บทที่ 755
เซียวฉางควนคิดง่ายๆ เพราะว่าเขากังวลว่าอีก2-3วัน หม่าหลันก็จะกลับมา
ถ้าอยู่ดีๆ เธอกลับมา ตนเองก็จะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว
ให้ตาย เขาก็ไม่กล้าเชิญหานเหม่ยฉิงมากินข้าวที่บ้าน ตอนที่หม่าหลันอยู่หรอก
แบบนั้นล่ะก็ หม่าหลันจะต้องฟันเขาตายแน่ๆ
ดังนั้นเขาคิดว่า ถ้าอยากจะมีโอกาสแบบนี้ จะต้องรีบๆ หน่อย ยิ่งเร็วยิ่งดี
ในใจหานเหม่ยฉิงก็คิดถึงเรื่องเก่าๆ
เนื่องจากบ้านเก่าของเธอคือซูหาง ดังนั้นตอนที่มาเรียนมหาลัยที่เมืองจินหลิงนั้น ก็ได้แต่อยู่ในหอพัก
อีกอย่าง ตอนนั้นที่จีบกันใหม่ๆ ก็ค่อนข้างน่าอาย ง่ายๆ และไม่อยากให้ที่บ้านรับรู้ ดังนั้นเธออยากทำกับข้าวให้ฉางควนกินมาตลอด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่เหมาะสมเสียที
ตอนนั้นก็ไม่ได้สบายเหมือนตอนนี้
ถ้าหากตอนนี้อยากจะทำกับข้าวให้คนที่รักกิน ก็ไปหาอพาร์ทเมนต์ หรือไม่ก็ไปเช่าห้อง เพื่อแก้ปัญหานี้ไปก่อน อีกอย่างพวกอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ก็มีพร้อมแล้ว
แต่ว่าในตอนนั้น ไม่ได้มีพร้อมแบบตอนนี้
ต่อให้เป็นรีสอร์ตธรรมดาๆ ด้านนอก ก็ต้องให้ทางมหาลัยเขียนหนังสือแนะนำ ดังนั้นตอนนั้นที่จีบกันสมัยวัยรุ่น ไม่มีทางที่จะไปเช่าโรงแรมหรือรีสอร์ทด้านนอกได้
ตอนนั้นที่พักของมหาลัยไม่จำเป็นต้องเอาหนังสือแนะนำ เพียงแค่บัตรนักศึกษาก็สามารถเปิดห้องได้แล้ว แต่ว่านักศึกษาไม่กล้าไปเปิดห้องที่นั่น เพราะว่าอาจจะถูกเพื่อนและอาจารย์จับได้
ตอนที่หานเหม่ยฉิงและเซียวฉางควนมีอะไรกันครั้งแรก ก็ได้เซียวฉางควนหาโอกาสที่ บ้านตระกูลเซียวไม่มีใครอยู่ แล้วก็แอบพาเธอเข้าบ้าน แล้วทั้งสองก็รีบๆ ทำอะไรให้เสร็จ
หลังจากนั้น ถ้าทั้งสองคนอยากจะมีความสุขกันอีก ก็ได้แต่รอบ้านตระกูลไม่มีคนถึงได้มีความสุขกัน
แต่ว่า ตระกูลเซียวในตอนนั้น ถึงแม้พี่ใหญ่เซียวฉางเฉียนจะไปเรียนที่นอกเมือง แต่งานของคุณท่านใหญ่เซียวส่วนมากจะอยู่ในเมือง ไม่ค่อยอยู่นอกเมือง
ส่วนนายหญิงใหญ่เซียวก็ไม่ค่อยออกจากบ้าน ดังนั้นโอกาสที่ที่บ้านจะไม่มีคนอยู่นั้น มันน้อยมาก
ดังนั้น หลายครั้ง ที่ทั้งสองจะพลอดรักกัน ก็ต้องไปแอบในป่าในมหาลัย หรือไม่ก็แถวสวนสาธารณะในเมืองจินหลิง หรือไม่ก็เป็นบ้านร้าง หรือไม่ก็ไซต์ก่อสร้าง
ชีวิตนักศึกษาสมัยนั้น ส่วนมากจะใช้วิธีนี้ในการพลอดรักกัน เพราะมันไม่มีทางอื่น
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว มันดูบ้ามาก แต่สมัยนั้นมันเป็นเรื่องปกติมาก เพราะฮอร์โมนของวัยรุ่น มันต้องการปลดปล่อยออกมา และไม่มีสถานที่ที่เหมาะสม
โดยเฉพาะในป่าแถวมหาลัย เป็นที่ชื่นชอบกันมาก ในนั้นมันมืดสนิท ต้นไม้แต่ละต้นห่างกัน10กว่าเมตร ทุกคนก็จะได้ยินเสียงของคนอื่น แต่ทุกคนก็ไม่พูดถึงคนอื่น และมองคนอื่น ทุกคนต่างรู้กันดี สนใจแต่เรื่องของตัวเอง
เพราะว่าใครก็มองไม่เห็นใคร ใครก็ไม่รู้ว่าใคร ดังนั้นทุกคนก็เลยไม่รู้สึกอาย
บางครั้ง อาจารย์ในมหาลัยก็เดินถือกระบอกไฟฉายมาตามจับตัว เดิมทีนึกว่าจะจับคู่รักได้อย่างมากก็1-2คู่ สุดท้ายไม่คิดเลยว่า พอเข้าเป็นก็เห็นจำนวนคู่รัก อย่างกับฝูงเป็ด ที่ตื่นตกใจไปตามๆ กัน
ตอนนี้ พอทั้งสองคนหวนคิดเรื่องราวเก่าๆ โดยเฉพาะเรื่องราวที่ทั้งสองคนทำอะไรด้วยกันทุกๆ อย่างในตอนนั้น ถึงแม้ตอนนี้กลับไปคิดดูมันจะเป็นเรื่องที่บ้ามาก โรแมนติกมาก หรือไม่ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าอายมาก ใจของทั้งสองคนก็สั่นอย่างผิดปกติ
เย่เฉินสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของหานเหม่ยฉิงก็แดงขึ้นมา และดูออกอย่างชัดเจนว่าเธอนั้นดูเหมือนว่าจะกำลังเขิน
เขาก็คิดขึ้นในใจว่า ก็แค่บอกว่าให้กินข้าวที่บ้านแค่นี้เองไม่ใช่หรือ? ทำไมหน้าของคุณป้าหาน ถึงได้แดงขนาดนี้?
จากนั้น เขาก็มองไปยังพ่อตาของตนเอง พบว่าใบหน้าของพ่อตาตนเองก็แดงขึ้นมาเหมือนกัน