ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 923 เก่งกาจจนผู้คนตื่นตะลึง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

หลิวเซี่ยงถงไม่ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น

ตอนที่ทวนพระอังคารทำลายสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงก็อยู่ที่นั่นพอดี

แม้ว่าจะรอดจากภัยพิบัติมาได้ แต่ก็หลงเข้าไปในเขตแดนของโถงเซียนเพราะสาเหตุนี้

หลังจากทวนพระอังคารทำลายสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยเสร็จ มันก็ไม่ได้จากไป แต่กลับรั้งอยู่ที่เดิม รอคอยจักรพรรดิแพรงามกลับมาอย่างสงบ

กระนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด จักรพรรดิแพรงามจึงไม่กลับมาเสียที

ทวนพระอังคารรออยู่ที่เดิมเกือบเจ็ดวัน กลับไม่เห็นจักรพรรดิแพรงามปรากฏกาย

ยอดฝีมือคนอื่นของโลกซ้อนโลกเป็นผู้มาแทน

ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เกิดความขัดแย้งขึ้น แต่ว่าทวนพระอังคารไม่ตอบรับการเกลี้ยกล่อมจากคนอื่น คิดตามหาผู้สืบทอสายเอกพิสุทธิ์ที่ช่วยเผ่ามังกรผนึกตนในตอนนั้น เพื่อแก้แค้นให้ได้

นักพรตเสวียนจงเสียชีวิตไปแล้ว จักรพรรดิแพรงามซึ่งเป็นผู้สืบทอดของเขากลับเป็นคลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า จึงกลายเป็นเป้าหมายของทวนพระอังคาร

จักรพรรดิแพรงามจนแล้วจนรอดก็ไม่ปรากฏตัว ทวนพระอังคารเองก็ไม่ได้สร้างความลำบากให้แก่ลูกศิษย์คนอื่นในยอดเขาอัศจรรย์

ทว่าเขากลับเปลี่ยนเป้าหมายไปยังผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์อีกกลุ่มหนึ่งบนโลกซ้อนโลก

เขาโถงทองแห่งเขตตะวันอาคเนย์

สุดท้ายตอนที่เขาบรรลุถึงเขาโถงทอง จักรพรรดิแพรก็ได้ปรากฏตัวขึ้น

การต่อสู้ของยอดฝีมือผู้ได้ชื่อว่าจักรพรรดิทั้งสอง ยังไม่อาจทำลายโลกซ้อนโลก แต่ก็ต้องก่อให้เกิดการทำลายที่ใหญ่หลวงต่ออาณาเขตอันกว้างใหญ่ในเขตตะวันอาคเนย์

ทวนพระอังคารยินดีออกจากโลกซ้อนโลกไปพร้อมจักรพรรดิแพร เพื่อต่อสู้ในมิติต่างแดน

สุดท้ายมียอดฝีมือของโลกซ้อนโลกเข้าไกล่เกลี่ย ทั้งสองฝ่ายจึงนัดวันต่อสู้กันใหม่

และวันนี้ก็เป็นวันต่อสู้ตัดสินระหว่างทวนพระอังคารและจักรพรรดิแพรงามพอดี

เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงสบตากัน ต่างฝ่ายต่างก็มองเห็นความกังวลในดวงตาของอีกฝ่าย

จักรพรรดิแพรงามถูกทวนพระอังคารมัดมือมัดเท้า จักรพรรดิเอกภพกำเนิดจะลงมือกับเขตตะวันอาคเนย์อีกหรือไม่

ที่แล้วมาจักรพรรดิแพรงามไม่เคยปรากฏตัว เมื่อคาดเดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายไปอยู่ที่ไหนกันแน่ จักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็ไม่อาจลงมือโดยง่าย

เมื่อไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะ ก็ย่อมไม่ฉีกหน้าในทันที

แม้ว่าทวนพระอังคารจะรออยู่บนซากของสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยราวกับกำลังยั่วยุ จักรพรรดิแพรงามก็ยังไม่ปรากฏตัว ฝ่ายจักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายอยู่หรือไม่อยู่กันแน่

ไม่แน่ว่ากำลังป้องกันเขาอยู่ ดังนั้นก็เลยอดกลั้นต่อทวนพระอังคารก็เป็นได้

จนกระทั่งทวนพระอังคารบุกเขาโถงทอง จักรพรรดิแพรงามจึงได้ปรากฏกายขึ้น ต่างฝ่ายต่างกำหนดวันต่อสู้ที่ชัดเจน จักรพรรดิเอกภพกำเนิดจึงค่อยนับว่ามีโอกาสลงมือ

สืบเนื่องจากวันต่อสู้ จักรพรรดิแพรงามย่อมไม่อยู่บนโลกซ้อนโลก

หลิวเซี่ยงถง ประมุขพรรคเขาหยก ยามนี้กำลังสำรวจเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิง

ครั้นเห็นการแลกเปลี่ยนสายตาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิง หลิวเซี่ยงถงก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้

ประเสริฐนัก เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้ถึงกับสนิทสนมกับบุตรีของจักรพรรดิแพรถึงเพียงนี้เลยหรือนี่

แม้ว่าจักรพรรดิแพรงามกับประมุขอาคเนย์จะเป็นสหายสนิท และว่ากันว่าประมุขอาคเนย์ยังให้การดูแลเยี่ยนจ้าวเกอ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจักรพรรดิแพรงามจะถูกใจเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน

แน่นอนว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีความสามารถล้ำเลิศจริงๆ

หลิวเซี่ยงถงยามนี้มองเยี่ยนจ้าวเกอ รู้สึกตื่นตระหนกยิ่ง

นี่ไม่ใช่แค่มีพรสวรรค์สั่นสะท้านผู้คนเท่านั้น แต่เก่งกาจจนทำให้ผู้คนตกตะลึงแล้ว

คนหนุ่มตรงหน้าไฉนจึงดูเหมือนอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายแล้วเล่า

ตนสมควรไม่ได้ตาฝาดจนถึงขั้นมองผิดกระมัง

แต่พอสำรวจดูอีกครั้ง อายุจริงของเขาคล้ายยังไม่ถึงสี่สิบปีไม่ใช่หรือ

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายที่อายุไม่ถึงสี่สิบปีหรือ?!

หลิวเซี่ยงถงหน้ามืด เกือบเป็นลมหมดสติไป

อายุน้อยยิ่งกว่าฟู่ถิง แต่กลับมีระดับพลังฝึกปรือมากกว่าฟู่ถิงเสียอีก!

นี่มันเรื่องอะไรกัน

หลิวเซี่ยงถงเองก็นับว่ามีความรู้และประสบการณ์มากมายเช่นกัน แต่ว่าตอนนี้ในสมองของเขามีอยู่ความคิดเดียว ‘ถ้าไม่ใช่ข้ามองระดับพลังฝึกปรือของเขาผิด ก็เป็นเพราะเขาปิดบังอายุจริงของตัวเอง ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด…’

แต่เขาก็ยังคงรู้สึกว่า ต่อให้อายุของเยี่ยนจ้าวเกอจะเป็นของปลอม แต่ว่าพรสวรรค์และความสามารถของชายหนุ่มก็ทำให้คนรู้สึกตะลึงลานอยู่ดี

จากนั้นก็นึกได้ว่าจักรพรรดิแพรเองก็รู้สึกสนใจในตัวคนหนุ่มผู้นี้เช่นกัน ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผู้คนยากรับได้นักกระมัง

สายตาของหลิวเซี่ยงถงตกลงบนร่างของฟู่ถิง พึมพำในใจว่า ‘จะว่าไปบัวแดงสูงส่งผู้นี้จนถึงวันนี้ยังไม่เคยมีข่าวคราวเรื่องชู้สาว หรือว่า…’

ไม่อาจพูดได้ว่าริษยา แต่หลิวเซี่ยงถงมองเยี่ยนจ้าวเกอแล้วก็อดทอดถอนใจไม่ได้ ‘เขามีวาสนาดีนัก ว่ากันว่าเขาครอบครองอาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬทิ้งเอาไว้ด้วย ทั้งยังได้รับความชื่นชมของจักรพรรดิแพรและบุตรสาว ตัวเขาเองโดดเด่นเกินใครอยู่แล้ว นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังพุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดของโลกซ้อนโลกหรือไร!’

ไหนเลยเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงจะรู้ว่าในหัวสมองของหลิวเซี่ยงถงคิดอะไรอยู่ แม้กระทั่งไม่คาดคิเว่าประมุขพรรคที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด จะเกิดความคิดมากมายถึงเพียงนั้น

จิตใจของคนทั้งสองอยู่ที่ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการต่อสู้ของจักรพรรดิแพรและทวนพระอังคาร

เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนจะประสานมือคารวะหลิวเซี่ยงถง “ประมุขพรรคหลิวโปรดชี้แนะ ข้ามีเรื่องที่ยังไม่กระจ่าง ไม่ทราบว่าประมุขพรรคหลิวจะทราบสาเหตุหรือไม่”

หลิวเซี่ยงถงตื่นจากภวังค์ “คุณชายเยี่ยมสอบถามได้เต็มที่”

“ทวนพระอังคารจงใจยั่วยุจักรพรรดิแพร ยินดีไม่สู้บนโลกซ้อนโลก ย้ายสนามรบไปยังมิติต่างแดน ข้อนี้เข้าใจได้ แต่ไฉนเขาจึงยินยอมนัดเวลาด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอถามตามตรง

เมื่อครู่พอได้ฟังถึงเรื่องราวบนโลกซ้อนโลกในปัจจุบัน เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบแล้ว ว่าตนกับฟู่ถิงใช้เวลาไปไม่น้อยในการหาทางกลับมาจากทางโถงเซียน

ห่างจากวันที่เขาหนีออกจากสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยมากกว่าเจ็ดวันแล้ว

ทวนพระอังคารรออยู่บนซากสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยเป็นเวลาเจ็ดวัน ไม่เห็นจักรพรรดิแพรกลับมา ก็เข่นฆ่าไปถึงเขาโถงทอง สุดท้ายจักรพรรดิแพรจึงค่อยปรากฏกายขัดขวาง

ทว่าจากนั้นสองฝ่ายกลับนัดวันสู้ตัดสินไว้วันนี้ ระยะเวลาที่ต้องรอเกินกว่าหนึ่งเดือนแล้ว

ฟู่ถิงถามว่า “ประมุขพรรคทราบหรือไม่ ว่าโลกซ้อนโลกในตอนนี้มีผู้ยิ่งใหญ่คนไหนเฝ้าอยู่”

หลิวเซี่ยงถงพยักหน้าให้เยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิง “สาเหตุในนี้ ข้าเองก็ไม่ทราบ แต่ว่าทวนพระอังคารเห็นด้วยกับการกำหนดวันที่เป็นวันนี้จริงๆ”

“ส่วนโลกซ้อนโลกในตอนนี้ ตามที่ข้าน้อยทราบ กษัตริย์เร้นลับและจักรพรรดินียังอยู่ ส่วนผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นดูเหมือนจะไม่อยู่ ทว่าข้าก็ฟังคนอื่นมาอีกที มิกล้ายืนยัน”

ในสามกษัตริย์ กษัตริย์เร้นลับลี้ลับที่สุด ปกติจะเข้าฌาน

การปรากฏตัวครั้งล่าสุดที่ทุกคนทราบ ต้องย้อนไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน

การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิด้วยกันมีให้เห็นน้อยยิ่ง ตามปกติแล้ว ส่วนใหญ่จะดึงดูดให้ผู้ที่เป็นกษัตริย์มาไกล่เกลี่ยให้หยุด

ทว่าที่แล้วมาไม่เคยเห็นกษัตริย์เร้นลับกระทำเรื่องเช่นนี้

คลื่นมรสุมที่ทวนพระอังคารก่อให้เกิดในครานี้ กษัตริย์เร้นลับก็ยังคงไม่ปรากฏกายเฉกเช่นในอดีต

ส่วนจักรพรรดินี ปกติแล้วจะเคลื่อนไหวคนเดียว น้อยครั้งจะเข้าร่วมในเรื่องราวของคนอื่น

ในการต่อสู้ระหว่างทวนพระอังคารและจักรพรรดิแพรครั้งนี้ จักรพรรดินีกับกษัตริย์เร้นลับต่างไม่ปรากฏตัว และไม่คิดจะแสดงท่าทีใดๆ เช่นกัน

หลิวเซี่ยงถงว่า “กษัตริย์ดินกับกษัตริย์กระบี่ต่างไม่ได้อยู่บนโลกซ้อนโลก ในตอนนั้นเป็นจักรพรรดิไร้จำกัดกับประมุขปฐวีโผล่มาไกล่เกลี่ย สุดท้ายจักรพรรดิแพรกับทวนพระอังคารจึงกำหนดมาสู้กันวันนี้”

จักรพรรดิไร้จำกัด มีอีกชื่อว่าจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัด เป็นผู้ที่ได้รับการขนานนามพร้อมกับจักรพรรดิแพร จักรพรรดินี และจักรพรรดิเอกภพ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ผลักเปิดประตูเซียนมาแล้วหลายปี

ประมุขปฐวี เป็นลูกศิษย์ที่กษัตริย์ดินถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตัวเอง ถูกจัดเป็นประมุขทั้งสิบเหมือนกับพวกเฉาเจี๋ย จวงเซิน และหลิวเจิงกู่

ทั้งสิบที่ว่า หมายถึงแปดทิศและบนล่าง

ทว่าโลกซ้อนโลกมักจะเรียกประมุขทิศล่างว่า ‘ประมุขปฐวี’

“เช่นนั้น หลังจากกำหนดวันต่อสู้ได้แล้ว จักรพรรดิไร้จำกัดและประมุขปฐวีก็ออกไปจากโลกซ้อนโลกหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอถาม

หลิวเซี่ยงถงตอบ “มิผิด”