ตอนที่ 1114 สถานการณ์ของตระกูลเยี่ย

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ตลอด​หลาย​วัน​ต่อมา​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คณะ​ก็​พัก​อยู่​แต่​ใน​เรือน​และ​ฝึก​วิชา​กัน​อย่าง​เงียบ​ ​ๆ

นอกเหนือจาก​ผู้พิทักษ์​สอง​คน​หน้า​ประตู​และ​อาหาร​ที่​ถูก​ส่ง​มาจาก​โรง​ครัว​สาม​มื้อ​ต่อ​วัน​ก็​ไม่มีใคร​อื่น​เข้ามา​ใน​บริเวณ​เรือน​ของ​พวก​นาง​อีก​เลย​ ​แม้แต่​เยี​่ย​ซีที​่​กลับ​ไป​หลังจาก​จัด​ที่พัก​ให้​พวก​นางใน​วันนั้น​ก็​ไม่​ปรากฏ​ให้​เห็น​อีก

เดิมที​พวก​นาง​คิด​ว่าการ​ที่​ติดตาม​มากับ​เยี​่ย​ซีจะ​ทำให้​พวก​ตน​ตกเป็น​เป้าสายตา​ของ​ผู้อื่น​และ​อาจจะ​มีบา​งค​นที​่​เข้ามา​หา​พวก​นาง​ด้วย​ความอยากรู้​อยาก​เห็น​ ​หรือ​อาจจะ​มีบา​งค​นที​่​เข้ามา​กดขี่​พวก​นาง​ด้วยซ้ำ​

ทว่า​ตอนนี้​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​สหาย​ก็​มั่นใจ​ขึ้น​มาก​ว่า​จะ​ต้อง​เกิดเรื่อง​บางอย่าง​ใน​ตระกูล​เยี​่​ยอย​่าง​แน่นอน​ ​คน​เหล่านั้น​จึง​ไม่มีเวลา​สนใจ​คนแปลกหน้า​ที่​เข้ามา​ใหม่​เช่น​พวก​นาง​ทั้ง​สี่​คน

เนื่องจาก​ยัง​ไม่ต้องการ​กระตุ้น​ความสงสัย​ของ​คน​ตระกูล​เยี​่ย​ใน​ตอนนี้​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​จึง​เก็บตัว​เงียบ​ต่อไป​และ​ไม่​พยายาม​แม้แต่​จะ​สืบหา​ข่าว​ใด​ ​ๆ

เมื่อ​ผู้พิทักษ์​ทั้งสอง​เห็น​ว่า​พวก​นาง​เพียง​ฝึก​วิชา​และ​เก็บตัว​กัน​อย่าง​เงียบ​ ​ๆ​ ​พวกเขา​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​เล็กน้อย​และ​ไม่​จับตาดู​พวก​นาง​อย่างเข้มงวด​อีกต่อไป​ ​แม้ว่า​กลุ่ม​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​จะ​ต้องการ​ออก​ไป​เดิน​สำรวจ​รอบ​ ​ๆ​ ​เขต​ที่พัก​ของ​ศิษย์​ ​ทั้งสอง​ก็​ไม่​ขัดขวาง​พวก​นาง​ทว่า​ติดตาม​ไป​ด้วย​และ​หลีกเลี่ยง​มิ​ให้​พวก​นาง​เข้าไป​ใน​สถานที่​ที่​ไม่​ควร​ไป

“​พี่ชาย​ทั้งสอง​ ​ตอนนี้​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ใน​ตระกูล​เยี​่​ยอย​่าง​นั้น​หรือ​ ​?​”

เวลานี้​ ​ผู้พิทักษ์​ทั้งสอง​ซึ่ง​มี​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​หนึ่ง​ดารา​ก็​เข้ามา​ส่ง​อาหารตาม​ปกติ​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​จึง​ถือโอกาส​เอ่ย​ถาม​พร้อม​รอยยิ้ม

พวกเขา​ชำเลือง​มอง​นาง​เล็กน้อย​และ​เมื่อ​เห็น​ว่านาง​เพียง​สงสัย​ใคร่รู้​ ​พวกเขา​จึง​ไม่มี​ท่าที​หงุดหงิด​หรือไม่​พอใจ​แต่อย่างใด

“​ถึงอย่างไร​ตอนนี้​พวก​เจ้า​ก็​ถือเป็น​สมาชิก​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​แล้ว​ ​ในเมื่อ​อยากรู้​ ​ข้า​ก็​จะ​บอก​พวก​เจ้า​”

หลังจาก​ไตร่ตรอง​ครู่หนึ่ง​ ​พวกเขา​ก็​เริ่ม​เล่า​ถึง​สถานการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​ให้​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​สหาย​ได้​ทราบ​อย่างใจ​เย็น

“​เมื่อไม่นานมานี้​ ​จู่​ ​ๆ​ ​ผู้นำ​ตระกูล​ของ​เรา​ก็​ล้ม​ป่วย​ไม่ได้​สติ​ไป​และ​มี​อาการ​ที่​เลวร้าย​มาก​ ​เกรง​ว่า​อีกไม่นาน​เขา​ก็​คงจะ​สิ้นใจ​ ​ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​นี้​ตระกูล​เยี​่ย​ของ​เรา​ก็​เกิด​การต่อสู้​ภายใน​อย่าง​ดุเดือด​ ​เมื่อ​พวก​เจ้า​กลับมา​กับ​เยี​่ย​ซี​ใน​ครานี​้​ก็​หมายความว่า​พวก​เจ้า​เลือก​เข้าร่วม​ใน​ฝั่ง​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​แล้ว​ ​ข้า​ขอ​แนะนำ​ให้​พวก​เจ้า​เก็บตัว​อยู่​ใน​เรือน​และ​ไม่​ออก​ไป​เพ่นพ่าน​จะ​ดีกว่า​ ​พวก​เจ้า​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เผชิญ​กับ​อันตราย​ใด​ที่​คาดไม่ถึง​”

พวกเขา​กล่าว​อธิบาย​อย่าง​คร่าว​ ​ๆ​ ​และ​กำชับ​พวก​นาง​ก่อน​ออกจาก​เรือน​ไป

“​ผู้นำ​ตระกูล​เยี​่ย​คือ​ผู้​ที่​พบ​ตัว​ศิษย์​พี่​มิใช่​รึ​ ​?​ ​เขา​กำลังจะ​ตาย​อย่างนั้น​หรือ​ ​?​”​

ฉิน​อวี​้​โม่​ขมวดคิ้ว​มุ่น​พลาง​ใช้​ความคิด​ ​แน่นอน​ว่านาง​ทราบ​เกี่ยวกับ​ผู้นำ​ตระกูล​เยี​่ย​ที่​อีก​ฝ่าย​กล่าวถึง​อยู่​บ้าง

เขา​มีสาย​เลือด​ที่​เชื่อมโยง​กับ​ฉิน​เฟิง​และ​เป็น​คนที​่​ตามหา​ฉิน​เฟิง​จน​พบ​และ​สั่ง​ให้​คน​ของ​ตระกูล​ออก​ไปรับ​ตัว​ฉิน​เฟิ​งก​ลับ​มา

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​รู้สึก​ได้​ว่าความ​ตาย​ของ​ตน​กำลังจะ​มาถึง​ ​เขา​จึง​พยายาม​อย่างสุดความสามารถ​ที่จะ​ตามหา​ฉิน​เฟิง​ให้​ได้​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ยัง​มิ​อาจ​ยืนยัน​สิ่งใด​ได้​ใน​ตอนนี้​…

“​เรา​จะ​ต้อง​สืบ​ให้​ได้​ก่อน​ว่า​ตอนนี้​ศิษย์​พี่​อยู่​ที่ใด​และ​หาทาง​ไป​พบ​กับ​เขา​ให้​ได้​”

ฉิน​อวี​้​โม่​มอง​อวิ​๋น​ซื่อ​เทียน​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก่อน​ตัดสินใจ​อย่าง​แน่วแน่

เวลานี้​ท้องฟ้า​เริ่ม​ที่จะ​มืดสนิท​และ​คน​ตระกูล​เยี​่​ยก​็​หลับใหล​กัน​ไป​แล้ว​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​สหาย​ทั้ง​สาม​จึง​ก้าว​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​ก่อน​ขับเคลื่อน​ออก​ไป​สำรวจ​รอบ​ ​ๆ​ ​จวน​ตระกูล​เยี​่ย

จวน​ตระกูล​เยี​่​ยนั​้​นมี​อาณาเขต​ที่​กว้างขวาง​เป็น​อย่างยิ่ง​และ​กว้าง​ยิ่งกว่า​พระราชวัง​ของ​ตระกูล​ราชวงศ์​ใน​มณฑล​กลาง​ของ​ดินแดน​มหาเทพ​หลายเท่า​ตัว​นัก

เขต​ที่​พวก​นาง​พัก​อยู่​ใน​ตอนนี้​คือ​ทางตะวันตก​ซึ่ง​เป็น​ฝั่ง​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ ​ในขณะที่​ผู้นำ​ตระกูล​เยี​่ย​และ​ทายาท​สายตรง​ของ​ตระกูล​ล้วน​พัก​อยู่​ใน​ทาง​ตะวันออก

หลัง​ออกมา​จาก​เรือน​ที่พัก​ของ​ตน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ขับเคลื่อน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เรือน​หลัก​ของ​ตระกูล​เยี​่​ยด​้วย​ความเร็ว​ที่​ไม่​ช้า​และ​ไม่​เร็ว

แม้​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​ของ​นาง​จะ​พัฒนา​ขึ้น​มามาก​และ​ยาก​ที่​ผู้ใด​จะ​ค้นพบ​ ​ทว่า​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​ก็​เต็มไปด้วย​จอม​ยุทธ์​ผู้​แกร่งกล้า​มากมาย​นับไม่ถ้วน​ ​เพราะฉะนั้น​แล้ว​การระมัดระวัง​ให้​มาก​ย่อม​เป็น​สิ่ง​ที่​ดีที​่​สุด

แม้​จะ​เป็นเวลา​ค่ำ​มาก​แล้ว​ ​ทว่า​ภายใน​เรือน​หลัก​ของ​ตระกูล​เยี​่​ยก​็​ยังคง​ส่องแสง​สว่าง​ออกมา​และ​ทายาท​สายตรง​ของ​ตระกูล​เยี​่​ยกำ​ลัง​รวมตัวกัน​ใน​ห้อง​หนึ่ง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งเครียด

“​เรา​ไม่มีทาง​เลือก​อื่น​แล้ว​จริง​ ​ๆ​ ​หรือ​ ​?​”

บน​เตียง​ขนาดใหญ่​มีบุ​รุษ​ชรา​ผู้​หนึ่ง​ที่นอน​แน่นิ่ง​อยู่​บน​นั้น​ ​เส้น​ผม​และ​หนวดเครา​ของ​เขา​เป็น​สีขาว​โพลน​ ​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ริ้วรอย​ของ​วัยชรา​และ​ลมหายใจ​อ่อนแอ​อย่างยิ่ง​ ​บุรุษ​ชรา​ผู้​นี้​ก็​คือ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​—​ผู้นำ​ตระกูล​เยี​่​ยนั​่น​เอง

ด้าน​ข้าง​เตียง​ของ​เขา​คือ​ทายาท​สายตรง​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ที่มา​รวมตัวกัน​ทว่า​ไม่มี​วี่แวว​ของ​ฉิน​เฟิ​งอยู​่​ด้วย

“​ร่างกาย​ของ​ท่าน​พ่อ​อ่อนแอ​ลง​เต็มที​และ​เรา​คงมี​เวลา​อีก​ไม่​กี่​วัน​แล้ว​ ​เว้นแต่ว่า​จะ​พบ​โอกาส​ที่​ยิ่งใหญ่​บางอย่าง​ ​ท่าน​พ่อ​คงจะ​ไม่มีทาง​กลับมา​เป็น​เหมือนเดิม​อีกต่อไป​”

บุรุษ​วัยกลางคน​คน​หนึ่ง​กล่าว​อย่าง​หมดหนทาง​ ​เขา​คือ​เยี​่ย​หมิง​—​บุตรชาย​ของ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ผู้​ซึ่ง​ทำหน้าที่​รักษาการแทน​ผู้นำ​ตระกูล​เยี​่ย​เป็นการชั่วคราว​ ​พรสวรรค์​และ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เขา​จัด​อยู่​ใน​ระดับปานกลาง​เท่านั้น​และ​เอาชนะ​บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​ตระกูล​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ ​กล่าว​ได้​ว่า​เขา​ไม่มี​อิทธิพล​ใน​ตระกูล​ดังที่​ควรจะเป็น​ ​ใน​ตระกูล​เยี​่ย​ทุกวันนี้​ ​นอกเหนือจาก​คนที​่​จงรักภักดี​ต่อ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ก็​แทบ​ไม่มี​ผู้ใด​ให้​ความเคารพ​ตำแหน่ง​ผู้นำ​ตระกูล​ของ​เขา​อย่างจริงจัง

“​ชาย​แก่​พวก​นั้น​ทราบ​ถึง​สถานการณ์​ของ​ท่าน​พ่อ​ดี​และ​เริ่ม​ที่จะ​หยิ่งผยอง​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​ตอนนี้​พวกเขา​ก็​แทบ​ที่จะ​เปิดศึก​กับ​เรา​อย่างเปิดเผย​แล้ว​ ​พวกเขา​ต่าง​ก็​หมายปอง​ตำแหน่ง​ผู้นำ​ตระกูล​เยี​่ย​ของ​เรา​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ข้า​ไม่​มาก​พอ​ ​ข้า​คง​กำจัด​ชาย​แก่​พวก​นั้น​เพื่อ​สะสาง​ปัญหา​นี้​ไป​แล้ว​ ​!​”

สตรี​รูปงาม​วัยกลางคน​กล่าว​ขึ้น​มา​โดยที่​มีสี​หน้าตึง​เครียด​ไม่​ต่างกัน​ ​รูปลักษณ์​ของ​นาง​มีส่วน​คล้าย​กับ​ฉิน​เฟิ​งอยู​่​หลาย​ส่วน​และ​มี​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​เจ็ด​ดารา​ซึ่ง​ไม่​ถือว่า​ทรงพลัง​จน​เกินไป

เมื่อ​กล่าวถึง​บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ ​นาง​ก็​แทบ​อดใจ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​สังหาร​พวกเขา​ให้​สิ้นซาก

หาก​มิใช่​เพราะ​สถานการณ์​ของ​บิดา​ ​ผู้อาวุโส​เหล่านั้น​จะ​กล้า​เสนอหน้า​ออกมา​เช่นนี้​และ​ทำให้​สถานการณ์​ของ​ตระกูล​เยี​่​ยก​ลาย​เป็น​เช่น​ทุกวันนี้​ได้​อย่างไร

“​น่าเสียดาย​ ​ทั้งที่​ข้า​เป็น​ทายาท​สายตรง​ ​ข้า​ก็​ทำ​อะไร​ผู้อาวุโส​เหล่านั้น​ไม่ได้​ ​หาก​ข้ามี​พลัง​สัก​สาม​ใน​สิบ​ส่วน​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​ตระกูล​เยี​่ย​ของ​เรา​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​แน่​ ​!​”

เยี​่ย​หมิง​กำหมัด​แน่น​และ​ดวงตา​แดงก่ำ​ด้วย​ความโกรธแค้น

สีหน้า​ของ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​ดู​โศกเศร้า​ระคน​โกรธแค้น​เช่นเดียวกัน​ส่งผล​ให้​บรรยากาศ​ภายใน​ห้อง​ดู​หดหู่​อย่างที่​สุด

“​ทุก​ ​ๆ​ ​ท่าน​ ​อย่า​เพิ่ง​หมดหวัง​ไป​เลย​เจ้าค่ะ​ ​เรา​ไม่ได้​ไร้ค​วาม​หวัง​เสมอไป​ ​อย่า​ลืม​ว่ายั​งมี​พี่​เฟิ​งอยู​่​อีก​คน​”

สตรี​วัย​ยี่สิบ​ห้า​ถึง​ยี่สิบ​หก​ปีก​ล่าว​ด้วย​วาจา​ที่​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​สหาย​ทั้ง​สาม​ทันที

พี่​เฟิ​ง.​..​หรือว่า​นาง​จะ​หมายถึง​ฉิน​เฟิง​ที่​พวก​นาง​กำลัง​ตามหา​ ​?

“​พรสวรรค์​และ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เจ้า​หนู​นั่น​ถือว่า​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​ดีมาก​และ​เขา​ก็​ดู​มี​ภูมิฐาน​ความสง่างาม​เหมือนกับ​บิดา​มารดา​ของ​เขา​ใน​อดีต​ ​เพียงแต่​ก่อนหน้านี้​เขา​อาศัย​อยู่​ใน​ดินแดน​ระดับ​ต่ำ​ซึ่ง​ทำให้​พลัง​ของ​เขา​พัฒนา​ช้า​เกินไป​และ​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่​ทรงพลัง​มาก​นัก​ ​ก่อนหน้านี้​ท่าน​พ่อ​จึง​ส่ง​เขา​ไป​ที่ดิน​แดน​ต้องห้าม​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​โดยที่​หวัง​ว่า​เขา​จะ​ได้​ครอบครอง​มรดก​จาก​บรรพบุรุษ​มา​ ​ตอนนี้​ก็​ผ่าน​มานาน​หลาย​ปี​แล้ว​ทว่า​ยัง​ไม่มี​ข่าวสาร​ใด​ ​ๆ​ ​เรา​ทุกคน​ต่าง​ก็​ทราบ​ดี​ว่า​ดินแดน​ต้องห้าม​เป็น​สถานที่​ที่​น่าสะพรึงกลัว​เพียงใด​และ​โอกาส​ที่​เจ้า​หนู​นั่น​จะ​ได้รับ​มรดก​มาก​็​มี​ไม่​มาก​นัก​…​”

วาจา​ของ​เยี​่ย​หมิง​ยืนยัน​ข้อสันนิษฐาน​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​สหาย​ได้​อย่างชัดเจน​ ​พี่​เฟิง​ที่​สตรี​ผู้​นั้น​กล่าวถึง​ก็​คือ​ฉิน​เฟิ​งอย​่าง​แท้จริง

แรกเริ่มเดิมที​ ​เมื่อ​ฉิน​เฟิ​งมา​ถึงที่​ตระกูล​เยี​่ย​ ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ก็​ส่ง​เขา​เข้าไป​ที่ดิน​แดน​ต้องห้าม​ของ​ตระกูล​เยี​่​ยด​้วย​หวัง​ว่า​เขา​จะ​ได้​สืบทอด​มรดก​จาก​บรรพบุรุษ​และ​ช่วย​ให้​ตระกูล​ผ่านพ้น​วิกฤต​ใน​ครานี​้​ได้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​คาดการณ์​ถึง​หายนะ​ที่จะ​เกิดขึ้น​ตั้งแต่​ต้น​จึง​ได้​ตัดสินใจ​เช่นนั้น

เพียงแต่​ทายาท​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​เหล่านี้​ล้วน​ทราบ​ถึง​สถานการณ์​ของ​ดินแดน​ต้องห้าม​ดีที​่​สุด​ ​แม้​พรสวรรค์​และ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ฉิน​เฟิง​จะ​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​น่าอัศจรรย์​ ​มัน​ก็​มีโอกาส​สูง​ที่​เขา​จะ​ไม่รอด​ชีวิต​ออกมา​จาก​ที่นั่น​…

ตอนนี้​สถานการณ์​ของ​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ก็​ไม่​สู้​ดีนัก​และ​ใกล้​ที่จะ​สิ้นใจ​เต็มที​ ​หาก​เยี​่ย​เฟิง​ยัง​ไม่​ออกมา​อีก​ ​เกรง​ว่า​ทายาท​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​เหล่านี้​คงจะ​ถึงคราว​จบสิ้น

“​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​เขา​เถอะ​เจ้าค่ะ​ ​ถึงอย่างไร​ท่าน​ตาก​็​มั่นใจ​ใน​ตัว​เขา​มาก​ ​เขา​จะ​ต้อง​มี​ไพ่ตาย​ที่​เรา​ไม่ทราบ​เป็นแน่​ ​ตอนนี้​เรา​ทำได้​เพียง​ยื้อ​เวลา​ให้​นาน​ที่สุด​ ​เมื่อ​พี่​เฟิ​งอ​อก​มา​ ​เรา​อาจจะ​มีโอกาส​กอบกู้​สถานการณ์​นี้​ได้​”

สตรี​ผู้​นั้น​กล่าว​ขึ้น​อีกครั้ง​เพื่อ​ปลอบใจ​ทั้ง​ตนเอง​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ตอนนี้​พวก​นาง​ไม่มี​หนทาง​อื่น​อีกแล้ว​ ​สิ่ง​เดียว​ที่​ทำได้​คือ​การ​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​ฉิน​เฟิง​และ​ยื้อ​เวลา​ไว้​เพื่อ​รอ​ให้​ฉิน​เฟิ​งอ​อก​มา​เท่านั้น​…

ภายใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​สหาย​ทั้ง​สาม​มองหน้า​กัน​และ​ตัดสินใจ​อย่างรวดเร็ว

ชั่วพริบตา​ต่อมา​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ปรากฏ​กาย​ขึ้น​มา​ใน​ห้อง​ ​ดูเหมือนว่า​สถานการณ์​ของ​ฉิน​เฟิง​จะ​แตกต่าง​ไป​จาก​ที่​พวก​นาง​ทราบ​มาก​่อน​หน้า​นี้​…

.

.