ตอนที่ 1148 ทะลวงพลังอีกครั้ง

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ภายใน​วงล้อม​ของ​ข่าย​อาคม​ ​จู่​ ​ๆ​ ​เฟย​ซี​ผู้​ซึ่ง​หยุดนิ่ง​อยู่กับที่​อย่างใจ​เย็น​ก็​เริ่ม​เคลื่อนไหว​อีกครั้ง

พายุหมุน​ขนาดย่อม​ก่อตัว​ขึ้น​ตรงหน้า​เขา​อย่างรวดเร็ว​และ​ตรง​เข้า​ปะทะ​กับ​ลูก​เพลิง​ขนาดใหญ่​ใน​ท้องฟ้า​ ​ในขณะเดียวกัน​ ​เขา​ก็​กระทืบเท้า​ลงพื้น​ดิน​อย่างรุนแรง​และ​ปล่อย​คลื่น​พลัง​ออก​ไป​ปะทะ​กับ​รอยแยก​ที่​ลุกลาม​อยู่​ที่​พื้น​ ​จากนั้น​เขา​ก็​โบกมือ​เพื่อ​ปล่อย​ก้อน​พลัง​มายา​ออก​ไป​เพื่อ​โจมตี​อสูร​มายา​รอบตัว

ตูม​มม​ ​!

ด้วย​เสียงดัง​สนั่น​ ​ข่าย​อาคม​ภายใต้การควบคุม​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ถูก​ทำลาย​ไป​โดย​เฟย​ซี​และ​ไม่​สามารถ​ทำให้​เขา​บาดเจ็บ​แม้แต่น้อย

ต้อง​ยอมรับ​ว่า​เฟย​ซี​มีพลัง​ที่​แกร่งกล้า​ยิ่งนัก​ ​ข่าย​อาคม​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​เขา​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​และ​ไม่​สามารถ​กำหนด​ผลลัพธ์​ของ​การประชัน​ฝีมือ​ได้​เลย

อย่างไรก็ตาม​ ​ความเร็ว​ใน​การ​วาง​ข่าย​อาคม​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​เหนือ​ชั้น​เกิน​จินตนาการ​ ​ทันทีที่​เฟย​ซีทำ​ลาย​ข่าย​อาคม​แรก​ของ​นาง​ได้​สำเร็จ​ ​เขา​ก็​พบ​ว่า​ตน​ตก​เข้ามา​อยู่​ท่ามกลาง​วงล้อม​ของ​ข่าย​อาคม​ใหม่​อย่างรวดเร็ว

แน่นอน​ว่า​ใน​การประชัน​ฝีมือ​เพื่อ​เรียนรู้​พลัง​ของ​กันและกัน​เช่นนี้​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​จะ​ไม่​ใช้​ข่าย​อาคม​ที่​รุนแรง​จนถึง​แก่​ชีวิต​ ​มิเช่นนั้น​ ​ต่อให้​เฟย​ซีจะ​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ ​เขา​ก็​ไม่มีทาง​ฝ่า​ทะลวง​ออกมา​ได้​อย่าง​ง่าย​ ​ๆ​ ​เช่นนี้

ข่าย​อาคม​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​ที่​ฉิน​อวี​้​โม่​สามารถ​วาง​ได้​ใน​ปัจจุบัน​คือ​ข่าย​อาคม​เก้า​มังกร​ทลาย​พิภพ​ ​ต่อให้​เป็น​จอม​ยุทธ์​ใน​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​ ​หาก​ตก​อยู่​ใน​ระยะ​รัศมี​ของ​มัน​ ​พวกเขา​ก็​ต้อง​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​อย่างแน่นอน​ ​นับประสา​อะไร​กับ​เฟย​ซีที​่​มีพลัง​ไม่​ถึง​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​ด้วยซ้ำ

จากนั้น​เวลา​ก็​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว​และ​ภายใน​ชั่วพริบตา​ ​เวลา​ก็​ล่วงเลย​มาก​ว่า​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้ว

ตลอด​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ที่ผ่านมา​ ​สถานการณ์​การต่อสู้​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟย​ซี​ไม่มี​การเปลี่ยนแปลง​มาก​นัก

ฝ่าย​หนึ่ง​วาง​ข่าย​อาคม​ใหม่​อย่างต่อเนื่อง​ในขณะที่​อีก​ฝ่าย​ทำลาย​มัน​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน​เช่นกัน

ทั้งสองฝ่าย​ไม่​สามารถ​เอาชนะ​ฝ่ายตรงข้าม​ตลอด​ช่วง​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ที่ผ่านมา​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ดูเหมือนว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟย​ซีจะ​มี​ความเข้าใจ​ที่​ตรงกัน​บางอย่าง​และ​พยายาม​ใช้การ​ประชัน​ฝีมือ​ครานี​้​เพื่อ​หา​โอกาส​ใน​การ​ทะลวง​พลัง​ของ​ตนเอง

ทุกคน​ทั่ว​บริเวณ​ลาน​ประลองยุทธ์​ก็​ไม่รู้​สึก​เหนื่อยล้า​เช่นกัน​ ​การ​ที่​ได้รับ​ชม​การต่อสู้​ครานี​้​ ​พวกเขา​ก็​มี​ความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​ผู้ใช้​ข่าย​อาคม​มากขึ้น​และ​เกิด​ความคิด​หนึ่ง​ขึ้น​ใน​ใจ​ ​แม้​ผู้ใช้​ข่าย​อาคม​จะ​น่าสะพรึงกลัว​อย่างยิ่ง​ ​ทว่า​ตราบใดที่​พวกเขา​มีพลัง​อำนาจ​ที่มาก​พอ​ ​ผู้ใช้​ข่าย​อาคม​เหล่านั้น​ก็​ไม่​ถือว่า​ไร้​เทียม​ทาน​เสียที​เดียว

สุดท้าย​แล้ว​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​สำหรับ​จอม​ยุทธ์​ก็​คือ​ความแข็ง​แกร่ง​ ​ตราบใดที่​มี​ความแข็ง​แกร่ง​ที่มาก​พอ​ ​ทุกอย่าง​ที่​ขวางหน้า​ก็​ล้วน​ไร้ค่า​ไร้ค​วาม​หมาย

“​ท่าน​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ ​พวกเรา​ควร​ที่จะ​ยุติ​การต่อสู้​เพียงเท่านี้​รึ​ไม่​ ​?​”

ผู้อาวุโส​คน​หนึ่ง​อด​เอ่ย​ถาม​อวิ​๋น​หลิง​ไม่ได้

ด้วย​การ​ดวล​ฝีมือ​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟย​ซี​ ​ตราบใดที่​ทั้งสองฝ่าย​ไม่​นำ​ไพ่ตาย​ออกมา​ใช้​ ​มัน​ก็​ยาก​ที่จะ​หา​ผู้ชนะ​ได้​ใน​เวลา​สั้น​ ​ๆ​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​การต่อสู้​อัน​ยืดเยื้อ​ย่อม​ไม่มี​ความหมาย​ใด​ ​เพราะฉะนั้น​ ​ทาง​ที่​ดีที​่​สุด​ก็​คือ​การยุติ​การต่อสู้​เพื่อมิ​ให้​เปลือง​แรง​เปลืองเวลา​มากเกินไป

“​ไม่ต้อง​กังวล​ ​รอ​ให้​พวก​นาง​หยุด​ด้วยตัวเอง​เถอะ​ ​ข้า​คิด​ว่า​คง​ใช้เวลา​อีกไม่นาน​”

อวิ​๋น​หลิง​กล่าว​เพียง​เบา​ ​ๆ​ ​และ​ตั้งตารอ​อย่างใจจดใจจ่อ​ว่า​ทั้งสอง​จะ​ใช้​โอกาส​นี้​เพื่อ​ทะลวง​พลัง​จน​สำเร็จ​และ​พัฒนา​ความแข็ง​แกร่ง​ได้​หรือไม่

เป็นจริง​ดังที่​คิด​ไว้​ ​หลังจาก​รอเวลา​อีก​หนึ่ง​ก้านธูป​ ​จู่​ ​ๆ​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟย​ซีก​็​หยุด​การเคลื่อนไหว​พร้อมกัน

ราวกับว่า​เข้าใจ​ตรงกัน​โดยที่​ไม่ต้อง​ใช้​คำพูด​ ​ทั้งสอง​หา​ตำแหน่ง​ที่​เหมาะสม​เพื่อนั​่ง​ขัดสมาธิ​และ​เริ่ม​การ​ทะลวง​พลัง​ของ​ตน

ในที่สุด​ ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เฟย​ซีที​่​ติด​อยู่​ใน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​เก้า​ดารา​มาต​ลอด​ก็​เริ่ม​แสดง​สัญญาณ​ขึ้น​มา​และ​ตอนนี้​เขา​จะ​สามารถ​ทะลวง​พลัง​ขึ้นไป​ใน​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​ครึ่ง​ก้าว​ได้​ ​เพียงแต่​ต้อง​ใช้เวลา​สัก​ระยะ​เท่านั้น

สำหรับ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​ภายใต้​กระบวนการ​ของ​การ​วาง​ข่าย​อาคม​อย่างต่อเนื่อง​ก็​ทำให้​ฝีมือ​ใน​การ​วาง​ข่าย​อาคม​ของ​นาง​พัฒนา​ขึ้นไป​ใน​อีก​ระดับ​ ​และ​เป็น​เพราะ​การ​ทะลวง​พลัง​ใน​ศาสตร์​ข่าย​อาคม​ดังกล่าว​ ​นาง​จึง​ได้รับ​ผลประโยชน์​ใน​ด้าน​พลัง​ยุทธ์​เช่นกัน​และ​สามารถ​ทะลวง​พลัง​ได้​อีกครั้ง​ ​สำหรับ​ระยะเวลา​ที่​ต้อง​ใช้​ใน​การ​ทะลวง​พลัง​ครานี​้​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​เอง​ก็​ยัง​ไม่แน่ใจ​เช่นกัน

“​ดู​นั่นสิ​ ​ทั้งสอง​คน​กำลังจะ​ทะลวง​พลัง​ ​!​”

ทุกคน​สังเกตเห็น​การเคลื่อนไหว​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟย​ซี​และ​อด​กล่าว​ออก​ไป​ไม่ได้​

“​ศิษย์​พี่​เฟย​ซีกำ​ลัง​จะ​ทะลวง​พลัง​ไป​สู่ขอบ​เขต​เทพ​สวรรค์​ครึ่ง​ก้าว​และ​ในอนาคต​จะ​ไม่มี​ผู้ใด​ที่​ทำให้​ตำแหน่ง​อัจฉริยะ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ของ​เขา​สั่นคลอน​ไป​ได้​ ​แต่​ถึง​อย่างนั้น​ข้า​ก็​ไม่​แปลกใจ​แม้แต่น้อย​ ​ถึงอย่างไร​พรสวรรค์​ของ​ศิษย์​พี่​เฟย​ซีก​็​น่าอัศจรรย์​ยิ่งนัก​และ​เขา​ติด​อยู่​ใน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​เก้า​ดารา​มา​เป็นเวลา​นาน​แล้ว​ ​การ​ที่​ตอนนี้​เขา​จะ​ทะลวง​พลัง​ได้​ก็​มิใช่​เรื่อง​แปลก​…​”

อวิ​๋น​ซาน​—​บุรุษ​หนุ่ม​ร่าง​กำยำ​ที่​มีพลัง​ใน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​สี่​ดารา​ผู้​ซึ่ง​ท้า​ดวล​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็น​คน​แรก​กล่าว​แสดงความคิดเห็น​ของ​ตน​ออกมา​ ​“​สตรี​ผู้​นั้น​ต่างหาก​ที่​ทำให้​ข้า​ประหลาดใจ​ ​ข้า​ยัง​จดจำ​ได้​แม่น​…​ก่อนหน้านี้​นาง​เพิ่ง​ทะลวง​พลัง​เข้าสู่​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​สอง​ดารา​มิใช่​รึ​ ​?​ ​แล้ว​นาง​จะ​ทะลวง​พลัง​อีกครั้ง​ใน​เวลา​สั้น​ ​ๆ​ ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน​ ​?​”

ประมาณ​ครึ่ง​วันที่​ผ่าน​มา​ ​ใน​ระหว่าง​ที่​ดวล​ฝีมือ​อยู่​กับ​เฟย​เหิง​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​เพิ่ง​ทะลวง​พลัง​จาก​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​หนึ่ง​ดารา​เข้าสู่​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​สอง​ดารา​ได้​เท่านั้น​ ​ทว่า​หลังจาก​เวลา​ผ่าน​มา​เพียง​ไม่​กี่​ชั่ว​ยาม​ ​นาง​ก็​กำลังจะ​ทะลวง​พลัง​อีกครั้ง​ซึ่ง​เป็นความ​เร็ว​ที่​น่าสะพรึงกลัว​จน​เกินไป

ต้อง​กล่าว​เลย​ว่า​แม้แต่​เฟย​ซี​ผู้​เป็น​อัจฉริยะ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ก็​ต้อง​ใช้เวลานาน​ถึง​สาม​ปี​ใน​การ​ทะลวง​พลัง​จาก​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​สอง​ดารา​ไป​สู่​สาม​ดารา​ ​และ​อวิ​๋น​ซาน​ก็​จำได้​ดี​ว่า​ตัว​เขา​ใช้เวลานาน​ถึง​แปด​ปี​เพื่อ​ทะลวง​พลัง​ใน​ระดับ​เดียวกัน

“​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​มิใช่​มนุษย์​เหมือน​พวกเรา​ ​!​”

คนอื่น​ ​ๆ​ ​อ้าปากค้าง​และ​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​ด้วย​แววตา​ตกตะลึง​ ​การ​ที่นาง​ทะลวง​พลัง​เข้าสู่​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​สอง​ดารา​ระหว่าง​การต่อสู้​ก่อนหน้านี้​ก็​ทำให้​ทุกคน​ประหลาดใจ​มาก​แล้ว​ ​ทว่า​ตอนนี้​การ​ที่​ผ่าน​เวลา​มา​เพียง​สั้น​ ​ๆ​ ​นาง​ก็​กำลังจะ​ทะลวง​พลัง​ไป​อีกครั้ง​ ​แม้แต่​ผู้​ที่​แกร่งกล้า​เหนือ​มนุษย์​ก็​ทำ​เช่นนี้​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​…

บรรดา​ผู้อาวุโส​หลาย​คน​ยืน​ขึ้น​โดยไม่รู้ตัว​ ​ความสงบ​นิ่ง​บน​สีหน้า​ของ​พวกเขา​หาย​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย​และ​แทนที่​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​อย่างที่​สุด

“​สตรี​ผู้​นี้​ช่าง​น่าสะพรึงกลัว​ยิ่งนัก​ ​ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​จ้าว​วิหาร​จะ​ตกลง​ร่วมมือ​กับ​นาง​ ​ด้วย​พรสวรรค์​ใน​ระดับ​นี้​ ​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​เรา​มิใช่​ปลายทาง​สุดท้าย​ของ​นาง​อย่างแน่นอน​”

อวิ​๋น​หลิง​ส่าย​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​ทว่า​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แสดงถึง​ความพึงพอใจ​อย่างมาก

แม้แต่​ตระกูล​หมิง​ที่​ทรงพลัง​ก็​อาจจะ​เป็นได้​เพียง​หิน​ก้อน​หนึ่ง​ที่ตั้ง​อยู่​บน​เส้นทาง​ไป​สู่​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​และ​การตัดสินใจ​ใน​ครานี​้​อาจ​ส่งผลให้เกิด​ความเปลี่ยนแปลง​ที่​ยิ่งใหญ่​ต่อ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​…

“​เอาล่ะ​ ​ถ้าเช่นนั้น​กลับกัน​ไป​ก่อน​เถอะ​ ​ข้า​คิด​ว่า​ทั้งสอง​คงจะ​ไม่​สามารถ​ทะลวง​พลัง​ได้​สำเร็จ​ใน​เวลา​สั้น​ ​ๆ​ ​หรอก​ ​ผู้คุม​กฎ​ฝั่ง​ซ้าย​และ​ข้า​จะ​อยู่​ที่นี่​เอง​ ​ระหว่าง​ช่วงนี้​ห้าม​ผู้ใด​เข้ามา​รบกวน​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟย​ซีล​่ะ​”

อวิ​๋น​หลิง​กล่าว​กับ​ทุกคน​เพื่อให้​แยกย้าย​กัน​กลับ​ไป​ก่อน

การ​ทะลวง​พลัง​จาก​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​เก้า​ดารา​เข้าสู่​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​ครึ่ง​ก้าว​เป็น​กระบวนการ​ที่​ยาวนาน​และ​ยาก​ที่​เฟย​ซีจะ​ทะลวง​พลัง​สำเร็จ​ได้​โดยที่​ไม่​ใช้เวลา​อย่างน้อย​หนึ่ง​เดือน

สำหรับ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​การ​ทะลวง​พลัง​ครานี​้​ก็​ดู​แตกต่าง​ไป​จาก​คราก​่อน​เช่นกัน

อวิ​๋น​หลิง​สัมผัส​ได้​ว่าการ​ทะลวง​พลัง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ใน​ครานี​้​มิใช่​เป็น​เพียง​การพัฒนา​จาก​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​สอง​ดารา​ไป​สู่​สาม​ดารา​เท่านั้น​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​อาจจะ​นำพา​เรื่อง​ที่​น่า​ตกใจ​มาสู่​พวก​นาง​ ​เพียงแต่​นาง​ยัง​ไม่​อาจ​ทราบ​ได้​อย่างแน่ชัด​เท่านั้น​

จนกว่า​การ​ทะลวง​พลัง​จะ​เสร็จ​สมบูรณ์​ ​ทั้งสอง​ไม่​ควร​ถูก​รบกวน​จาก​ผู้ใด​ ​แม้วิ​หาร​เมฆา​โบยบิน​จะ​ปลอดภัย​มาก​ ​ทว่า​อวิ​๋น​หลิง​ก็​ตัดสินใจ​ที่จะ​คุ้มกัน​อยู่​ที่นี่​กับ​เฟ​ยปู​้​เพื่อ​ป้องกัน​มิ​ให้​เกิดเหตุ​ที่​ไม่​คาดคิด

“​ผู้อาวุโส​สี่​ ​ผู้อาวุโส​ห้า​ ​ระหว่าง​นี้​ท่าน​ทั้งสอง​ออก​ไป​ที่​โลก​ภายนอก​และ​คุ้มกัน​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​กับ​ผู้คุม​กฎ​ฝั่ง​ขวาก​่อน​ ​เมื่อ​ทั้งสอง​ทะลวง​พลัง​ได้​สำเร็จ​ ​ข้า​จะ​กลับ​ไป​ทำหน้าที่​เช่น​เดิม​”

เฟ​ยปู​้​กล่าว​กับ​ผู้อาวุโส​สี่​และ​ผู้อาวุโส​ห้า​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ ​ซึ่ง​ทั้งสอง​ก็​ไม่​คัดค้าน​สิ่งใด​และ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ด้านนอก​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​อย่างรวดเร็ว

คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​แยกย้าย​กลับ​ไป​ทีละ​คน​ ​ๆ​ ​ภายใน​เวลา​เพียง​ไม่นาน​ ​ใน​ลาน​ประลองยุทธ์​ก็​เหลือ​ผู้คน​เพียง​ประมาณ​สิบ​คน​เท่านั้น

“​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ ​ผู้คุม​กฎ​ฝั่ง​ซ้าย​ ​ข้า​อยาก​อยู่​ที่นี่​เพื่อ​บ่ม​เพาะ​พลัง​ ​เมื่อ​พวกเขา​ทะลวง​พลัง​ได้​สำเร็จ​ ​บางที​ข้า​อาจจะ​ได้รับ​ประโยชน์​ที่​คาดไม่ถึง​เช่นกัน​”

เฟย​เหิ​งก​ล่า​วอ​อก​ไป​และ​ไม่มีความคิด​ที่จะ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่

อัจฉริยะ​อีก​หลาย​คน​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ก็​ล้วน​มี​ความคิด​ใน​ทิศทาง​เดียวกัน

“​ถ้าเช่นนั้น​พวก​เจ้า​ทั้งหมด​ก็​อยู่​ต่อ​”

อวิ​๋น​หลิง​และ​เฟ​ยปู​้​มองหน้า​กัน​เล็กน้อย​ก่อน​พยัก​ศีรษะ​ตอบ​ตกลง​ ​ ​ ​

จอม​ยุทธ์​ประมาณ​สิบ​คน​ก็​หา​ที่​เหมาะสม​นั่งลง​ก่อน​หลับตา​และ​เริ่ม​การบ่ม​เพาะ​พลัง​ในขณะที่​แผ่​พลัง​วิญญาณ​ส่วนหนึ่ง​ออก​ไป​เพื่อ​สังเกต​ดู​สถานการณ์​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เฟย​ซี.​..

หลังจากนั้น​ ​เวลา​ครึ่ง​เดือน​ก็​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว

ภายใน​บริเวณ​ลาน​ประลองยุทธ์​ ​ในที่สุด​ทั้งสอง​ที่​นิ่งเงียบ​ไป​นาน​ก็​เริ่ม​เคลื่อนไหว​อีกครั้ง