ตอนที่ 1158 ภยันตรายที่ซ่อนอยู่ในดินแดนมหาเทพ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ ฮ​วา​เยว​่​และ​บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​สำนัก​หมื่น​กระบี่​ได้​จัดเตรียม​ที่พักอาศัย​ให้​กับ​ทุกคน​จาก​ดินแดน​เทพ​มายา​ภายใน​พื้นที่​ของ​สำนัก​หมื่น​กระบี่​ได้​อย่างไร​้​ปัญหา

ก่อน​การผนวก​รวมกัน​ของ​นิกาย​กระบี่​สายฟ้า​และ​นิกาย​หมื่น​บุปผา​ ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​และฮ​วา​เยว​่​ก็​เสนอ​ให้​ฉิน​อวี​้​โม่​ดำรงตำแหน่ง​ผู้นำ​สูงสุด​ของ​สำนัก​ใหม่​ ​ทว่า​นาง​ก็​ปฏิเสธ​อย่าง​ไม่​ลังเล

สำหรับ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​ดินแดน​มหาเทพ​เป็น​เพียง​ทางผ่าน​ของ​นาง​เท่านั้น​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​นาง​ก็​ต้อง​ไป​จาก​ที่นี่​และ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ดำรงตำแหน่ง​สำคัญ​เช่น​ตำแหน่ง​จ้าว​สำนัก​ ​แม้แต่​ตำแหน่ง​รอง​จ้าว​สำนัก​และ​ผู้อาวุโส​ของ​สำนัก​ ​นาง​ก็​ปฏิเสธ​มัน​เช่นกัน​ ​นั่น​หมายความว่า​ตอนนี้​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็น​เพียง​ศิษย์​ธรรมดา​ ​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​ของ​สำนัก​หมื่น​กระบี่​เท่านั้น​

อย่างไรก็ตาม​ ​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​ปฏิบัติ​ต่อนาง​เช่น​ศิษย์​ธรรมดา​แม้แต่น้อย​ ​กล่าว​ได้​ว่า​ชื่อเสียง​และ​เกียรติยศ​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​อาจจะ​เหนือกว่า​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​และฮ​วา​เย​่ว​ด้วยซ้ำ

วาจา​ของ​นาง​มีอิทธิพล​ต่อ​ทุกคน​มาก​ยิ่งกว่า​คน​ทั้งสอง​ซึ่ง​เป็น​จ้าว​สำนัก​และ​รอง​จ้าว​สำนัก​หมื่น​กระบี่​เสียอีก

บรรดา​จอม​ยุทธ์​ที่มา​จาก​ดินแดน​เทพ​มายา​ล้วน​เป็น​สหาย​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​เป็นธรรมดา​ที่​พวกเขา​จะ​ได้รับ​การ​ต้อนรับ​จาก​สำนัก​หมื่น​กระบี่​เป็น​อย่างดี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​พรสวรรค์​ของ​พวกเขา​ก็​ล้วน​ยอดเยี่ยม​อย่างยิ่ง​ ​ตราบใดที่​ได้รับ​การฝึกฝน​อย่างเต็มที่​ ​พวกเขา​จะ​กลายเป็น​กำลัง​สำคัญ​ของ​สำนัก​หมื่น​กระบี่​อย่างแน่นอน​ ​การ​ต้อนรับ​พวกเขา​เข้ามา​ใน​สำนัก​ถือเป็น​การพัฒนา​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​สำนัก​หมื่น​กระบี่​ไป​ในเวลาเดียวกัน

“​ท่าน​ลุง​เหลย​ ​ข้า​ขอ​ฝาก​คน​ของ​ดินแดน​เทพ​มายา​เหล่านี้​ไว้​กับ​ท่าน​นะ​เจ้า​คะ​”

ณ​ ​เรือน​ที่พัก​ของ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ ​ในเวลานี้​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ ฮ​วา​เยว​่​และ​บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​สำนัก​หมื่น​กระบี่​กำลัง​รวมตัวกัน​เพื่อ​หารือ​เรื่อง​บางอย่าง

ฉิน​อวี​้​โม่​เริ่ม​จาก​การฝาก​ฝัง​พวกเขา​อย่าง​สุภาพ​ ​ทว่า​ต่อให้​ไม่​กล่าว​สิ่งใด​ ​นาง​ก็​เชื่อ​ว่า​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​จะ​ให้การ​ต้อนรับ​และ​ดูแล​ความเรียบ​ร้อย​ให้​กับ​ทุกคน​จาก​ดินแดน​เทพ​มายา​เป็น​อย่างดี​และ​ไม่มี​ความลำเอียง​หรือ​ปฏิปักษ์​ใด​ ​ๆ​ ​ต่อ​พวกเขา

“​อวี​้​โม่​ ​เจ้า​วางแผน​ที่จะ​กลับ​ไป​ที่​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​ในทันที​หรือไม่​ ​?​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​พยัก​ศีรษะ​ตอบรับ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก่อน​สบตา​กับฮ​วา​เยว​่​พลาง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย

“​ข้า​ไม่ได้​รีบร้อน​เจ้าค่ะ​ ​การ​รวบรวม​วัตถุดิบ​สำหรับ​การหลอม​โอสถ​นิพพาน​คงจะ​ต้อง​ใช้เวลา​อีก​ประมาณ​ครึ่ง​ปี​ ​ข้า​และ​พี่ใหญ่​เพียง​ต้อง​กลับ​ไป​ก่อน​ถึง​เวลา​นั้น​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ส่าย​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​และ​บ่งบอก​ว่า​ตน​ไม่ได้​รีบร้อน​กลับ​ไป​นัก​ ​หาก​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ใด​ใน​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​ ​นาง​ก็​จะ​ได้รับ​ข่าว​ในทันที​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ก่อน​เดินทาง​กลับมา​ที่ดิน​แดน​มหาเทพ​ครานี​้​ ​นาง​ก็ได้​สั่งการ​ให้​มารยา​ประจำ​อยู่​ที่นั่น​แล้ว​ ​หาก​เกิดเรื่อง​ใด​ ​อสูร​สาว​จะ​ส่งข่าว​มาแจ้ง​นางใน​ทันที​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​จึง​ไม่​กังวล​นัก

“​ถ้าเช่นนั้น​ ​มีเรื่อง​บางอย่าง​ที่​ข้า​ต้อง​บอก​เจ้า​”

ทั้งสอง​มองหน้า​กัน​อีกครั้ง​และ​สีหน้า​กลายเป็น​เคร่งขรึม​มากขึ้น

“​มีเรื่อง​อะไร​รึ​เจ้า​คะ​ ​?​”

เมื่อ​เห็น​สีหน้า​จริงจัง​ของ​ทั้งสอง​ ​สมอง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​แล่น​อย่างรวดเร็ว​ ​ทว่า​นาง​ก็​ไม่​อาจ​คาดเดา​ได้​เลย​ว่า​จะ​เป็นเรื่อง​ใด

“​ใน​ช่วงนี้​ที่ผ่านมา​ ​เจ้า​ได้ยิน​ข่าวลือ​อะไร​บ้าง​รึ​ไม่​ ​?​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​และ​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​ ​มี​เพียง​น้อย​คนใน​ดินแดน​มหาเทพ​ที่​ทราบ​เกี่ยวกับ​ ​‘​ข่าวลือ​’​ ​นี้​ ​นอกเหนือจาก​คนใน​เมือง​ราชวงศ์​แห่ง​มณฑล​กลาง​ ​ทั้ง​ดินแดน​ก็​มี​ผู้คน​ไม่​ถึง​สิบ​คน​เท่านั้น​ที่​ทราบ​ถึง​เรื่อง​นี้

เขา​ก็​คาดเดา​ได้​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​คงจะ​ยัง​ไม่ทราบ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ ​มิฉะนั้น​ ​นาง​ไม่มีทาง​อยู่​เฉย​โดย​ไร้​ซึ่ง​ปฏิกิริยา​ใด​ ​ๆ

“​ข่าวลือ​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ส่าย​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​ซึ่ง​แสดงให้เห็น​ว่า​ไม่เคย​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​ข่าวลือ​ใด​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ของ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ ​นาง​ก็​ทราบ​ได้​ทันที​ว่า​จะ​ต้อง​มิใช่​เรื่อง​ดี​แน่

“​ใน​ดินแดน​มหาเทพ​ของ​เรา​มี​ข่าวลือ​มา​เสมอ​ว่า​เมื่อ​สภาวะ​พลัง​ของ​ดินแดน​เริ่ม​อ่อนแอ​ลง​ ​มัน​จะ​เป็น​สัญญาณ​ของ​การ​ที่ดิน​แดน​มหาเทพ​จะ​ล่มสลาย​ไป​ ​เมื่อถึง​วันนั้น​ ​สภาวะ​พลัง​ใน​ดินแดน​จะ​แห้งเหือด​ไป​ทั้งหมด​และ​กลายเป็น​เพียง​ความว่างเปล่า​ ​จอม​ยุทธ์​ใน​ดินแดน​มหาเทพ​ก็​จะ​หายสาบสูญ​ไป​เช่นกัน​ ​พวกเขา​จะ​ล้มตาย​ไป​ทีละ​คน​ ​ๆ​ ​และ​ดินแดน​ของ​เรา​จะ​เปลี่ยน​กลายเป็น​ดินแดน​แห่ง​ความตาย​”

สีหน้า​ของ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​แสดงให้เห็น​ถึง​ความ​เคร่งขรึม​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​ในขณะที่​ฉิน​อวี​้​โม่​ตกตะลึง​เล็กน้อย​กับ​สิ่ง​ที่​ได้ยิน

นาง​ไม่เคย​ได้ยิน​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​มาก​่อน​ ​ทว่า​ในเมื่อ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิงกล​่าว​ด้วย​สีหน้า​และ​น้ำเสียง​ที่จริง​จัง​เช่นนี้​ ​ข่าวลือ​ดังกล่าว​ก็​ต้อง​มีมูล​เหตุ​อย่างแน่นอน

“​ข่าวลือ​นี้​มีมา​ตั้งแต่​เมื่อ​หนึ่ง​หมื่น​ปีก่อน​แล้ว​ ​ทว่า​เรา​ก็​ไม่เคย​ปักใจ​เชื่อ​หรือ​นำมา​คิด​ให้​เสียเวลา​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ใน​ช่วง​ไม่นาน​มานี​้​ ​ข้า​รู้สึก​ได้​อย่างชัดเจน​ว่า​สภาวะ​พลัง​ของ​ดินแดน​เรา​เริ่ม​เบาบาง​กว่า​ก่อน​มาก​ ​เจ้า​อยู่​ที่นี่​ได้​ไม่นาน​นัก​ ​เจ้า​จึง​อาจจะ​รับรู้​ถึง​มัน​ไม่ได้​ ​ทว่า​พวกเรา​ที่อยู่​ที่นี่​มานา​นนับ​หมื่น​นับ​แสน​ปี​ย่อม​รับรู้​ได้​อย่างชัดเจน​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​ข้า​จึง​กังวล​ว่า​ข่าวลือ​นั้น​อาจจะ​กลายเป็น​จริง​ขึ้น​มา​”

พวกเขา​ไม่ทราบ​เลย​ว่า​ข่าวลือ​ดังกล่าว​มาจาก​ที่ใด​โดย​ทราบ​เพียง​ว่า​มัน​คงอยู่​มานา​นนับ​หมื่น​ปี​และ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ผู้​ที่​เปิดเผย​ข่าวลือ​นี้​ก็​คงจะ​ไม่ธรรมดา​เช่นกัน​ ​บางที​มัน​อาจ​เป็น​คำทำนาย​จาก​นักปราชญ์​ที่​แกร่งกล้า​ใน​อดีต​ซึ่ง​ใช้​วิธีการ​พิเศษ​บางอย่าง​ใน​การ​มอง​อนาคต​ก็​เป็นได้

“​อวี​้​โม่​ ​เดิมที​เรา​ไม่​คิด​ที่จะ​บอก​กับ​เจ้า​ ​ถึงอย่างไร​เรา​ก็​ยัง​ไม่​มั่นใจ​ใน​ความน่าเชื่อถือ​ของ​ข่าวลือ​นี้​นัก​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​นี้​ ​สภาวะ​พลัง​ใน​ดินแดน​ของ​เรา​ก็​ลดน้อยลง​กว่า​ก่อน​มาก​ ​บน​ภูเขา​กระบี่​สายฟ้า​ใน​ปัจจุบัน​ก็​มีส​มุน​ไพร​ระดับสูง​หลายชนิด​ที่​ใกล้​สูญพันธุ์​เต็มที​ ​เรา​จึง​ตัดสินใจ​บอก​ให้​เจ้า​ทราบ​เพื่อให้​เจ้า​เตรียมใจ​ไว้​ล่วงหน้า​ ​แม้ว่า​กระบวนการ​เสื่อมสลาย​ของ​สภาวะ​พลัง​จะ​ยาวนาน​มาก​ ​ทว่า​สำหรับ​จอม​ยุทธ์​ผู้​ที่​มี​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​ระดับ​ของ​เรา​ ​เวลา​นับ​แสน​ปีก​็​เป็น​เพียง​เวลา​เพียง​ชั่วขณะ​เท่านั้น​”

ฮ​วา​เยว​่​ไตร่ตรอง​ครู่หนึ่ง​ก่อน​กล่าว​ออก​ไป​ถึง​เหตุผล​ที่​ตัดสินใจ​บอก​เรื่อง​นี้​ให้​ฉิน​อวี​้​โม่​ได้​ทราบ

“​ใน​ดินแดน​ของ​เรา​มี​ใคร​อื่น​ที่​ทราบ​เรื่อง​นี้​อีก​บ้าง​เจ้า​คะ​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​เพียง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​และ​ไม่​แสดง​สีหน้า​กังวล​มาก​จน​เกินไป​ ​ในเมื่อ​ทราบ​ถึง​สิ่ง​ที่​กำลังจะ​เกิดขึ้น​ ​มัน​ก็​ย่อม​มี​หนทาง​แก้ไขปัญหา​อยู่​ ​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​และฮ​วา​เยว​่​อาจจะ​ไม่ทราบ​รายละเอียด​มาก​นัก​ ​หาก​ต้องการ​ทราบ​ความเป็นมา​เป็นไป​ของ​เรื่อง​นี้​อย่างชัดเจน​ ​นาง​จะ​ต้อง​สืบถาม​ข้อมูล​จาก​ผู้อื่น​เพิ่มเติม

“​จ้าว​สำนัก​ฟู่​จะ​ต้อง​ทราบ​ถึง​เรื่อง​นี้​แน่​ ​จ้าว​สำนัก​เบิก​ภูผา​และ​คน​ของ​ตระกูล​ราชวงศ์​ก็​ควรจะ​ทราบ​ถึง​เรื่อง​นี้​เช่นกัน​ ​หาก​เจ้า​ต้องการ​จะ​สืบหา​ข้อมูล​เพิ่มเติม​ ​เจ้า​ไป​ถาม​จาก​พวกเขา​ดูเถิด​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​ไม่​มั่นใจ​นัก​ว่า​คน​เหล่านั้น​ทราบ​รายละเอียด​ของ​ข่าวลือ​ดังกล่าว​หรือไม่​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​คน​เหล่านั้น​ล้วน​เป็น​ผู้นำ​ของ​ขุม​กำลัง​เก่าแก่​ที่​มีรากฐาน​ล้ำลึก​กว่า​พวกเขา​มาก​นัก​และ​ฟู่​ชาง​ก็​ถือเป็น​จอม​ยุทธ์​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ดินแดน​มาต​ลอด​ ​ซึ่ง​มี​ความเป็นไปได้​สูง​ที่​เขา​จะ​ทราบ​ถึง​เรื่อง​นี้

“​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ไป​ที่​สำนัก​เมฆา​คราม​ใน​อีก​สอง​วัน​เพื่อ​ถาม​จาก​ท่าน​ลุง​ฟู่​”

ฉิน​อวี​้​โม่​พยัก​ศีรษะ​ด้วย​ความเข้าใจ​เพื่อมิ​ให้​เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​และฮ​วา​เยว​่​กังวล​จน​เกินไป​ ​ตอนนี้​นาง​ได้​ทราบ​เรื่องราว​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่านาง​ไม่มีทาง​เพิกเฉย​อย่างแน่นอน​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​นาง​จะ​สืบหา​ความจริง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ดังกล่าว​และ​ต้องหา​ข้อมูล​เพิ่มเติม​ก่อน​เตรียมการ​ได้​อย่างเหมาะสม

“​เป็นความ​คิด​ที่​ดี​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​พยัก​ศีรษะ​และ​เลือก​ที่จะ​ปล่อยวาง​เรื่อง​นี้​เป็นการชั่วคราว

หลังจาก​หารือ​กัน​ ​ทุกคน​ก็​มุ่งหน้า​ไป​ที่​ลาน​จัตุรัส​ด้วยกัน​และ​พบ​กับ​บรรดา​จอม​ยุทธ์​จาก​ดินแดน​เทพ​มายา​ที่มา​รวมตัวกัน​อยู่​แล้ว​ ​ในเวลานี้​ ​พวกเขา​กำลัง​รับประทาน​อาหาร​และ​พูดคุย​กับ​ศิษย์​สำนัก​หมื่น​กระบี่​ท่ามกลาง​บรรยากาศ​ที่​น่า​อภิรมย์​อย่างยิ่ง

เมื่อ​เห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​มาถึง​ ​คน​เหล่านั้น​ก็​ลุกขึ้น​และ​กล่าว​ทักทาย​ทันที

“​ทุกคน​ไม่ต้อง​พิธีรีตอง​นัก​หรอก​ ​ต่อไป​พวก​เจ้า​ทั้งหมด​ก็​จะ​เป็น​ศิษย์​ของ​สำนัก​หมื่น​กระบี่​เหมือน​ ​ๆ​ ​กัน​ ​พวก​เจ้า​ทุกคน​จะ​ต้อง​ช่วยเหลือ​ซึ่งกันและกัน​และ​ปฏิบัติ​ต่อกัน​อย่าง​เป็นมิตร​”

เหลย​เจี​้​ยน​เชิง​โบกมือ​เล็กน้อย​เพื่อ​ส่งสัญญาณ​ให้​ทุกคน​เงียบ​ลง

จากนั้น​เขา​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​เดิน​ตรง​ไป​นั่งลง​ที่​บัลลังก์​หลัก​ก่อน​กล่าว​แนะนำตัว​อย่างเป็นทางการ​และ​ทำให้​บรรยากาศ​ค่อย​ ​ๆ​ ​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​อีกครั้ง

“​พี่ใหญ่​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ ​ท่าน​และ​เสี่ยว​โร่ว​ไป​ที่​สำนัก​เมฆา​คราม​กับ​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​นั่งลง​ข้าง​ ​ๆ​ ​ฉิน​อี้​เฟย​และ​เสี่ยว​โร่​วก​่อ​นก​ล่าว​บอก​ทั้งสอง​เป็นการ​ล่วงหน้า

“​ตกลง​”

ทั้งสอง​ไม่​เอ่ย​ถาม​ให้​มากความ​และ​พยัก​ศีรษะ​อย่างว่า​ง่าย

……..

ณ​ ​เมือง​ว่านฮว​๋า​ใน​โลก​แห่ง​เทพ​ ​เช้าตรู่​ของ​วันนี้​ ​เฟิง​ชิง​หลิง​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​โรง​เตี​๊​ยม​ที่พัก​ของ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​เพื่อ​เชิญ​นาง​ไป​ที่​จวน​เจ้าเมือง​ใน​ฐานะ​แขก​ของ​ตน

.