ซูซี่กำลังนั่งยองข้างประตู รอให้ออเดรย์กลับมา
ทันใดนั้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามา โกลเดนรีทรีเวอร์ตัวใหญ่รีบวิ่งเข้าไปทักทายทันที อาศัยความสามารถในการ ‘เล่นละคร’ เพื่อเห่าสองครั้งพร้อมกับกระดิกหาง
เธอไม่ได้ถามในทันที แต่เดินตามออเดรย์กลับไปที่ห้องนอน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“เสร็จแล้ว?”
ออเดรย์อืมในลำคอ เป็นนัยว่าไม่มีปัญหา
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?” ซูซี่ถาม
“ตอนนี้ยัง” ออเดรย์ส่ายศีรษะเล็กน้อย
ด้วยความเป็นห่วงจากซูซี่ หญิงสาวรีบนึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทันที แต่กลับพบว่าตนจำหน้าและชื่อของประธานใหญ่สมาคมแปรจิตไม่ได้เลย หลงเหลือเพียงข้อมูลบางส่วนที่ได้รับจากเกอร์มัน·สแปร์โรว์เท่านั้น
ว่ากันตามตรง หากเป็นผู้วิเศษลำดับต่ำกว่าครึ่งเทพ จอมบงการอย่างออเดรย์สามารถทำในสิ่งที่คล้ายกันได้ แต่สำหรับนักบุญในขอบเขตจิตใจ การทำเช่นนี้โดยที่เจ้าตัวไม่ตระหนักถึงนั้นแทบไม่มีทางเป็นไปได้ เว้นเสียแต่เหยื่อจะถูกสะกดจิต หมดสติ หรือตกเป็นทาส
ระดับตัวตนของสุภาพบุรุษคนนั้นอาจสูงกว่าที่เราคิด… ออเดรย์ควบคุมสติ ประเมินอย่างใจเย็น
หญิงสาวขยิบตาส่งสัญญาณบอกให้ซูซี่ออกไปคอยเฝ้านอกประตู จากนั้น เธอร่างภาพหน้ากากบุคลิก ‘ทระนง’ ภายในใจ
ทันทีที่เริ่มคิด หญิงสาวสัมผัสถึงความผันผวนแผ่วเบาในทะเลจิตใต้สำนึกรวม
ออเดรย์เหยียดมือซ้ายออกไปคว้าอากาศ จากนั้นก็ดึงหน้ากากสีเทาอ่อนซึ่งดูเยือกเย็นเหนือพรรณนาออกมา
แค่คิดอย่างจริงจัง หน้ากาก ‘ทระนง’ อันนี้ก็จะมาอยู่ข้างเราทันที? มันลอยอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราและคอยติดตามเราไปทุกที่? ออเดรย์จ้องเกาะแห่งจิตของตัวเองอย่างตั้งใจ ก่อนจะ ‘คิด’ ให้หน้ากากทระนงสลายตัวไป
หน้ากากสีเทาอ่อนซึ่งมอบบรรยากาศเย็นยะเยือกเริ่มจางลง ละลายเป็นเนื้อเดียวกับทะเลจิตใต้สำนึกรวมรอบตัวหญิงสาว
ออเดรย์ยังไม่เข้าใจว่าหน้ากากทระนงหายไปอยู่ที่ใด และเหตุใดถึงปรากฏขึ้นได้ตามใจต้องการ
ข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้หญิงสาวตื่นตัว เธอตัดสินใจสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูลและขอพรให้พระองค์ช่วยผนึกหน้ากากบุคลิก
ขณะเธอคิดจะทำการทดสอบอีกสักสองสามหนและรับความรู้เพิ่มเติมจากหน้ากากทระนง แต่ยังไม่ทันที่จะใช้พลังจอมบงการ ทะเลจิตใต้สำนึกรวมรอบตัวหญิงสาวเกิดสั่นไหวแผ่วเบา
จุดแสงดวงเล็ก ‘แหวกว่าย’ มาจากระยะไกล มันขยายใหญ่ขึ้นและคมชัดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นจดหมายมายา
จดหมายดังกล่าวหยุดหน้าเกาะแห่งจิตของออเดรย์ ประหนึ่งกำลังรอให้การ ‘ส่ง’ เสร็จสมบูรณ์
แน่นอน ออเดรย์ไม่ยอมให้มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในเกาะแห่งจิตของเธอ จึงเป็นฝ่ายเหยียดแขนซ้ายออกไปสัมผัสจดหมายมายา
เมื่อเห็นว่าปลายนิ้วกำลังจะสัมผัสกับจดหมาย ออเดรย์ชะงักมือกะทันหัน
ประสบการณ์และสติปัญหาของเธอกำลังแจ้งว่า:
ในโลกเหนือธรรมชาติ เธอไม่ควรสัมผัสสิ่งใดส่งเดช โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตจิตใจ ไม่อย่างนั้นอาจนำไปสู่การถูกกัดกร่อนและกลายเป็นอาการทางจิต!
ด้วยความคิดดังกล่าว ออเดรย์ตัดสินใจสร้างบุคลิกเสมือนขึ้นและสวมถุงมือผ้าสีดำ ‘หัตถ์แห่งความกลัว’
หลังจากเตรียมตัวเสร็จ หญิงสาวยื่นมือออกไปสัมผัสจดหมายมายา จากนั้นก็เฝ้ามองมันคลี่ตัวเองออกและพลิกไปทีละหน้า
นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับมังกรจิตในแคว้นเชสเตอร์ตะวันออก
ส่งข้อมูลผ่านทะเลจิตใต้สำนึกรวม… พลังของลำดับสูงในเส้นทางผู้ชมช่างน่าทึ่ง… ในฐานะจอมบงการ ออเดรย์ทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาเจตจำนงดั้งเดิมของตัวเองก่อนจะเข้าสู่โลกเหนือธรรมชาติเอาไว้ นั่นคือการแสวงหา ‘ความฝัน’ และ ‘เวทมนตร์’ ที่แท้จริง
นี่คือหนึ่งในวิธีที่หญิงสาวป้องกันมิให้ตัวเองหลงทางขณะ ‘บงการ’ ผู้อื่น และไม่ให้ถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับทะเลจิตใต้สำนึกรวม
หลังจากอ่านข้อมูลทั้งหมด ออเดรย์ปล่อยให้จดหมายมายาหลอมละลายไปกับทะเลจิตใต้สำนึกรวม
เธอยังไม่รีบร้อนสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูล แต่เลือกจัดการกับหลายสิ่งให้เรียบร้อยก่อนตามความตั้งใจเดิม
ก่อนถึงเวลาอาหารค่ำ เธอสบโอกาสว่าง รีบสวดวิงวอนภายในห้องนอนและขอพร
วินาทีถัดมา ออเดรย์เห็นหน้ากาก ‘ทระนง’ สีเทาอ่อน โผล่ออกจากทะเลจิตใต้สำนึกรวมมาอยู่ตรงหน้าเธอ ความรู้สึกลวงตาของหน้ากากเริ่มเลือนหาย ความแวววาวของโลหะปรากฏขึ้นแทน
ด้วยเหตุผลบางประการ หน้ากากบุคลิกอันนี้มอบความรู้สึกกึ่งมายากึ่งจริง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันถูกกีดกันออกจากเกาะแห่งจิตของออเดรย์แล้ว
แต่แน่นอน มันสูญเสียความสามารถในการ ‘ละลาย’ กลับสู่ทะเลจิตใต้สำนึกรวม
ออเดรย์หยิบหน้ากาก ‘ทระนง’ ออกมาถือ จากนั้นก็ปลด ‘คำลวง’ ซึ่งกลายเป็นสร้อยคอมรกต และนำทั้งสองสิ่งมาซ้อนทับกัน
เป็นไปตามที่คาด หน้ากากทระนงกึ่งจริงกึ่งมายาฝังตัวเองลงไปใน ‘คำลวง’ เกิดเป็นลวดลายคล้ายโครงหน้ามนุษย์อย่างหยาบ
ในอนาคต ในยามที่ไม่ได้ใช้งาน เราจะใช้วิธีนี้พกพาติดตัว เพื่อมิให้หน้ากากสัมผัสกับร่างกายและจิตใจโดยตรงตลอดเวลา… ท่ามกลางกระแสความคิด ออเดรย์ขอบคุณมิสเตอร์ฟูลจากก้นบึ้ง
จากนั้น หญิงสาวออกจากห้องและตรงไปยังโถงจัดเลี้ยงของตระกูล
ระหว่างทาง เธอได้พบกับบิดา เอิร์ลฮอลล์
“ข่าวดี” เอิร์ลฮอลล์เปิดบทสนทนาด้วยรอยยิ้ม
ออเดรย์ไม่เก็บซ่อนความประหลาดใจ
“พี่อัลเฟรดกลับมาแล้ว?”
อีกหนึ่งพี่ชายของเธอ
“เดาได้ทันทีเลยหรือ” เอิร์ลเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “ในช่วงครึ่งปีหลัง เขาจะกลับมายังเบ็คลันด์ด้วยยศนายพล”
ช่วงครึ่งปีหลัง… ซูซี่น่าจะได้เป็นนักท่องฝันแล้ว… ออเดรย์ไตร่ตรองสักพักก่อนจะถาม
“ท่านพ่อ เราจะกลับไปที่เชสเตอร์ตะวันออกตอนไหนหรือ”
เมื่อสงครามสิ้นสุดลง มีหลายสิ่งในอาณาจักรต้องถูกเร่งสะสาง ส่งผลให้เหล่าขุนนางใหญ่มิได้เดินทางกลับดินแดนศักดินาในช่วงหลังปีใหม่ ยังคงกระจุกตัวอยู่ในกรุงเบ็คลันด์จนกระทั่งปลายเดือนกุมภาพันธ์
เอิร์ลฮอลล์พยักหน้า
“ราวเมษา”
…
เหนือสายหมอกสีเทา ในวังโบราณ
จดหมายจิต… ระวังไวรัส อย่าไปคลิกลิงค์ส่งเดชเชียว… ไคลน์ถอนหายใจก่อนจะโยน ‘ม่าน’ ซึ่งเป็นตะกอนพลังบริวารเร้นลับกลับไปยังกองขยะเพื่อปกปิดวัตถุทุกชิ้นในบริเวณดังกล่าว
วิธีที่ชายหนุ่มใช้เติมเต็มความปรารถนาของมิสจัสติสก็คือ อาศัยพลัง ‘ปลูกถ่าย’ ซึ่งตั้งชื่อขึ้นมาเอง เพื่อ ‘เชื่อมต่อ’ แนวคิดเชิงมายาของหน้ากากบุคลิก เข้ากับผิวโลหะของหน้ากากธรรมดา จากนั้นก็มอบหมายให้ ‘หนอนวิญญาณ’ ซึ่งจะรับหน้าที่ดูแลปราสาทต้นกำเนิด คอยสร้างการปลูกถ่ายกับหน้ากากมิสจัสติสอย่างต่อเนื่องเมื่อพลังของมันเริ่มเสื่อม
จากคำอธิบายของมิสเตอร์ตะกละแห่งสมาคมแปรจิต ดูเหมือนว่าซาราธจะตระหนักถึงเมืองคอนสแตนแล้ว เราต้องระวังตัวให้มากขึ้น… ไคลน์ใช้นิ้วเคาะขอบโต๊ะทองแดงยาว สกัดหนอนวิญญาณออกจากร่างกาย
จากนั้น ร่างของมันเลือนหายไปจากปราสาทต้นกำเนิด
…
แคว้นเหมันต์ เทือกเขาอมานด้า ภายในมหาวิหารสุขสงบ
เลียวนาร์ดได้รับเอกสารจากสันตะปาปา
นี่คือภารกิจแรกของมันหลังจากได้ขึ้นเป็นอาวุโสใหญ่
กลับถึงห้อง เลียวนาร์ดเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีผ่อนคลาย วางเท้าลงบนโต๊ะพลางคลี่เอกสารในมืออ่านทีละแผ่น
“เมอร์ลิน·เฮอร์มิส นักมายากลพเนจรผู้มีความสุขกับการตอบสนองความต้องการของผู้อื่น… เมืองคอนสแตนถูกสร้างใหม่ในชั่วข้ามคืน… เครื่องแจกพรอัตโนมัติ… ลำดับ 4 ของเส้นทางนักทำนายมีชื่อว่าจอมเวทพิสดาร ลำดับ 3 ปราชญ์โบราณ ลำดับ 2 ผู้ชี้นำปาฏิหาริย์…”
เลียวนาร์ดมองไปรอบตัวก่อนจะเงียบไป
ไม่กี่วินาทีถัดมา มันหรี่เสียงลงและถาม
“ตาแก่ ตอนนี้มีเทวทูตเดินดินเส้นทางนักทำนายอยู่กี่ตน”
พาลีส·โซโรอาสเตอร์พ่นลมหายใจ
“นั่นคือการสวมบทบาท ตอนนี้น่าจะมีผู้ชี้นำปาฏิหาริย์เพียงคนเดียวที่ยังต้องสวมบทบาท… เจ้าน่าจะทราบว่าข้าหมายถึงใคร”
เลียวนาร์ดชำเลืองเอกสารในมืออีกครั้ง:
“ดูน่าสนุกจังเลยนะ…”
มันตัดสินใจได้ทันที จุดประสงค์หลักของภารกิจนี้คือการแสร้งทำเป็นเหยี่ยวราตรีมากประสบการณ์ ระหว่างทางก็หาโอกาส ‘ย่อยโอสถ’ ไปในตัว ส่วนผลลัพธ์ของการไขคดี มันแค่หาคำอธิบายที่ฟังขึ้นก็พอ
หลังจากพลิกเอกสารปึกหนาซึ่งดูน่าเบื่อหน่าย เลียวนาร์ดเก็บขาและลุกขึ้นยืน
มันเตรียมเลือกสมบัติปิดผนึกระดับ 1 ประจำตำแหน่งอาวุโสใหญ่ของตน
สำหรับนักบุญแห่งโบสถ์รัตติกาลคนอื่น ประเด็นนี้ค่อนข้างน่าปวดหัว เพราะผลข้างเคียงด้านลบของสมบัติปิดผนึกระดับ 1 นั้นรับมือไม่ง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องพกพาติดตัวเป็นเวลานาน ถ้าคิดแต่จะเลือกสิ่งที่มีผลข้างเคียงน้อยและเข้ากับร่างกายได้ดี สมบัติปิดผนึกชิ้นดังกล่าวก็อาจมีพลังซ้ำซ้อนกับเจ้าของ
แต่สำหรับเลียวนาร์ด มันไม่กังวลกับปัญหาดังกล่าว ขอเพียงสมบัติปิดผนึกมีสัญญาณชีพ มันสามารถขอความช่วยเหลือจากชายชรา ให้อีกฝ่าย ‘ปรสิต’ เป้าหมายด้วยหนอนกาลเวลาเพื่อลดผลข้างเคียงจนเหลือน้อยที่สุด เฉกเช่นที่เคยทำกับไม้เท้าวาจาสมุทร
เน้นเลือกที่ความสามารถเป็นหลัก… เลียวนาร์ดผิวปากขณะเดินออกจากห้อง
…
บ่ายสามโมงตรงของวันจันทร์ ภายในวังโบราณเหนือสายหมอก
แสงสีแดงทยอยส่องสว่าง ควบแน่นกลายเป็นร่างมนุษย์
เดอะซันเดอร์ริคไม่จำเป็นต้องนับจังหวะหัวใจเต้นอีกต่อไป เพียงแหงนมองนาฬิกาแขวนผนังและเทียบกับความต่างกับเบ็คลันด์ ก็จะทราบได้ทันทีว่าชุมนุมทาโรต์จะเริ่มขึ้นตอนไหน เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนตามมิสจัสติส คำนับบุคคลในตำแหน่งประธานโต๊ะทองแดงยาวร่วมกับสมาชิกคนอื่น:
“ทิวาสวัสดิ์ มิสเตอร์ฟูล”
หลังจากนั่งลงและทักทายกันเอง เดอะมูนเอ็มลินเหลียวซ้ายแลขวาก่อนจะพูด
“ข้าอยากทราบว่า เส้นทางนักเพาะปลูกและจันทรามีความพิเศษกว่าเส้นทางอื่นอย่างไร”
เมื่อถามจบ มันไม่คิดปิดบังสิ่งใด รีบเสริมอย่างเถรตรง
“เมื่อไม่นานมานี้ ข้าเพิ่งได้เรียนรู้ว่าระบบภายในโบสถ์พระแม่ธรณีนั้นแตกต่างจากศาสนาอื่น พวกเขาแบ่งสาวกออกเป็นสองกลุ่มหลัก: คนโปรดและข้ารับใช้…”
หลังจากเอ็มลินอธิบายอย่างคร่าวจบ แฮงแมนอัลเจอร์ เฮอร์มิทแคทลียา เดอะสตาร์เลียวนาร์ด และคนอื่นๆ ต่างมองหน้ากันและกันด้วยความฉงน มิอาจหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลมารองรับ
แน่นอน ทุกคนที่นี่ รวมถึงเดอะซันเดอร์ริค ล้วนมองว่าระบบภายในของโบสถ์พระแม่ธรณีมีความผิดปรกติอย่างมาก
ทันใดนั้นเอง ทุกคนได้ยินเสียงถอนหายใจแผ่วเบา
เป็นเสียงหายใจซึ่งฟังดูคล้ายกับมาจากโบราณกาลเหนือเวลา ไม่ใช่ใครนอกจากมิสเตอร์ฟูลสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวลวดลายโบราณ
…………………………………