บทที่ 774
เย่เฉินพยักหน้า “ได้ครับพ่อ ผมทราบแล้ว”
เซียวฉางควนก็รีบพูดอีกว่า “แล้วก็ พ่อขอเตือนแกเรื่องนั้นหน่อย ว่าห้ามลืมเป็นอันขาด!”
เย่เฉินรู้ว่าพ่อหมายถึงเรื่องอะไร ก็คือจะให้คอยสอดส่อง ถ้าแม่ยายกลับมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ห้ามไม่ให้เธอเข้าประตูบ้านมาได้ แล้วมาเห็นว่าหานเหม่ยฉิงอยู่ในบ้านนี้
ดังนั้นเขาก็เลยยิ้มตอบไปว่า “พ่อครับ วางใจเถอะ เรื่องนี้ผมให้สัญญาเลย ว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน”
เซียวฉางควนก็ยกนิ้วโป้งให้เขา แล้วชมว่า “เป็นลูกเขยที่ดีจริงๆ วันข้างหน้าพ่อจะดูแลแกเป็นอย่างดี!”
พูดจบ เซียวฉางควนก็พาหานเหม่ยฉิงเข้าห้องครัวไป
เซียวชูหรันก็ถามเย่เฉินอย่างสงสัยว่า “พ่อพูดเรื่องอะไรกับนาย? พวกนายสองคนมีความลับอะไรกัน เหมือนว่ากำลังทำเรื่องชั่วที่ไม่ให้ใครรับรู้สักอย่าง”
เย่เฉินพูดในใจ ผมบอกคุณไม่ได้หรอก ว่าพ่อคุณให้ผมคอยห้ามแม่คุณอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดแม่คุณกลับมา ก็ให้ผมแบกเธอออกไป ถ้าแบกไม่ไหว ก็ตีให้สลบ
ดังนั้นเขาก็เลยได้แต่หัวเราะแหะๆ พูดไปว่า “ไม่มีอะไรหรอก พ่อให้ผมต้อนรับพอลให้ดี ห้ามไม่ให้เขารู้สึกว่า บ้านเราต้อนรับแขกไม่ดี”
“จริงรึ? ” เซียวชูหรันทำหน้าไม่เชื่อ
เย่เฉินก็ตั้งใจพูดว่า “ก็จริงน่ะสิครับ คุณไม่ได้ยินหรือไง ว่าเมื่อครู่ พ่อบอกให้ผมชงชาให้พอด้วย? ”
พูดไป เขาก็รีบเรียกพอลว่า “มาๆๆ คุณพอล ” เดี๋ยวผมจะให้ลองชา ที่พ่อตาผมซื้อมาจากร้านในวีแชท เป็นชาระดับสูงที่ซื้อมาในราคาแพงเลยนะ
เย่เฉินรู้สึกว่า พอลเป็นคนอเมริกา ต่อให้เขามีเลือดของคนจีนอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่เขาใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา ก็ไม่น่าจะรู้เรื่องชาเท่าไรนัก
ดังนั้น พ่อตาก็ไปถูกหลอกให้ซื้อใบชาธรรมดาๆ มา ก็น่าจะหลอกเขาได้อยู่
คิดไม่ถึงว่าพอลก็รีบยิ้มพูดขึ้นมาว่า “ไอ้หยา ผมชอบดื่มชามากที่สุดเลยในเมื่อคุณอาเซียวมีใบชาดีๆขนาดนี้ ผมก็ต้องชิมเสียหน่อยแล้ว”
เย่เฉินก็อึ้งๆ แล้วยิ้มพูดว่า “ในเมื่อคุณรู้เรื่องใบชา งั้นผมก็คิดว่าคุณต้องผิดหวังแล้วล่ะครับ”
พูดไป เขาก็พาพอลไปนั่งที่โซฟา เพื่อเตรียมต้มชา
เซียวชูหรันไม่ค่อยอยากคุยกับลูกชายคนรักเก่าของพ่อตนเองเท่าไรนัก ก็เลยพูดกับทั้งสองคนว่า “พวกคุณผู้ชายสองคน ก็คุยกันไปนะคะ ฉันไม่ค่อยชอบดื่มชาเท่าไรนัก ฉันยังปวดหัวนิดหน่อย เดี๋ยวขอตัวไปพักในห้องก่อนนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ”
พอลก็รีบลุกขึ้น แล้วพูดอย่างมีมารยาทว่า “ครับคุณหนูเซียว คุณไปพักผ่อนเถอะครับ”
พอเซียวชูหรันขึ้นบันไดไป เย่เฉินก็พูดกับพอลว่า “คุณนั่งลงก่อนครับ อย่ายืนคุยกันเลย”
หลังจากพอลนั่งลง พอเห็นโซฟาไม้พะยูงไหหลำที่ตนเองนั่งลงไป ก็พูดอย่างตกใจออกมาว่า “วัสดุทำโซฟานี้ ไม่ธรรมดาเลยนะครับ!มองก็รู้เลยว่าเป็นไม้จากไหหลำแถมยังมีอายุนานแล้วด้วย พอทีสีเคลือบลงไป ลายของไม้สวยมากเลย ของดีจริงๆ !”
เย่เฉินก็อึ้งกิมกี่ไป เขาไม่คิดเลยว่า ถึงแม้พอลจะเป็นลูกครึ่ง แต่แม่ของเขากลับมีความรู้ในประเทศจีนทุกอย่าง
พูดภาษาจีนก็เก่ง รู้เรื่องชา เรื่องไม้ แถมยังรู้เรื่องสีเคลือบ ไอ้หมอนี่เลือกชาวอเมริกาในตัวอีกครึ่งหนึ่ง เป็นของปลอมหรือเปล่าเนี่ย?
อีกอย่าง งานอดิเรกของเขา เหมือนกับพ่อตาตนเองจังเลยแฮะ?
ถ้าไม่ได้มีผมทอง แล้วก็ผิวขาวล่ะก็ ตนเองจะสงสัยด้วยซ้ำ ว่าเป็นลูกเขยที่พ่อตาไปไข่ไว้หรือเปล่า