉินถือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไว้ ในขณะที่เขาพุ่งไปที่ยอดของภูเขาเหมือนเป็นภาพพร่ามัว สัตว์ดุร้ายที่ภูเขาไม่ได้มีความเฉลียวฉลาด แต่พวกมันก็หวงอาณาเขตมาก เกือบทุกตัวนั้นมีอาณเขตเป็นของตัวเอง ตราบใดที่ไม่มีคนหรือสัตว์อื่นบุกรุกอาณาเขตของพวกมัน พวกมันก็จะไม่โจมตีถึงแม้ว่ามันจะเห็นศัครูก็ตาม พวกมันแตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ

โฮ้ก !

เสียงคำรามแสบหูระเบิดออกมาจากยอดของภูเขาทันทีที่เจี้ยนเฉินเหยียบเข้าไปในอาณาเขต ทั่วทั้งภูเขาสั่นไหวและหินใหญ่บางก้อนถึงกับร้าวและตกลงไป คลื่นเสียงที่น่ากลัวทำให้มิติกระเพื่อม ถ้าไม่ใช่เพราะความแข็งแรงของมิติที่นี่ เสียงคำรามคงทำให้มันแตกกระจายไปจากการคำรามเพียงครั้งเดียว

มังกรอสรพิษใหญ่กระโจนไปในอากาศที่ยอดของภูเขา มันร่อนอยู่สิบเมตรเหนือพื้นดินและเผยให้เห็นร่างที่ยาว 300 เมตรของมัน เกล็ดสีม่วงของมันส่องแสงแสบตาออกมา ในขณะที่พลังแห่งการมีอยู่ที่น่ากลัวก็ปกคลุมไปทั่ว และเปล่งรัศมีไปไกลเกินกว่าภูเขา มันทำให้นักผจญภัยที่อยู่ด้านล้างตื่นกลัวและหน้าซีด

ที่ไกลออกไป ชายชราทั้งสี่หยุด พวกเขาหัวหน้าไปทางทิศที่เกิดเสียง พวกเขาทั้งหมดเคร่งเครียดและหนึ่งในนั้นห็พูดออกมา “นั่นเป็นเสียงของมังกรอสรพิษ หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในภูเขา ข้าไม่คิดว่าจะมีใครไปถึงที่นั่นได้แล้วเลยนะ”

“ความแข็งแกร่งของคนผู้นั้นเหนือกว่าพวกเราทั้งสี่ โชคดีที่พวกเราไม่ได้สู้กับเขาก่อนหน้านี้”

“สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในภูเขาเกือบจะถึงขั้นสูงสุดของ 16 ดาวแล้ว พวกมันหยุดไม่ให้จอมยุทธ 16 ดาวหลายคนผ่านไปได้ในอดีต และจอมยุทธ 16 ดาวบางคนยังตายเพราะพวกมัมาแล้วในอดีต ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าชายหนุ่มคนนั้นจะผ่านไปได้หรือเปล่า”

“ข้าหวังให้เขาตายเพราะมังกรอสรพิษนั่น ไม่เช่นนั้นพวกเราจะเจอกับอันตรายได้ทุกเมื่อถ้าเขาเข้าไปในส่วนลึกของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้”

ท่าทางของชายทั้งสี่คนย่ำแย่ พวกเขารู้สึกกดดันจากความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินฉินเคร่งเครียดในที่สุด เขาสัมผัสถึงพลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลของมังกรอสรพิษที่อยู่บนยอดเขาได้มานานแล้ว แต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมันนั้นเหนือกว่าที่เขาคาดการเอาไว้

“เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 อีกก้าวเดียวเท่านั้นก่อนที่จะเป็นเซียนจักรพรรดิที่ไร้เทียมทาน” เจี้ยนเฉินพึมพำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้สึกกลัวเลย เขารู้ว่าสัตว์ดุร้ายที่เขาฆ่าไปก่อนหน้านี้นั้นทรงพลัง แต่มันก็ไม่ได้มีความสามารถและไม่ได้มีความเฉลียวฉลาดมาก การเคลื่อนไหวของพวกมันทั้งหมดเป็นไปตามสัญชาติญาณ และแตกต่างจากจอมยุทธมนุษย์ที่อยู่ในระดับเดียวกันมาก

มังกรอสรพิษที่เป็นประกายระยิบระยับคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่ที่ยอดเขา ตาแดงก่ำของมันจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน ในขณะที่มันปล่อยไฟสีม่วงออกมาจากปาก

เจี้ยนเฉินใช้ทักษะมายาพริบตาและก้าวไป เขาปรากฏตัวอีกครั้งหลายร้อยเมตรด้านหน้า ตรงหน้าของมังกรอสรพิษหลังจากที่ทิ้งภาพติดตาตรงที่เขายืนเอาไว้ เขากระโจนขึ้นไปบนหัวของมังกรอสรพิษและแทงมันลงไปด้วยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในขณะที่มันก็เปล่งแสงสีดำออกมา อาวุธจมลงไปทั้งหมด เหลือเพียงด้ามเท่านั้น

เลือดสีแดงพุ่งออกมาจากหัวของมังกรอสรพิษ มันครวญครางอย่างเจ็บปวดออกมา ในขณะที่บิดตัวไปมาอย่างรุนแรงในอากาศ มันต้องการที่จะสลัดเจี้ยนเฉินออกไป

เจี้ยนเฉินถือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้ด้วยมือขวาของเขาเพื่อที่จะทรงตัว ในขณะที่มือซ้ายของเขาก็คว้าเกล็ดของมันเอาไว้ เขาจะถูกสลัดหลุดไม่ได้ไม่ว่ามังกรอสรพิษจะสะบัดแรงเพียงใด

แม้ว่าสัตว์ตัวนี้จะเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 แต่มันก็ไม่ได้มีความฉลาดมากเลย การเคลื่อนที่ของมันทั้งหมดเป็นไปตามสัญชาติญาณ ดังนั้นมันจึงเสียเปรียบเจี้ยนเฉินที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มาก

แกร๊ก !

เสียงอากาศแตกออก ในขณะที่ลำแสงก็สว่างวาบขึ้นมา หางหนาของมังกรอสรพิษเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและสร้างเสียงระเบิดขึ้นในอากาศ​ การโจมตีจากมันนั้นมีอำนาจทำลายล้างมาก