มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1058

อสูรดูดจิตโบราณ เรียกได้ว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของเทพมาร อสูรโบราณที่ลึกลับประเภทนี้ มีพลังพิเศษที่ครอบครองมาโดยกำเนิด สามารถที่จะควบคุมการไหลเวียนของพลังเทพดั้งเดิมได้ ทำให้เทพมารไม่สามารถต้านทาน ทำได้แค่เพียงมองดูคนถูกอสูรดูดจิตโบราณคลื่นกินไปอย่างไม่มีทางเลือก

เทพมารทั่วไปมักจะกังวลใจอย่างมากต่ออสูรดูดจิตโบราณ แต่ว่าซุ๋นซินเหลียนกลับมีสายตาเป็นประกาย ดูเหมือนว่าจะสนใจอย่างมาก

“ตำนานบอกถึงการมีอยู่ของอสูรดูดจิตโบราณ ยากยิ่งนักที่จะพบเจอ หากสามารถปราบและฝึกฝนได้ นั่นไม่ใช่หมายความว่าไร้เทียบทานหรือ?” นางดูเหมือนเด็กสาววัยรุ่นอายูสิบกว่าปี สีหน้าท่าทางตื่นเต้นอย่างมาก

“เจ้าเด็กโง่ เจ้าคิดว่าอสูรดูดจิตโบราณจะฝึกฝนได้ง่ายเช่นนั้นหรือ? อสูรโบราณประเภทนี้เกิดมาเป็นเทพมาร ไม่รู้ว่าจะต้องให้เทพมารเป็นอาหารอีกมากเพียงใด ถึงจะสามารถฝึกจนบรรลุถึงเทพฟ้า ส่วนที่จะเติบโตไปถึงแดนที่สูงกว่านั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” ช่าจื่อเยียนหัวเราะดังลั่น

ตามที่ช่าจื่อเยียนได้กล่าวไว้ อสูรดูดจิตโบราณที่ยึดถิ่นฐานอยู่บริเวณใกล้ ๆ ของทางเหนือนภาแห่งนี้ เป็นเพียงอสูรกายวัยเยาว์เท่านั้น หากเป็นอสูรดูดจิตโบราณเติบโต แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพก็คงต้องล่าถอยให้ห่าง ความน่ากลัวนั้นถึงขีดสุด มีอยู่ในตำนานเท่านั้น

อสูรดูดจิตโบราณมีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งมาก แต่ก็เพราะเติบโตได้อย่างยากลำบากเช่นนี้ นับแต่ช่วงวัยเยาว์ จนถึงช่วงเติบโต ไปจนถึงช่วงโตเต็มวัย ไม่ใช่การอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานก็เพียงพอ แต่จำเป็นต้องดูดกลืนแก่นแท้เลือดเนื้อของผู้แข็งแกร่งเทพมารจำนวนมหาศาล

ดังนั้นการฝึกฝนอสูรดูดจิตโบราณ ไม่รู้ว่าต้องฟุ่มเฟือยทรัพยากรสมบัติมากมายเพียงใด ว่ากันว่าฝึกฝนอสูรดูดจิตโบราณเทียบเท่าเทพฟ้าในช่วงเวลาเติบโตตัวหนึ่ง ทรัพยากรที่ต้องสูญเสียไปทั้งหมดนั้น ดูเหมือนจะเทียบเท่ากับความร่ำรวยทั้งหมดของพิภพกลางแห่งหนึ่งเลยทีเดียว!

เพราะฉะนั้น เจ้าลูกอสูรอย่างอสูรดูดจิตโบราณตัวนี้ ไม่รู้ว่ากี่หมื่นปีแล้วที่ถูกเทพสงครามเอกภพปราบปราม แต่กลับยังไม่สามารภเติบโตจนถึงระดับเทพฟ้า ยังคงเป็นลูกอสูรมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้

ระหว่างที่พูด ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางทางเหนือนภา อสูรดูดจิตโบราณยังคงปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ถูกช่าจื่อเยียนโจมตีจนล่าถอยไปทุกครั้ง

อสูรดูดจิตโบราณในช่วงวัยเยาว์สามารถควบคุมเทพมาร แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นสูง การควบคุมนั้นแทบจะไม่เป็นผล

แต่ว่าด้วยพลังของช่าจื่อเยียนอย่างมากที่สุดก็สามารถต้านทานการโจมตีของอสูรดูดจิตโบราณได้ แต่ก็ไม่สามารภเข่นฆ่าหรือปราบปรามได้

หลังจากนั้นไม่นาน เทพมารจากเผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจ ก็ได้มายังทางเหนือนภานี้แล้ว อสูรดูดจิตโบราณได้เปลี่ยนเป้าหมายทันที หันไปโจมตีเทพมารของทั้งสองเผ่าพันธุ์แทน

หลัวซิวหันไปมอง เห็นเจ้าเทาเที่ยนั้นเปลี่ยนร่างเป็นร่างเดิม ต่อสู้อย่างดุเดือดกับอสูรประหลาดที่เหมือนมังกรภายในอนัตตา

“พรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยก็คือดูดกลืน แต่พรสวรรค์ของอสูรดูดจิตโบราณก็คือการดูดกลืนเทพมาร ทั้งสองแตกต่างกันแต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกัน ว่ากันว่าเผ่าพันธุ์เทาเที่ยหากสามารถดูดกลืนอสูรดูดจิตโบราณได้ ก็จะสามารถผสานพลังดูดกลืนทั้งสองชนิด ไม่เพียงแต่พลังพรสวรรค์แข็งแกร่งมาก และยังสามารถได้รับพลังพิเศษอย่างการควบคุมเทพมารอีกด้วย!” ซุ๋นหวู่หยามีความรู้มากมาย พูดพร้อมเสียงหัวเราะ

“ระดับเทพมารเหมือนกัน เจ้าเทาเที่ยอย่าหวังจะได้ดูดกลืนอสูรดูดจิตโบราณ นอกเสียจากจะเป็นเทาเที่ยเทพมารอสูรระดับเทพฟ้า จึงจะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้”

ได้ยินเช่นนี้ หลัวซิวเข้าใจแจ่มแจ้งในทันที เห็นได้ชัดว่าช่าจื่อเยียนต้องการความช่วยเหลือจากอสูรดูดจิตโบราณที่นี่ เพื่อต้านทานเทาเที่ยเทพมารอสูร

อสูรดูดจิตโบราณและเทาเที่ย เป็นศัตรูตลอดกาลต่อกัน เมื่อใดที่ได้พบเจอ ก็จะต้องสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย จำต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตาย

ว่ากันว่า ภายในร่างกายของเทาเที่ย ก็มีเลือดของอสูรดูดจิตโบราณไหลเวียนอยู่

อสูรดูดจิตโบราณและเทาเที่ยเทพมารอสูรต่อสู้อย่างดุเดือด การต่อสู้ที่น่ากลัว ต่างก็อยากดูดกลืนเลือดของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงเป็นการยกผลประโยชน์ให้เทพมารคนอื่น ๆ ไม่ต้องกังวลถึงการลอบโจมตีของอสูรดูดจิตโบราณ ค่อย ๆ พากันเข้าไปยังทางเหนือนภาด้วยความรวดเร็ว