ตอนที่ 1165 พลังในการต่อสู้ของฉินอวี้โม่

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

เนื่องจาก​เป็นการ​ดวล​ฝีมือ​เพื่อ​เรียนรู้​ทักษะ​ของ​กันและกัน​ ​ทั้งสอง​จึง​ไม่​ใช้​ทักษะ​ยุทธ์​ที่​รุนแรง​จน​เกินไป​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​หลง​อวี​้​เทียน​ก็​เพียง​ต้องการ​ประจักษ์​ถึง​ความแตกต่าง​ใน​ความแข็ง​แกร่ง​ที่แท้​จริง​ระหว่าง​ตน​และ​ฉิน​อวี​้​โม่​เท่านั้น​ ​ทั้งสองฝ่าย​จึง​เลือก​ใช้​กระบวน​ท่า​พื้นฐาน​ที่สุด​ของ​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​และ​หลอม​รวมพลั​งมา​ยา​เข้ากับ​กระบวน​ท่า​เพื่อ​ทำให้​การ​โจมตี​เหล่านั้น​ทรงพลัง​มากขึ้น

ความเร็ว​ใน​การต่อสู้​ของ​ทั้งสอง​ก็​รวดเร็ว​พอสมควร​ ​ทว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​ยัง​สามารถ​เพิ่ม​ความเร็ว​ของ​ตนเอง​ให้​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​จน​บรรลุ​ระดับ​ที่​รวดเร็ว​อย่าง​สุดขีด

ทุกคน​มองเห็น​ได้​อย่างชัดเจน​ว่าการ​เคลื่อนไหว​ของ​นาง​รวดเร็ว​จน​ทิ้ง​ภาพติดตา​จำนวนมาก​ไว้​เบื้องหลัง​ก่อนที่​พวก​มัน​จะ​ค่อย​ ​ๆ​ ​เลือนหาย​ไป

ณ​ ​สังเวียน​ประลอง​ ​หลง​อวี​้​เทียน​ก็​แสดง​ฝีมือ​ออกมา​อย่างเต็มที่​เพื่อ​รับมือ​กับ​การ​โจมตี​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่

เพราะ​ถึงอย่างไร​ ​ความสามารถ​ใน​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​เหนือ​ชั้น​เกิน​กว่า​ที่​จอม​ยุทธ์​ธรรมดา​ทั่วไป​จะ​เทียบ​ด้วย​ได้

จอม​ยุทธ์​ส่วนใหญ่​จดจ่อ​กับ​การบ่ม​เพาะ​เพื่อ​พัฒนา​ระดับ​พลัง​ของ​ตนเอง​และ​ละเลย​การฝึกฝน​ความแข็ง​แกร่ง​ทางกายภาพ​ไป​ ​ทว่า​ในทางกลับกัน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​หมั่น​ฝึกฝน​ความแข็ง​แกร่ง​ทั้งสอง​ด้าน​มาตั​้ง​แต่ต้น

แม้ว่า​ความแข็ง​แกร่ง​ทางกายภาพ​ของ​นาง​จะ​ด้อย​กว่า​พลัง​ยุทธ์​ ​ทว่า​มัน​ก็​ไม่ได้​ด้อย​กว่า​มาก​นัก​ ​ตราบใดที่​ไม่​ประจันหน้า​กับ​จอม​ยุทธ์​ที่​ชำนาญ​ด้าน​การ​ฝึก​กายา​ ​นาง​ก็​ถือว่า​เป็น​จอม​ยุทธ์​ผู้​ไร้​เทียม​ทาน​ใน​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด

“​ช่าง​มีฝีมือ​ที่​ล้ำเลิศ​จริง​ ​ๆ​ ​ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​เจ้า​จะ​ต่อสู้​กับ​จอม​ยุทธ์​ที่​เหนือกว่า​หลาย​ระดับ​ได้​อย่าง​ไม่​เสียเปรียบ​ ​ด้วย​ฝีมือ​ที่มาก​เช่นนี้​ ​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​จอม​ยุทธ์​ใน​ระดับ​เดียวกัน​ ​เจ้า​จะ​มี​ความได้เปรียบ​เป็นอย่างมาก​”

หลง​อวี​้​เทียน​กล่าว​พลาง​ถอนหายใจ​เบา​ ​ๆ​ ​ทว่า​ยัง​ไม่ยอม​แพ้​และ​เดินหน้า​โจมตี​ต่อไป

“​พี่​อวี​้​โม่​แข็งแกร่ง​ยิ่งนัก​ ​!​”

ณ​ ​พื้นที่​รอบ​ ​ๆ​ ​ลาน​ประลอง​ ​หลง​เฟย​เอ๋อร​์​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ตกตะลึง​และ​แสดง​ความชื่นชม​ต่อ​ฉิน​อวี​้​โม่​อย่าง​ไม่​ปิดบัง​ ​แม้แต่​หลง​เพ่ย​เอ๋อร​์​เอง​ก็​พยัก​ศีรษะ​แสดงออก​ว่า​เห็นด้วย​ ​ดูเหมือนว่า​ช่องว่าง​ความแตกต่าง​ระหว่าง​พวก​นาง​และ​ฉิน​อวี​้​โม่​จะ​ห่างไกล​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​…

บน​สังเวียน​ ​กระบวน​ท่า​โจมตี​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ทรงพลัง​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​และ​การเคลื่อนไหว​ทุกครั้ง​สามารถ​โจมตี​จุดสำคัญ​ของ​หลง​อวี​้​เทียน​ได้​อย่างแม่นยำ​จน​ยาก​ที่​เขา​จะ​ป้องกัน​ได้

แม้ว่า​หลง​อวี​้​เทียน​จะ​แผ่​พลัง​วิญญาณ​ออก​ไป​อย่าง​เต็ม​ประสิทธิภาพ​ ​ทว่า​เขา​ก็​ป้องกัน​การ​โจมตี​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ได้​อย่าง​จวนเจียน​เท่านั้น​ ​ใน​ตอนนี้​ตัว​เขา​ก็ได้​รับ​บาดเจ็บ​หลาย​ส่วน​แล้ว​และ​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​เริ่ม​ไม่​สู้​ดีนัก

“​เสี่ยว​อวี​้​โม่​ ​เจ้า​ยังคง​ยั้ง​มือ​อยู่​ใช่​รึ​ไม่​ ​?​”

หลง​อวี​้​เทียน​โบกมือ​ส่งสัญญาณ​และ​หยุด​ต่อสู้​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็นการชั่วคราว​ก่อน​กล่าว​ถาม​ออก​ไป​เนื่องจาก​รู้สึก​ว่า​อีก​ฝ่าย​ยัง​สงวน​พลัง​ที่แท้​จริง​ไว้​และ​ไม่ได้​แสดง​ฝีมือ​ออกมา​อย่างเต็มที่

“​หาก​ท่าน​หมายถึง​ทักษะ​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ ​ข้า​ก็​ยัง​ยั้ง​มือ​อยู่​จริง​ ​ๆ​ ​เจ้าค่ะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ยิ้ม​ตอบ​และ​ไม่​ปฏิเสธ​แต่อย่างใด

“​สหาย​ฟู่​ ​เรา​มาร​่ว​มมื​อกัน​ดีกว่า​ ​ข้า​อยาก​เห็น​ว่า​เสี่ยว​อวี​้​โม่​จะ​แสดง​ฝีมือ​ใน​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ได้มาก​เพียงใด​”

หลง​อวี​้​เทียน​กล่าว​เชิญ​ฟู่​ชาง​โดยตรง​ ​หาก​ทั้งสอง​ร่วมมือ​กัน​ ​พวกเขา​อาจจะ​บีบ​ไล่ต้อน​ให้​ฉิน​อวี​้​โม่​แสดง​ฝีมือ​ที่แท้​จริง​ออกมา​ได้

ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ไม่​คัดค้าน​แต่อย่างใด​และ​ผาย​มือ​เชิญ​ฟู่​ชาง​ขึ้น​มาบน​สังเวียน​อย่าง​มีมา​รยาท

“​ท่าน​ลุง​ฟู่​ ​เชิญ​เลย​เจ้าค่ะ​”

หลง​เฟย​เอ๋อร​์​และ​ทุกคน​ก็​ตั้งตารอ​อย่างใจจดใจจ่อ​ ​ฟู่​ชาง​และ​หลง​อวี​้​เทียน​เพิ่ง​ทะลวง​พลัง​ได้​สำเร็จ​และ​เข้าสู่​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​เก้า​ดารา​ ​พวก​นาง​สงสัย​ใคร่รู้​ยิ่งนัก​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​จะ​เอาชนะ​การ​ร่วมมือ​ประสาน​พลัง​กัน​ของ​คู่ต่อสู้​ทั้งสอง​ได้​หรือไม่​…

ฟู่​ชาง​ก็​พยัก​ศีรษะ​และ​เหาะ​ขึ้นไป​บน​สังเวียน​ประลอง​ก่อน​ทักทาย​กัน​และ​เริ่ม​การ​โจมตี

แม้​ฟู่​ชาง​และ​หลง​อวี​้​เทียน​จะ​ไม่เคย​ต่อสู้​เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​มาก​่อน​ ​แต่​พวกเขา​ก็​สามารถ​ประสาน​การ​โจมตี​ร่วมกัน​ได้​ใน​เวลา​ไม่​กี่​อึดใจ​เท่านั้น​และ​สามารถ​โจมตี​ฉิน​อวี​้​โม่​ได้​โดยที่​ไม่​เผย​ช่องโหว่​ใด​ ​ๆ

ส่วน​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ไม่​กังวล​แม้แต่น้อย​ขณะ​เคลื่อนไหว​ไปมา​รอบตัว​คู่ต่อสู้​ทั้งสอง​อย่างรวดเร็ว​ดุจดั่ง​สายลม​พัดผ่าน

ทุก​ครา​ที่​การ​โจมตี​ของ​พวกเขา​กำลังจะ​ถึง​ตัว​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​นาง​ก็​สามารถ​หลบหลีก​ออก​ไป​ได้​อย่าง​ฉิวเฉียด​ ​ทว่า​ในทางกลับกัน​ ​นาง​ก็​ไม่​อาจ​โจมตี​ตอบโต้​ทั้งสอง​ได้​เช่นกัน​ ​ด้วย​การ​ร่วมมือ​กัน​ของ​คน​ทั้งสอง​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่​สามารถ​ขึ้น​กลายเป็น​ฝ่าย​ได้เปรียบ​อีกต่อไป​และ​เริ่ม​ถูก​บีบ​ไล่ต้อน​เล็กน้อย

จากนั้น​การต่อสู้​ของ​ทั้ง​สาม​ก็​ติด​อยู่​ใน​สภาวะ​ชะงักงัน​และ​ไม่​สามารถ​กำหนด​ผู้ชนะ​ได้​ใน​เวลา​สั้น​ ​ๆ

“​อวี​้​โม่​ทรงพลัง​ยิ่งนัก​ ​นาง​สามารถ​รับมือ​กับ​จอม​ยุทธ์​ที่อยู่​ใน​ระดับสูง​กว่า​ทั้งสอง​คน​ได้​อย่าง​ไม่​เสียเปรียบ​ ​หาก​เรา​ต้อง​ประจันหน้า​กับ​ผู้​ที่​ทรงพลัง​เช่น​ท่าน​พ่อ​ ​เกรง​ว่า​เรา​คง​พ่ายแพ้​ไป​ตั้งแต่​กระบวน​ท่า​แรก​แล้ว​”

หลง​ซิน​เอ๋อร​์​กล่าว​พลาง​ถอนหายใจ​ยาว​ ​ๆ​ ​นาง​ริษยา​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็น​ทุนเดิม​อยู่​แล้ว​ ​ทว่า​เมื่อ​ได้​เห็น​พลัง​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​อีก​ฝ่ายใน​ปัจจุบัน​ ​นาง​ก็​ปล่อยวาง​ความรู้สึก​เหล่านั้น​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง

ช่องว่าง​ความแตกต่าง​ระหว่าง​พวก​นาง​ห่างไกล​กัน​จน​เกินไป​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​ความริษยา​เหล่านั้น​จึง​ไม่มี​ความหมาย​และ​นาง​ไม่มีทาง​ที่จะ​ตาม​ฉิน​อวี​้​โม่​ได้​ทัน

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​มิตรภาพ​จาก​การต่อสู้​เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​ก่อนหน้านี้​ก็​ทำให้​หลง​ซิน​เอ๋อร​์​สำนึกผิด​ขึ้น​มา​แล้ว​โดยที่​นาง​ไม่​คิดร้าย​หรือ​ริษยา​ฉิน​อวี​้​โม่​อีกต่อไป

“​ข้างนอก​นั่น​ยัง​มี​จอม​ยุทธ์​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​เรา​อีก​มาก​ ​เรา​จะ​ต้อง​จดจำ​สิ่ง​นี้​ไว้​ให้​ขึ้นใจ​”

หลง​เพ่ย​เอ๋อร​์​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​ก่อนหน้านี้​นาง​เคย​เห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็น​คู่แข่ง​ที่​สมศักดิ์ศรี​ของ​นาง​ ​ทว่า​นาง​ตระหนัก​แล้ว​ว่านาง​ทะนง​ตน​จน​เกินไป​ ​สำหรับ​คน​บางคน​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​พวก​นาง​ก็​ไม่มีทาง​เทียบ​ชั้น​ได้​แม้​ใช้เวลา​ทั้ง​ชีวิต​ก็ตาม​ ​และ​ฉิน​อวี​้​โม่​คือ​ตัวอย่าง​ที่​ชัดเจน​…

บน​สังเวียน​ประลอง​ ​แม้​รับมือ​กับ​การ​ร่วมมือ​กัน​ของ​ฟู่​ชาง​และ​หลง​อวี​้​เทียน​ ​สีหน้า​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ยังคง​ดู​ผ่อนคลาย​เช่น​เดิม​ ​การเคลื่อนไหว​ของ​นาง​ยังคง​รวดเร็ว​และ​ทุก​ท่วงท่า​เชื่อมต่อ​กันได​้​อย่างไร​้​ที่​ติส​่ง​ผล​ให้​อีก​ฝ่าย​ไม่​สามารถ​หา​จังหวะ​เอาชนะ​นาง​ได้

ความแข็ง​แกร่ง​ใน​การต่อสู้​ที่แท้​จริง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​เหนือ​ชั้น​เกิน​กว่า​ที่​จอม​ยุทธ์​ผู้​มีพลัง​ใน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​เก้า​ดารา​จะ​เทียบ​ชั้น​ได้​ ​แม้​ฟู่​ชาง​และ​หลง​อวี​้​เทียน​จะ​แข็งแกร่ง​มาก​ ​แต่​ตราบใดที่​ไม่​แสดง​ไพ่ตาย​ทั้งหมด​ที่​มี​ ​พวกเขา​ก็​ไม่มีทาง​เอาชนะ​นาง​ได้​อย่างแน่นอน

“​พอ​เถอะ​ ​หยุด​การต่อสู้​เพียงเท่านี้​”

หลังจาก​ติด​อยู่​ใน​สภาวะ​จนมุม​นาน​สอง​ก้านธูป​ ​ฟู่​ชาง​และ​หลง​อวี​้​เทียน​ก็​เริ่ม​ถอยหลัง​และ​ยกมือ​เพื่อ​หยุด​การต่อสู้

นี่​เป็น​เพียง​การ​ดวล​ฝีมือ​เพื่อ​เรียนรู้​จากกัน​และ​กัน​ ​พวกเขา​เพียง​ต้องการ​ทราบ​ถึง​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​การต่อสู้​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​เท่านั้น​ ​ในเมื่อ​ตอนนี้​ได้​ทราบ​แล้ว​ ​พวกเขา​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ต่อสู้​อีกต่อไป​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เนื่องจาก​เวลา​ที่​ล่วงเลย​มา​ ​พละกำลัง​ทาง​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ก็​เริ่ม​ลดน้อยลง​และ​เกิด​ความเหนื่อย​ล้า​อย่างชัดเจน​ ​ทว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ยังคง​โจมตี​อย่าง​ดุดัน​และ​รวดเร็ว​มากยิ่งขึ้น​ ​หาก​สถานการณ์​เช่นนี้​ยัง​ดำเนินต่อไป​ ​เกรง​ว่า​พวกเขา​ทั้งสอง​จะ​ต้อง​พ่ายแพ้​อย่าง​น่าอับอาย​เป็นแน่

ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​ถือเป็น​ผู้อาวุโส​ที่​สถานะ​สูง​และ​มีหน้ามีตา​ที่​ต้อง​รักษา​ไว้​ ​แม้​การ​ถอนตัว​ใน​ตอนนี้​จะ​ดู​น่าอับอาย​เล็กน้อย​ ​ทว่า​อย่างน้อยที่สุด​มัน​ก็​ยัง​มิใช่​ความพ่ายแพ้​โดย​สมบูรณ์

“​พี่​อวี​้​โม่​ชนะ​แล้ว​ ​พี่​อวี​้​โม่​ชนะ​แล้ว​”

หลง​เฟย​เอ๋อร​์​กระโดด​โหยง​และ​ตะโกน​ด้วย​น้ำเสียง​ตื่นเต้น​ ​การ​ที่​เห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​เอาชนะ​ได้​ ​นาง​ก็ดี​ใจ​ยิ่งกว่า​เจ้าตัว​เสียอีก

ทุกคน​พูดไม่ออก​เล็กน้อย​ทว่า​ไม่ผิด​คาด​เท่าใด​นัก​ ​หลง​เฟย​เอ๋อร​์​เป็น​ผู้สนับสนุน​ตัวยง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​อีกทั้ง​ชื่นชอบ​และ​จงรักภักดี​ต่อ​ฉิน​อวี​้​โม่​เป็นอย่างมาก​ ​หลังจากนี้​ ​เกรง​ว่าความ​ชื่นชม​เหล่านั้น​ก็​มี​แต่​จะ​เพิ่มมากขึ้น​ไป​อีก

“​เฟย​เอ๋อร​์​ ​ไว้หน้า​พ่อ​ของ​เจ้า​บ้าง​เถอะ​”

หลง​อวี​้​เทียน​ส่าย​ศีรษะ​อย่าง​จนปัญญา​และ​เขก​ศีรษะ​บุตรสาว​เบา​ ​ๆ​ ​ทว่า​ไม่​ขุ่นเคือง​ใจ​แต่อย่างใด

“​ไป​กัน​เถอะ​ ​กลับ​ไป​พักผ่อน​กัน​ก่อน​ ​หลังจากนี้​เรา​จะ​รับประทาน​อาหารค่ำ​ร่วมกัน​”

เขา​โบกมือ​เพื่อให้​ทุกคน​แยกย้าย​กัน​กลับ​ไป​ ​หลังจาก​ใช้เวลา​อยู่​ที่นี่​ยาวนาน​กว่า​ครึ่ง​วัน​ ​เขา​ก็​เริ่ม​รู้สึก​หิว​ขึ้น​มา​ ​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​อย่าง​ยาวนาน​ย่อม​เป็นการ​ใช้​พละกำลัง​ทาง​ร่างกาย​ไป​อย่าง​สิ้นเปลือง​ ​เพราะ​ด้วย​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​ระดับ​ของ​พวกเขา​ ​พวกเขา​ไม่​ควร​ที่จะ​รู้สึก​หิวโหย​เช่นนี้​ใน​สถานการณ์​ปกติ

ทุกคน​ไม่​คัดค้าน​และ​แยกย้าย​กัน​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ที่พัก​ของ​ตน

หลังจากที่​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​ฟู่​ชาง​และ​หลง​อวี​้​เทียน​อาบน้ำ​ชำระร่างกาย​เสร็จสิ้น​ ​ทุกคน​ก็​รวมตัวกัน​อีกครั้ง​ใน​ห้องอาหาร

“​เสี่ยว​อวี​้​โม่​ ​ด้วย​สถานการณ์​ใน​ปัจจุบัน​ของ​เจ้า​ ​เจ้า​คงจะ​ทะลวง​พลัง​เข้าสู่​ขอบเขต​เทพ​สวรรค์​ได้​ภายใน​เวลา​ห้า​ปี​”

ความเร็ว​ใน​การ​ฝึก​ยุทธ์​และ​การ​ทะลวง​พลัง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ถือว่า​รวดเร็ว​อย่างยิ่ง​ ​สำหรับ​อีก​ไม่​กี่​ระดับ​หลังจากนี้​ ​คาด​ว่า​เวลา​ห้า​ปี​คงจะ​มาก​เกิน​พอ

“​ห้า​ปี​คงจะ​นาน​เกินไป​เจ้าค่ะ​ ​หาก​เป็นไปได้​ ​หลังจาก​จัดการ​เรื่อง​วุ่นวาย​ที่​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​เสร็จสิ้น​ ​ข้า​ก็​จะ​เก็บตัว​บ่ม​เพาะ​และ​หวัง​ว่า​จะ​ทะลวง​พลัง​ต่อไป​ได้​โดยเร็ว​ที่สุด​”

ฉิน​อวี​้​โม่​พยัก​ศีรษะ​ทว่า​แอบ​ตัดสินใจ​อย่าง​แน่วแน่​แล้ว

หลังจาก​สะสาง​เรื่องราว​ใน​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​เสร็จสิ้น​ ​มัน​ก็​ควร​แก่​เวลา​ที่นาง​จะเข้า​สู่​ช่วง​เก็บตัว​สัก​ระยะ​…