ตอนที่ 1137 เฟยอวิ๋น-จ้าววิหารเมฆาโบยบิน

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

เฟ​ยอ​วิ​๋น​—​จ้าว​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ถือว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​ตำนาน​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ของ​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์

เขา​ก่อตั้ง​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ขึ้น​มาด​้ว​ยมือ​ของ​ตัวเอง​และ​ทำให้​ขุม​กำลัง​ของ​ตน​กลายเป็น​ขุม​กำลัง​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​เป็นอัน​ดับ​สอง​ของ​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​โดยที่​เป็นรอง​เพียงแค่​ตระกูล​หมิง​เท่านั้น​ ​ใน​อดีต​ครานั้น​ที่​ตระกูล​หมิง​บุก​โจมตี​พวกเขา​อย่าง​อุกอาจ​ ​มัน​ก็​เป็น​เพราะ​ความแข็ง​แกร่ง​ที่​เหนือธรรมชาติ​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋​นนี​่​เอง​ที่​ทำให้​ผู้อาวุโส​ของ​ตระกูล​หมิง​ล้มตาย​ไป​สอง​คน​และ​ทำให้​สถานการณ์​คลี่คลาย​ในที่สุด

แม้แต่​ผู้นำ​ตระกูล​หมิง​ที่​ทรงพลัง​อย่างยิ่ง​ก็​ยัง​ต้อง​หวาดหวั่น​ต่อ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ผู้​นี้​ ​และ​เป็น​เพราะ​การดำรงอยู่​ของ​เขา​นี่เอง​ที่​ทำให้​ตระกูล​หมิง​ไม่กล้า​ทำ​สิ่งใด​บุ่มบ่าม​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา

มิฉะนั้น​ ​เกรง​ว่า​ทั่วทั้ง​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​คง​ตก​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​ตระกูล​หมิง​ไป​นาน​แล้ว

เมื่อ​ก้าว​เข้ามา​ใน​ห้องโถง​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​พบ​กับ​บุรุษ​หนุ่ม​ที่​ดูเหมือน​มีอายุ​อยู่​ใน​ช่วง​ยี่สิบ​ห้า​ถึง​ยี่สิบ​หก​ปี​ซึ่ง​นั่ง​อยู่​ตรงกลาง​ห้องโถง​ ​เขา​สวม​อาภรณ์​สีดำ​สนิท​โดยที่​คิ้ว​แหลมคม​และ​ดวงตา​เป็นประกาย​คู่​งาม​นั้น​เสริม​ใบหน้า​ของ​เขา​ให้​ดู​หล่อเหลา​ชวนมอง​ยิ่งนัก​ ​อีกทั้ง​ร่าง​ของ​เขา​ก็​ยัง​แผ่​กลิ่นอาย​ความเยือกเย็น​บางอย่าง​ที่​ทำให้​หลาย​คน​ไม่กล้า​เข้าใกล้

ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่​อาจม​อง​ทะลุ​ถึง​ระดับ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เขา​ได้​เลย​ ​ดูเหมือนว่า​พลัง​ของ​เขา​คงจะ​ข้าม​ผ่าน​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​ไป​แล้ว​และ​อยู่​ใน​ขอบเขต​ที่นาง​ยัง​ไม่​อาจ​เข้าใจ​ได้​ใน​ตอนนี้

“​คารวะ​จ้าว​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​เจ้าค่ะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ประกบ​กำปั้น​ทั้งสอง​และ​ก้ม​ศีรษะ​ให้​กับ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​เล็กน้อย​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ประดับ​ด้วย​รอยยิ้ม​บาง​ ​ๆ​ ​และ​ไม่มี​ร่องรอย​ของ​ความหวาดหวั่น​หรือ​ความกังวลใจ​ให้​เห็น

“​นั่ง​ก่อน​สิ​”

เฟ​ยอ​วิ​๋น​เพียง​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​ครู่เดียว​ก่อน​ละสายตา​ไป​ ​เขา​ชี้​ไป​ยัง​เก้าอี้​ว่าง​ถัดจาก​ตน​และ​เชิญ​ให้​อีก​ฝ่าย​นั่งลง

“​เจ้า​กลับ​ไป​ทำหน้าที่​ต่อ​เถอะ​”

เขา​โบกมือ​อีกครั้ง​เพื่อให้​เฟ​ยปู​้​กลับ​ออก​ไป

หลังจากที่​ผู้พิทักษ์​เฟ​ยปู​้​กลับ​ออก​ไป​ ​ทั้ง​ห้องโถง​กว้าง​ก็​เหลือ​เพียง​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​เพียง​สอง​คน​เท่านั้น

“​เจ้า​มีผลึก​แสงตะวัน​อยู่​จริง​ ​ๆ​ ​รึ​ ​?​”

เฟ​ยอ​วิ​๋น​เอ่ย​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นชา​ ​นี่​คือ​ตัวตน​ของ​เขา​ซึ่ง​เงียบขรึม​ ​เฉยเมย​และ​ดู​ห่างไกล​ไม่​สุงสิง​กับ​ผู้ใด​ ​เมื่อ​อยู่​ตรงหน้า​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ไม่เปลี่ยนแปลง​หรือ​แสดง​อารมณ์​แม้แต่น้อย

“​ท่าน​จ้าว​วิหาร​คงจะ​ทราบ​ถึง​จุดประสงค์​ที่​ข้ามา​ที่นี่​อยู่​แล้ว​ ​เรา​ต้องการ​ที่จะ​ผลึก​กำลัง​ร่วมกับ​ท่าน​เพื่อ​รับมือ​กับ​ตระกูล​หมิง​ด้วยกัน​”

ฉิน​อวี​้​โม่​หยิบ​ผลึก​แสงตะวัน​ออกมา​อย่าง​ไม่​ลังเล​และ​วาง​ลง​ด้าน​ข้าง​ขณะ​กล่าว​จุดประสงค์​อย่างชัดเจน

“​ถึงอย่างไร​เรา​ก็​มิใช่​คู่มือ​ของ​ตระกูล​หมิง​ ​มัน​ไม่มี​ประโยชน์​หรอก​”

เฟ​ยอ​วิ​๋​นก​ล่าว​เพียง​สั้น​ ​ๆ​ ​ทว่า​แสดงถึง​ทัศนคติ​ของ​เขา​ได้​อย่างชัดเจน

“​ตระกูล​หมิง​ทรงพลัง​มาก​ถึง​เพียงนั้น​เลย​หรือ​เจ้า​คะ​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่​นึก​สงสัย​ใน​วาจา​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​และ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​เล็กน้อย

เห็นที​ตระกูล​หมิง​จะ​ทรงพลัง​กว่า​ที่​พวก​นาง​คิด​ไว้​มาก​นัก​ ​และ​มัน​ก็​มาก​พอที่​จะ​ทำให้​จอม​ยุทธ์​ที่​แกร่งกล้า​อย่าง​เฟ​ยอ​วิ​๋น​หวั่นใจ​ได้

“​ทรงพลัง​ยิ่งกว่า​ที่​เจ้า​คิด​ไว้​”

เฟ​ยอ​วิ​๋​นพ​ยัก​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา​ยิ่งกว่า​เดิม

ความ​ยำเกรง​ที่​ตระกูล​หมิง​มีต​่​อวิ​หาร​เมฆา​โบยบิน​เป็น​เพราะ​ตัว​เขา​เพียง​คนเดียว​เท่านั้น​ ​ทว่า​สมาชิก​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ของ​วิหาร​ไม่อยู่​ใน​สายตา​ของ​ตระกูล​หมิง​แม้แต่น้อย

เรียก​ได้​ว่า​พวกเขา​เป็น​ขุม​กำลัง​ที่สามา​รถ​ทำลาย​ตระกูล​เซี​่ย​และ​ตระกูล​หู​ได้​โดยที่​แทบ​ไม่ต้อง​ออกแรง​ด้วยซ้ำ

เฟ​ยอ​วิ​๋น​ทราบ​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​เป็น​อย่างดี​และ​สามารถ​คาดเดา​ถึง​จุดประสงค์​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ได้​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เขา​ไม่ต้องการ​เข้าร่วม​ใน​สิ่ง​ที่​ยัง​ไม่​มั่นใจ​และ​ไม่แน่​นอน​เช่นนี้

ตระกูล​หมิง​ทรงพลัง​เกิน​กว่า​ที่​พวกเขา​จะ​รับมือ​ได้​และ​ตัว​เขา​ก็​ไม่มีทาง​ที่จะ​จัดการ​ทุกอย่าง​ได้​ด้วย​ตัว​คนเดียว​ ​เมื่อ​เขา​เข้าไปมีส่วนร่วม​ด้วย​ ​ทั้ง​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ก็​จะ​ต้อง​พลอย​เดือดร้อน​ไป​ด้วย​เช่นกัน​ ​และ​นี่​คือ​สาเหตุ​ที่​เขา​สั่ง​ให้​คน​เชิญ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​สหาย​กลับ​ไป

อย่างไรก็ตาม​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​มีผลึก​แสงตะวัน​ที่​เขา​ต้องการ​ ​ต่อให้​เขา​จะ​ทราบ​ว่าการ​เชิญ​ฉิน​อวี​้​โม่​เข้ามา​หมายความว่า​นาง​อาจ​โน้มน้าวใจ​ให้​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ผลึก​กำลัง​เพื่อ​ต่อสู้​กับ​ตระกูล​หมิง​ได้​สำเร็จ​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เพื่อ​ผลึก​แสงตะวัน​ที่​ตามหา​มานาน​ ​เขา​ก็​จำต้อง​เชิญ​ฉิน​อวี​้​โม่​เข้ามา​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​การ​ได้ผลึก​แสงตะวัน​มา​ ​บางที​พวกเขา​ก็​อาจจะ​มีโอกาส​ชนะ​ตระกูล​หมิง​อยู่​เหมือนกัน​ ​เพียงแต่​เขา​ไม่​แสดงออก​ทาง​สีหน้า​เท่านั้น

“​ต่อให้​เป็น​เช่นนั้น​ ​เรา​ก็​ต้อง​ลอง​เสี่ยง​ดู​สัก​ตั้ง​ ​การ​อยู่​เฉย​และ​เฝ้ารอ​ความตาย​มิใช่​วิถีชีวิต​ของ​ข้า​ ​!​”

สีหน้า​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​กลับ​สู่​ปกติ​อีกครั้ง​ ​ไม่ว่า​ตระกูล​หมิง​จะ​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ ​พวกเขา​ก็​ต้อง​มี​จุดอ่อน​บางอย่าง​อยู่​ ​ตราบใดที่​เตรียม​ความพร้อม​เป็น​อย่างดี​ ​นาง​เชื่อ​ว่ายั​งมี​ความเป็นไปได้​ที่จะ​เอาชนะ​อีก​ฝ่าย

“​แม่​สาวน้อย​ ​ส่งผลึก​แสงตะวัน​นั่น​มานี​่​”

เขา​ชี้​ไป​ที่​ผลึก​แสงตะวัน​บน​โต๊ะ​และ​กล่าว​เพื่อให้​ฉิน​อวี​้​โม่​ส่ง​มัน​มา​ให้​กับ​ตน

ฉิน​อวี​้​โม่​พยัก​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​และ​โบกมือ​เล็กน้อย​ก่อน​ผลึก​ดังกล่าว​ปรากฏ​ใน​มือ​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋น

“​ความบริสุทธิ์​ของ​ผลึก​แสงตะวัน​ก้อน​นี้​ถือว่า​ไม่เลว​ทีเดียว​”

เขา​ตรวจดู​ผลึก​ใน​มือ​อย่าง​พินิจ​พิจารณา​ก่อน​วาง​ลง​และ​กล่าว​ขึ้น​เบา​ ​ๆ

“​แม่​สาวน้อย​ ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ของ​เรา​จะ​ร่วมมือ​ด้วย​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ข้า​ต้อง​รอ​จนกว่า​จะ​ศึกษา​ผลึก​แสงตะวัน​ให้​เสร็จสิ้น​เสียก่อน​ ​ในเมื่อ​มี​มัน​แล้ว​ ​เชื่อ​ว่าความ​แข็งแกร่ง​ของ​ข้า​จะ​พัฒนา​ขึ้น​พอสมควร​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​ ​ข้า​จะ​รับมือ​กับ​เจ้า​แก่​หนัง​เหนียว​ของ​ตระกูล​หมิง​ได้​และ​มีโอกาส​ชนะ​ประมาณ​สี่​ใน​สิบ​ส่วน​”

เดิมที​เขา​ไม่ต้องการ​เข้าไปมีส่วนร่วม​อย่างแท้จริง​ ​ทว่า​การ​มีผลึก​แสงตะวัน​ทำให้​เขา​เปลี่ยนใจ​ในที่สุด

ผลึก​แสงตะวัน​สามารถ​พัฒนา​ความแข็ง​แกร่ง​ให้​เขา​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ ​เขา​ใน​ตอนนี้​มีโอกาส​ที่จะ​เอาชนะ​ผู้นำ​ตระกูล​หมิง​เพียง​หนึ่ง​ใน​สิบ​เท่านั้น​ ​ทว่า​การ​ใช้​ผลึก​แสงตะวัน​จะ​ช่วย​ให้​เขา​มั่นใจ​ได้​ประมาณ​สี่​ใน​สิบ​ส่วน​ ​ผู้​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ที่สุด​ใน​ตระกูล​หมิง​ก็​คือ​ผู้นำ​ตระกูล​ ​แม้​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ใน​ตระกูล​จะ​แข็งแกร่ง​มาก​เช่นกัน​ ​ทว่า​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​บรรดา​คน​เหล่านั้น​ก็​อยู่​เพียง​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​แปด​ดารา​เท่านั้น​ ​ในเมื่อ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ตระกูล​เยี​่ย​ผลึก​กำลัง​ร่วมมือ​กับ​ขุม​กำลัง​ใหญ่​อื่น​ ​ๆ​ ​แล้ว​ ​พวก​นาง​ก็​คงจะ​มี​ความมั่นใจ​พอสมควร​ใน​การ​ที่จะ​เผชิญหน้า​กับ​จอม​ยุทธ์​ใน​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​แปด​ดารา​

“​นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำตอบ​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ไม่​แปลกใจ​แต่อย่างใด

หาก​ไม่มีผลึก​แสงตะวัน​ ​นาง​ตระหนัก​ว่า​แทบ​ไม่มีทาง​เลย​ที่จะ​โน้มน้าวใจ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ได้​สำเร็จ​ทว่า​ตอนนี้​การ​ที่​เขา​ตอบ​ตกลง​ ​นั่น​ก็​หมายความว่า​ผลึก​แสงตะวัน​ดังกล่าว​มีส่วนช่วย​เขา​ได้มาก​ ​การ​ที่​ได้รับ​ความร่วมมือ​จาก​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​จะ​ทำให้​พวก​นาง​มีโอกาส​ใน​การชนะ​ตระกูล​หมิง​ได้มา​กยิ​่ง​ขึ้น

“​วิหาร​โบยบิน​ของ​เรา​ยัง​อ่อนแอ​กว่า​ตระกูล​หมิง​มาก​นัก​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ใน​ด้าน​จำนวน​คนที​่​เทียบ​กับ​ตระกูล​หมิง​ไม่ได้​เลย​ ​ต่อให้​สาม​ตระกูล​ใหญ่​ของ​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ร่วม​ด้วย​ ​เรา​ก็​ยัง​เป็น​ฝ่าย​เสียเปรียบ​ ​เรา​ไม่ทราบ​ว่า​ตระกูล​หมิง​มีต​ระ​กูล​ใด​เป็น​พวก​หรือ​บริวาร​บ้าง​ ​เพราะฉะนั้น​ช่วงนี้​อย่า​เพิ่ง​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​จะ​ดีกว่า​”

เมื่อ​วิเคราะห์​ถึง​ความแตกต่าง​ระหว่าง​ฝ่าย​ของ​ตน​และ​ฝ่าย​ตระกูล​หมิง​ ​เขา​ก็​อด​กล่าวเตือน​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่ได้​ ​

“​ไม่ต้อง​ห่วง​เจ้าค่ะ​ ​เรา​ยัง​ไม่​คิด​จะ​ลงมือ​ใน​เวลา​ใกล้​ ​ๆ​ ​นี้​ ​ตอนนี้​คน​ของ​ข้า​ก็​กำลัง​ช่วย​ประคอง​สถานการณ์​เอาไว้​ ​และ​คาด​ว่า​ภายใน​หนึ่ง​ถึง​สอง​ปีนี​้​ ​ตระกูล​หมิง​ก็​คงจะ​ไม่​เคลื่อนไหว​เช่นกัน​ ​ช่วง​หนึ่ง​ถึง​สอง​ปีน​่า​จะ​เพียงพอ​ที่​เรา​จะ​เตรียม​ความพร้อม​ได้​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​ทว่า​เริ่ม​รู้สึก​ว่า​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ไม่ได้​เย็นชา​ดังที่​แสดงออก​ภายนอก

“​ช่วงนี้​เจ้า​เที่ยว​ชม​ไปร​อบ​ ​ๆ​ ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ของ​เรา​ได้​ตามสบาย​ ​ข้า​ต้อง​สกัด​พลังงาน​ของ​ผลึก​แสงตะวัน​โดยเร็ว​ที่สุด​และ​ลองดู​ว่า​ข้า​จะ​ทะลวง​พลัง​ได้​รึ​ไม่​”

หลังจาก​กล่าว​ทิ้งท้าย​ ​ร่าง​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋​นก​็​หายวับ​ไป​ตรงหน้า​ฉิน​อวี​้​โม่​โดยที่​ปล่อย​ให้​นาง​ใช้เวลา​ได้​ตาม​ความต้องการ

ฉิน​อวี​้​โม่​ถึงกับ​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ทันที​ ​จ้าว​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​เป็น​บุคคล​ที่​มี​โลก​ส่วนตัว​สูง​จริง​ ​ๆ​…

เมื่อ​เป็น​เพียง​คนเดียว​ที่​เหลืออยู่​ใน​ห้องโถง​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ไม่อยู่​ต่อนา​นนั​กก​่อน​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก

เวลานี้​รอบ​บริเวณ​เรือน​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ไม่มี​ผู้ใด​ปรากฏ​ให้​เห็น​ ​เห็นที​คน​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​จะ​ไม่ได้​หวาดระแวง​อะไร​นาง​และ​ไม่​กังวล​ว่านาง​จะ​มี​เจตนาร้าย​ใด

หลัง​ออกจาก​บริเวณ​เรือน​หลัง​ใหญ่​ของ​เฟ​ยอ​วิ​๋น​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ท่อง​ไป​ตาม​ท้องถนน​ก่อน​ได้​พบ​กับ​ผู้คน​ที่​เดิน​สัญจร​ผ่าน​ไป​ผ่าน​มา

“​ท่าน​จอม​ยุทธ์​…​ท่าน​คือ​จอม​ยุทธ์​ฉิน​อวี​้​โม่​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​?​”

สตรี​นาง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​ช่วง​วัย​ยี่สิบ​ปี​เดิน​เข้ามา​ทักทาย​ฉิน​อวี​้​โม่​พร้อม​รอยยิ้ม​และ​เอ่ย​เรียกชื่อ​ของ​นาง

“​ท่าน​เป็น​ใคร​รึ​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​มอง​สตรี​ตรงหน้า​และ​ต้อง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​เมื่อ​พบ​ว่านา​งมี​พลัง​อยู่​ใน​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​สาม​ดารา

วิหาร​เมฆา​โบยบิน​เป็น​ขุม​กำลัง​ที่​เป็นรอง​เพียง​ตระกูล​หมิง​อย่างแท้จริง​ ​รากฐาน​และ​ภูมิหลัง​ของ​พวกเขา​เป็น​สิ่ง​ที่​ทั้ง​สาม​ตระกูล​ใหญ่​ของ​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​มิ​อาจจะ​เทียบ​ชั้น​ได้

“​เรียก​ข้าว​่า​เฟย​โม่​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ผู้พิทักษ์​เฟ​ยปู​้​สั่ง​ให้​ข้ามา​รอต​้อ​นรั​บท​่า​นอยู​่​ที่นี่​”

เฟย​โม่​แนะนำตัว​สั้น​ ​ๆ​ ​ก่อน​กล่าว​ต่อ​ ​“​ข้า​จะ​พาท​่าน​ไป​ท่อง​ชม​รอบ​ ​ๆ​ ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ของ​เรา​เอง​”

ฉิน​อวี​้​โม่​พยัก​ศีรษะ​และ​เดินตาม​เฟย​โม่​ไป​ชม​รอบ​ ​ๆ​ ​เมือง​…

ในขณะเดียวกัน​ ​ภายใน​ดินแดน​อีก​แห่ง​ ​หาน​โม่​ฉือ​กำลัง​ถูก​ไล่​ล่า​โดย​คน​กลุ่ม​หนึ่ง