ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 896 แขกมาถึง เจ้าภาพไม่อยู่

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

หลินฮั่นหัวให้กำลังใจเยี่ยนจ้าวเกอ

จากท่าทีแล้ว เขาปฏิบัติกับเยี่ยนจ้าวเกอไม่ต่างอะไรกับฟู่ถิง

ทว่ายามที่เยี่ยนจ้าวเกอสบตากับหลินฮั่นหัว ทั้งสองต่างก็เกิดความรู้สึกรู้ใจกันโดยไม่ต้องบอกกล่าว

หลินฮั่นหัวมาอาศัยอยู่ในโลกซ้อนโลก ในระดับหนึ่งถือเป็นการกลับถิ่นเกิดเพื่อจักรพรรดิน้ำพุหลง ไม่ใช่เพราะเป็นสายสืบให้แก่มรกตท่องฟ้า

ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงคาดเดาว่า ไม่จำเป็นต้องพิจารณาในการรักษาความลับ เพราะหลินฮั่นหัวกับมรกตท่องฟ้าอาจจะไม่ได้ติดต่อกันมากเท่าไร

เขาอยู่ที่นี่ในฐานะลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์

มีแต่เรื่องใหญ่อย่างการถูกกดดันให้ออกจากโลกซ้อนโลกเช่นวันนี้ จึงอาจจะต้องหาวิธีแจ้งมรกตท่องฟ้า

กับเยี่ยนจ้าวเกอ ต่างฝ่ายต่างไร้ความสัมพันธ์ ที่หลินฮั่นหัวให้การดูแล สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาพบว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็บรรลุคัมภีร์กระบี่สังหารเซียนเช่นกัน

เพียงแต่หลินฮั่นหัวไม่อาจยืนยันเบื้องหลังของเยี่ยนจ้าวเกอมาโดยตลอด

ทว่าในครั้งนี้ เยี่ยนจ้าวเกอได้เห็นความเข้าใจในแววตาของหลินฮั่นหัวอยู่หลายส่วน

นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นไหว ‘เขาก่อนหน้านี้ติดต่อกับมรกตท่องฟ้า ทางนั้นบอกอะไรกับเขากัน’

เมื่อคิดถึงตรงนี้ คำถามในตอนแรกก็ลอยขึ้นมาอีกครั้ง

ไฉนมรกตท่องฟ้าจึงส่งคัมภีร์กระบี่ลวงเซียนให้แก่ตน

การฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันของตน สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วเป็นความลับ ทั้งยังประมือกับผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ไม่กี่ครั้ง อีกฝ่ายสมควรยากจะดูออก

มิพักเอ่ยถึงการเลื่อนเป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงของตนยังจำเป็นต้องใช้วรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์ คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนตอบสนองความต้องการทันที

ในการต่อสู้บนทะเลหวงเจียก่อนหน้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนกระบี่ลวงเซียน ฝ่ายตนคิดเอาชนะ ความยากจะต้องมีมากอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงขั้นที่ไม่อาจคาดถึงผลแพ้ชนะ

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร บางครั้งการต่อสู้ของยอดฝีมือก็ตัดสินกันที่ปลายเส้นขน

ผู้วิเศษเซิงกับคังผิงฝึกฝนกระบี่กาลเคลื่อนคล้อย กลับถูกจอมกระบี่ที่ฝึกกระบี่ลวงเซียนสะกด จะมากจะน้อยก็คงตายตาไม่หลับ

ถึงอย่างไรสองคนนี้ก็เป็นอัจฉริยะมากความสามารถ เป็นคนสองคนในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนที่มีอยู่จำนวนน้อยนิด สามารถหาญสู้ยอดฝีมือในระดับสูงกว่าได้

พวกเขาที่ได้พบเจอยอดฝีมือซึ่งมีระดับสูงกว่าครึ่งขั้นหรือขั้นหนึ่งมานับไม่ถ้วน ครั้นเผชิญกับกระบี่ลวงเซียนกลับต่ำเตี้ยลงไปช่วงตัวหนึ่ง

ในยามที่หนึ่งเพิ่มหนึ่งลด ก็เกิดความแตกต่างขึ้นมาก

เยี่ยนจ้าวเกออดคิดในใจไม่ได้ว่า ‘มรกตท่องฟ้าอาจจะไม่รู้ว่าพวกผู้วิเศษเซิงกับนักพรตสือกลับมา แต่ว่าหลังจากรวบรวมข่าวคราวของทะเลหวงเจียและเรา ก็ไม่ยากที่จะทราบว่าคนที่ส่งผลคุกคามมาในหลายปีมานี้ของข้า คือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนที่ฝึกฝนกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยอย่างผู้วิเศษเซิง กู้จาง และเฮ่อตงเฉิง’

แน่นอนว่าคนจากมรกตท่องฟ้า จะมากจะน้อยก็ประเมินเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงต่ำไปบ้าง

กระนั้นไม่ว่าจะพูดอย่างไร เยี่ยนจ้าวเกอก็ได้รับกระบี่ลวงเซียนมาโดยไม่ต้องทำอะไร เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีส่วนช่วยอีกแรง

หากบอกว่าเพื่อประกันตัวซุนจ้งต๋ากลับมา ตัวซุนจ้งต๋าเองก็ยังไม่เชื่อ

เยี่ยนจ้าวเกอได้ประโยชน์แล้ว

มีข้อเสียหรือไม่ ยังจำเป็นต้องสำรวจ

แต่ไม่ว่าจะต่อมรกตท่องฟ้า หรือต่อหลินฮั่นหัวที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้รางๆ ส่วนใหญ่เป็นเจตนาดี

นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกสงสัยกว่าเดิม

‘ประหลาดนัก…’ เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า ใจเต็มไปด้วยข้อสงสัย

หลินฮั่นหัวคล้ายกับรู้สึกถึงข้อกังขาในใจของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่พอเขามองเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋ ก็เพียงยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้กล่าวว่าอะไร

บางทีอาจจะเตรียมใจสำหรับวันนี้มาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ ดังนั้นแม้จะถูกขับออกจากโลกซ้อนโลก หลินฮั่นหัวก็ยังรู้สึกใจเย็น

การรุกรานของเขตเพลิงทักษิณถูกกดดันให้ล่าถอย เป็นเหตุให้ผู้วิเศษเซิงที่เผยสถานะของตนสิ้นชีวิตไปด้วย

แม้ว่าจะอาลัยอาวรณ์ แต่กลับไม่เสียดาย

สองวันต่อมา หลินฮั่นหัวก็ออกจากเขาโถงทอง ผละจากโลกซ้อนโลก มุ่งหน้าไปยังมิตินอกแดน ไม่รู้ไปยังที่ใด

พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับพวกมู่จวินจากเขาโถงทอง ต่างก็มองส่งหลินฮั่นหัวจากไปอยู่บนยอดเขาภูผาเงา ซึ่งเป็นที่พำนักของอดีตศิษย์เอก

แม้จิตใจจะซับซ้อน แต่ว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงความคับแค้นเนื่องจากถูกหลอกลวง

ทว่าศิษย์เขาโถงทองส่วนใหญ่ยังคงอาลัยอาวรณ์หลินฮั่นหัว

มู่จวินขอรักษาที่อยู่บนภูผาเงาของหลินฮั่นหัวไว้ อีกทั้งยังกำหนดเวลาให้คนมาปัดกวาดทำความสะอาด

ส่วนประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยที่ไม่โผล่มา ก็อนุญาตให้เขาตามใจปรารถนา

ฝ่ายพวกแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ซึ่งเป็นผู้อาวุโสในเขาโถงทองต่างเงียบงัน

“แม่นางฟู่ พวกเราออกเดินทางกันเถอะ” หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอส่งหลินฮั่นหัวและเข้าพบประมุขอาคเนย์แล้ว เขาก็สลัดความคิด ออกความเห็นกับฟู่ถิง

ฟู่ถิงพยักหน้า “คุณชายเยี่ยน เจ้าสำนักเยี่ยน เชิญ”

นางบอกลาประมุขอาคเนย์ ออกจากเขาโถงทอง ล้วงถุงย่อส่วนใบหนึ่งออกมา

ครั้นหยิบของวิเศษจำนวนมากออกมาจากในถุงย่อส่วนของตัวเอง นางก็จัดวางเป็นค่ายกลกลางอากาศอย่างรวดเร็ว

ลวดลายค่ายกลดูไปไม่ค่อยซับซ้อนนัก กระนั้นก็ค่อนข้างลี้ลับ แฝงจิตของหลักการอันมีเอกลักษณ์เอาไว้

แท่นบูชาที่เรียบง่ายแต่กลับยิ่งใหญ่แท่นหนึ่งก็ถูกตั้งขึ้นมาโดยใช้ค่ายกลเป็นรากฐาน

ฟู่ถิงขึ้นไปบนแท่นบูชา ผลักสองฝ่ามืออก มือข้างหนึ่งตั้งไว้ด้านหน้า ส่วนมืออีกข้างตบใส่แท่นบูชา

ยอดแท่นบูชาบังเกิดลำแสงสายหนึ่ง ส่องสว่างท้องฟ้า

ท้องฟ้าถูกลำแสงนี้เจาะเป็นช่องว่าง นำไปยังมิตินอกแดนที่ไร้สิ้นสุด ราวกับไม่มีปลายทาง

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ติดตามพวกฟู่ถิ จอมยุทธ์จากยอดเขาอัศจรรย์เข้าไปในลำแสง มุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดน

ลำแสงนำทาง ร่างของทุกคนเหมือนกับรวมเป็นหนึ่งกับลำแสง ข้ามผ่านมิติหนาหนักในชั่วพริบตา

ในวินาทีนี้ เวลาคล้ายกับสูญเสียความหมาย ชั่วพริบตาเดียวเหมือนกับตลอดกาล

เมื่อจนภาพสภาพอันสับสนของมิติในสายตาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอหายไป ก็ปรากฏทิวทัศน์ใหม่ เห็นสถานที่ที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับโลกของเซียนปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

สถานที่แห่งนี้ไม่มีสิ่งผิดปกติอย่างอื่น เพียงแต่ระหว่างฟ้าดินล้วนเป็นปราณหยินหยางที่บริสุทธิ์ที่สุด

ปราณหยินหยางกลายเป็นแสงสว่างความมืดสีดำสีขาว วนเวียนอยู่กลางอากาศไม่หยุด

ครั้นมองไปไกล จุดที่ปราณสีดำสีขาวตรงกลางมิติรวมตัวกัน ตั้งไว้ด้วยตำหนักโบราณแห่งหนึ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋เห็นดังนั้น ต่างกล่าวในใจว่า ‘ที่นั่นน่าจะเป็นสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยของจักรพรรดิแพรแล้ว’

พวกฟู่ถิงพอนำทางพวกเยี่ยนจ้าวเกอมาถึง ทางสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยก็สัมผัสได้ทันที

ประตูตำหนักเปิดออก คนจากข้างในเดินออกมาคำนับฟู่ถิงก่อน “อาจารย์อาฟู่”

นั่นเป็นลูกศิษย์จากยอดเขาอัศจรรย์ที่ฝึกฝนอยู่ในสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย เป็นศิษย์รุ่นหลังของฟู่ถิง แต่ความจริงมีอายุมากกว่า

ฟู่ถิงเองก็คุ้ยเคยกับเขาดี กล่าวขึ้นว่า “สองท่านนี้คือเจ้าสำนักเยี่ยนคี๋ และคุณชายเยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิงในทะเลหวงเจียบนเขตตะวันอาคเนย์ มาเป็นแขกของที่บำเพ็ญตามการเชื้อเชิญของท่านพ่อข้า”

ลูกศิษย์ยอดเขาอัศจรรย์ผู้นั้นรีบร้อนคำนับเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋ ในขณะเดียวกันก็คำนับจอมยุทธ์ยอดเขาอัศจรรย์ที่มาพร้อมกับฟู่ถิงเหล่านั้นด้วย

หลังจากทักทายเสร็จและเห็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว เขาก็ส่งกระแสเสียงแก่ฟู่ถิงเงียบๆ ‘อาจารย์อา ตอนนี้อาจารย์ปู่ไม่อยู่’

ฟู่ถิงประหลาดใจอยู่บ้าง ‘เป็นไปได้อย่างไร ท่านพ่อเป็นคนสั่งให้ข้าพาพวกเขามาพบที่นี่ หรือว่าท่านพ่อจะมีเรื่องเร่งด่วนต้องกลับเขาคุนหลุนบนโลกซ้อนโลก’

ลูกศิษย์ยอดเขาอัศจรรย์ผู้นั้นยิ้มอย่างหนักใจ ‘ความจริงแล้วอาจารย์ปู่เพิ่งไปได้ไม่นาน ข้าเองก็ไม่ทราบรายละเอียด แต่ว่าเขาได้ฝากข้อความไว้ให้อาจารย์อาด้วย’

‘จัดหาที่พักให้แก่แขกสองท่านก่อน’ ฟู่ถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ‘ข้อความอยู่ที่ใด นำมาให้ข้าดู’

………………..