อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1272ความลำบาก
นี่คือประเทศ ไม่ใช่หมู่บ้านเล็กๆ หนึ่งแสนตําลึงจะเอาไปทำอะไรได้?
นี่นางมาเป็นราชินีไม่ได้มาเสวยสุข แต่มาเพื่อสะสางความยุ่งเหยิงหรือไง
กู้ชูหน่วนสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ว่านางขึ้นเป็นราชินีไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ เลย แต่นางยังต้องเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมดของนางด้วย
“พวกเจ้ามีวิธีแก้ไขในเรื่องนี้เช่นไร”
“เอ่อ…ทูลฝ่าบาท หากฝ่าบาท ถ้าต้องการแก้ไขภัยอันตรายในแคว้นน้ำแข็ง มีเพียงสิ่งเดียวพ่ะย่ะค่ะ นั่นคือเงิน”
พูดไร้สาระ
แน่นอนนางรู้ว่าต้องใช้เงิน
ที่สำคัญคือเงินเยอะเช่นนี้ จะไปเอามาจากที่ไหน?
บรรดารัฐมนตรีต่างก็ก้มหน้าเงียบเพราะกลัวว่านางจะเรียกชื่อพวกเขา
“จัดพิธีฝังพระบรมศพให้แก่จักรพรรดินีองค์ก่อนอย่างยิ่งใหญ่จำเป็นต้องใช้เท่าไหร่”
“ทูลฝ่าบาท ต้องใช้อย่างน้อยแปดล้านตําลึง”
“ภัยแล้งในสิบสองเมืองภาคเหนือต้องใช้เท่าไหร่”
“ทูลฝ่าบาท ตลอดสิบสองเมืองทุกห่างสิบเมตรต้องทำการขุดบ่อน้ำ หักค่าขุดบ่อน้ำแล้ว ต้องใช้เงินประมาณห้าสิบล้านตําลึงพ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วน้ำท่วมภาคใต้กับการระบาดตั๊กแตนล่ะ”
“ทูลฝ่าบาท สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้รุนแรงยิ่งนัก ต้องการเงินอย่างน้อยเก้าสิบล้านตําลึงพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท โรคระบาดทางฝั่งตะวันออกต้องใช้เงินอย่างน้อยสามสิบล้านตําลึงพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท ซ่อมแซมเมืองเกาต้องใช้เงินอย่างน้อยสิบล้านตําลึงพ่ะย่ะค่ะ”
“เงินเดือนของเหล่าทหารต้องใช้เท่าไหร่”
“ทูลฝ่าบาท ไม่มากพ่ะย่ะค่ะ แค่สองล้านตําลึง”
สองล้านตําลึง?
แค่นี้ยังพอรับได้
ถ้าไม่จ่ายเงินเดือนให้เหล่าทหาร พวกเขาก็จะไม่สามารถปกป้องแคว้นน้ำแข็งอย่างแข็งขันได้ และอาจถึงขั้นก่อกบฏได้
ปัญหาเรื่องการจ่ายเงินเดือนให้เหล่าทหารจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน
กู้ชูหน่วนจึงคิดจะแก้ปัญหาเรื่องค่าจ้างทหารก่อน
แต่คิดไม่ถึงว่าคำพูดหนึ่งของขุนนาง ทำให้นางโกรธจนแทบอยากจะทุบเขาให้ตาย
“ทูลฝ่าบาท คือสองล้านตําลึงทองพ่ะย่ะค่ะ”
“หลอกลวงราชินี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เงินเดือนของเจ้าจะถูกระงับเป็นเวลาห้าปี หากมีข้อโต้แย้งใดๆ เจ้าสามารถลาออกจากตำแหน่งและปลีกวิเวกได้เลย ราชสำนักจะไม่ให้เงินบำนาญใดๆ ทั้งสิ้น”
“ฝ่าบาท กระหม่อมพูดผิดไป ขอทรงโปรดประธานอภัยให้กระหม่อมด้วย กระหม่อมไม่ได้เงินเดือนมาปีกว่าแล้ว ถ้า…ถ้าหักอีกห้าปี กระหม่อมเกรงว่า… เกรงว่ากระหม่อมและครอบครัวคงอดตายจริงๆ แล้ว”
“แคว้นน้ำแข็งมีคนอดตายจำนวนมาก จะเพิ่มครอบครัวของเจ้าอีกบ้านด้วยก็ไม่มากหรือน้อยเกินไป ข้าไม่ถอดตำแหน่งของเจ้าก็ดีแค่ไหนแล้ว”
ขุนนางผู้นั้นพูดไม่ออก
เขาก็เพียงแค่อยากให้ได้เงินเดือนโดยเร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงรายงานไปสองล้านตําลึงทอง และหวังว่าฝ่าบาทจะให้เงินเดือนทหารก่อน
เขาสาบาน เขาไม่ได้แกล้งหรือหลอกลวงฝ่าบาทเด็ดขาด
แต่ตอนนี้ ถ้าเขายังพูดต่อไป ชีวิตเขาอาจจะไม่รอด ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่ยืนเงียบ
เงียบ.
ตำหนักทองตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ
กู้ชูหน่วนสังเกตสีหน้าของพวกเขาทั้งหมด
ก่อนจะอ้าปาก และเอ่ยออกมาทีละคำสั่ง
“ประกาศคำสั่งของข้าออกไป ว่าต่อจากนี้ไป ตั้งแต่เหล่าราชนิกุล จนถึงสามัญชนชาวบ้านให้จัดพิธีการฝังพระบรมศพแบบเรียบง่าย ถ้าใครกล้าทำผิดจะถูกปรับห้าพันตําลึง โทษหนักปรับหนึ่งล้านตําลึง เริ่มจากพิธีการฝังพระบรมศพของราชินีองค์ก่อนเป็นตัวอย่าง”
เหล่าขุนนางเริ่มส่งเสียงพึมพำ
“ฝ่าบาท พิธีการฝังพระบรมศพแบบเรียบง่ายมันไม่ถูกขนบธรรมเนียมโบราณพ่ะย่ะค่ะ”
“คนเป็นกำลังจะอดตายอยู่แล้ว ยังจะห่วงคนที่ตายไปแล้วอีก? ตกลงตามนี้ หากมีข้อโต้แย้งใดๆ ทำการปรับห้าหมื่นตําลึง”
ทั้งท้องพระโรงเงียบลงทันที
ไม่มีใครอยากจะเสียเงิน
และยิ่งไม่มีใครกล้ามีปัญหากับราชินีองค์ใหม่
จัดพิธีอย่างเรียบง่ายก็จัดพิธีอย่างเรียบง่ายเถอะ
ขุนนางเข้ารับราชการใหม่ก็จะฮึกเหิมเป็นธรรมดา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเป็นราชินีองค์ใหม่
“ภัยแล้งภาคเหนือเกิดขึ้นมายาวนานนับพันปี การขนน้ำจากเหนือลงใต้ เป็นแค่การแก้ปัญหาชั่วคราวไม่ใช่ที่ต้นเหตุ ส่วนการขุดบ่อน้ำทุกๆ หนึ่งร้อยเมตร พวกเจ้าคิดว่าเงินของราชสำนักไม่ใช่เงินหรือไงกัน?”
“พื้นที่มณฑลเฉินภาคใต้เกิดน้ำท่วมตลอดทั้งปี มีผู้คนจมน้ำตายนับไม่ถ้วน ออกคำสั่งลงไป ทำการขุดคลองน้ำจาก เมืองภาคใต้ผันน้ำขึ้นไปภาคเหนือ”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทั่วทั้งท้องพระโรงก็ตกอยู่ในความโกลาหล
“ฝ่าบาท มณฑลเฉินอยู่ไกลจากภาคเหนือมาก เมื่อก่อนพวกกระหม่อมก็เคยคิดที่จะขุดคลองน้ำ แต่…แต่ระยะทางมันไกลเกินไป และไม่เพียงแต่ค่าขุดคลองน้ำจะสูงมากแล้ว ระยะทาง เกรงว่า…เกรงว่าชาวบ้านภาคเหนือจะ…จนขาดแคลนน้ำตายเสียก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าไม่เพียงแต่จะขุดคลองน้ำเท่านั้น แต่ยังจะขุดคลองขนาดใหญ่ ให้ชาวบ้านทุกคนภาคเหนือได้มีน้ำกินน้ำใช้ เพื่อที่คนรุ่นหลังจะได้ไม่ต้องตายเพราะขาดแคลนน้ำอีกต่อไป”
เฉิงเซี่ยงถามอย่างไม่แน่ใจนัก “ฝ่าบาท แล้ว…แล้วจะเอาเงินมาจากที่ใด ระหว่างสร้างคลองน้ำ ชาวบ้านภาคเหนือ…จะอยู่กันอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”