ราชันเร้นลับ 1288 : ข้อมูลสำคัญ

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

แม้ไบลส์จะเคยเห็นฟิลถูกตัดข้อมือ เห็นเวเบอร์ถูกจับแขวน เห็นหนอนสีใสที่ชอนไชปากแผลของมิสเตอร์นักมายากล และมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่นำมาโดย 0-02 แต่มันยังขาดประสบการณ์ตรงที่จะทำให้เกรงกลัวสิ่งเหล่านี้จากก้นบึ้ง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่เชื่อเรื่องผีหากไม่เจอกับตัว

ดังนั้น แม่มันจะหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ภายใต้การเฝ้ามองจากนักมายากลและเทวทูตเดินดิน ไบลส์รวบรวมสติได้อย่างรวดเร็วและเดินไปทางโต๊ะสี่เหลี่ยม แน่นอนว่าการอยู่บนเส้นทางลูกเรือก็ส่งผลไม่น้อย

ผ่านไปไม่กี่ก้าว ไบลส์มาถึงจุดที่สามารถเอื้อมถึงหนังสือทองเหลือง

โดยไม่มัวคิดมาก มันเหยียดแขนขวาออกไปพลิกหน้า 0-02 กลับอย่างรวดเร็ว

ระหว่างนั้น มือของไบลส์คอยคั่นอยู่ระหว่างหน้ากระดาษทองเหลืองซึ่งยังถูกเขียนไม่เต็ม เพื่อให้มิสเตอร์นักมายากลและเทวทูตสตรีด้านนอกยังมองเห็นการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองได้ทันท่วงที

ท่ามกลางเสียงพลิกหน้า ลูกเรือคนดังกล่าวเหลือบไปเห็นประโยค ‘หากผู้ใดสัมผัสกับหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์จะถูกประหารชีวิต’ จนเกิดความตื่นตระหนกปนฉงนอย่างแรงกล้าถึงสถานะของตัวเอง

อย่างไรก็ดี นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเร็วในการพลิกหน้า ช่วยให้ไคลน์เก็บรายละเอียดของกฎเกณฑ์ทุกหน้าอย่างครบถ้วน

ในการมองเห็นของไคลน์ ‘ภาพฉาย’ ของหน้าหนังสือใหม่จะไม่ถูกลบหรือเขียนทับบนหน้าเก่า แต่หน้าใหม่จะปรากฏขึ้นมาด้านข้างและเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ

ท้ายที่สุด ทัศนวิสัยของไคลน์เต็มไปด้วย ‘แผ่นทองเหลือง’ จำนวนมากที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบทีละบรรทัด ราวกับชายหนุ่มฉีก 0-02 ออกมาทีละหน้าและวางบนกระจกแผ่นใหญ่เพื่อเตรียมนำไปตากแดด

นี่คือเทคนิคการทำนายฝันในระดับเทวทูต ช่วยให้ไคลน์จำลองสิ่งที่เห็นทั้งหมดได้พร้อมกัน

เมื่อเวลาผ่านไป ภายในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของชายหนุ่ม หน้าทองเหลืองจำนวนมากเริ่มหมุนวนรอบๆ หน้าหนึ่ง:

“…หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์มีต้นกำเนิดจากเอกลักษณ์ของเส้นทางผู้ชี้ชะตาซึ่งถูกปนเปื้อนโดยแคว้นแห่งความยุ่งเหยิง…”

อย่างที่คิดไว้ทุกประการ ในเมื่อหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์น่าจะเคยเขียนกฎระดับพื้นฐานมาแล้วทั้งหมด รายละเอียดของเนื้อหาย่อมต้องมีคำอธิบายเกี่ยวกับตัวเองระบุไว้! สิ่งนี้เกิดจากธรรมชาติของตัวมัน เว้นเสียแต่จะลืมตาตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์ จนมีสติปัญญามากพอที่จะเลือกซ่อนข้อความที่เป็นโทษ… ขณะไคลน์ไขปริศนาได้บางส่วนและกำลังมีความสุข มันพบว่าบนหน้าทองเหลืองที่ยังถูกเขียนไม่เต็ม ข้อความสีเงินกำลังเรียบเรียงเป็นประโยคใหม่

สิ่งนี้หมายความว่าในที่สุด 0-02 ก็สามารถแบ่งพลังบางส่วนออกจากวังวนอนันต์ และเตรียมเพิ่มข้อกำหนดเพื่อแก้ไขช่องโหว่

“ออกมา!” ไคลน์ตะโกนโดยไม่ลังเล

ไบลส์ทำตามคำสั่งของตัวตนลำดับสูงอย่างเคร่งครัด รีบชักมือขวากลับและหมุนตัววิ่งออกมาจากหน้าต่างสูงพื้นจรดเพดาน

“พยายามโจมตีผม” เมื่อพบว่าลูกเรือที่มีคุณสมบัติเป็นทั้งชาวเมืองและคนต่างถิ่นวิ่งออกจากห้องสมุด ไคลน์เสริมคำสั่งใหม่เข้าไป

ไบลส์งุนงงทันที แต่ก็ยังยกแขนขวาขึ้นพร้อมกับง้างไหล่ไปด้านหลัง ทำท่าเตรียมประเคนกำปั้นใส่ไคลน์เต็มแรง

ทันใดนั้นเอง กฎข้อใหม่ของหนังสือถูกเขียนจนเสร็จ

“สำหรับกฎข้างต้น หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์และบุคคลที่ได้รับอนุญาตจะไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายขณะทำการบังคับใช้กฎหมาย…”

อย่างไรก็ดี แม้กฎหมายใหม่จะถูกประกาศใช้ แต่ไบลส์กลับยังไม่ถูกลงโทษในคดีเก่า

เห็นได้ชัดว่าหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์มิได้ตามคิดบัญชีย้อนหลังกับต้นตอที่ทำให้มันเข้าสู่วังวนอนันต์ เฉกเช่นที่มันไม่เล่นงานอาโรเดสย้อนหลังเมื่อครั้งที่นิยามของผู้บังคับใช้กฎหมายยังคลุมเครือ

ในทำนองเดียวกัน ไบลส์ที่เคยสัมผัสกับ 0-02 โดยตรงก็จะไม่ได้รับการกัดกร่อนจากแก่นแท้แห่งต้นกำเนิด เพราะก่อนที่กฎหมายใหม่จะถูกประกาศใช้งาน ไบลส์คือส่วนหนึ่งของเบลดันซึ่งจะไม่ถูกทำลายไม่ว่าจะแง่มุมใด จึงรอดพ้นจากการกัดกร่อนไปโดยปริยาย และกฎใหม่ก็ไม่สามารถเอาผิดย้อนหลังกับพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของไบลส์ได้

อันที่จริง ในตอนที่ออกจากร่มเงาของห้องสมุดเทศบาล ไบลส์ได้ฝ่าฝืนกฎเคอร์ฟิว แต่ไคลน์เคยเห็นว่าชาวเมืองเบลดันจะไม่ได้รับโทษเคอร์ฟิวขณะไล่ล่าชาวต่างชาติ จึงบอกให้ไบลส์ทำท่าโจมตีใส่ตนเพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษที่เกี่ยวข้อง

ทันทีหลังจากนั้น ชายหนุ่มฉวยโอกาสที่ 0-02 เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ นึกทบทวนข้อมูลของหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์อย่างละเอียด

“…หนังสือเล่มนี้มีสัญญาณชีพ แต่โดยส่วนมากจะอยู่ในระดับที่ต่ำ…”

“…ครึ่งแรกจะเป็นการแสดงกฎพื้นฐานที่สำคัญเกือบทั้งหมด โดยครึ่งหลังจะว่างเปล่าและถูกเขียนเพิ่มเติมในภายหลัง…”

“…หากได้รับอิสระ มันจะกำหนดชุดกฎหมายที่มีความเอนเอียงในระดับหนึ่ง และบังคับใช้กับพื้นที่โดยรอบด้วยความเข้มงวด หลังจากนั้นก็จะคอยแก้ไขกฎหมายตามผลตอบรับที่เกิดขึ้น”

“…ยิ่งกฎหมายเข้มงวดมากขึ้น สัญญาณชีพของมันก็ยิ่งชัดเจน… เมื่อชุดกฎหมายอันเข้มงวดสามารถแทรกแซงทุกสรรพสิ่ง หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์จะมีชีวิตขึ้นมาโดยสมบูรณ์และสามารถปรับเปลี่ยนกฎพื้นฐานในครึ่งแรกได้ในระดับหนึ่ง… ขอบเขตที่สามารถกระทำได้มีดังนี้…”

“…หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างข้อกฎหมายและไม่สามารถหาทางออกได้ หรือหน้าหนังสือถูกกรอกจนเต็มแต่ยังไม่สามารถสร้างกฎหมายที่แทรกแซงทุกสรรพสิ่ง หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์จะเขียนข้อความใหม่ระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลังว่า ‘กฎหมายทั้งหมดหลังจากส่วนนี้ถือเป็นโมฆะ’ ”

“…เมื่อประโยคดังกล่าวถูกเขียนเสร็จ กฎที่เขียนในครึ่งหลังของหนังสือจะหายไป กลายเป็นหน้าหนังสือที่ว่างเปล่า…”

“…หลังจากครึ่งหลังของหนังสือว่างเปล่าโดยสมบูรณ์ ประโยคที่ระบุว่า ‘กฎหมายทั้งหมดหลังจากส่วนนี้ถือเป็นโมฆะ’ จะถูกลบออก และหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์จะกระทำซ้ำในสิ่งเดิมจนกว่าจะสร้างกฎหมายที่สามารถแทรกแซงทุกสรรพสิ่งสำเร็จ…”

“…กฎที่ถูกสร้างขึ้นจะต้องประกาศหรือแจ้งแก่กลุ่มคนจึงจะมีผลบังคับใช้… เมื่อบางพฤติกรรมไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนรองรับ หรือขัดต่อสามัญสำนึกและความเข้าใจของสิ่งมีชีวิตรอบข้าง…”

“…หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์เกลียดกฎเกณฑ์ที่บิดเบี้ยวและอัปลักษณ์ ขณะเดียวกันก็เกลียดการถูกพบช่องโหว่…”

ละเอียดฉิบ… น่าจะมีวิธีผนึก 0-02 ซ่อนอยู่ในเงื่อนไขเหล่านี้… สมองไคลน์กำลังประมวลผลเพื่อค้นหาข้อมูลที่จำเป็นในแต่ละประโยค

ทันใดนั้น อาเรียนน่า ผู้นำนักบวชรัตติกาลกระซิบกระซาบ

“หาวิธีเติมเต็มหน้าหนังสือที่เหลือของ 0-02 โดยไม่ให้กฎเข้มงวดเกินไป”

ใช่แล้ว! ด้วยวิธีนี้ หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์จะประกาศว่ากฎในส่วนครึ่งหลังถือเป็นโมฆะและเริ่มต้นใหม่ เมื่อถึงตอนนั้น ข้อจำกัดทั้งหมดจะหายไปชั่วคราว ทำให้เรามีโอกาสนำมันไปไว้ที่อื่นหรือสวดวิงวอนต่อทวยเทพ… แต่จะทำแบบนั้นได้ยังไง หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์เกลียดกฎที่บิดเบี้ยวและอัปลักษณ์ เกลียดการถูกพบช่องโหว่… หัวใจไคลน์เริ่มเต้นแรงขณะฉุกคิดบางสิ่ง

โดยปราศจากความลังเล ชายหนุ่มเหยียดแขนออกไปข้างหน้า ทำท่าคล้ายกับโอบกอดอากาศ

วินาทีถัดมา ภายในตึกห้องสมุดเทศบาลที่มีขนาดเหลือเพียงหนึ่งส่วนสิบจากของเดิม ฉากของห้องโถงที่ปูด้วยแผ่นหินสีดำเข้มสลักลวดลายซับซ้อนถูกอัญเชิญให้มาปรากฏบนโลกความจริง

ในห้องโถงมีเสาหินสีดำแปดต้น มีแท่งโลหะแขวนลงมาจากโดมสูง ปลายด้านล่างของทุกแท่งโลหะเชื่อมติดกับเชิงเทียนที่แกะสลักเป็นรูปสัตว์นานาชนิด ฝั่งซ้ายสี่สิบเอ็ดแท่ง และฝั่งขวาสี่สิบแท่ง

ที่นี่คือท้องพระโรงของกงสุลแฝดแห่งจักรวรรดิร่วมทูดอร์-ทรันซอสต์ที่ไคลน์เคยเห็น ในตอนนั้น กงสุลทั้งสองยังเป็น ‘องค์ชายวิปลาส’ ลำดับ 1 แห่งเส้นทางจักรพรรดิมืด ส่งผลให้กฎเกณฑ์ภายในห้องโถงเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว ไม่สมมาตร และอัปลักษณ์ในสายตาคนปรกติ

นอกจากนั้น ในตอนที่ไคลน์อัญเชิญฉากจากประวัติศาสตร์ มันใช้พลังของตนเพื่อเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับยุคสมัยที่สี่ซึ่งตนเชี่ยวชาญเข้าไป ส่งผลให้กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากจักรพรรดิมืด มีรายละเอียดชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ราวกับหลุดมาจากฉากในประวัติศาสตร์ของจริง

ฉึบ!

ข้อมือทั้งสองข้างของชายหนุ่มถูกตัดขาดและร่วงหล่นพื้น เลือดสีแดงกระเซ็นออกจากบาดแผลเหมือนกับคนทั่วไป

นี่คือครั้งที่สองที่ไคลน์กระทำความผิดข้อหาหลอกลวง!

หลังจากที่ฝ่ามือทั้งสองข้างหล่นลงพื้นพร้อมกับหยดเลือด พวกมันสลายตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นหนอนสีใสดีดดิ้นและของเหลวล่องหนลักษณะเหนียวหนืด

ขณะหนอนวิญญาณเหล่านี้ตัวกระตุกและตายไป ไคลน์ดึงหน้าตึงพลางกัดฟันทนความเจ็บปวด จากนั้นก็ควบคุมให้หนอนวิญญาณจำนวนหนึ่งชอนไชออกจากข้อมือและก่อตัวกลายเป็นฝ่ามือใหม่เอี่ยม

ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มฝืนคงสภาพฉากที่สร้างขึ้นด้วยการอัญเชิญซ้ำอีกหลายหน ไม่ยอมปล่อยให้มันเลือนหายไป

บนโต๊ะสี่เหลี่ยม บนหน้าหนังสือเล่มเล็กที่เกิดจากการนำแผ่นทองเหลืองมาเรียงกัน ประโยคจำนวนมากที่แฝงความรู้สึกตึงเครียดถูกเขียนขึ้น:

“…สิ่งปลูกสร้างและสถาปัตยกรรมทั้งหมดต้องเป็นไปตามสัดส่วนสองคำและหลักความสมมาตร…”

“…ไม่อนุญาตให้แต่งกายแปลกประหลาด…”

“…ความผิดต่อไปนี้ต้องถูกลงโทษด้วยการประหารชีวิต…”

“…”

หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์พลิกไปยังหน้าใหม่อย่างรวดเร็วพลางแก้ไขกฎเกณฑ์ที่ดูเหมือนจะมาจากคำสั่งของ ‘จักรพรรดิมืด’ ยิ่งเขียนมากเท่าไร ความเร็วของประโยคถัดไปก็ยิ่งมากขึ้น ไม่มีการหยุดพักตลอดหนึ่งนาทีเต็ม

ภายในห้องโถง เชิงเทียนโลหะที่ห้อยจากเพดานทยอยปริแตกและสลายตัวไป จากนั้น องค์ประกอบหลายสิ่งภายในห้องโถงเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กฎเกณฑ์เดิมถูกลบออกไปทีละหนึ่ง

ในที่สุดห้องโถงก็มิอาจคงสภาพเอาไว้ได้ มันพังถล่มโดยสมบูรณ์ก่อนจะกลับสู่ช่องว่างประวัติศาสตร์

ปัจจุบัน หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์กำลังเปิดค้างไว้ที่สองหน้าสุดท้ายโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดเพิ่มเติม

เมื่อเห็นว่าหน้าสุดท้ายเต็มไปด้วยข้อความจนไม่สามารถสร้างกฎที่เข้มงวดกว่านี้ได้อีก ไคลน์ถอนหายใจเงียบด้วยท่าทีผ่อนคลาย สัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของตนใกล้แห้งเหือด

“ไปรอที่บ้านของไบลส์สักชั่วโมงกันเถอะ” มันหันไปกล่าวกับอาเรียนน่า

หากพวกตนยังแช่อยู่ที่นี่ คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกลงโทษในข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และโทษก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นประหารชีวิต

สำหรับหน้าที่ในการตรวจสอบหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น งานดังกล่าวย่อมตกเป็นของอาโรเดสแม้กระจกวิเศษบานนี้จะมิอาจจ้องมอง 0-02 ได้โดยตรง แต่มันสามารถจับตามองกระดานข่าวสารได้ตามปรกติ หากกฎหมายหายไปเมื่อไรก็จะทราบได้ทันที

…………………………