ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 897 จักรพรรดิแพรงามผู้หายไปตัวไป

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีอัจฉริยะที่ผุดขึ้นทีหลังผู้โดดเด่น เมื่อชื่อเลื่องลือไปถึงหูของจักรพรรดิแพร เขาก็เกิดความชื่นชมผู้มีความสามารถ รู้สึกสนใจอยากเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนโดดเด่นเช่นไรกันแน่

ถ้าหากถูกชะตา ไม่แน่ว่าจะชี้แนะสักเล็กน้อย

ทว่าในครั้งนี้ ฟู่ถิงแน่ใจว่าบิดาของตนมีเรื่องสำคัญ จึงกำชับให้นางไปพาเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋มา

หากให้ฟู่ถิงคาดเดาสาเหตุคร่าวๆ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับตราประทับตะวัน มงกุฎจันทรา และกงจักรมหาประกายกาฬก็ได้กระมัง

ในสถานการณ์เช่นนี้ จักรพรรดิแพรเมื่อสั่งให้พบกันที่สถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย เช่นนั้นเขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปอย่างกะทันหัน

แม้ว่าที่แล้วมาผู้เป็นจักรพรรดิจะชอบทำอะไรตามใจ แต่ว่าไม่มีทางทำตัวเสียมารยาทกับแขกที่ตนเชิญมาเพราะเรื่องพรรค์นี้เด็ดขาด

หากในมือมีเรื่องด่วนต้องสะสาง การเชิญให้ผู้เป็นแขกรอสักครู่ถือเป็นเรื่องปกติ

แต่ว่าการหายไปจากสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยอย่างไร้ร่องรอย กลับไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว

ครั้นฟู่ถิงได้ยินว่าบิดาฝาหข้อความให้แก่นาง นางก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแม้แต่น้อย

เมื่อมีข้อความทิ้งไว้เช่น ก็อธิบายได้ว่าจักรพรรดิแพรงามคงไม่กลับมาเร็วๆ นี่แน่

นางขอให้สหายในสำนักต้อนรับแขกไปก่อน ส่วนตนเข้าไปในส่วนลึกของตำหนัก

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สบตากัน ทั้งสองต่างก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติอยู่หลายส่วน

“รอดูการเปลี่ยนแปลง” เยี่ยนตี๋เอ่ยอย่างเรียบเฉย

ฝ่ายบุตรชายพยักหน้า สงบจิตใจ ไม่หวั่นวิตก ขณะเดียวกันศึกษาหลักวรยุทธ์ที่ตนเองฝึกฝน

เพิ่งจะเข้ามาในเขตแดนของสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยได้ไม่ทันไร เขาก็พบว่าปราณหยินหยางของที่นี่ถูกลอกออกมา พวกมันต่างก็กระจ่างชัด แต่กลับหมุนเวียนไม่หยุด เชื่อมต่อกันและกัน

ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีในการฝึกฝนคัมภีร์นภาหยินหยางและวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์อย่างแท้จริง

บางทีที่ยอดเขาอัศจรรย์บนเขาคุนหลุนในโลกซ้อนโลกอาจจะมีสภาพปราณวิญญาณน่าอัศจรรย์กว่า แต่ว่าสำหรับลูกศิษย์ของจักรพรรดิแพรที่ฝึกฝนวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์แล้ว ที่บำเพ็ญแห่งนี้เห็นได้ชัดว่ายอดเยี่ยมยิ่งกว่า

เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนอยู่ที่นี่ พบว่าฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดที่ตนศึกษา คล้ายกับสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ได้จำนวนหนึ่ง

เยี่ยนตี๋มองผู้เป็นบุตรชายแวบหนึ่ง อดยิ้มขึ้นไม่ได้ ‘ใช้เวลาได้มีค่านัก’

เขาเองก็นั่งกลืนปราณหยินหยาง ศึกษาวรยุทธ์ในคัมภีร์นภาหยินหยางเพิ่มอีกขึ้นเช่นกัน

ลูกศิษย์ยอดเขาอัศจรรย์ที่มีหน้าที่ต้อนรับ อดจุ๊ปากชมเชยต่อท่าทีมั่นคงของพวกเขาไม่ได้

แต่ว่าการรอนี้ยาวนานนัก

ในการต้อนรับแขก นี่ถือเป็นการเสียมารยาทเพราะปล่อยปละละเลยแล้ว

แม้ว่าด้วยพลังฝึกปรือและตำแหน่งของจักรพรรดิ การปล่อยให้จอมยุทธ์ที่แม้แต่ระดับสะพานเซียนยังไปไม่ถึงสองคนนั่งรอ ความจริงไม่นับเป็นความหยิ่งผยองแต่อย่างใด

แต่เยี่ยนจ้าวเกอกลับรู้สึกว่า จักรพรรดิผู้นี้ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้

แม้สมมติจะทราบว่าเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับอยู่ในมือ หากต้องการชิงมันไป เพียงลงมืออย่างตรงไปตรงมาก็พอแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องปล่อยเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกไว้ที่นี่โดยที่ไม่สนใจ

‘มีเรื่องด่วนเรื่องอื่นหรือ’ ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอ คือจักรพรรดิเอกภพกำเนิดและประมุขทักษิณมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง

เขาสลัดการคาดเดามากมายทิ้ง สงบจิตใจนั่งตัวตรงต่อไป

ยามนี้ข้างหูมีเสียงของเยี่ยนตี๋ดังมา “ทางด้านเขตตะวันอาคเนย์เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้วหรือ”

เยี่ยนตี๋คาดเดาคล้ายๆ กันกับเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอตอบว่า “ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่ตามเหตุผลแล้ว ข้าคิดว่าไม่น่าใช่”

“สามกษัตริย์ห้าจักรพรรรดิ ประมุขทั้งสิบเป็นผู้ปกครองโลกซ้อนโลก แต่ว่าบุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดอย่างสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิจริงๆ แล้วมีช่วงเวลาอยู่ในโลกซ้อนโลกอย่างจำกัด แตกต่างกับพวกประมุขอาคเนย์ที่คอยเฝ้าอยู่ที่นั่น”

“ต่อให้จะรั้งอยู่ ส่วนใหญ่แล้วก็ต้องเข้าฌานฝึกฝน” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “ในเวลาอื่น พวกเขาต่างเคลื่อนไหวในมิติต่างแดน”

หลังจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ทำให้มหาจักรวาลพินาศ แยกออกเป็นโลกจำนวนนับไม่ถ้วน รวมถึงมิติไร้สิ้นสุด มันก็ก่อให้เกิดตัวตนที่เป็นปริศนาและอาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาลมากมาย

การจะสำรวจทุกสิ่งนี้จำเป็นต้องมีพลังมากพอ และมีพลังใจมหาศาล

นอกจากนี้แล้ว การคงอยู่ของโลกศาสนาพุทธก็อาจจะดึงดูดเวลาและความสนใจของสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ

อีกทั้งยังมีนพยมโลกที่ไม่อาจมองข้ามและประมาทตลอดกาล

ดังนั้นสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ ซึ่งเป็นตัวตนระดับสุดยอดของโลกซ้อนโลกที่รวมกษัตริย์ดินอยู่ด้วย จึงมักจะออกจากโลกซ้อนโลก

หลายปีก่อนหน้านี้ จักรพรรดิแพรงามได้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดน

ไม่นานมานี้เพื่อช่วยประมุขอาคเนย์ซึ่งเป็นสหายเก่า จึงกลับมาเป็นการเฉพาะ

โชคดีที่ยังมาทัน

ประมุขแพรงามในเมื่อกลับมาแล้ว จักรพรรดิเอกภพกำเนิดจึงต้องลดธงรบหยุดตีกลองศึก

ปกติแล้วเมื่ออยู่ในระดับสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ จะไม่เปิดสงครามกันง่ายๆ

อย่างเช่นระหว่างประมุขอิสานกับประมุขบูรพาที่เยี่ยนจ้าวเกอได้เผชิญด้วยตัวเองในตอนนั้น แม้จะคุมเชิงกัน แต่ก็ไม่ได้ลงมือจริงๆ

และถึงแม้จะลงมือเหมือนประมุขอาคเนย์กัประมุขทักษิณ แต่ถ้าไม่ถึงคราจำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ยอมทำ และไม่สู้กันถึงตาย

สงครามระหว่างจักรพรรดิด้วยกันไม่ได้เกิดมาหลายปีแล้ว

จักรพรรดิแพรงามพอกลับจากมิติต่างแดน จักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็ถอนทัพทันที

พวกเขาสองคนถ้าหากเปิดสงครามกันจริงๆ ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะส่งผลกระทบต่อจักรพรรดิคนอื่น ถึงขั้นที่ว่าใครคนใดคนหนึ่งในสามกษัตริย์ต้องออกหน้ามาไกล่เกลี่ย

ที่จักรพรรดิเอกภพกำเนิดสะกดประมุขอาคเนย์ก่อนหน้า เป็นเพียงการใช้สภาวะกดดันคนเท่านั้น ไม่ได้สู้ด้วยจริงๆ

ความขัดแย้งระหว่างบุคคลระดับสูงสุดในโลกซ้อนโลกหลายๆ ครั้งเป็นการโรมรันกันในที่ลับ เลือกผู้สนับสนุนของใครของมัน สุดท้ายก็ประณีประนอมและร่วมมือกันได้

จอมยุทธ์ในระดับล่างแม้สู้กันอย่างดุเดือด ถ้าอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ ยอดฝีมือระดับสูงสุดน้อยครั้งจะลงมือจริงๆ

ด้านนอกโลกซ้อนโลกยังมีศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่

วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ทำให้สำนักเต๋าเสียหายครั้งใหญ่ บัดนี้ค่อยๆ ฟื้นกลับมาได้ ในที่สุดก็มีสภาพรุ่งเรืองอีกครั้ง

เหล่าผู้ปกครองในปัจจุบันของโลกซ้อนโลกที่มีกษัตริย์ดินเป็นผู้นำ ส่วนใหญ่แล้วต่างทะนุถนอมสถานการณ์ในตอนนี้

นอกเสียจากว่าจักรพรรดิแพรงามจะออกจากโลกซ้อนโลกอีกครั้ง หรือจักรพรรดิเอกภพกำเนิดมีกำลังเสริมกลุ่มใหม่ ไม่อย่างนั้นจักรพรรดิเอกภพกำเนิดจะไม่ลงมืออีก

ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋คุยกัน ก็เห็นฟู่ถิงโผล่มาอีกครั้ง

สำรวจดูสีหน้าของฟู่ถิงแล้ว นางมีเพียงแค่ความรู้สึกผิด แต่ไม่มีความเคร่งเครียดหรือกังวล

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋คลายใจลง ทราบว่าเรื่องราวไม่สาหัสนัก

“ท่านพ่อมีเรื่องด่วนต้องไปด้านนอก คงไม่กลับมาอีกสักพัก ไม่ได้มีเจตนาละเลย ขอท่านทั้งสองอย่าถือสา” ฟู่ถิงกล่าวด้วยความรู้สึกผิด

สองพ่อลูกต่างบอกไม่เป็นไร

ฟู่ถิงกล่าวเสริมว่า “ครั้งนี้ท่านพ่อไม่ได้ออกจากโลกซ้อนโลก ทางด้านเขตตะวันอาคเนย์ไม่อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ชั่วคราว ท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วง”

เยี่ยนตี๋พยักหน้า “พวกข้ารอได้ เพียงแต่ไม่ทราบว่าจักรพรรดิแพรจะกลับมาตอนไหนหรือ”

“ข้ายังนยืนยันเวลาที่แน่นนอนไม่ได้ ได้แต่ต้องขอให้พวกท่านพักอยู่สักสองสามวัน” ฟู่ถิงยิ้มอย่างหนักใจ

“แน่นอนว่าถ้าหากทั้งสองท่านคิดจากไปก็ไม่มีปัญหา แต่ยังหวังให้พวกท่านพ่อลูกรอสักพัก”

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สบตากัน พยักหน้าเล็กน้อย ฝ่ายเยี่ยนตี๋เอ่ยว่า “ไม่เป็นไร จักรพรรดิแพรน่าจะมีเรื่องสำคัญที่ต้องออกเดินทางทันที ขอแค่สำนักในเขตตะวันอาคเนย์ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ พวกเรายินดีอยู่สักหลายวัน เพียงแต่ต้องขอรบกวนทุกท่านแล้ว”

ฟู่ถิงยิ้มเล็กน้อย เอ่ยว่า “เจ้าสำนักเยี่ยนเกรงใจไปแล้ว”

เมื่อมีลูกศิษย์จากยอดเขาอัศจรรย์อยู่ที่เขากว่างเฉิงชั่วคราว ต่อให้เยี่ยนจ้าวเกอเองก็ไม่อยู่ แม้ว่ามีคนหมายปองกงจักรมหาประกายกาฬ กลับไม่อาจวู่วามได้

ซ้ายขวาไร้เรื่องราว เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋จึงถือโอกาสพักอยู่ในสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย

แม้ว่าจะไม่อาจสนทนาลงลึกได้ แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกก็มีความเข้าใจต่อวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม จากการคุยกับพวกฟู่ถิงซึ่งเป็นศิษย์ของยอดเขาอัศจรรย์

น่าเสียดายที่รอเป็นเวลาเกือบเจ็ดวัน จักรพรรดิแพรก็ยังไม่กลับมา

………………..