บทที่ 775

ดังนั้นเย่เฉินก็เลยมองพอล แล้วถามอย่างสงสัยว่า “คุณพอลครับ คุณมาประเทศจีนบ่อยไหม? ”

พอลส่ายหัว แล้วยิ้มพูดว่า “ผมก็นานๆ จะมาสัมมนาสักครั้ง แต่ละครั้งก็ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์”

เย่เฉินก็ถามด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจว่า “แล้วทำไมคุณถึงรู้เรื่องใบชา พวกเครื่องเรือนที่ทำจากไม้แบบจีน มากมายเลยล่ะครับ? ”

พอลก็ยิ้มพูดว่า “หลักๆ ก็เพราะว่าแม่ผมชอบของพวกนี้ ผมได้ยินแม่พูดเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เด็ก ก็เลยซึมซับมาด้วย”

พูดจบ พอลก็พูดอีกว่า “คุณอย่ามองผมเป็นลูกครึ่งนะครับ แล้วก็อย่ามองว่าเป็นคนขาว จริงๆ แล้ว ในกระดูกดำของผม เป็นคนผิวเหลืองอย่างแท้จริง ตอนเด็กผมได้รับอิทธิพลจากแม่สูงมาก ผมชอบวัฒนธรรมจีนและอาหารจีนมาก ชีวิตประจำวันของชาวจีน และเรื่องทุกอย่างของชาวจีน”

“อย่างนี้นี่เอง”

เย่เฉินพยักหน้า ต้มน้ำร้อนไป เพื่อนเตรียมต้มชา ที่ถูกหลอกซื้อมาจากวีแชท

หลังจากเอาใบชาลงไปชงแล้ว เย่เฉินก็รินให้พอลและตนเองคนละแก้ว แล้วยิ้มพูดกับพอลว่า “มาครับ ลองชิมชาของพ่อตาผมดู”

พอลก็ก้มหัวขอบคุณ จากนั้นก็ยกแก้วชา มาที่ริมฝีปาก แล้วจิบไปหนึ่งจิบ

จากนั้น สีหน้าของเขาก็แปลกๆ มาก

ชิมมาตั้งนาน เขาก็พูดอย่างอึกอักว่า “คุณอาเซียวชอบดื่มชาชนิดแปลกดีนะครับ ใบชาแบบนี้ บอกตรงๆ เลยว่า ผมชิมไม่ออกเลยว่ามีอะไรดี แล้วทำไมคุณอาเซียวถึงได้เก็บไว้เหมือนมันเป็นใบชาอย่างดีล่ะครับ? ”

เย่เฉินก็คิดในใจ ไอ้พอลคนนี้รู้จริง เก่งกว่าพ่อตาตนเองเยอะเลย

พ่อตาแสนทึ่มของตนเองนั้น ดื่มชาแบบนี้มาตลอด ไม่เพียงไม่รู้ว่ามันมีปัญหาอย่างไร แถมยังยิ่งดื่มยิ่งบอกว่าอร่อย

ถ้าไม่ใช่ตนเองห้ามไว้ เขาก็คงจะต้องไปซื้อชามาจากแม่สาวน้อยในวีแชทอีกแน่นอน

ดังนั้นเขาก็เลยยิ้มพูดกับพอลว่า “ชานี้ เป็นใบชาที่พ่อตาผมถูกหลอกให้ซื้อจากวีแชทน่ะครับ เสียเงินไม่น้อย แต่ไม่ได้เป็นของดีอะไรเลย”

พอลก็รู้ ว่าเป็นอย่างไร ก็เลยยิ้มเบาๆ แล้วพูดกับเย่เฉินว่า “ที่บ้านผม มีชาจินจวิ้นเหมยอย่างดี ที่ให้คนซื้อมาจากทางแดนใต้ เดี๋ยววันหลังจะเอามาให้คุณเย่ลองชิมดูครับ แล้วก็ให้คุณอาเซียวชิมด้วย ใบชานั้นมันไม่เลวเลย ปรมาจารย์ด้านชาจินจวิ้นเหมยระดับสุดยอด เป็นคนเก็บใบชาเองเลย แล้วก็เอามาผัดใบชาเองด้วย”

เย่เฉินก็ขอบคุณอย่างเกรงใจ แล้วพูดว่า “พ่อตาของผมเขาไม่รู้เรื่องชาหรอกครับ แต่เขาชอบมาก ดังนั้น ถ้าคุณเอาชาดีๆ มาให้มาให้เขาล่ะก็ ก็จะเสียของเปล่าๆ ครับ ไม่สู้ให้เขาดื่มชาแบบนี้ต่อไปดีกว่า มีความสุขของใครของมันครับ”

จริงๆ แล้ว ในใจเย่เฉินคิดว่า ตนเองเป็นลูกเขย ก็ยังไม่เคยให้ใบชาอะไรดีๆ เลย ไอ้หมอนี่อยู่ดีๆ ก็จะเอามาให้ คงจะดูไม่เหมาะล่ะมั้ง?

พอลก็ไม่รู้ความนัยแฝงของเย่เฉิน เขานึกถึงเรื่องที่เซียวฉางควนบอกกับเขา ก่อนที่จะเข้ามาคฤหาสน์นี้ แล้วก็มองเย่เฉินแปลกๆ “คุณเย่ครับ ผมได้ยินคุณอาเซียวบอกว่า บ้านหลังนี้คุณได้มาจากการที่ไปดูฮวงจุ้ย เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ? ”

เย่เฉินก็ยิ้มเบาๆ พูดว่า “ก็ถือว่าใช่นะครับ จริงๆแล้ว หลักๆ ไม่ใช่แค่การดูฮวงจุ้ย แต่ได้ช่วยคนอื่นเขาแก้ปัญหาใหญ่ โดยผ่านทางการดูฮวงจุ้ยน่ะครับ”

พอลก็พูดอย่างจริงใจว่า “พูดตามตรงนะครับคุณเย่ ผมนั้นได้ศึกษาเกี่ยวกับโจวอี้แปดเหลี่ยมแปดทิศอะไรพวกนี้มามากพอสมควร แต่ก็เคยได้มีโอกาสได้เจออาจารย์ดีๆ ที่จะมาช่วยชี้แนะ อีกยอ่าง เวลาว่างของผมก็มีน้อย ดังนั้นการศึกษาหาความรู้ของผมมันจะน้อยหน่อย”

พูดไป พอลก็พูดอีกว่า “เอ่อคุณเย่ครับ บริษัทใหม่ของผมกำลังจะเปิดตัวในจินหลิงเร็วๆ นี้ พอถึงตอนนั้น ผมอยากจะให้คุณเย่มาช่วยดูฮวงจุ้ยหน่อยได้ไหมครับ? ”

เย่เฉินก็เห็นว่า ไอ้พอลคนนี้ดูเป็นมิตรกับตนดี แถมคนคนนี้ยังมีอีคิวสูง มารยาทก็ดี เดิมทีอยากจะหักหน้าไป แต่เขาก็ยิ้มพูดว่า “บริษัทของคุณจะเปิดตัวตอนไหนครับ? ช่วงเวลาก่อนหน้า ผมสามารถไปช่วยให้ก่อนได้”

พอลก็พูดอย่างดีใจว่า “งั้นก็ขอบคุณมากเลยครับ บริษัทของเราจะเปิดตัววันมะรืนนี้ถ้าคุณมีเวลา งั้นวันพรุ่งนี้ได้ไหมครับ”

“ได้เลยครับ”